ทำอย่างไร จะได้อ่านต่อครับ... แชร์มาจาก สี่สหาย บ้านพัชราภรณ์
วสันตฤดูในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๐๓ ปีนี้ฝนตกชุกถึงตกหนักในหลายพื้นที่ส่วนใหญ่ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลาง กรุงเทพมหานครเองก็ตกไม่เว้นแต่ละวัน น้ำท่วมขังเฉอะแฉะประชาชนเดินทางกันลำบากลำบน กองบังคับการกองปราบปราม เวลา ๒๓.๓๐ น. พ.ต.ต. มนตรี เสรีกุล บิดตัวอย่างเมื่อยขบ งานการที่ตรากตรำมาตั้งแต่ช่วงกลางวันใกล้จะจบสิ้นลงเสียที แต่พลันที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน เสียงกริ่งโทรศัพท์บนโต๊ะเบื้องหน้าก็ร้องดังขึ้น “กองปราบปราม ผมสารวัตรมนตรีพูดสายอยู่ครับ” เสียงปลายทางละล่ำละลักมาร้อนรน “ สารวัตรเองรึครับ ผม ร.ต.ท. ชาติ วุฒิไกร ครับผม สายตรวจจาก ส.น. ลาดพร้าวรายงานมาด่วนครับ เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นที่บ้านธรรมรักษ์ครับ ตำรวจท้องที่เข้าไปตรวจเบื้องต้นแล้วครับ เห็นว่าผู้ตายเป็นนายทหารเรือ ก็เลยอยากให้กองปราบเข้ามาดูสถานที่เกิดเหตุด้วย”
“รอผมที่นั่นเลย คุณชาติ เจอกันที่สถานที่เกิดเหตุในอีกครึ่งชั่วโมง ผมจะบึ่งรถไปเดี๋ยวนี้เลย ประสานไปทางกองพิสูจน์หลักฐานด้วย ผมอยากให้คุณหมอเวทย์แกมาด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น กองทัพเรือต้องเต้นกับเรื่องนี้แน่ ๆ”
“บ้านธรรมรักษ์” ในพื้นที่ ส.น. ลาดพร้าวแลดูเงียบสงบเหมือนไม่มีเหตุร้ายเภทภัยใด ๆ มากล้ำกรายแม้แต่น้อย มีเพียงตำรวจท้องที่ ๒ – ๓ คน จดบันทึกการให้ปากคำ ร.อ. เทอด ธรรมรักษ์น้องชายของผู้ตายอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน พ.ต.ต. มนตรี พร้อม ร.ต.ท. ชาติ เดินตรวจสถานที่เกิดเหตุไล่เรียงจากชั้นล่างไปยังห้องนอนของผู้ตาย น.ท. เทพ ธรรมรักษ์ แห่งราชนาวี ผู้เสียชีวิตเป็นชายหนุ่มในวัยเพียง ๓๐ ขวบปีเท่านั้น สมรรถภาพร่างกายยังดีเยี่ยม
“พี่เทพ กลับบ้านมาในตอน ๒ ทุ่มกว่าครับ นี่ก็หัวค่ำกว่าทุก ๆวันแล้วนะครับ ๒ สัปดาห์ที่ผ่านมาพี่เทพมีประชุมราชการลับของกองทัพเรือครับ ไม่มีใครในบ้านทราบเลยจริง ๆ ครับว่าเป็นภารกิจการงานด้านใดบ้าง” ร.อ. เทอด ธรรมรักษ์ แห่งกองทัพบกไทยน้องชายของ น.ท. เทพให้ปากคำเพิ่มเติมกับสารวัตรมนตรีกับหมวดชาติผู้ช่วย ๒ หัวเรี่ยวหัวแรงแห่งกองปราบปราม “ผมเองนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างถึง ๔ ทุ่ม ออกตรวจตราประตูหน้าต่างก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต ก็ขึ้นนอน ผ่านห้องพี่เทพ ลองบิดลูกบิดดูเห็นว่าไม่ได้ล็อค ก็ลองเปิดประตูเข้าไป ก็พบพี่เทพนอนสิ้นสติอยู่กับพื้นตรงปลายเตียง”
“ ในตอนนั้นพี่เทพมือแข็งเกร็งแน่น อุ้งมือขยุ้มพรมปลายเตียง ผมตรงเข้าผายปอดกู้ชีพต่าง ๆ นานา แต่ก็ไม่เป็นผลซะแล้ว” ร.อ เทอด นัยน์ตาแดงก่ำเมื่อให้การมาถึงตรงนี้ “เอาละครับ ผมจะให้คุณหมอเวทย์ แห่งกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง” สารวัตรมนตรีกล่าวปิดสรุปเรื่องเพราะเห็นเป็นเวลาดึกดื่นมากพอดูแล้ว
๑๐ โมงเช้าวันถัดมา พ.ต.ต. มนตรี เสรีกุล นั่งโต๊ะประชุมเร่งด่วน พร้อม ร.ตท. ชาติ , พ.ต.ท. น.พ เวทย์ แห่งกองพิสูจน์หลักฐาน ที่แปลกตาไปสักหน่อยเห็นจะเป็นนายสัตวแพทย์อลงกต “ ผู้เชี่ยวชาญ แห่งองค์การสวนสัตว์”
“ผลสรุปการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน เราไม่พบร่องรอยการงัดแงะเข้าสู่ตัวบ้านใด ๆ เลยครับ ไม่พบลายนิ้วมือแฝงตามประตูหน้าต่าง หรือตามเสื้อผ้าผู้เสียชีวิตอีกด้วย” นายร้อยตำรวจแห่งทีมงานพิสูจน์หลักฐานคนหนึ่งกล่าวบรรยายต่อไป “ ตามร่างกายผู้เสียชีวิตตรวจละเอียดแล้วก็ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายฟกช้ำใด ๆ ต่างๆ ไม่มีการต่อสู้ อย่างเดียวที่พบ คือ มีรอยจุดสีแดงที่ลำคอ ๒ จุดใกล้ๆ กันของผู้เสียชีวิต ที่พอจะบ่งบอกได้ว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ”
เมื่อถึงตอนนี้ พ.ต.ท. น.พ. เวทย์ จึงแทรกขึ้นมากลางที่ประชุม “ สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมจะต้องบอกทุกท่านในที่นี้ ก็คือ จากการตรวจโลหิตด้านพิษวิทยา ผมพบว่าในร่างกายของ น.ท. เทพ มีพิษอย่างร้ายแรงในกระแสเลือด พิษชนิดนี้ร้ายแรงเทียบเท่างูเห่า หรือ งูจงอางเลยทีเดียว แต่มันไม่ใช่พิษงูเห่ากับงูจงอาง แต่มันเป็นพิษของงูอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า งูทับสมิงคลา”
ทุกคนในที่ประชุมถึงกับตกตะลึงพรึงเพริดกับคำกล่าวสรุปบรรยายของนายแพทย์เวทย์แห่ง พ.ฐ แทบไม่มีผู้ใดกล่าวคำพูดใดออกมาได้ กระทั่งนายสัตวแพทย์แห่งองค์การสวนสัตว์หยิบยกภาพขนาดใหญ่ขึ้นมาพร้อมกล่าวบรรยายรับช่วงต่อ
“ งูทับสมิงคลา ที่ว่านี้ เป็นงูที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ มีสีขาวดำ ลำตัวยาวประมาณ ๑๓๐ เซนติเมตร ตรงกลางของหลังเป็นสันไม่สูงมาก หางสั้นและส่วนปลายของหางเรียว ส่วนหัวมีสีดำหรือสีเทาเข้ม บนหลังและด้านบนของหางมีปื้นใหญ่สีดำรูปอานม้า ด้านท้องและใต้หางสีขาว นอกจากกินพวกกบเขียดคางคกเป็นอาหารแล้ว งูชนิดนี้ยังกินงูด้วยกันเป็นอาหารอีกด้วย ปัจจุบันอยู่ในสถานะเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว”
พ.ต.ต. มนตรี เสรีกุล อุทานกับตัวเองเบา ๆ “ แล้วงูที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วจะเข้ามาอยู่ในห้องตามบ้านคนได้ยังไงกัน ปริศนาครั้งนี้ไม่ใช่ง่ายซะแล้ว ”
อาชญนิยายอินทรีแดงตอน “ทับสมิงคลา” ของ “เศก ดุสิต” ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในรูปแบบหนังสือปกอ่อนโดยสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น ช่วงระหว่างเดือน มิ.ย – ก.ย. ๒๕๐๓ จำนวน ๑๔ เล่ม คราวนี้อินทรีแดง โรม ฤทธิไกรต้องเผชิญหน้ากับองค์การอาชญากรรม “ทับสมิงคลา” ของ “ เยนเบาฟุก” ที่ใช้พิษร้ายของอสรพิษทับสมิงคลาในการสังหารเหยื่อ
ร่างของโรม ฤทธิไกร , วาสนา เทียนประดับ , พ.ต.ต มนตรี , ร.ต.ท. ชาติ , และ ร.อ. เทอด ธรรมรักษ์ ล้วนมีเงาสีดำทึบทะมึนของอสรพิษร้ายทับสมิงคลาแผ่พังพานปกคลุมไว้ทุกถ้วนหน้า