เขาพูดกันว่า "หนังเป็นเรื่องของศิลปะการตัดต่อ" เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงๆ ฉะนั้น จะทำยังไงก็ได้ เพียงเพื่อให้คนดูเชื่อและชอบ เขาก็จะมาดูหนังเอง หนังบางเรื่อง แม้จะมีชื่อสถานที่บ่งบอกชัด แต่ในการถ่ายทำหนัง เขาก็อาจจะไม่ไปถ่ายทำยังสถานที่นั้นๆ จริงๆ ก็ได้
อย่างเรื่อง ทุ่งเศรษฐี ปี 2514 นั้น ชื่อเรื่องก็บ่งบอกถึง "ทุ่งเศรษฐี ที่จังหวัดกำแพงเพชร" มีการพูดถึง วัดทุ่งเศรษฐีเหนือ-ใต้ ซึ่งตอนที่ผมเป็นเด็กๆ ผมก็เชื่อว่า หนังถ่ายเขาไปทำที่ กำแพงเพชร จริงๆ
พอโตมาแล้ว.. ตอนที่ได้กากฟิล์มหนังเรื่องนี้มาฉายดู ก็ยังเชื่อว่า หนังไปถ่ายทำที่ กำแพงเพชร ทั้งเรื่องเพราะเคยนั่งรถผ่านไปแถวๆ ทุ่งเศรษฐี ก็ยังมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ผมเคยให้เห็นฟิล์มหนังด้วย
กระทั่งวันหนึ่ง ผมเจอเพื่อนคนหนึ่ง เขาบอกผมว่า เขาเคยไปดู ครรชิต ขวัญประชา ถ่ายทำหนัง ทุ่งเศรษฐี ที่วัดไร่ขิง สามพราน นครปฐม.. พอผมมีโอกาสไปวัดไร่ขิง ก็ได้เห็นภาพอาคารเหมือนกับในหนัง จึงกลับมาดูหนัง ทุ่งเศรษฐี อีก แต่ดูแบบ ดูโลเคชั่นการถ่ายทำนะครับ
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง พี่อ๊อด บัญชา เหมะบุตร นักพากย์ชื่อดัง ก็เล่าให้ฟังว่า ทุ่งเศรษฐี นั้นจะถ่ายทำแถวๆ พระประแดง สมุทรปราการ.. พี่อ๊อดก็เข้าฉากแสดงเป็นตัวประกอบกับเขาด้วยเพราะเป็นหนังของญาติๆ พี่อ๊อดเอง
แรกๆ การดูหนัง แล้วเรารู้ว่า เขาไม่ได้ไปถ่ายทำยังสถานที่ตามบทภาพยนตร์ ก็ทำให้ผมรู้สึกอึดอัด แต่พอนานๆ เข้า ผมก็เริ่มรู้สึกสนุก.. สนุกที่ได้เห็นศิลปะการตัดต่อเพราะหนังสมัยก่อน เขาถ่ายทำด้วยกล้องเพียงกล้องเดียว เขาจะใช้วิธีย้ายกล้องเปลี่ยนมุมไป-มา เพื่อให้ได้ภาพที่ผู้กำกับต้องการ
การทำหนังสมัยก่อนยุ่งยากมากๆ คิวดาราก็หาคิวยาก ดาราบางท่านจะต้องวิ่งรอกไปเข้ากล้องถ่ายทำหนังหลายเรื่อง กองถ่ายจึงไม่มีเวลามากมายขนาดจะต้องขึ้นเหนือล่องใต้ไปแช่กันเป็นนานๆ ได้ ศิลปะการตัดต่อจึงเป็นเรื่องสำคัญครับ
