สมัยที่ผมเป็นเด็กๆ จะมีหนังกลางแปลงมาฉายให้ดูบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการฉายงานในศพ..และก็งานบุญประเพณีอื่นๆ ผมจึงมีโอกาสได้ดูหนังกลางแปลงบ่อยมากๆ บางครั้งก็ไปดูกับเพื่อน แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะไปดูคนเดียวเพราะบางครั้ง เพื่อนมันไม่ชอบหนังเรื่องไหน มันก็จะชวนผมกลับบ้าน แต่ผมนั้นก็อยากจะดูมันทุกๆ เรื่องที่เขาฉาย ฉายกัน 5 เรื่องโต้รุ่ง ผมก็อยากจะดูจนสว่างคาตา..จึงชอบที่จะไปคนเดียว
เวลาดูหนัง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยจะรู้หรอกว่า เป็นหนังใครสร้าง ใครกำกับ ส่วนใหญ่จะจำแต่เนื้อหา จำดาราว่า ใครเล่นบ้าง เว้นแต่ว่า วันไหนเขาจะมีโปสเตอร์หนังมาติดไว้ที่งาน ก็จะไปอ่านดูโปสเตอร์หนัง (สมัยนั้นผมจะเรียกว่า โปรแกรมหนัง) ก็พอได้รู้ ได้จำว่า ใครสร้าง ใครกำกับบ้าง..หรือไม่บางครั้ง ผมก็จะไปที่บริการฉายหนังกลางแปลง ไปเก็บเศษฟิล์มและก็ไปดูโปรแกรมหนังที่เขาติดไว้ในสำนักงาน ดูแล้วก็เกิดกิเลสอยากจะดูหนังมันทุกๆ เรื่องถึงขั้นว่า ช่วงเรียน ม.ศ.3-ม.ศ.5 ผมก็ได้ติดรถไปหัดฉายหนังกลางแปลง หัดเป็นโฆษกกับบริการฉายหนังของพ่อเพื่อนคนหนึ่ง
ถ้าพูดถึงหนังของ ศุภชัย โตสัมพันธ์ แล้ว เรื่องแรกๆ ผมก็ได้ดูจากจอหนังกลางแปลงคือเรื่อง สาวภูไท..แต่ก็นึกไม่ออกว่า ดูจากจอหนังบริการอะไรในสุรินทร์..มาจำได้แม่นๆ ก็เรื่องถัดมาคือ ตะวันรอนที่หนองหาร เรื่องนี้ ผมดูจากจอหนังกลางแปลงของครูทศ ศรีไทย ครูโรงเรียนเมืองสุรินทร์ที่ผมเรียนอยู่ ตอนนั้นครูทศเพิ่งจะเปิดบริการหนังชื่อ สยามรัตน์ภาพยนตร์และฉายครั้งแรกในงานศพที่วัดหนองบัว สุรินทร์ ผมเห็นเขาตั้งจอหนังตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว ค่ำๆ ผมก็บินเดี่ยวไปดูหนังของครูทศ.. เรื่องต่อมาก็ได้ดูเรื่อง เผ็ด..
ครั้งนั้น ผมดูจากจอหนังบริการระพินทร์ภาพยนตร์ สุรินทร์ ของนายรามิศร ภัทรพาณี..จำได้แม่นๆ ว่า เขาฉายคืนวันที่ 12 ตุลาคม..ตอนนั้นก็ยังแปลกใจเลยว่า ทำไมจอหนังรามิศร จึงมีเพื่อนเรา (ที่ภายหลัง ผมก็ไปฉายหนังด้วยนั่นแหละ) มาฉายด้วย ก่อนฉายเขาก็ประกาศว่า คืนพรุ่งนี้ จะฉายที่โรงพักเมืองสุรินทร์ เนื่องในงานวันตำรวจ 13 ตุลาคม..จึงทำให้จำได้แม่นครับ..และคืนนั้นเอง ก็เป็นคืนสุดท้ายของบริการรามิศรภาพยนตร์เพราะเถ้าแก่พ่อเพื่อนผมได้ซื้อกิจการฉายหนังกลางแปลงจากรามิศรมาดำเนินการต่อ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริการสมยศภาพยนตร์ สุรินทร์ (ปัจจุบันคือ ไอเอส ภาพยนตร์ สุรินทร์)
เผ็ด เป็นหนังที่ทำให้เห็นสภาพบ้านเมือง "กรุงเทพ" เยอะมากๆ เหมือนได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ เลยครับ สมัยที่ผมฉายหนังกลางแปลงกับเพื่อน.. เผ็ด ก็เป็นหนังที่เอาไว้แถมกันแล้วครับ.. แต่เรื่องที่ดูแล้วทึ่งจริงๆ ก็ต้องเรื่อง ท้องนาสะเทือน ครับ เรื่องนี้ ผมเดินไปดูที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากบ้านผมไปประมาณ 5-6 กิโลเมตร..ฉากที่จำได้แม่นๆ ก็คือ ฉากที่สมบัติยิงปืนอันโตๆ ใส่ต้นตาลจนกระจุย..และก็ฉากที่มีเพลง ผู้ยิ่งใหญ่ พอลงจากม้าก็กลายเป็น เทพ เทียนชัย..ในเรื่องนี้เองก็ทำให้ผมได้เห็นจอหนังกลางแปลงของศุภชัยภาพยนตร์ด้วยครับ ผมเป็นอะไรไม่รู้ ถ้าได้เห็นจอหนังในหนังแล้ว จะดูตื่นเต้นแกมดีใจตลอดเลยครับ..พอคุณโต๊ะพันธมิตร บอกว่าจะทำวีซีดี ท้องนาสะเทือน ออกจำหน่าย แม้ฟิล์มจะไม่ค่อยดี แต่เราก็เห็นเหมือนๆ กันว่า ทำไว้ ดีกว่าไม่ทำนะครับ..