ผู้เขียน หัวข้อ: ภาพยนตร์เพื่อผู้สูงอายุ กลุ่มวัยหวานวันวาน ดูหนังกับวรรณิศา ศรีวิเชียร 16 มิ.ย.  (อ่าน 245 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
        สวัสดีครับทุกท่าน.. ต่อจากนี้ไปประมาณ 1 ชั่วโมง จะเป็นวีดีโอบันทึกกิจกรรม "ดูหนังกับวรรณิศา ศรีวิเชียร" ของกลุ่มวัยหวานวันวาน เมื่อวันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2560 ณ โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ฯ ศาลายา..เทปจะเริ่มจากบรรยากาศทั่วไปของงาน จากนั้นก็จะเป็นการร้องเพลง โดยมีคุณปุ๊ก Namontatip Pookymon ร้องเพลงต้อนรับคุณบี วรรณิศา..คุณบี Vannisa Sriwichian Marcar ร้องเพลงและกลุ่มเพื่อนๆ ก็ร่วมร้องเพลงด้วย..จบด้วยรายการสนทนาเปิดใจกับคุณวรรณิศา ศรีวิเชียร.. ก็เล่าถึงเส้นทางการเข้าวงการภาพยนตร์ครั้งแรก.. ผลงานการแสดงต่างๆ.. ดาราที่ชอบ.. บทบาททการแสดงที่ชอบและไม่ชอบ..ชื่อวรรณิศา ใครตั้งให้ ฯลฯ คลิกดูได้เลยครับ

        กิจกรรม "ดูหนังกับวรรณิศา ศรีวิเชียร" ครั้งนี้ถือว่า เป็นกิจกรรมนำร่องสำหรับเหล่าศิลปิน ดารา ผู้สร้าง ผู้กำกับ นักพากย์ เจ้าของโรงหนัง หนังขายยา หนังกลางแปลงหรืออื่นๆ ที่เคยเกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ในอันที่จะถ่ายทอดชีวิต ประสบการณ์ตลอดจนเรื่องเล่าเก่าๆ ไว้เป็นหลักฐาน..ครับ

        วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ได้เทียบเชิญ คุณอาคม มกรานนท์ (คนขวามือ) พระเอกเรื่อง เจ็ดแหลก ปี 2501 มาดูหนังด้วยกันแล้วครับ..(ภาพถ่ายจากคุณเทพนภา วัดพระศรีฯ งานพระราชทานเพลิงศพ ลือชัย นฤนาท 18 มิ.ย.2560) อาคม มกรานนท์ เมื่อแสดงหนังเรื่อง เจ็ดแหลก ปี 2501 ครับ


158 ภาพยนตร์เพื่อผู้สูงอายุ กลุ่มวัยหวานวันวาน ดูหนังกับวรรณิศา ศรีวิเชียร 16 มิ.ย.60

...


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         สำหรับผมแล้วเห็นว่า กิจกรรมของกลุ่มวัยหวานวันวานนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับภาพยนตร์ในเชิงยกย่องและให้เกียรติดาราภาพยนตร์ไทยซึ่งจัดขึ้นในขณะที่ดาราท่านนั้นๆ ยังสามารถมาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มฯกับพวกเราได้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ..เรื่องของคุณงาม ความดี ความสามารถของดารานั้นๆ ผมคิดว่า หากเรามีโอกาสได้ยกย่อง ได้ให้เกียรติท่านในขณะที่ท่านยังอยู่กับเราตัวเป็นๆ นั้นก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ กล่าวได้ว่า กิจกรรมของกลุ่มวัยหวานวันวานนี้เป็นกิจกรรมนำร่องก็ได้นะครับเพราะขณะนี้ผมพยายามจะขยายขอบเขตกิจกรรมภาพยนตร์่ลักษณะเดียวกันนี้บอกกล่าวไปยังกลุ่มบุคคลอื่นๆ ให้มาร่วมจัดกิจกรรมถึงบรรดาศิลปินนักแสดงท่านอื่นๆ ที่ครั้งหนึ่งก็เคยโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มภาพยนตร์ เช่น นักร้องลูกทุ่ง ฯลฯ..

         ผมอยากขยายการจัดกิจกรรมภาพยนตร์นี้ให้ไปคลอบคลุมไปถึงบรรดาผู้สร้างหนัง ผู้กำกับหนัง นักพากย์หนังตลอดจนเจ้าของโรงหนัง หนังกลางแปลง หนังขายยาหรือบุคคลอื่นๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ในประเทศไทย..ผมถือว่า ท่านเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในประเทศไทยเช่นกัน ไม่อยากจะให้ข้อมูลเหล่านี้ตกหล่นหรือขาดหายไป อยากจะให้ท่านเหล่านี้หรือทายาทมาบอกเล่าประวัติความเป็นมาต่างๆ ให้ลูกหลานได้ฟัง ได้บันทึกเทปเก็บไว้เป็นหลักฐานโดยจะมีการฉายภาพยนตร์ของท่านประกอบด้วย..ผมวาดฝันวางโครงการนี้ไว้ว่า จะเริ่มได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป แต่ก็ไม่รู้ว่า ผมจะทำได้สำเร็จหรือไม่เพราะผมทำคนเดียวไม่ได้ กลัวไม่มีใครมาร่วมกิจกรรมครับ

         ยกตัวอย่างกิจกรรมฯกรณีเป็นนักร้องที่เคยแสดงภาพยนตร์นะครับ.. งานก็อาจะเริ่มต้นได้ด้วยตัวนักร้องท่านนั้นเอง ขอเปิดรอบจัดกิจกรรมนี้ (กรณีเสียชีวิตแล้ว ก็เริ่มต้นจากกลุ่มแฟนเพลงหรือทายาทแทนได้) จากนั้นก็ดูว่า นักร้องท่านนั้นอยากจะให้ฉายหนังเรื่องอะไร..หรือถ้าหากแสดงไว้หลายเรื่อง เลือกไม่ถูก ก็อาจจะใช้วิธีเลือกเฉพาะฉากที่นักร้องแสดงไว้ตัดต่อมาฉายก็ได้ครับ เมื่อฉายจบแล้วก็นั่งพูดคุยกัน..นักร้องเก่าๆที่แสดงนั้นมีเยอะแยะครับ เช่น สังข์ทอง สีใส-กิ่งดาว จันทร์สวัสดิ์-เรียม ดาราน้อย ฯลฯ หรือจะเป็นนักร้องรุ่นหลังๆ ก็ได้..

         ยกตัวอย่างกิจกรรมฯกรณ๊เป็นผู้สร้างภาพยนตร์นั้น ก็คล้ายๆ กันคือ อาจจะเริ่มต้นขอเปิดรอบจัดกิจกรรมฯด้วยตัวผู้สร้างเอง (หรือทายาทหรือผู้ร่วมงาน กรณีผู้สร้างเสียชีวิตแล้ว) จากนั้นก็มาดูว่า ค่ายนี้สร้างหนังไว้กี่เรื่อง ต้องการฉายหนังดังๆ ของค่ายๆ หรือว่าจะตัดต่อทุกๆ เรื่องมาฉายเป็นไกด์ก็ได้..พอหนังจบก็นั่งสนทนากัน..

          ส่วนตัวอย่างกิจกรรมฯกรณีเป็นผู้กำกับการแสดง ก็คล้ายๆ กันอีกคือ อาจจะเริ่มต้นกิจกรรมด้วยตัวผู้กำกับเอง (ถ้าเสียชีวิตไปแล้ว ก็เป็นทายาทหรือผู้เกี่ยวข้องก็ได้) วิธีการนำเสนอในโรงหนังก็คือ เลือกฉากเด็ดๆ ของหนังที่กำกับไว้ตัดต่อมาฉายหรือจะฉายแบบเต็มเรื่องก็ได้ พอหนังจบก็มานั่งพูดคุยกัน..

          สำหรับกิจกรรมกรณีนักพากย์หนังนั้น ก็คล้ายๆ กันอีก อาจจะเริ่มต้นด้วยตัวนักพากย์เองหรือถ้าเสียชีวิตไปแล้ว ก็เป็นทายาทหรือแฟนหนังแทน..คัดเลือกภาพยนตร์ที่นักพากย์ๆไว้มาฉายหรือจะตัดเป็นฉากเด็ดๆ รวมๆ กันมาฉายก็ได้ จากนั้นก็มานั่งพูดคุยกัน..ส่วนกรณีเจ้าของโรงหนัง หนังกลางแปลง หนังขายยา ก็คล้ายๆ กัน แต่ตัวหนังที่จะฉายนั้นก็อาจเป็นหนังที่ทำเงินมากๆ ให้กับโรงหนังก็ได้หรือหนังที่ชอบก็ได้ จากนั้นก็มานั่งเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังนะครับ แต่ปัญหาของการจัดกิจกรรมลักษณะนี้อยู่ที่ว่า ต้องหากลุ่มหรือชมรมฯ มาเปิดรอบจัดกิจกรรมให้ได้ก่อนนะครับ..ผมเปิดรอบเองไม่ได้ครับ หลักๆ แล้วก็ต้องญาติสนิทมิตรสหายหรือแฟนหนังนั่นแหละครับเป็นคนดำเนินการแทน.. สมมุติว่าอย่างกรณีของคุณสมบัติ เมทะนี นั้นก็เพียงแต่ท่านบอกผ่านคุณอ๊อดหรือคุณบัวว่า ท่านว่างวันไหน (รอบบ่าย) จากนั้นคุณอ๊อดหรือคุณบัวก็โทรมาเช็คคิวโรงหนังกับผมว่าโรงหนังว่างไหม (หรือหาวันว่างร่วมกัน) จากนั้นก็จองโรงหนังไว้..เริ่มประชาสัมพันธ์..ตัดต่อ-เตรียมหนัง..เท่านั้นเองครับ ส่วนเอกสารต่างๆ ผมจะจัดการให้เองครับ..ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอะไรครับ

          วัตถุประสงค์จริงๆ ก็เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มหรือชมรมต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นแฟนคลับของดารา-นักร้อง-ผู้สร้างหนัง-ผู้กำกับหนัง-โรงหนัง-หนังกลางแปลง-หนังขายยาหรืออื่นๆ ที่เคยเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ได้มีโอกาสเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันนะครับและเมื่อสามารถเปิดรอบจัดกิจกรรมได้แล้ว กิจกรรมนี้ก็ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าร่วมตามปกติด้วยครับ...

         สมัยก่อนนั้น ผมก็สงสัยว่า ทำไมกิจกรรมย้อนอดีตในลักษณะนี้จึงไม่ค่อยจะมีใครคิดจะจัดขึ้น..พอผมมาเขียนเล่าเรื่องราวเก่าๆ ในอินเตอร์เน็ต แม้เสียงตอบรับจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังคิดว่า เราจะต้องมีการรวมกลุ่มกันเพื่อจัดกิจกรรมสดๆ กันบ้าง แต่ตอนนั้นก็หาเวทีไม่ได้เพราะเขาบอกว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อะไร ผมจึงได้แต่รอเวลาว่า ถ้าวันหนึ่งผมมีเวที มีโอกาสเมื่อไหร่ ก็จะจัดให้ได้..วันนี้ผมมีเวทีแล้ว แต่ก็ยังขาดอีกครับ คือ ขาดการรวมกลุ่มมาทำกิจกรรมและที่ขาดหนักๆ เลยก็คือ ขาดความสนใจจากบรรดาบุคคลต่างๆ ที่ผมพยายามจะทำเรื่องยกย่องเขาเหล่านั้น..ครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มิถุนายน 2017, 23:28:20 โดย มนัส กิ่งจันทร์ »
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..