บทที่ 436 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉายรำลึก 23 ปี ไชยา สุริยัน พระเอก 3 ตุ๊กตาทอง

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

บทที่ 436
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
รำลึก 23 ปี ไชยา สุริยัน พระเอก 3 ตุ๊กตาทองคนแรก
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 26 ตุลาคม 2556)

 รำลึก 23 ปี ไชยา สุริยัน พระเอก 3 ตุ๊กตาทองคนแรก

               ถ้าวันนี้ “ไชยา สุริยัน” ยังอยู่จะอายุประมาณ 79 ปี..นับถึงวันนี้..วันที่ 26 ตุลาคม 2556..ไชยาเสียชีวิตไปแล้ว 23 ปี..วันนี้จึงจะพาทุกท่านไปร่วมรำลึกถึง “ไชยา สุริยัน” พระเอก 3 ตุ๊กตาทองคนแรก คนที่ใคร ๆ ในวงการต่างรู้ว่า เขาเกิด...เขาดับ..และเขาเกิดใหม่อีกหลายครั้งในวงการหนังไทย

               ไชยา สุริยัน มีชื่อจริงว่า หม่อมหลวงอภิรัฐ จรูญโรจน์ ชื่อเล่นว่า อู๊ด เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2477 (บางเล่มบอกปี 2479) ที่ย่านรองเมือง กรุงเทพฯ ไชยาเป็นลูกคนเดียวของ ม.ร.ว.เจริญและนางระเบียบ จรูญโรจน์.. เริ่มเข้าวงการหนังโดยการชักชวนของ สุรพงษ์ โปร่งมณี โดยมี ศิริ ศิริจินดา ผู้สร้างผู้กำกับหนังเป็นผู้ตั้งชื่อให้ว่า “ไชยา สุริยัน” ไชยาแสดงหนัง 16 มม.เรื่อง เห่าดง ของ แท้ ประกาศวุฒิสาร เป็นหนังเรื่องแรกคู่กับ อมรา อัศวนนท์ ฉายครั้งแรกวันที่ 22 ตุลาคม 2501 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ก็แจ้งเกิดทันที จากนั้นก็มีหนังที่ไชยาแสดงออกฉายเรื่อยมา ซึ่งเป็นหนัง 16 มม.  เช่นเรื่อง

สี่คิงส์ (2502 ไชยา-อมรา)
ซาเซียน (2502 ไชยา-เรวดี)
ยอดเดี่ยว (2503 ไชยา-อมรา)
ยอดมนุษย์ (2503 ไชยา-สุชีลา)
สุดชีวิต (2503 ไชยา-อมรา)
ชายต้องสู้ (2503 ไชยา-อัจฉรา)
มหาเวสสันดร (2504 ไชยา-สมจิต)

               ปี 2504 ไชยา ได้แสดงหนัง 35 มม.ครั้งแรกในเรื่อง เรือนแพ ของ อัศวินภาพยนตร์ คู่กับนางเอกฮ่องกงคือ มาเรีย จาง หนังออกฉายวันที่ 23 ธันวาคม 2504 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมไทย...  ซึ่งเรื่องนี้เองที่ทำให้ไชยาได้รับรางวัลพระเอกตุ๊กตาทองครั้งแรกและยังทำให้ไชยาคิดจะแสดง จะสร้าง จะกำกับหนังแต่หนัง 35 มม. เพราะเห็นว่า ได้มาตรฐานโลก แต่ก็ยังไม่อาจทำได้เพราะหนัง 16 มม.ที่ใช้ทุนสร้างต่ำกว่า ยังได้รับความนิยมจากชาวบ้านทั่วไป ไชยาจึงเลือกบทบาทที่จะแสดงมากขึ้น...  ทำให้ระยะเวลาตั้งแต่ปี 2505 ถึงปี 2511 จึงมีหนังที่ไชยาแสดงออกมาฉายประมาณ 46 เรื่องเช่น

สิงโตหยก ดอกแก้ว ปืนเดี่ยว เหมยฟ้า สายเลือดสายรัก พาฝัน เดนชีวิต กลางดงเสือ มังกรห้าเล็บ หนึ่งในทรวง ฝนแรก เก้ามังกร ยอดธง วันปืน เก้ามหากาฬ เย้ยฟ้าท้าดิน ภูตพิศวาส เลือดข้น ลูกทาส เล็บเหล็ก เสือไม่ทิ้งลาย อินทรีมหากาฬ มัจจุราชเปลือย ธนูทอง จามรีสีฟ้า ลูกนก เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ปลาบู่ทอง สันดานดิบ นางพรายคะนอง บัวน้อย ลูกหญิง ค่ายบางระจัน อรัญญิก

พระรถเมรี เจ้าแม่ตะเคียนทอง โสนน้อยเรือนงาม น้อยใจยา ผู้ชนะสิบทิศ ตอน ยอดขุนพล แก้มทอง จามเทวี ผู้ชนะสิบทิศ ภาค 2 ตอนบุเรงนองลั่นกลองรบ สิงห์สองแผ่นดิน ผู้ชนะสิบทิศ ภาคสมบูรณ์ บุเรงนองถล่มหงสาวดี สิงห์เหนือเสือใต้ เป็ดน้อย...

ซึ่งในจำนวนนี้ ภูตพิศวาส และ ธนูทอง เป็นอีก 2 เรื่องที่ทำให้ ไชยา สุริยัน ได้รับรางวัลพระเอกตุ๊กตาทอง 2 ตัว..

               ไชยา.. เงียบหายจากวงการไปกระทั่งปี 2513 เปี๊ยก โปสเตอร์ ชักชวนมาเป็นพระเอกหนัง 35 มม. เรื่อง โทน ซึ่งเป็นหนังฉีกแนวธรรมเนียมหนังไทยยุคนั้นและยังมีเพลงไพเราะหลายเพลง หนังออกฉายวันที่ 2 สิงหาคม 2513 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมไทย..ชื่อ “ไชยา สุริยัน” พระเอกเก่าจึงกลับมาผงาดวงการอีกครั้ง..จากนั้นบรรดาผู้สร้างต่าง ๆ ก็หวนกลับมาจ้างไชยาเล่นหนังอีก แต่ไชยาก็ขอเลือกบทเพื่อจะได้มีเวลาสร้างและกำกับหนังของตัวเองบ้าง

               จากปี 2513 ถึงปี 2516 จึงมีหนังที่ไชยาแสดงออกฉายประมาณ 21 เรื่องเท่านั้นเช่นเรื่อง ฟ้าคะนอง ไอ้หนุ่มบ้านนา ดาบคู่สะท้านโลกันต์ น้องนางบ้านนา ยั่วรัก ราชินีบอด วิมานสีทอง รุ้งทอง สะใภ้หัวนอก กว่าจะรักกันได้ ค่าของคน หยาดฝน แม่งู วิวาห์ลูกทุ่ง นางฟ้าชาตรี นี่แหละรัก ธนูสวาท ผาเวียงทอง พรานเพชฌฆาต แหวนทองเหลือง..  ซึ่งจำนวนมีทั้งหนัง 16 และ 35 มม. แต่มีเรื่องหนึ่งที่ ไชยา สุริยัน เป็นผู้สร้างและผู้กำกับเองคือ “ธนูสวาท” โดยปั้นนางเอกใหม่คือ ทาริกา ธิดาทิตย์ ร่วมแสดง.. 

               หนังไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่ไชยาก็สร้างหนังเรื่อง งิ้วราย ต่ออีก แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้นไชยาก็เงียบหายไปจากวงการอีกครั้งหนึ่ง..

               ไชยา.. กลับมาแสดงหนังอีกครั้งประมาณปี 2519-2520 มีผลงานแสดง 5 เรื่องคือ มหาอุตม์ แซ่บ คมเฉือนคม หัวใจที่ไม่อยากเต้น ขยี้มือปืน..  ระหว่างนั้นไชยาก็สร้างหนังเรื่อง พ่อเสือลูกสิงห์ ด้วย แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ต่อมากลุ่มซูโม่สำอางค์จึงดึงไชยาไปเป็นตัวประกอบหนังเรื่อง สืบยัดไส้ หนังตลกปัญญาชน ซึ่งออกฉายปี 2521 จากนั้นชื่อของไชยาก็หายไปจากวงการอีก..

               หลังจากปี 2521 ชื่อของไชยาก็หายไปจากวงการอีกจนถึงปี 2526 จึงเห็นไชยากลับมาแสดงหนังอีกครั้งในบทสมทบ มีหนังแสดงถึงปี 2530 ประมาณ 17 เรื่อง เช่น อั้งยี่ มรกตดำ นักเลงร้อยคม เหยี่ยวดง ปืนประกาศิต นักเพลงผู้ยิ่งใหญ่ ลวดหนาม ไอ้โหด.357 พูดด้วยปืน เพลิงพิศวาส สาวบัวตอง สวัสดีความรัก ขุมทองแม่น้ำแคว เปิดบัญชีฆ่า วายร้าย4คิงส์ พรานภูเขา ปล้นข้ามโลก…

               นอกจากนี้ ไชยา เคยเป็นผู้กำกับละครโทรทัศน์ใช้ชื่อ “รวิวาร” ต่อมา ไชยา สุริยัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2533 นับถึงวันนี้ไชยาเสียชีวิตไปแล้ว 23 ปี แต่ผมก็แปลกใจว่า ทำไม.. ยังไม่มีใครจัดงานรำลึกถึง ไชยา สุริยัน กันบ้างเลย...

คลิกดูวีดีโอ...
รำลึก 23 ปี ไชยา สุริยัน พระเอก 3 ตุ๊กตาทองคนแรก


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/hPLD_hWzNu4?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>






 

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

พุทธพร ส่องศรี ภาพนี้จากภาพยนตร์เรื่องอะไรครับ หรือว่าคุณไชยา สุริยันถ่ายแบบเฉย ๆ




มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต ภาพ ไชยา สุริยัน ที่คุณพุทธพร ส่องศรี นำมาให้ดูนั้น ผมคุ้นๆ ว่า เคยเห็น แต่ก็นึกไ่ม่ออก นอกจากนี้ ผมเคยมีเศษฟิลม์หนังที่ ไชยา ใส่แว่น แต่งชุดเหมือนหมอ แต่ก็ยังหาชื่อเรื่องไม่ได้ เศษฟิล์มก็มีไม่ถึงนาทีด้วย ก็เลยยังไม่ได้ฉายครับ.. ส่วนงานรำึลึก ไชยา สุริยัน นั้น ผมเองก็รอๆๆๆ มาพอๆ กับการได้ดูงานรำลึำก มิตร ชัยบัญชา ทุกๆ ปีนั่นแหละครับ งานมิตรนั้น คุณเอ็มEngkasak Kethom เป็นคนผลักดันทั้งที่เฉลิมกรุงและหอภาพยนตร์ฯ จึงมีการจัด แรกๆ พวกเราต้องลงมือช่วยกันทำก่อน ทำให้เห็นว่า เราทำได้ เรามีข้อมูล เรามีรูปภาพ เรามีหนัง เราหาคนดูให้ได้ เพียงแต่เราไม่มีที่ที่จะจัดเท่านั้น แต่พอพวกเขาเห็นว่า เป็นงานที่ไม่เกิดรายได้ เขาก็เลยไม่ค่อยจัดกัน..ก็เหลือแต่ที่หอฯ ที่ต้องจัดเพราะเป็นหน่วยงานเหมือนจะโดยตรงกับเรื่องนี้ แต่สำหรับดาราท่านอื่นๆ ที่เสียชีวิตไปเช่นกัน คงต้องมีแรงผลักดันนะครับ ไม่งั้นก็จะเงียบๆ แบบนี้แหละครับ..อย่างไรก็ตาม ถ้าขืนรอ ก็คงไม่มีการจัด ผมก็เลยต้องนำเรื่องราวของดาราและหนังของอีกหลายๆ ท่านมานำเสนอต่อท่านทางเฟสบุ๊กนี้ไปพลางก่อน อย่างน้อยๆ ก็เผื่อให้โลกรู้ว่า พวกเราไม่ลืมศิลปินเหล่านี้ครับ วันนี้ ก็เลยขอนำหนังที่ ไชยา สุริยัน ที่ผมโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ มาไว้รวมกัน ณ ที่นี้อีกครั้ง ....หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ปลาบู่ทอง (2508 ไชยา-ภาวนา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/rQg-M74CJoY?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ฟ้าคะนอง (2513 ไชยา-อรัญญา-ภาวนา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/CfeTu3lY1cw?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ หลังกล้อง โทน (2513 ไชยา-อรัญญา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/C6-rbcHjwxU?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ โทน (2513 ไชยา-อรัญญา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/kScfJR4qhqg?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ แหวนทองเหลือง (2516 ไชยา-นัยนา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/5Qkjuu10Ahs?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ดาบคู่สะท้านโลกันต์ (2514 ไชยา-เพชรา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/b-yW0ZR1ZCQ?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ น้องนางบ้านนา (2514 ไชยา-อรัญญา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/TCYR_wpUX3Y?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ศึก 5 เสือ (2506 ไชยา-ทักษิณ-แมน-อาคม-อุษา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/FpIk2jbkhnQ?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ หลังกล้อง..เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2508 ไชยา-สมบัติ-ทักษิณ-พิศมัย)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/9bbIKqiDhV0?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ แก้มทอง (2509 ไชยา-รัตนาภรณ์)
 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/9rSwLO0i2yU?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ สันดานดิบ (2508 ไชยา-ภาวนา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/P-SPKPslD4o?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ลูกหญิง (2508 ไชยา-รัตนาภรณ์)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/VysiqrUHJh8?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต นี่แหละรัก นั้นไม่มีเลย ไม่ผ่านตามาให้เห็นบ้างเลย..แต่ ค่าของคน เคยมีฟิล์ม 16 มม.สโคปผ่านตามาแล้ว แต่เพราะพวกเราเงินน้อยเกินไป ก็เลยต้องเลือกซื้อหนังเรื่องอื่นไปก่อน ก็กะว่า มีเงินเมื่อไร จะกลับไปซื้อ ค่าของคน มา แต่พอมีเงิน ฟิล์มนั้นก็ถูกคนอื่นซื้อไปก่อน แล้วก็เปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ สุดท้ายสืบจนรู้ว่า ไปอยู่กับใคร...พอลองติดต่อซื้อ เขาก็บอกราคาเพิ่มขึ้นอีก 4-5 เท่าตัว ตอนนั้นแหละครับ สวรรค์ปิด เลย..แต่ต่อมาเราไปยุคุณโต๊ะ พันธมิตร ให้ไปซื้อออกวีซีดี เวลาผ่านไปอีก 4-5 ปี ฟิล์ม ค่าของคน เสียหายสีซีดจางจนไม่เห็นภาพแล้ว แม้คุณโต๊ะอยากจะซื้อ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คนเก็บเขาก็เลยทิ้งฟิล์มไปแล้ว ไม่เหลือซากครับ.. เหตุการณ์ทำนองกำลังเกิดขึ้นกับหนังไทยเก่าๆ อีกหลายๆ เรื่องคือ มีคนซื้อฟิล์มไปเก็บไว้และไม่ยอมให้เช่าหรือให้ใครยืมฟิล์มมาทำเทปวีดีโอเก็บสำรองไว้ก่อน..สุดท้าย เขาก็จะต้องทิ้งฟิล์มไปอีกเพราะฟิล์มก็มีอายุครับ ถึงเวลาฟิลฺ์มก็ต้องตายทุกเรื่อง แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่า เขาบอกว่า เรารักหนัง เขารักฟิล์ม เขาถึงซื้อไปเก็บ แต่ทำไม เขาถึงยอมให้ภาพหนังที่อยู่ในฟิล์มเหล่านั้นตายไปด้วยครับ..ตายโดยไม่เหลืออะไรเลย ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าเป็นคนตายไป อย่างน้อยๆ เราก็ยังมีภาพนิ่งของคนนั้นหรือมีวีดีโอที่เคยบันทึกภาพคนๆ นั้นไว้ ใ่ช่ไหมครับ..แล้วหนังล่ะครับ ทำไม เขาถึงไม่ยอม จะให้ตายโดยปราศจากหลักฐานหรือร่องรอยเลยหรือครับ.

[มนัส กิ่งจันทร์]

ตอนนี้ อาจจะเรียกได้ว่า ไชยา สุริยัน เป็นพระเิอกที่ถูกลืมก็ได้ครับ ซึ่งถ้าดาราฝีมือระดับนี้ถูกลืมจริงๆ ประสาอะไรกับดาราท่านอื่นๆ ที่พอเสียชีวิตแล้ว จะไม่ถูกลืม..คนหนังอย่างพวกเราเท่านั้นแหละครับที่จะช่วยกัน ไม่ให้ประวัติศาสตร์เหล่านี้สูญหายไป.. ขอบคุณคุณฉัตรชัยที่นำเรื่องราวเหล่านี้มาบันทึกไว้ ณ เว็บไซด์แห่งนี้...