ชื่ออังกฤษ : Pantai Norasingha
ปีที่เปิดตัว : 2558
วันที่เข้าฉาย : 30 ธ.ค. 2558
แนวหนัง : ดราม่า,ประวัติศาสตร์
ผู้กำกับ : ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล
เขียนโดย : พระเจ้าวงวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล
นักแสดง : พันโทวันชนะ สวัสดี, พงศกร เมตตาริกานนท์, พิมดาว พานิชสมัย, สรพงษ์ ชาตรี
สร้างโดย : Thailand
จำหน่ายโดย : สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
เรื่องย่อ พันท้ายนรสิงห์ ปีพุทธศักราช 2231 หลัง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (สุเชาว์ พงษ์วิไล) เสด็จสวรรคต พระเพทราชา (สมภพ เบญจาธิกุล) ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา และทรงแต่งตั้ง พระเจ้าเสือ (พันโทวันชนะ สวัสดี) ผู้เป็นพระราชโอรสบุญธรรมขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล มีอำนาจหน้าที่ในการเก็บภาษีอากร แต่เพราะผู้ดำเนินการเก็บภาษีอย่าง พระยาราชสงคราม (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ชอบแอบอ้างชื่อพระเจ้าเสือในการรีดนาทาเร้นราษฎรจนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า พระพิชัย (สรพงษ์ ชาตรี) เจ้าเมืองวิเศษชัยชาญ อดีตราชองครักษ์ของสมเด็จพระนารายณ์ฯ จึงซ่องสุมผู้คนซึ่งนำโดย ไอ้สิน (พงศกร เมตตาริกานนท์) ออกปล้นทรัพย์คืนจากกองทหารหลวง เมื่อความทราบถึง พระเจ้าเสือ พระองค์จึงทรงปลอมเป็น ทิดเดื่อ ชาวบ้านต่างเมืองออกสืบความจริง ณ แขวงวิเศษชัยชาญ พร้อมกับ ทองอ่อน (สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์)
การสืบหาความจริงครั้งนี้ ทำให้พระเจ้าเสือต้องพระทัยสาวสวยเมืองวิเศษชัยชาญอย่าง นวล (พิมดาว พานิชสมัย) ติดที่ว่าไอ้สินก็เป็นผู้หนึ่งที่มีใจให้นวลเช่นกัน การเปรียบมวยที่มีนวลเป็นเดิมพันจึงเกิดขึ้นระหว่าง ทิดเดื่อ และ สิน และตามติดด้วยการประลองแบบตาต่อตาฟันต่อฟันอีกหลายครา ไม่ว่าจะต่อยมวยคาดเชือก การแข่งพายเรือ หรือการแข่งกันจีบนวลก่อนกะลาจะจมน้ำ ยิ่งเชือดเฉือนเอาชัยกันมากเท่าไหร่ กลับยิ่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่นับถือน้ำใจและมองเห็นนิสัยใจคอที่แท้จริงของกันมากขึ้น จนถือสัตย์สาบานว่าจะเป็นมิตรแท้ที่ตายแทนกันได้ ด้วยคุณงามความดีที่สินทำให้กับทิดเดื่ออย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ไม่รู้เลยว่าเพื่อนคนนี้แท้จริงคือกษัตริย์ เมื่อความจริงเปิดเผย พระเจ้าเสือพระราชทานยศให้สินขึ้นเป็น พันท้ายนรสิงห์ มีหน้าที่ถือท้ายเรือพระที่นั่ง
ครั้นเมื่อพระเจ้าเสือเสด็จประพาสทางชลมารค พันท้ายนรสิงห์ ได้ล่วงรู้ถึงแผนการลอบปลงพระชนม์ของพระยาพิชัย เขาจึงต้องเลือกระหว่าง เจ้าเหนือหัว ที่เขามอบความจงรักภักดีให้แบบหมดหัวใจ หรือเลือกฝั่ง พระพิชัย ผู้มีพระคุณและเพื่อนพ้องชาววิเศษชัยชาญ และระหว่างการเอาตัวรอดเพื่อความรักหรือการพลีชีพเพื่อถือคำสัตย์ในหน้าที่ความรับผิดชอบ
ที่สำคัญแฟนๆ จะได้เห็นการเฉือดเชือนบทบาทกันในทุกอารมณ์ กับความเป็นภาพยนตร์ แอ็คชั่น-โรแมนติค อิงประวัติศาสตร์ ที่มีครบทั้ง แอ็คชั่น มิตรภาพ โรแมนติค ประทับใจ ที่ทั้งหนุ่มเต้ย กับผู้พันเบิร์ด จะต้องถ่ายทอดออกมาดังที่ถูกสื่อสารผ่านภาพใบปิดโปสเตอร์กันเลยทีเดียว โดยท่านมุ้ยทรงให้น้ำหนักของทั้ง 2 ตัวละครทั้งพระเจ้าเสือ และไอ้สินหรือพันท้ายนรสิงห์ เข้มข้นตั้งแต่ต้นเรื่องไปจนถึงฉากไฮไลท์สำคัญท้ายเรื่องกันเลยทีเดียว
ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าวว่า “ครับผมสำหรับพันท้ายนรสิงห์ที่เราจะได้ดูกัน เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของตัวละครพระเจ้าเสือและไอ้สิน หรือพันท้ายนรสิงห์เดินเรื่องควบคู่กัน ครับโดยเราต้องให้น้ำหนักของทั้งสองตัวละครเท่ากันครับ ส่วนเคมีทางด้านการแสดงระหว่างเต้ยกับผู้พันเบิร์ด หรือระหว่างสินกับพระเจ้าเสือ ก็ได้นะครับ ก็ดูเป็นเพื่อนรักกันได้เลยนะครับแล้วก็สามารถเป็นเจ้านายกับบ่าวได้ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีฉากสำคัญๆหลายๆฉากของทั้งคู่ที่ผมก็พอใจมากๆ เลย ทั้งแอ็คชั่น ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้พันเบิร์ดหรือพระเจ้าเสือต้องไปฝึกต่อยมวยแบบโบราณนะครับ สังเกตุดูจากวิธีการรำมวยของพระเจ้าเสือ จะเห็นว่าแกทำได้จริงๆ เต้ยเองก็เหมือนกันเลยครับ ทั้งคู่ต้องฝึกมวยกันอย่างหนัก แล้วเต้ยตอนนั้นเขาใหม่ เขาสดมากๆ ครับ เราก็ต้องส่งเขาไปฝึกมวยต้องไปฝึก แล้วก็ต้องเจ็บด้วย หรือเราจะได้เห็นว่าผู้พันเบิร์ดแกสามารถเล่นในบทบาทที่มีอารมณ์ขันได้มากพอสมควร อันนี้ก็ถือว่าเป็นความแปลกใหม่ เพราะทั้งคู่จะต้องชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ก็เลยจะต้องมีการจีบผู้หญิงคนเดียวกัน”
เตรียมพบภาพยนตร์ไทยแอคชั่น-โรแมนติค อิงประวัติศาสตร์ที่ได้รับการเล่าขานและเทิดทูนมาจนปัจจุบันถึงนายท้ายผู้ซื่อสัตย์และเต็มเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี ยอมสละได้แม้แต่ศีรษะและชีวิตตัวเองเพื่อความถูกต้องและกษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งได้ยืนหยัดปกครองราษฎรในแผ่นดินด้วยความร่มเย็น “พันท้ายนรสิงห์”
30 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ