(ภาพประกอบมาจากหนัง “มนต์รักนักพากย์” หนังเอาใจคนเดินตามฝัน ผลงานของ คุณอุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร)
จริงๆ แล้ว ผมก็เคยมีฝันแบบนี้ อยากจะเป็นคนฉายหนัง อยากจะเป็นนักพากย์ แต่พอโลกเปลี่ยน ก็เลยไม่ได้เดินตามฝัน..ผมเองเกิดทันดูหนังมิตร ชัยบัญชา 16 มม.ที่ฉายกับหนังขายยาแบบนี้เหมือนกัน สมัยนั้น ผมยังเป็นเด็ก (ตอนนี้ 60 ปีแล้ว) แต่ก็ได้ดูอยู่ไม่กี่ปี หนังขายยาก็ค่อยๆ หายไป ส่วนบริการหนังกลางแปลงในเมืองสุรินทร์ก็พากันเปลี่ยนไปฉายหนัง 35 มม.ฉายด้วยเตาอ๊าคกันหมด.. หนัง 16 มม.พากย์สดๆ จึงค่อยๆ หายไปราวปี 2516
วันนี้ พอพวกเราช่วยกันตามหาฟิล์มหนัง 16 มม.มิตร ชัยบัญชา มาได้ การที่จะย้อนยุคกลับไปฉายแบบเก่าๆ ก็จะต้องลงทุนสูง กากฟิล์มหนังก็ไม่สมบูรณ์ ทางเดียวที่จะทำให้หนัง 16 มม.มิตร ชัยบัญชา ฟื้นชีวิตกลับมาฉายบนจอหนังกลางแปลงได้อีกครั้ง..และประหยัดที่สุดก็คือ การฉายจากไฟล์ดิจิตอลที่เราช่วยกันบูรณะและพากย์บันทึกเสียงไว้แล้ว
เป็นเรื่องธรรมดาครับ ที่พอเห็นเป็นหนังไทยเก่าๆ คนจะไม่นิยมดู เขาจะดูแต่หนังใหม่ๆ ยิ่งเป็นหนังกลางแปลงด้วยแล้ว เขาก็จะแข่งขันกันฉายแต่หนังใหม่ๆ ไม่มีใครอยากจะฉายหนังเก่าๆ
วันนี้ สถานะของหนังมิตรเก่าๆ จึงเหมือนหนังเพิ่งจะเกิด ที่จะต้องมองหาช่องทางขึ้นมาเผยแพร่ เพื่อมิให้คนหลงลืมประวัติศาสตร์ ทางที่ง่ายที่สุด เร็วที่สุดและประหยัดที่สุดในวันนี้ก็คือ การขอไปร่วมฉายกับหนังกลางแปลงที่เขามีงานฉายอยู่ตามปกติแล้วเช่น หนังกลางแปลงในงานวัด งานประจำปี งานประจำจังหวัดหรืองานอีเว้นท์ย้อนยุคต่างๆ ฯลฯ
พอจะนึกภาพออกไหมครับ..ก็เหมือนเราเดินๆ เที่ยวงานอยู่ แล้วก็เดินไปเจอจอหนังกลางแปลง เห็นภาพพระเอกมิตร ชัยบัญชา กำลังโลดแล่นอยู่บนจอ..แค่เขาหยุดดูหนังมิตร 5 นาที 10 นาที ก็ถือว่า เราได้ช่วยเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้รู้จักพระเอกมิตร ชัยบัญชา แล้วและถ้าฉายแบบนี้ได้บ่อยๆ เราก็ไม่ต้องรอฉายแค่วันที่ 8 ตุลาคม แต่เราก็จะได้เผยแพร่ผลงานของมิตร ชัยบัญชา กันแทบทุกคืนเลยครับ
ส่วนหนังมิตรที่จะฉายนั้น อย่างแรก เราก็ต้องฉายประวัติผลงานมิตร ชัยบัญชา ตั้งแต่เข้าวงการจนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งตัดต่อและบรรยายไว้แล้วยาว 20 นาทีและก็ต่อด้วยหนังมิตร ชัยบัญชา ภาพสีสวยสดใสเหมือนหนังใหม่ๆ อีกสักเรื่อง.. ถ้าได้ฉายแบบนี้อยู่เรื่อยๆ คนก็จะไม่ลืมพระเอกมิตร ชัยบัญชา
