ผู้ที่ไม่ประสงค์จะให้เราบอกใครๆ ให้มารับฟิล์มหนังไปทำไฟล์ภาพ

[มนัส กิ่งจันทร์]

           เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 จู่ๆ คุณนุ Praderm Sangaseang ก็ได้รับโทรศัพท์ด่วนๆ จากผู้ที่ไม่ประสงค์จะให้เราบอกใครๆ ว่า เขาเป็นใคร.. เขาขออยู่เบื้องหลัง.. เขาโทรมาบอกว่า วันนี้ว่างแล้ว ให้มารับฟิล์มหนังไปทำไฟล์ภาพได้.. คุณนุก็รีบโทรหารถตู้พี่แป๊ว เพื่อจะเดินทางไปรับฟิล์มหนังทันที.. ครั้งนี้ คุณนุไปคนเดียว ส่วนผมนั้นก็ติดฉายทำไฟล์ภาพหนังเรื่องอื่นๆ ค้างอยู่ จึงไม่ได้ไปด้วย

           ระยะทางไป-กลับ จากบ้านคุณนุถึงบ้านผู้ที่ไม่ประสงค์จะออกหน้า-ออกชื่อนั้น ก็ตกราวๆ 120 กิโลเมตร.. ผมก็ฉายทำไฟล์ภาพหนังเรื่องอื่นๆ เสร็จไป 4 ม้วนเต็มๆ แล้ว รถตู้พี่แป๊วก็ขับกลับมาถึงบ้านคุณนุ.. เห็นพี่แป๊วยกกระเป๋าฟิล์มหนัง 16 มม. ลงจากรถตู้จำนวน 5 กระเป๋า บางกระเป๋าก็มีชื่อหนังเขียนไว้ข้างกระเป๋า บางกระเป๋า ก็ไม่มีชื่อเขียนไว้เลย

           ผมเปิดกระเป๋าฟิล์มเพื่อกรอเช็คฟิล์มและเตรียมฉายทำไฟล์ภาพ ปรากฏว่า มีหนึ่งกระเป๋า เป็นหนังฝรั่ง ก็เลยไม่ฉาย.. ส่วนที่เหลืออีก 4 กระเป๋า เป็นหนังไทย 16 มม.ไม่มีเสียง กรอดูภาพเป็นหนังสมบัติ เมทะนี เป็นพระเอกหนึ่งเรื่อง.. อีกกระเป๋าหนึ่งก็เป็นหนังไชยา สุริยัน เป็นพระเอก.. และอีกหนึ่งกระเป๋าก็เป็นหนังมิตร ชัยบัญชา เป็นพระเอกครับ.. ส่วนอีกกระเป๋าหนึ่งนั้น เขียนชื่อไว้เป็นหนังมิตร แต่ฟิล์มข้างในเสียหายหนักมาก ก็เลยพ่นน้ำยาทำความสะอาดฟิล์มไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้กรอดูฟิล์มนะครับ จึงแจ้งให้เพื่อนสมาชิกทราบและขอบคุณผู้ที่ให้พวกเรายืมฟิล์มหนังมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

[มนัส กิ่งจันทร์]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แหมดีใจจังเลย ที่ได้มาอีก ครั้งนี้คือครั้งที่ 2 แล้วในเดือนนี้ที่ได้ฟิล์มมา โชคดีมากครับ ชื่นใจที่สุด และคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อของทีมงานทุกคนที่ได้ช่วยกัน มันสุดยอดมาก และก็ดีใจอีกเรื่องที่เจอฟิล์มหนังที่อาจารย์มนัสเคยโพสต์ในยูทูปว่า"วันนี้ที่ยังเหลือ (ไม่มีจากกากฟิล์มชุดสุดท้าย)มาได้ 2 เรื่อง คือ เพชรพระอุมา และน้องใหม่...อินทรีแดง ตอนพรายมหากาฬ รอชมนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้กับทีมงานเสมอมานะครับ

อ้อ พี่เขามีฟิล์ม 35 มม. เรื่อง อืนทรีแดง ตอนพรายมหากาฬ ด้วยนะ