ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยหนัง..ถ้าไม่หา ก็ไม่ได้หนัง  (อ่าน 105 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
ช่วยหนัง..ถ้าไม่หา ก็ไม่ได้หนัง
« เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2018, 20:06:10 »
      เรื่องการตามหาฟิล์มหนังไทยเก่าๆ นั้น ในระยะหลังๆ นี้ คุณนุ Praderm Sangaseang ของเรา จะทำหน้าที่เดินหน้าเจาะหาแหล่งข่าวเก่าๆ ว่า ที่ไหนพอจะมีฟิล์มหนังอยู่บ้าง ก็เรียกว่า สืบค้น สืบหากันไปเรื่อยๆ แม้เกินกว่าครึ่งของข้อมูลข่าวที่ได้มา จะเป็นข้อมูลเก่าๆ ที่ปัจจุบัน เขาไม่มีฟิล์มหนังกันแล้ว แต่คุณนุก็ไม่เคยย่อท้อ.. อย่างครั้งนี้ หลังจากที่คุณนุได้พูดคุยกับพระไกรยศ เจ้าอาวาสวัดแก่งจุการ อำเภอศรีเมืองใหม่ อุบลราชธานี ว่า มีแหล่งข่าวแถวๆ อำเภอศรีเมืองใหม่ว่า เคยฉายหนัง 16 มม.และอาจจะมีฟิล์มหนังหลงเหลืออยู่บ้าง..พวกเราก็หาเวลาว่างๆ ที่จะเดินทางไปอุบลฯ กัน

      ค่ำๆ ของวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561 คุณหนึ่งก็ขับรถยนต์พาคุณนุและผมออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปหาพระไกรยศฯ ที่อำเภอศรีเมืองใหม่ แต่เพราะรู้ว่า ระยะทางมันไกลมากๆ ก็เลยคิดว่า ถ้าถึงเวลา 6 ทุ่มแล้ว รถวิ่งได้แค่ไหน เราก็จะหยุดพักหลับนอนกันแค่นั้น..และเราก็ได้หยุดพักค้างคืนที่โรงแรมศรีปราสาท อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์..ครั้นพอรุ่งเช้า 30 มิถุนายน 2561 คุณนุและผมก็เดินลงไปที่ห้องรับรองของโรงแรมก็เห็นว่า มีเครื่องฉายหนัง 35 มม.ตั้งโชว์อยู่ จึงสอบถามที่มาของเครื่องฉาย จึงทราบว่า แต่ก่อนนั้นบริเวณที่ตั้งโรงแรมแห่งนี้เคยเปิดเป็นวิกหนังกลางแปลงชื่อว่า เฉลิมกว้างและเฉลิมสิน..แล้วต่อมาปี 2519 คุณพี่ที่ยืนข้างๆ เครื่องฉายหนังนั่นแหละครับ ได้สร้างโรงหนังถาวรขึ้นมา เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ตั้งชื่อว่า โรงภาพยนตร์อาคเนย์ภาพยนตร์ มีจำนวน 500 ที่นั่ง..พอคุณพี่เห็นพวกเราสนใจเรื่องตามหาฟิล์มหนังไทยเก่าๆ ก็เลยแนะนำให้พวกเราไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากพี่เฉลิม ที่แถวๆ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ กันต่อ.. พวกเราก็แวะไปหาพี่เฉลิมและได้ข้อมูลเก่าๆ มาอีก

      จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าจากอำเภอนางรอง.. ตรงไปยังวัดแก่งจุการ เพื่อนมัสการพระไกรยศฯ และขอให้ท่านนำทางพวกเราไปยังแหล่งข่าวที่บอกว่า มีฟิล์มหนัง 16 มม. แต่ว่าก่อนจะออกจากวัดนั้น พระไกรยศฯ บอกว่า มีฟิล์ม 35 มม.อยู่ 2 กระเป๋า รู้แต่ว่าเป็นหนังไทยเก่าๆ แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ จึงให้พวกเรานำฟิล์มกลับไปฉายดูกันเอง

      พระไกรยศฯ พาพวกเราไปยังย่านการค้าอำเภอศรีเมืองใหม่ ไปหาพี่ศาสตรา..ซึ่งปัจจุบันเปิดร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าฯลฯ จากการสอบถามได้ความว่า พี่ศาสตราเคยเป็นนักพากย์หนัง เคยฉายหนัง 16 มม.มาก่อน ราวๆ ปี 2513 ตั้งชื่อว่า บริการศรีเมืองภาพยนตร์ เป็นบริการหนังเล็กๆ ได้สั่งซื้อฟิล์มหนังมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด ก็ฉายหนังมาถึงราวปี 2518 ก็เปลี่ยนไปฉายหนัง 35 มม. โดยมี 2 หน่วยฉาย แต่ว่ายังเก็บฟิล์ม 16 มม.ที่เหลือจากการฉายไว้เกือบ 10 เรื่อง โดยเก็บไว้ที่ห้องชั้นล่าง ต่อมาเมื่อมีการปรับปรุงถนนหน้าร้าน พื้นถนนก็สูงกว่าพื้นบ้านและเมื่อเกิดฝนตกลงมา ก็ทำให้น้ำฝนไหลเข้าท่วมขังพื้นบ้านที่ต่ำกว่า น้ำไหลเข้ากระเป๋าฟิล์มหนังที่วางไว้เสียหาย คงเหลือกระเป๋าเดียวซึ่งอยู่บนบ้าน..เราได้ฟังก็อึ้ง..และก็อยากรู้ว่า ฟิล์มที่ถูกน้ำท่วมเปียกนั้นมีหนังเรื่องอะไรบ้าง พี่ศาสตราก็หยิบกระเป๋าฟิล์มใบหนึ่งมาเปิดให้ดู ข้างในกระเป๋ามีแผ่นโชว์การ์ดหนังไทยเก่าๆ หลายเรื่อง มีแต่หนังดีๆ ดังๆ ทั้งนั้น พี่ศาสตราบอกว่า หนังเหล่านี้แหละที่เปียกน้ำและได้ฟิล์มทิ้งไปหมดแล้ว น่าเสียดายจริงๆ ครับ

จากนั้น พวกเราก็เปิดกระเป๋าฟิล์มหนังที่เหลือนั้นออกดู ก็พบว่าเป็นฟิล์ม 16 มม.ไม่มีเสียง จำนวน 4 ม้วน ฟิล์มสีซีดจางไปมากแล้ว บางแห่งก็มีเชื้อราจับเกาะ เริ่มมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวบ้าง สอบถามพี่ศาสตราแล้วบอกว่า เป็นหนังมิตร-เพชรา..แต่พี่ศาสตราก็หวงฟิล์มนี้มากๆ ไม่ยอมให้ยืมและก็ไม่ให้เช่าด้วย เราก็เจรจาและอธิบายถึงเหตุผลที่พวกเราอยากได้ฟิล์มหนังมาอนุรักษ์..ก็คุยกันเป็นชั่วโมงครับ พี่ศาสตราจึงยอมมอบฟิล์มหนัง 4 ม้วนให้กับพวกเรามา โดยพวกเราก็ตอบแทนน้ำใจให้เป็นเงินจำนวนหนึ่ง

เบื้องต้นรู้แต่ว่า เป็นหนังมิตร-เพชรา..ดูจากหัวม้วนฟิล์มคร่าวๆ แล้ว จะต้องเป็นหนังที่ไม่คุ้นตา ก็เลยคิดว่า จะต้องเป็นหนังที่พวกเรายังไม่มี แต่เอาไว้ซ่อมฟิล์มเสร็จและฉายดูก่อนนะครับจึงจะรู้แน่ๆ ว่า จะเป็นหนังเรื่องอะไร

จากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับเข้าตัวเมืองอุบลฯ เพื่อแวะไปหาพี่สุรสีห์ ผาธรรม ซึ่งเปิดร้านอาหารหม่องแซบ..และก็โทรชวนพี่นาง รัตนา บุญจริง อดีตนักพากย์หนังและเป็นลูกสาวของบริการดาราศิลป์ภาพยนตร์ อุบลราชธานี มารับประทานอาหารค่ำด้วยกัน.. พี่นางก็มา แต่ไม่มาตัวเปล่าครับ หิ้วขนมไทยๆ มาฝากพวกเราด้วยครับ..


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
Re: ช่วยหนัง..ถ้าไม่หา ก็ไม่ได้หนัง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2018, 20:07:33 »
 :GreenScarf (22):
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
Re: ช่วยหนัง..ถ้าไม่หา ก็ไม่ได้หนัง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2018, 20:08:28 »
   เรื่องนี้ก็เช่นกัน เฮียบอกว่าหนังสมบูรณ์ 5 ม้วน หนักเลยไว้ข้างล่าง เลยโดนน้ำท่วม ส่วนกระเป๋าเบาๆ ไว้ข้างบน เลยรอด เฮียบอกว่า วิญญาณดอกประดู่ ตอนนี้เหลือแต่ วิญญาณ แล้ว แต่จริงๆ ยังเหลือใบปิด กับโชว์การ์ด อยู่

 :yoyocici100: :yoyocici100:
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..