• ชื่อไทย : ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์
• ปีที่เปิดตัว : 2562
• เข้าฉายในไทย : 5 ธันวาคม 2562
• นำแสดง : Roberta Sparta, Caitriona Balfe, Christian Bale
• กำกับโดย : James Mangold
• เขียนโดย : Jez Butterworth, John-Henry Butterworth, Jason Keller
• ประเภท : Action / Biography / Drama / Sport
• ความยาว : 152 นาที
• เรต : PG-13
• สร้างโดย : USA / France
• จำหน่ายโดย :
เรื่องย่อ ภาพยนตร์แอ็คชั่น-ชีวประวัติ จากเรื่องจริงของการแข่งขันชิงความเป็นที่หนึ่งระหว่างสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์ ฟอร์ด (Ford) และ เฟอร์รารี่ (Ferrari) ในการแข่งขันรถซิ่งระดับโลก เลอม็องส์ (Le Mans) เมื่อปี 1966
ไม่ว่าจะชนะรางวัลหรือไม่ก็ตาม Ford v Ferrari สามารถชนะใจผู้ชมที่ต้องนั่งลุ้นบนขอบเก้าอี้ด้วยการผสมผสานเรื่องราวสุดดราม่าและน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ผ่านบทหนัง ไดอาล็อกต่าง ๆ และเสียงเครื่องยนต์วี8 ในรถ GT40 ที่ยังคงติดหูผู้เขียนอยู่ในขณะที่ปั่นรีวิวนี้
แก่นของเรื่อง Ford v Ferrari อยู่ในสนามแข่งเลอมังส์ 24 ชั่วโมงอันสุดทรหดและยิ่งใหญ่ในฝรั่งเศส Ford ซึ่งไม่ประสีประสาในการสร้างรถแข่งต้องการโค่น Ferrari ยักษ์ใหญ่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตที่ครองแชมป์หลายปีติดต่อกันลงมาให้ได้ โดยมีกิมมิคอยู่ที่การมีเวลาเพียง “90 วัน” ในการสร้างรถแข่ง อันเป็นภารกิจที่โหดหินอย่างยิ่ง
นั่นทำให้ Ford ต้องว่าจ้างคาร์โรล เชลบี้ (เดมอน) ซึ่งเคยคว้าแชมป์เลอมังส์กับ Aston Martin มาแล้วในปี 1959 เข้ามาสร้างรถแข่งรุ่นใหม่ และนำไปสู่การดึงตัวเคน ไมลส์ (เบล) นักขับที่มีบุคลิกคาดเดาไม่ได้ให้มาเป็นนักแข่งตัวหลัก
การแสดงของเดมอนในบทนักพัฒนารถชาวเท็กซัสผู้ยิ่งใหญ่ถือว่ายอดเยี่ยมมาก แต่เมื่อหันมาดูที่เบล นักแสดงชาวอังกฤษผู้นี้ทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติอีกครั้งจนอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมร่วมกับวาคีน ฟินิกซ์แห่งโจ๊กเกอร์
นอกจากนี้ยังมีนักแสดงชั้นนำที่ลงตัวอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นจอน เบิร์นธัล รับบทลี ไออาคอคคา ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Ford หรือโนอาห์ จูป แสดงเป็นลูกชายของไมลส์ รวมถึงจอช ลูคัส สวมบทลีโอ บีบี หัวหน้าโครงการ Ford Racing ในเวลานั้น และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเทรซี่ เลตต์ส ที่ทำให้คนดูเชื่อว่าเขาคือเฮนรี่ ฟอร์ด ที่ 2 จอมอหังการจริง ๆ
หนึ่งในบทสนทนามากมายที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ เกิดขึ้นในห้องบอร์ดรูมของ Ford ในช่วงที่ยอดขายตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
“ยอดขายรถของเราไม่ดีเพราะเรามีวิธีคิดที่ผิดมาโดยตลอด…. ดูอย่าง Ferrari สิ พวกเขาชนะเลอมังส์ 4 ใน 5 ครั้งล่าสุด เราต้องคิดเหมือน Ferrari” ไออาคอคคา พูด
“Ferrari ผลิตรถทั้งปีน้อยกว่าเราผลิตรถแค่วันเดียว เราใช้เงินซื้อกระดาษทิชชู่มากกว่างบที่พวกเขาใช้ผลิตรถเสียอีก แล้วคุณจะให้เราคิดเหมือน Ferrari หรือ?” บีบี ตอบโต้
“เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่จะถูกจดจำในประวัติศาสตร์ว่าเป็นผู้สร้างรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล” ไออาคอคคา ตอบ “คุณคิดว่านั่นเป็นเพราะ Ferrari ผลิตรถได้มากที่สุดงั้นหรือ…ไม่ใช่…แต่เป็นเพราะแบรนด์ Ferrari คือสัญลักษณ์ของชัยชนะต่างหาก”
ตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างบริษัทรถยนต์ ระหว่างนักแข่งในสนามหรือระหว่างผู้บริหารในห้องบอร์ดรูม ไปจนถึงฉากการแข่งขันในองค์ที่ 3 ที่ใช้รถจริงในการถ่ายทำเป็นส่วนใหญ่โดยใช้ CG น้อยที่สุด รวมถึงดนตรีประกอบที่ลงตัวและการตัดต่อที่ระทึกใจสไตล์หนังบล็อกบัสเตอร์ช่วงปลายปี การันตีว่านี่คือหนังแห่งปีที่ไม่ควรพลาดชม
ขณะเดียวกัน Ford v Ferrari ไม่ใช่เรื่องของการแข่งรถเพื่อเอาชนะกันเท่านั้น แต่ตรงกันข้าม หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดมิตรภาพแบบแมน ๆ ระหว่างเชลบี้และไมลส์ได้อย่างลึกซึ้ง การดำเนินธุรกิจที่เต็มไปด้วยระบบเจ้าขุนมูลนายสไตล์อเมริกัน พร้อมกับบอกเล่าความทะเยอทะยานและความพยายามต่อสู้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
คนที่ไม่ได้ติดตามวงการรถยนต์หรือรถแข่งอาจจะประทับใจหนังเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย แต่คอรถยนต์และแฟนมอเตอร์สปอร์ตอาจหลงรักเลยทีเดียว