หลายคนคงได้ชมภาพยนตร์ในระบบดิจิตอลกันมาแล้ว หลายคนอาจจะทราบ (อย่างผิวเผิน) หรือไม่ทราบ ในเรื่องของอุปกรณ์ในการฉายภาพยนตร์ ซึ่งน้อยคนนักที่จะเข้าถึง กระทู้นี้จึงขอนำเสนออย่างคร่าวๆ เพื่อเป็นข้อมูลในเบื้องต้นครับสำหรับอุปกรณ์พื้นฐานของโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล ซีนีมา จะมี 2 ส่วน (ไม่นับรวมอุปกรณ์เสริม เช่น ระบบ 3 มิติ และภาคระบบเสียง) คือ
1. เครื่องฉาย (Projector)
2. เครื่องดิจิตอล เซิร์ฟเวอร์ (Digital Cinema Server)
สำหรับเครื่องฉาย หรือโปรเจคเตอร์นั้น ดูหน้าตาก็เหมือนกับโปรเจคเตอร์ที่นำเสนองานในออฟฟิศ หรือห้องประชุม คำตอบก็คือ ใช่ครับ หลักการเดียวกันเลย แต่การนำไปใช้งานมันไม่เหมือนกันครับ โปรเจคเตอร์สำหรับนำเสนองาน หรือใช้เป็นโฮม เธียเตอร์ ความสว่างน้อย การใช้งานก็ไม่ค่อยยุ่งยาก ส่วนโปรเจคเตอร์สำหรับโรงภาพยนตร์ ความสว่างต้องมากกว่าอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติจำเพาะที่แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ และแต่ละรุ่นที่ผลิตออกมา ยกตัวอย่างตามภาพประกอบ ซึ่งใช้ในโรงภาพยนตร์ที่เมืองนอกครับ (ส่วนโรงหนังบ้านเรา ก็มีใช้เช่นกันครับ แต่ข้อมูลไม่เป็นที่เปิดเผย ก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่) สำหรับ
เครื่องดิจิตอล เซิร์ฟเวอร์ (Digital Cinema Server) เจ้าตัวนี้ทำหน้าที่เข้ารหัส, เล่นไฟล์ และควบคุมระบบการฉายภาพจากเครื่องฉาย ซึ่งมีอยู่ 2 ยี่ห้อที่นิยมใช้กัน นั่นคือ
แบรนด์นี้ เหมือนชื่อน้องสาวของโดราเอมอน การสั่งงานที่หน้าจอต้องใช้ปากกาของมัน ถ้าหายนี่เป็นเรื่องเลย
จากบริษัทที่ผู้คิดค้นระบบเสียง (ในเทป คาสเซ็ท และโรงภาพยนตร์) เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งแบรนด์นี้แบรนด์นี้ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันตัวบน แต่ราคาแพงมาก..มาก..
แบรนด์นี้ มีจุดกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย แต่ไปบูมในอเมริกา (ในบ้านเรา ไม่มีข้อมูลครับ) มาที่อุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งซึ่งต้องใช้ควบคู่กับ
ดิจิตอล เซิร์ฟเวอร์ นั่นคือ
ฮาร์ดดิสก์ ครับ
ฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ก็ทำหน้าที่เก็บไฟล์ดิจิตอลที่เป็นภาพยนตร์นั่นแหละครับ สามารถเล่นได้ทุกนามสกุล ทุกความละเอียด (แต่การใช้งานจริง คงไม่มีใครทะลึ่งเอาไฟล์ที่มีความละเอียดที่ต่ำกว่า Standard Definition มาเล่นแน่ๆ เพราะภาพจะแตกฟู่ จะว่าไปแล้วภาพในความละเอียด SD อย่างดีวีดีนั้น ภาพที่ออกมาก็พอยอมรับได้ครับ HD 720 ดีขึ้นมาหน่อย ส่วนมากจะเป็น HD 1080 เพื่อใช้เฉพาะที่เป็นหนังโฆษณา หนังตัวอย่าง หรือเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยจะใส่แฟลชไดร์ฟมาครับ) แต่....ไฟล์ดิจิตอลในฮาร์ดดิสก์ที่เป็นมาตรฐานของโรงภาพยนตร์นั้น จะต้องเป็นไฟล์นามสกุล dcp (Digital Cinema Package) ซึ่งเป็นการเข้ารหัสและบีบอัดไฟล์ภาพโดยเฉพาะในฟอร์แม็ตที่ชื่อว่า JPEG 2000 ครับ ก็จะเป็นภาพนิ่ง เรียงทีละเฟรม ตั้งแต่เฟรมแรก จนถึงเฟรมสุดท้ายของ End Credit นั่นหมายความว่า ในกระบวนการโพสต์ โปรดักชั่น ก็จะต้องเรนเดอร์ไฟล์หนังทั้งเรื่องให้เป็นนามสกุล dcp ในส่วนของเสียง จะบันทึกลงไปในนั้นด้วย จะเอากี่แชนแนลก็แล้วแต่ เพราะฮาร์ดดิสก์หนึ่งลูกต่อหนังหนึ่งเรื่อง ในความละเอียด 2K - 4K ก็ปาไป 6 - 7 ร้อยกว่า GB แล้วครับ ยังไม่จบแค่นั้น ในฮาร์ดดิสก์จะมีไฟล์ที่ทำหน้าที่เป็น “กุญแจ” เพื่อเปิดอ่านไฟล์ในฮาร์ดดิสก์อีกชั้นหนึ่งครับ บางครั้งอาจจะถึงขั้นระบุช่วงระยะเวลาที่ใช้งานด้วย ดังนั้นเมื่อเสียบฮาร์ดดิสก์แล้ว ระบบก็จะถาม Password ซึ่งถ้าจำไม่ได้ หรือทำผิดขั้นตอน เป็นอันว่าภาพยนตร์ที่จะฉายในรอบเวลานั้น ไม่ต้องได้ฉายแล้วครับ** หนังฮอลลีวู้ดเข้มงวดเรื่องลิขสิทธิ์มาก ก็เลยต้องป้องกันอย่างแน่นหนา ส่วนหนังไทย อาจจะหยวนๆ หรือเข้มงวดก็ไม่รู้ ** ทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเบื้องต้นอย่างคร่าวๆ สำหรับการฉายภาพยนตร์ในโรงครับ หากข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ขออภัยครับ ขอขอบคุณขอมูลหนามเตยแมน