ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 429 ชุมทางหาดใหญ่ ยกที่ 2 วัดบ้านดง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ 11-12 ต.ค.56  (อ่าน 419 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต

บทที่ 429
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
ชุมทางหาดใหญ่ ยกที่ 2 วัดบ้านดง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ 11-12 ตุลาคม 2556
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 13 ตุลาคม 2556)


ชุมทางหาดใหญ่ ยกที่ 2 วัดบ้านดง อ พิชัย จ อุตรดิตถ์ 11 12 ต ค 56


               สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่ผมเปรยๆ ว่า จะกลับไปวัดบ้านดง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำหนัง ชุมทางหาดใหญ่ ให้ดูดีขึ้นกว่าเก่า ก็มีเพื่อน ๆ ใน facebook หลายท่านสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ตลอดจนยังฝากเงินทำบุญถวายหลวงพ่อวัดบ้านดง เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ มิตร ชัยบัญชา ด้วย.. การเดินทางครั้งนี้เป็นหนที่สองแล้ว พวกเรา 3 คนคือ พี่อี๊ด อาทร ผมและคุณนุ ประเดิม.. เดินทางไป-กลับโดยรถไฟ ออกจากสถานีบางซื่อ ประมาณ 4 ทุ่มครึ่งของวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 เช้าตรู่ของวันที่ 12 ตุลาคม 2556 พวกเราก็ถึงสถานีรถไฟพิชัย จุดหมายปลายทาง

               แต่เดิมนั้น หลวงพ่อวัดบ้านดง ท่านเมตตาพวกเรา บอกว่า จะให้รถของวัดมารับพวกเราที่สถานี แต่ผมเห็นยังเช้าอยู่ ก็เกรงใจท่าน อีกอย่างก็อยากให้เพื่อนๆ ได้พักอาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลากันก่อน แล้วสาย ๆ ก็ค่อยเหมารถไปวัดกัน..แต่เผอิญว่า คุณณัฐพงศ์  Nathapong Baimonta  จากกลุ่มคนรักรถไฟ ซึ่งเพิ่งมาเป็นเพื่อนใหม่ใน facebook บอกว่า จะเดินทางไปทำธุระที่อำเภอพิชัย อยู่พอดี ก็อาสาจะขับรถรับ-ส่งพวกเรา ผมก็เกรงใจ แต่ก็ขัดไม่ได้กับความหวังดี เป็นอันว่า พวกเราได้มิตรใหม่คอยช่วยเหลือตลอดรายการนี้ ทั้งที่อาบน้ำ อาหารเช้า อาหารเย็นครับ

               สายๆ ของวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2556 พวกเรา 4 คน ก็เข้าไปถึงวัดบ้านดง กราบนมัสการหลวงพ่อเสร็จแล้ว ท่านก็บอกพวกเราว่า ฟิล์มหนังยังเก็บอยู่ที่เก่า ให้พวกเราขึ้นไปหา ไปจัดการได้เลย.. พวกเรา 4 คนก็ขึ้นไปบนชั้นสามเพื่อขนฟิล์มลงมาฉายทำภาพ.. ก่อนจะฉายนั้น ก็ให้พี่อี๊ดพี่ใหญ่ของเราจุดธูปเทียนขออนุญาตกับรูปปั้นหลวงพ่อสำเนียง ซึ่งท่านเป็นเจ้าของฟิล์มหนังเหล่านี้ก่อน จากนั้นผมก็หยิบฟิล์ม ชุมทางหาดใหญ่ 3 ม้วน มานั่งกรอฟิล์มกลับ เช็ครอยต่อ รอยแตกและสำรวจว่า จะฉายจากรูหนามเตยข้างไหนดีเพราะทั้งสามม้วน ก็มีรอยแตก รอยช้ำต่างกันไป ในที่สุด ก็ต้องฉายซ้ำไปมาเพื่อจะนำภาพกลับมาตัดต่อ หาภาพที่ดีที่สุด..

               พวกเราใช้เวลากับ ชุมทางหาดใหญ่ นานกว่าเรื่องอื่น ๆ โดยเฉพาะฉากสถานีรถไฟสงขลา ที่คุณพุทธพร ส่องศรี ตั้งความหวังไว้สูง ผมฉายหลายครั้งเพื่อให้ได้ตัวหนังสือที่ป้ายสถานีรถไฟ แต่ก็ยากครับเพราะป้ายนั้น ก็เป็นป้ายขาวๆ ตัวหนังสือก็ออกขาว พยายามลดแสงให้มืดแล้ว แต่ก็มองตัวหนังสือไม่ค่อยออกเหมือนกัน.. ผมมีภาพตัวอย่างมาให้ดูด้วยครับ พอฉายฟิล์ม ชุมทางหาดใหญ่ เสร็จแล้ว จึงรู้ว่า การตั้งค่าวัดแสงของหนังแต่ละฉากนั้น เขาตั้งค่าไม่เหมือนกัน บางครั้งแสงขาวก็มากไป พอเราลดแสง กำลังจะดีแล้ว แต่พอฉากต่อมา เขาตั้งค่าสว่างน้อย หนังเราก็เลยมืดอีก   

               นอกจากพวกเราจะฉาย ชุมทางหาดใหญ่ แล้ว พวกเรายังนำฟิล์ม ขุนตาล (สมบัติ-อรัญญา) ทรายแก้ว (สมบัติ-เนาวรัตน์) มาฉายซ้ำอีกและก็ยังนำฟิล์มหนังเรื่อง รักเธอเสมอ (สมบัติ-เพชรา) ที่มีอยู่ 2 ม้วน มาฉายอีก แต่สภาพฟิล์ม ไม่ค่อยดีนัก..  เราเลิกฉายประมาณ 5 โมงเย็นกว่า ๆ ครับ

               จากนั้น คุณนุ ประเดิม ก็นิมนต์หลวงพ่อวัดบ้านดง มาทำบุญทำสังฆทานอุทิศแด่ มิตร ชัยบัญชา ซึ่งเงินที่เพื่อน ๆ ร่วมกันครั้งนี้มีทั้งหมด 9,832 บาท พวกเราทำบุญถวายหลวงพ่อวัดบ้านดง เป็นจำนวน 6,612 บาท จ่ายเป็นค่าเดินทางประมาณ 1,800 บาท ก็จะเหลืออีกประมาณ 1,420 บาท ซึ่งผมจะเก็บไว้ให้เป็นค่าใช้จ่ายของ ครูนุ อนุกูล ที่จะเดินทางจากนครสวรรค์ นำฟิล์มเรื่อง ดรรชนีนาง (แสน-พิศมัย) กลับมาให้ผมแปลงสัญญาณใหม่ในวันเสาร์หน้านะครับ


เอาล่ะครับ ตอนนี้มาดูวีดีโอบันทึกเหตุการณ์กันครับ..  ชุมทางหาดใหญ่ ยกที่ 2 วัดบ้านดง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ 11-12 ตุลาคม 2556


คลิ๊กชมที่นี่...
ชุมทางหาดใหญ่ ยกที่ 2 วัดบ้านดง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ 11-12 ตุลาคม 2556



<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/2wXpXFh4fFM?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

...............


               ข้อแนะนำที่่  คุณ Sitha Yoothong บอกว่า..อยากให้เพิ่มเติมในคลิปเช่น เสียงบรรยายบ้าง จะได้รู้ว่า กำลังทำอะไร เสียงเพลงประกอบ ขอให้เบาลงเป็นแบ็คกราวนด์ คล้าย ๆกับการพากย์หนัง จะทำให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้นครับ..ก็ตรงกับใจผมเป๊ะเลย เพียงแต่ว่า มุกนั้น ผมกักเอาไว้ใช้ตอนที่คลิปตัวนี้ไปออกรายการทีวีจานดำของคุณทินกร หนังสืออินไซด์บันเทิงนะครับเพราะตอนออกทีวี เราจะนั่งคุยนั่งบรรยายประกอบ ไม่งั้นคนดูจะงงๆ เราทำอะไร อย่างเช่น ตอนที่พวกเราไปวัดบ้านดงครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 56 ผมก็โพสต์คลิปเต็มเรื่องแบบนี้ก่อน แล้วก็กะว่า พอทีวีออกต้นเดือนกรกฎาคม 56 ก็จะนำเทปที่มีเสียงบรรยายแบบนั้น มาโพสต์ซ้ำในหัวข้อรายการอินไซด์บันเทิงอีกครั้ง

              แต่เผอิญว่า โชคร้ายหน่อย เจ้าหน้าที่ทีวีเขาหาเทปนั้นให้ผมไม่ได้ เขาบอกว่า คอมแฮงค์ไปแล้ว เขากู้คืนไม่ได้แล้วนะครับ..พวกเราก็เลยไม่ได้เห็นเทปรายการตอนนี้นะครับ แต่ว่าเทปต้นฉบับยังอยู่ ก็เหมือนๆ กับเทปข้างบนนี้คือ ไม่ได้บรรยายประกอบนะครับ..ท่านใดยังไม่เคยดู ยกที่ 1

ก็คลิกดูได้นะครับ ช่วยหนังไทย 8-9 มิ.ย.56 วัดบ้านดง อุตรดิตถ์


ส่วนเวลานำไปออกรายการ ก็จะมีการพูดบรรยายประกอบแบบนี้นะครับ

เทปรายการอินไซด์บันเทิง มิ.ย.56 ตอน 1 เทป 1


เทปรายการอินไซด์บันเทิง มิ.ย.56 ตอน 1 เทป 2


เทปรายการอินไซด์บันเทิง มิ.ย.56 ตอน 1 เทป 3


ส่วนหนังที่ผมกลับไปแปลงสัญญาณใหม่อีกนั้น คงต้องขอเวลาตัดต่อก่อนนะครับ... ตอนนี้มาดูวีดีโอบันทึกเหตุการณ์กันครับ..

ชุมทางหาดใหญ่ ยกที่ 2 วัดบ้านดง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ 11-12 ตุลาคม 2556


              ไม่เป็นไรครับ พอตัดภาพออกมาเป็นฉากๆ แล้ว เราก็ค่อยปรับแต่งไปครับ..ภาพที่คุณพุทธพรนำมาเปรียบเทียบกันนี้ ทำให้มองเห็นว่า อะไรที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันแบบนี้..คำตอบก็คือ การตั้งค่าแสงของกล้อง ภาพเก่าซ้ายมือนั้นตั้งระบบอัตโนมัติ ส่วนภาพขวามือ ตั้งปรับมือเอง แต่ว่าภาพขวามือ ผมปรับให้ภาพไม่ค่อยสว่างเพื่อจะรองรับการอ่านป้ายสถานีรถไฟอย่างที่บอกไว้ตอนต้น ก็เลยมีผลทำให้ภาพต่อเนื่องต่างๆ เกิดปัญหาด้านความสว่างทั้งหมดนะครับ แต่ไม่เป็นไร เฉพาะฉากนี้ ผมฉายไว้ทั้งภาพแบบภาพปกติด้วยครับ เดี๋ยวค่อยๆ นำมาตัดแปะและปรับแต่ง ก็คิดว่า น่าจะทำให้ดีขึ้นนะครับ..อ้อ ลืมบอกไป งวดนี้เห็นเสาธงแล้วนะครับ..


              ภาพนี้ ตอนที่ลงรถไฟที่สถานีพิัชัย ก่อนที่ี คุณ Nathapong Baimonta จะมาถึง พวกเราก็ถ่ายรูปกันไว้ก่อน... คุณนุ เพิ่งหายป่วยและมีเรี่ยวแรงบ้างแล้วครับ.. การไปวัดบ้านดง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งผมก็คิดว่า คงไม่ต้องถ่ายรูปอะไรไว้มากหรอกครับ แต่พี่อี๊ดบอกว่า ไม่ได้ มันต้องจัดเต็ม ครั้งแรกก็ครั้งแรกซิ ไม่เกี่ยวกัน..เอา จัดเต็ม ก็จัดเต็ม แต่เผอิญตากล้อง เกิดป่วยซะก่อน ภาพก็เลยได้มาน้อยครับ..


              ตอนที่พวกเราขึ้นไปนำฟิล์มลงมาจากชั้น 3 นั้น ฟิล์มม้วนนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ครั้งแรก พวกเราไม่ได้ฉายแปลงสัญญาณเพราะเวลาไม่พอ..มาครั้งนี้ ก็เลยถือลงมาด้วย เป็นหนังเรื่อง รักเธอเสมอ สมบัติ-เพชรา เหลือให้เรามาเพียง 2 ม้วนนะครับ..


              พี่อี๊ดบอกว่า ขอดูก่อนว่า เขากรอฟิล์มกันอย่างไร..หัวดีอยู่แล้ว ดูปุ๊บก็บอกว่า สบายมาก เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง...


              ถ้าพวกเราจำกันได้ ตอนเราไปวัดบ้านดงครั้งแรก หลวงพ่อเหมือนจะอยู่กับพวกเราตลอดเวลา.แต่พอครั้งนี้ ท่านมาดูแป๊บเดียว ท่านก็กลับไปกุฏิแล้ว คุณนุถ่ายภาพยังไม่ทันเลย..


              พี่อี๊ดบอกคุณนุว่า ขอเดี่ยวด้วยนะ... นุ ก็จัดให้..
             
              ผมกำลังนั่งตัดต่อ ลำดับภาพและปรับแต่ง หนังเรื่อง ชุมทางหาดใหญ่ ฉบับรีมาสเตอร์ อยู่นะครับ..ช่วงนี้ต้องซอยออกเป็นฉากๆ เพราะบางครั้งหนังจะกลับด้าน ผมจะได้กลับให้ถูกต้องตามจริง..แต่บางครั้งก็ยากเพราะหาจุดสังเกตุไม่ได้นะครับ..ก็พยายามดูๆ ให้ตรงกับธรรมชาติมากที่สุดนะครับ

วันนี้ ลองนำภาพเปรียบเทียบ ระหว่างภาพเก่ากับภาพระบบใหม่ มาให้ชมกันก่อนนะครับ..


              วันนี้.. มีภาพกากฟิล์มหนัง 16 มม. มาให้ดูอยู่ 3 ภาพหรือ 3 ช่วงนะครับ.. ภาพช่วงที่ 1 ที่เห็นมิตรใส่หน้ากากอินทรีแดงนั้น จะเป็นภาพตามปกติของฟิล์ม 16 มม. ซึ่งรูหนามเตยที่มีอยู่ 2 ข้างซ้าย-ขวา ก็ยังอยู่ในสภาพปกติ.. ซึ่งถ้าเรามีฟิล์มตามภาพที่ 1 แบบนี้ยาวตลอดไปทั้งม้วน เวลาฉาย ก็จะไม่มีปัญหาอะไร เราก็ตั้งแสง ปรับโฟกัสด้วยมือและล็อกไว้ได้สบายครับ..

                                       
ภาพที่ 1                                       ภาพที่ 2                                           ภาพที่ 3

              แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ที่กากฟิล์มที่ผ่านการฉายมาแล้ว จะมีสภาพดีเหมือนภาพที่ 1 นะครับ.. กากฟิล์มที่พบส่วนใหญ่ บางทีก็มีอย่างเช่น ภาพที่ 2 ที่ผมสมมุติเอาว่า เป็นฟิล์มต่อเนื่องกันกับภาพที่ 1 จะเห็นว่า รูหนามเตยข้างหนึ่งคือ ข้างซ้ายมือท่าน จะเสียหาย ฉีกขาดหมด ซึ่งถ้าเราฉายหนังมาตามปกติจากฟิล์มภาพที่ 1 พอมาถึงฟิล์มภาพที่ 2 ภาพหนังจะเต้นๆๆๆ อย่างที่เราเคยเห็นนะครับ

              ทางแก้ก็มีคือ เราจะซ่อมแซมและทำรูหนามเตยขึ้นใหม่ซึ่งใช้เวลายาวนาน ต้องซ่อมทีละรูไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเห็นว่า ฟิล์มมีร่องรอยแตกแบบนี้เยอะมากๆ หรือทั้งม้วน เราก็ต้องแก้ไขด้วยวิธีกลับด้านฟิล์ม โดยนำรูหนามเตยด้านขวามือที่ยังเหลือดีๆ อีกข้างมาฉายแทนเพราะในเครื่องฉายนั้น จะมีกวักที่ไว้กวักรูหนามเตยอยู่เพียงข้างเดียว พอเราใช้รูหนามเตยข้างขวาฉายแล้ว ภาพที่ออกมา ก็จะเป็นภาพกลับด้านคือ อ่านตัวหนังสือไม่ออก แต่ก็แก้ไขได้ง่ายด้วยโปรแกรมตัดต่อหนังในเครื่องคอมฯ ให้ออกมาถูกต้องได้ มีข้อควรจำอย่างหนึ่ง ก่อนจะฉายกลับด้านนั้น เราจะต้องปรับโฟกัสมือใหม่อีกครั้งเพื่อให้ภาพคมชัดขึ้น (เพราะครั้งแรก เราตั้งโฟกัสกับภาพที่ฉายรูหนามเตยด้านซ้ายครับ)

              กำลังคิดๆ อยู่ว่า หนังที่ผมเคยโพสต์ฉายไปแล้้วนั้น ถ้าแปลงสัญญาณใหม่อีกครั้ง จะต้องนำกลับมาโพสต์ฉายอีกหรือไม่นะครับ.. วันนี้ บ่ายๆ ผมมีนัดคุณฉัตรชัย ไทยซีเน จะไปรับกากฟิล์มหนัง 16 มม.ที่คุณฉัตรชัย ช่วยติดต่อประสานงานยืมไว้ให้แล้ว.. นั่งๆ อยู่ตอนนี้ ฝนก็ยังตกอยู่.. ถามคุณฉัตรชัย ก็บอกว่า ราชบุรี ก็ตกเหมือนๆ กัน..แล้วจะไปได้หรือเปล่าหนอ..ทำไม ฝนต้องมาตกวันนี้ด้วยน่ะ.. คิดๆ แล้วก็นึกออกเพราะฝนคงจะตกต้อนรับหนังนะครับ.. เพราะหนังที่จะไปรับฟิล์มเรื่องหนึ่งมีชื่อว่า น้ำฝน...


              ครับ..ไปมาแล้วเมื่อบ่ายๆ นี้เอง ไปคนเดียว รีบไปรับฟิล์ม 3 ม้วนมาก่อนเพราะจะต้องรีบแปลงสัญญาณให้เสร็จและคิดว่า จะนำฟิล์มไปคืนในวันหยุด 23 วันปิยะมหาราชที่จะถึงนี้ เกรงใจเจ้าของฟิล์มเขานะครับ..

              นึกถึง ค่ำนี้ เมื่อวันศุกร์ที่แล้วนะครับ เป็นวันที่พวกเรา 3 คนออกเดินทางไปอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ไปเพื่อจะทำให้หนังไทยเรื่อง ชุมทางหาดใหญ่ ดูดีขึ้นกว่าเก่า.. ไปด้วยแรงใจแรงสนับสนุนจากเพื่อนๆ ใน facebook นี้ แล้วพวกเราก็ทำสำเร็จ เราได้ภาพที่ดีขึ้นกว่าเก่า.. ตอนนี้ ผมก็นั่งดูๆๆ เพื่อจะตัดต่อ ลำดับภาพอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังต้องตัดทอนส่วนที่เสียหายออกไปอีกเล็กน้อย..ค่ำวันศุกร์ที่แล้วเรียกว่า โชคดีเพราะไม่เจอฟ้าเจอฝน แต่ค่ำวันศุกร์นี้ กว่าจะกลับถึงบ้านได้ ติดฟ้าติดฝนอยู่นานสองนาน..ดีนะครับที่เลือกไปเมื่อค่ำวันศุกร์ที่แล้ว ไม่งั้นคงลำบากแน่ๆ.. พอไปมาเสร็จ ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก..  เพราะอย่างน้อยๆ เราก็ได้ช่วยหนังให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น.. ส่วนวันพรุ่งนี้ ก็คงต้องใช้เวลาในการแปลงสัญญาณหนังอีก 3 ม้วนที่ คุณฉัตรชัย ไทยซีเน ช่วยประสานยืมมาให้ก่อนนะครับ..

















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มีนาคม 2014, 00:56:43 โดย นายเค »


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..