ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 415 โครงการขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์ เรื่องกราบที่ดวงใจ (2517 กรุง-อโนมา)  (อ่าน 770 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฉัตรชัยฟิล์มshop

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 11662
  • พลังใจที่มี 441
  • เพศ: ชาย
  • รักการฉายด้วยฟิล์ม


มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต ชุมทางหนังไทยในอดีต Thai Old Movie Station
บทที่ 415
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
โครงการขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์ เรื่อง
กราบที่ดวงใจ (2517 กรุง-อโนมา)
โดย มนัส กิ่งจันทร์...
(facebook 24 กันยายน 2556)
สวัสดีครับทุกท่าน นับแต่มีหนังไทยออกฉาย เริ่มจากปี พ.ศ.2466 หรือพ.ศ.2470 จนถึงปัจจุบันนั้น ก็ยังไม่เคยมีใครนับตัวเลขว่า มีจำนวนกี่เรื่อง..ส่วนผมนั้นได้ลองทำข้อมูลประวัติหนังไทยช่วงก่อนปี พ.ศ.2500 ถึงพ.ศ. 2548 พบว่า มีหนังไทยออกฉายมามากกว่า 4,000 เรื่องแล้ว (ถ้านับถึงปี 2556 อาจมีถึง 6,000 เรื่องก็ได้) แต่เรื่องปริมาณหนังที่ออกฉายนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะพูดถึง หากแต่จะพูดถึงหนังไทยที่สูญพันธุ์ไปมากกว่าเพราะจากการทำข้อมูลเบื้องต้นก็พบแล้วว่า อย่างน้อยๆ ก็มีหนังไทยมากกว่า 2,000 เรื่องที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ดังนั้น เพื่อไม่ให้หนังไทยเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่คนไทยลืม..หรือจะไม่มีใครพูดถึงอีก.. ผมจึงจัดทำโครงการขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์ โดยมีหลักเกณฑ์พิจารณาไว้ ดังนี้
1) เคยเป็นหนังไทยที่ออกฉายสู่สาธารณชนในโรงภาพยนตร์มาก่อนและ
2) ณ ปัจจุบันไม่มีฟิล์มแล้ว หรือมีฟิล์ม แต่ไม่เคยมีการนำออกฉายเผยแพร่ต่อสาธารณชน หรือไม่เคยผลิตเป็นวีดีโอ วีซีดี ดีวีดีหรือวัสดุอื่นใดที่สามารถฉายให้ชมได้อย่างภาพยนตร์

  เมื่อเข้าเกณฑ์ดังกล่าว ก็นับว่าเป็น หนังไทยที่สูญพันธุ์ ไปแล้ว ซึ่งผมจะเขียนขึ้นบัญชีทุกๆ วันคู่ไปการนำเสนอโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ แต่หากการขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์ ครั้งนี้ ไปกระทบต่อสิทธิการถือครองภาพยนตร์ของผู้ใด กรุณาแจ้งให้ผมทราบเพื่อจะได้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องต่อไปนะครับ

  สำหรับภาพยนตร์ที่จะขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์ในวันนี้ ก็คือเรื่อง กราบที่ดวงใจ..หนัง 35 มม.พากย์เสียงในฟิล์ม บทประพันธ์ของ อิงอร นำแสดงโดย กรุง ศรีวิไล-อโนมา ผลารักษ์-อนันต์ สัมมาทรัพย์-สุคนธ์ทิพย์ เสนะวงศ์-ดวงใจ หทัยกาญจน์-ด.ญ.ตุ๊กตา จินดานุช-สมชาย สามิภักดิ์-สุลาลีวัลย์ สุวรรณฑัต-ชิต ไทรทอง-สุชาติ นาทะพันธ์.. สร้างโดย อิงอร..กำกับการแสดงโดย ภักดี รมยานนท์.. ฉายครั้งแรกวันที่ 15 พฤศจิกายน 2517 ที่โรงหนังแมคเคนน่า.. แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร

  ชื่อ “กราบที่ดวงใจ” นั้น สมัยที่ผมยังเป็นนักเรียนมัธยม ก็เคยฉายทั้งหนังกลางแปลงและหนังปิดวิกล้อมผ้าเก็บสตังค์ แต่เพราะหน้าหนังไม่ค่อยเด่นนัก จึงเป็นแค่ “หนังแถม” เท่านั้น..ไม่ใช่เนื้อหาหนังจะไม่ดีนะครับ แต่ว่าคนแถวนั้น เขานิยมดูหนังบู๊ๆ พอเห็นใบปิดหนังเรื่องนี้ธรรมดาๆ ก็เลยรู้สึกเฉย ๆ..มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเคยฉายเป็นเรื่องที่ 5 ตอนใกล้จะสว่างแล้วครับ คนดูก็ลุกหนีกันหมด บางคนก็ดูนิดหน่อย ก็ไม่อยากจะดูต่อ..พอเห็นคนดูเหลือน้อย ผมก็ฉายยกม้วนทันทีและเพราะเหตุที่ผมเคยสัมผัสกับหนังเรื่องนี้โดยตรง ก็เลยทำให้ชื่อหนัง “กราบที่ดวงใจ” ติดอยู่ในความทรงจำตลอดมา..พอโตขึ้นมาหน่อย ก็ชักรู้สึกว่า เออ..ชื่อหนังเรื่องนี้มันก็เพราะดีน่ะ ดูชื่อมันมีเสน่ห์ยังไงชอบกล..กระทั่งเมื่อถึงยุคที่วีดีโอเทปบูมใหม่ๆ ประมาณปี 2528 ผมก็เกิดนึกอยากจะดูหนังเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ก็ไม่มีใครทำเป็นเทปวีดีโอให้เช่าเลยกระทั่งจนบัดนี้ ก็ยังไม่มีครับ.. เมื่อไม่มีเทปวีดีโอ ผมก็เลยลองตามหาฟิล์มหนังดูบ้าง แต่ก็ไม่มีข่าวคราวเรื่องฟิล์มหนังอีกเช่นกัน..คงมีแต่ภาพนิ่งและเรื่องย่อเท่านั้น

  กราบที่ดวงใจ.. ตัวละครหลัก ๆ ของเรื่อง จะมีอยู่ 4 คน คือ “กรุง ศรีวิไล” เป็นพระเอกมาในชื่อ “จักร ศัลยประจิต” แสดงเป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ.. ส่วน “อโนมา ผลารักษ์” นางเอกลูกครึ่งไทย-เยอรมันที่ก่อนหน้านี้แสดงเรื่อง 2 สิงห์ 2 แผ่นดิน และ ทอง ภาค 1 ครั้งนี้ ก็มาในชื่อ “สาวิตรี”.. ส่วน “สุคนธ์ทิพย์ เสนะวงศ์” รองนางเอกมาในชื่อ “เยาวภา” แสดงเป็นหุ้นส่วนและเป็นแฟนของกรุง.. ส่วนอีกคนคือ “อนันต์ สัมมาทรัพย์” เล่นเป็นตำรวจมาในชื่อ “นพนันท์”...

  เรื่องก็เริ่มขึ้น เมื่อ อโนมา โทรศัพท์มาหา กรุง เพื่อติดต่อว่าจ้างให้กรุงช่วยผ่าตัดใบหน้าของเธอ ให้เป็นคนที่ขี้ริ้วขี้เหร่ที่สุด จะเอาค่าจ้างเท่าไรก็ได้ แต่กรุงก็ตอบปฏิเสธเพราะตัวเองเป็นถึงศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เคยแต่ทำให้คนขี้เหร่กลายเป็นคนสวย...แต่แล้วคืนนั้นเอง อโนมา ก็เดินทางไปหากรุงที่บ้านพัก เธอแต่งกายด้วยชุดปกปิดใบหน้า สวมแว่นตาสีชา..เธอขอร้องให้กรุงช่วยทำให้เธอขี้เหร่ที่สุด แต่กรุงปฏิเสธ เธอจึงล้วงเอาเงินสด ๆ 2 แสนบาทออกมากองต่อหน้าพร้อม ๆ กับหยิบปืนพกกระบอกหนึ่งขึ้นมาด้วย เธอบอกว่า ถ้ากรุงไม่ยอมช่วยทำให้หน้าตาเธอขี้ริ้วขี้เหร่แล้ว เธอจะยิงตัวตายในบ้านหลังนี้ทันที เอาให้เกิดเรื่องอับอายในบ้านพักนั่นแหละ...

  เจอมุกนี้ กรุงก็เลยต้องผ่อนหนักเป็นเบา ขอให้เธอเปิดผ้าที่คลุมหน้าออกซะก่อน.. พระช่วย..ทันทีที่เธอเปิดให้ใบหน้า..หน้าตาเธอช่างสวยหมดจดยิ่งนัก..แล้วเหตุไฉนจึงอยากจะเป็นคนขี้เหร่เล่า...กรุงสอบถามเหตุผลที่มาที่ไป.. เธอจึงเล่าให้ฟังว่า เธอต้องการหนีผู้ชายคนหนึ่ง เป็นผู้มีอิทธิพล แต่นิสัยกักขฬะ เลว.. แม้กรุงจะเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง แต่เพราะความสนใจในชีวิตและรูปร่างหน้าตาของเธอ.. กรุงจึงจะยอมผ่าตัดให้เธอตามความประสงค์ โดยพาเธอไปผ่าตัดที่บ้านพักต่างจังหวัดเพื่อไม่ให้คนรู้เห็น...แต่พอลงมือผ่าตัด แทนที่กรุงจะผ่าตัดให้หน้าตาเธอขี้เหร่ กลับผ่าตัดให้หน้าตาเธอดูสวยงามยิ่งขึ้นอีก..และเมื่อผ่าตัดเสร็จ กรุงจึงเห็นข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ผู้หญิงคนนี้ชื่อ สาวิตรี..เป็นนักเรียนนอกที่กลับมาเมืองไทยและยิงคนรักตาย การผ่าตัดหน้าตา ก็เพื่อหวังหนีคดีนั่นเอง...

   แต่เมื่อกรุงสอบถามเธอ.. เธอก็บอกว่า เหตุที่เธอต้องยิงชายคนนั้นจนตายนั้น ก็เพราะเขาเป็นคนใจชั่ว ไม่ยอมรับลูกที่อยู่ในท้องของเธอ จึงเกิดการโต้เถียงกัน เธอจึงยิงเขาตายและกะว่าจะผ่าตัดใบหน้าและหลบหนีคดีเพื่อไปคลอดลูกเสียก่อน จากนั้นจึงจะกลับมามอบตัวกับตำรวจหรือไม่ก็จะฆ่าตัวตาย... เธอร้องไห้ แล้วก็หลบหนีจากบ้านพักของกรุงไป..

  ช่วงที่เธอหายตัวไป 6-7 เดือนนั้น เธอจะมีจดหมายมาส่งข่าวคราวให้กรุงทราบเป็นประจำ โดยครั้งสุดท้ายเธอบอกว่า กำลังจะคลอดลูกแล้วและเมื่อคลอดเสร็จ เธอจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด.. ซึ่งตั้งแต่กรุงได้พบกับอโนมา จนถึงวันนี้ กรุงเพิ่งจะรู้ตัวว่า เขาหลงรักอโนมาอย่างบอกไม่ถูก ก็เรียกว่า ทั้งรักและสงสารเธอนั่นแหละครับ...แต่ทำไงได้ในเมื่อกรุงเองก็มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งคอยอยู่ กรุงจึงตัดสินใจตัดปัญหาที่จะแต่งงานกับ สุคนธ์ทิพย์ เพื่อหวังจะให้ลืมอโนมาให้ได้...แต่เพราะแรงแห่งคิดถึง กรุงดันพา สุคนธ์ทิพย์ มาบ้านพักต่างจังหวัดที่เคยพาอโนมามาผ่าตัด...แล้ววันหนึ่งก็มีคนเอาเด็กแรกเกิดมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านพัก.. กรุงเห็นก็รู้ได้ทันทีว่า ต้องเป็นอโนมาที่ต้องการเอาเด็กมาฝากเลี้ยงเขาแน่ ๆ... แล้วตัวอโนมาหายไปไหน.. เมื่อคิดได้เช่นนั้น ด้วยใจรักที่ยังคงผูกพันกับอโนมาอยู่ กรุงจึงออกตามหาอโนมาทันที...

  ขณะที่อโนมาเอง ตอนที่มาแอบคลอดลูกที่บ้านนอกนั้น ก็ได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งคือ อนันต์ สัมมาทรัพย์ ซึ่งเป็นคนดี เคยช่วยเหลือเวลาเธอโดนคนอื่นข่มเหง อนันต์ทำทีสนใจเธอเหมือนชายหนุ่มสนใจหญิงทั่วไป...เมื่อเธอนำลูกไปให้กรุงเลี้ยงแล้ว ขณะที่เธอกำลังจะตัดสินใจว่า เธอจะกลับไปมอบตัวกับตำรวจหรือจะฆ่าตัวตายดีนั้น อนันต์ก็เปิดเผยตัวเองว่า เป็นตำรวจและจับเธอไปโรงพัก.. โดยมีการเชิญตัวกรุงให้ไปดูหน้าอโนมาเปรียบเทียบกับภาพถ่ายเก่าว่า ใช่ สาวิตรี คนร้ายที่ฆ่าคนตาย หลบหนีคดีมาจริงหรือไม่...

  ฉากนี้แหละครับ..เป็นจุดไคลแม็กของเรื่อง.. ตำรวจนั้นน่ะ สงสัยว่า เธอคือ สาวิตรีคนร้ายที่หนีมาผ่าตัดใบหน้า...แต่พอตำรวจเชิญกรุงในฐานะเป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไปดูตัวเพื่อเปรียบเทียบกับภาพถ่ายเก่าแล้ว... กรุงก็ทำทีเป็นดู แล้วก็บอกว่า เป็นคนละคนกัน และหน้าตาของอโนมาที่เห็นอยู่ขณะนั้น ก็เป็นใบหน้าตามธรรมชาติ ไม่ได้ผ่าตัดเสริมแต่งอะไรเลย...ตำรวจจึงต้องปล่อยตัวเธอไป...ตอนนี้เองที่อโนมารู้แล้วว่า กรุงนั้นรักเธอ มีใจให้เธอ..แต่สำหรับเธอนั้นเล่า หาคู่ควรกับชายใจพระคนนี้ไม่...ก่อนเธอจะลากลับ เธอเข้าไปกราบที่หัวใจของกรุง...แล้วเธอก็เดินจากไป.. กรุงก็ได้แต่ยืนมองเธอเดินจากไป... โดยที่ไม่รู้ว่า เธอกำลังจะไปไหน... หนังก็จบแค่นี้แหละครับ....

  ปัจจุบันนี้ กราบที่ดวงใจ ไม่มีฟิล์มเนกาตีฟหรือต้นฉบับแล้วครับ..เท่าที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีใครเห็นวีดีโอเทปหนังเรื่องนี้เลย จึงเป็นอันสรุปได้แล้วว่า ณ วันนี้ หนังเรื่อง กราบที่ดวงใจ เป็นหนังไทยที่ต้องขึ้นบัญชีสูญพันธุ์ แล้วครับ



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 กันยายน 2013, 08:36:31 โดย มนัส กิ่งจันทร์ »


ฉัตรชัย สุวรรณโสภา 
88/1 ม.4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 70120   
E-mail chatchai_suw@hotmail.com    โทร 081-7636195 
ต่อพงศ์ภาพยนต์ ระบบ 35 ม.ม.  ฉัตรชัยภาพยนตร์ กลางแปลงย้อนยุค 16 ม.ม.
ธ.ไทยพาณิชย์  สาขาบิ๊กซีราชบุรี ชื่อบัญชี ฉัตรชัย สุวรรณโสภา  หมายเลขบัญชี  940-202235-1

ออฟไลน์ ฉัตรชัยฟิล์มshop

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 11662
  • พลังใจที่มี 441
  • เพศ: ชาย
  • รักการฉายด้วยฟิล์ม
 ภาพนิ่งจากเรื่อง กราบที่ดวงใจ หนังไทยที่สูญพันธุ์ไปแล้ว..





 และก็เป็นธรรมเนียมครับ หนังสือดาราในยุคนั้น ก็ลงเรื่องย่อและภาพนิ่งเพื่อโฆษณาให้คนไปดูหนัง..หน้าแรกครับของ กราบที่ดวงใจ..



 ผมมีอยู่ 2 เล่มครับ ที่เคยลงเรื่องย่อ กราบที่ดวงใจ หนังปี 2517 ที่เป็นอีก 1 ใน 2,000 กว่าเรื่องที่สูญพันธุ์ไปแ้ล้ว..ท่านใดมีความหลังกับหนังเรื่องนี้ เชิญเล่าได้ตามสบายนะครับ..

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 กันยายน 2013, 19:21:28 โดย ฉัตรชัย ไทยซีเน »
ฉัตรชัย สุวรรณโสภา 
88/1 ม.4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 70120   
E-mail chatchai_suw@hotmail.com    โทร 081-7636195 
ต่อพงศ์ภาพยนต์ ระบบ 35 ม.ม.  ฉัตรชัยภาพยนตร์ กลางแปลงย้อนยุค 16 ม.ม.
ธ.ไทยพาณิชย์  สาขาบิ๊กซีราชบุรี ชื่อบัญชี ฉัตรชัย สุวรรณโสภา  หมายเลขบัญชี  940-202235-1