บทที่ 484 เสนอฉาย หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขวัญหล้า (2512 มิตร-เพชรา)

[นายเค]

บทที่ 484
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ขวัญหล้า (2512 มิตร-เพชรา)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 12 กุมภาพันธ์ 2557)

            สวัสดีครับทุกท่าน เมื่อวันก่อน คุณ Regis Madec ฝรั่งที่รักและชอบหนังไทยเก่าๆ เขียนมาถามว่า เห็นผมโพสหนังเรื่อง ขวัญหล้า ไว้ในยูทูปแล้ว แต่ไม่เห็นเขียนบทความถึงหนังเรื่องนี้เลย.. ผมเองก็นึกว่า เขียนไปแล้ว ปรากฏว่า พอตรวจดูอีกที พบว่า ยังไม่ได้เขียนจริงๆ ก็ต้องขอบคุณ คุณ Regis Madec ที่ช่วยเป็นหูเป็นตา.. วันนี้ ก็เลยเขียนย้อนหลังเพิ่มเติมนะครับ

            โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขอเสนอฉายหนังไทย 16 มม.พากย์สด ๆ จากกรุฟิล์มของ อ.จรัส จันทร์พรหมรัตน์ ซึ่งครั้งนั้น ผมและคุณนุฯ ประเดิม สง่าแสง เดินทางล่องใต้ไปเยี่ยม ไปหาไปรับกากฟิล์มมาเมื่อวันที่ 20-21 กรกฏาคม 2556.. รายละเอียดต่าง ๆ ตามลิงค์ที่โพสต์ไว้แล้ว ดังนี้

บทที่ 355 รวมภาพ ล่องใต้ไปหาหนัง 20-21 ก.ค.56 จำนวน 17 รูป
https://www.facebook.com/media/set/?set=oa.176045455908853&type=1
บทที่ 356 เยี่ยมบ้าน จรัส จันทร์พรหมรัตน์ นักสะสมเอกสารเก่าเมืองสงขลา 21 ก.ค.56
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=298867776924533&set=o.156185157894883&type=3&theater
บทที่ 357 อานนท์เธียเตอร์ ภาพหนังเก่า เล่าอดีต 21 ก.ค.56
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=299313760213268&set=o.156185157894883&type=3&theater
อานนท์เธียเตอร์ ภาพหนังเก่า เล่าอดีต 21 ก.ค.56

เยี่ยมบ้าน จรัส จันทร์พรหมรัตน์ นักสะสมเอกสารเก่าเมืองสงขลา 21 ก.ค.56


            หนังจากกากฟิล์มของ อ.จรัส จันทร์พรหมรัตน์ นั้น ผมโพสฉายไปหมดแล้วและวันนี้ ก็จะเป็นหนังเรื่อง ขวัญหล้า.. เป็นบทประพันธ์ของ บุษยมาส นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์ และในปิดหนังมีการเขียนแนะนำพระเอกใหม่คือ ฉัตร มงคลชัย.. ตอนนั้น ฉัตรเป็นเด็กปั้นของ วิจารณ์ ภักดีวิจิตร ร่วมด้วยดาราอีกคับคั่งเช่น อดุลย์ ดุลยรัตน์-อบ บุญติด-มารศรี อิศรางกูรฯ-อรสา อิศรางกูรฯ-วาสนา ชลากร-ขอใจ ฤทัยประชา-กัณฑิมา ดาราพันธ์-อดินันท์ สิงหิรัญ...ผู้สร้างก็คือ พิษณุภาพยนตร์ โดย เผด็จ ภักดีวิจิตร (น่าจะเป็นลูกชาย) มีชื่อเป็นผู้อำนวยการสร้าง และกำกับการแสดงโดย วิจารณ์ ภักดีวิจิตร เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2512 ที่โรงหนังเอ็มไพร์ ปากคลองตลาด..

            จะเห็นได้ว่า แค่ชื่อดารานำแสดงก็มีตัวละครอยู่มาก..แต่พออ่านเรื่องย่อจากหนังสือดาราเก่า ๆ แล้ว ก็จะรู้สึกงง ๆ เพราะตัวละครในเรื่องย่อนั้น จะเล่าเรื่องไว้แค่เพียงเบื้องต้น ผมพยายามจับเรื่องย่อให้ไปสัมพันธ์กับภาพประกอบด้านบนแล้ว จึงรู้ว่า เรื่องย่อที่เขาเขียนเล่าไว้ในหนังสือดาราเก่า ๆ นั้น คงจะเขียนไปไม่ถึง 50% แน่ ๆ เห็นทีจะต้องวานให้ท่านที่เคยอ่านจากหนังสือนิยายที่บุษยมาสเขียนไว้ เล่าต่อเติมให้จบด้วยนะครับ..เพราะสมัยก่อนผู้สร้างบางรายก็เปิดเผยเนื้อเรื่องหนังให้ฟังจนจบ แต่บางรายก็เปิดเผยเพียง 70-80% เท่านั้น

            เรื่องย่อ ๆ ของ “ขวัญหล้า” จะกล่าวถึง ครอบครัวหนึ่ง มีเด็กสาวแสนสวยน่ารัก ที่ชื่อ ปานแก้ว นภา (เพชรา) เธอเกิดมาโดยที่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อหน้าแม่เลย เธอถูกเลี้ยงดูจากป้าพวงมาตั้งแต่เด็ก ๆ เธอจึงเรียกป้าพวงว่า แม่ตลอดมา.. แล้ววันหนึ่งป้าพวงก็มาบอกว่า จะส่งเธอให้ไปอยู่รับใช้นายแม่สารภีที่เชียงใหม่ แม้เธอจะพยายามอ้อนวอนเพราะยังอยากอยู่กับป้าพวงมากกว่า แต่ก็ขัดคำสั่งไม่ได้ จึงยอมเดินทางไปเชียงใหม่ แต่แท้จริงแล้ว ป้าพวงแอบขายเธอให้นายแม่สารภีต่างหาก..

            เมื่อปานแก้ว มาอยู่ที่บ้านนายแม่สารภีที่เชียงใหม่ ก็เกิดถูกตาต้องใจนายแม่สารภีเป็นอย่างมาก ถึงขนาดรับเลี้ยงปานแก้วไว้อย่างลูกอย่างหลานคนหนึ่ง.. แล้ววันหนึ่งขณะปานแก้ว เดินลัดเลาะไปตามพุ่มไม้หนาทึบใกล้ๆ บ้าน เธอก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางคล้ายเสียงชายชรา แต่เธอก็มองไม่เห็นว่า หน้าตาคนนั้นเป็นอย่างไร ได้ยินแต่เสียงร้องบอกว่า หิวข้าว หิวน้ำ ขอกินหน่อย เธอจึงเอาน้ำที่ติดตัวมาด้วยให้ชายคนนั้นกิน..ปานแก้วจึงได้ทราบเรื่องว่า ชายคนนั้นถูกจับมาขังไว้ ทรมานให้อดข้าว อดน้ำ เธอจึงรับปากว่า เธอจะแอบเอาข้าวเอาน้ำมาให้ทุกวัน...

            รุ่งขึ้น เธอก็เอาข้าวเอาน้ำไปให้ชายคนนั้นอีก จึงได้เห็นหน้าค่าตากัน ชายชราคนนั้น ก็นึกรักและเอ็นดูปานแก้ว ที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อคนตกทุกข์ได้ยาก ส่วนปานแก้วเองก็ชักจะถูกชะตากับชายคนนั้นและอยากมาพูดคุยด้วยทุกวัน แต่พอปานแก้วกลับมาถึงบ้านนายแม่สารภี ก็ทราบเรื่องว่า ป้าพวงจะมารับปานแก้วกลับไป บอกว่า จะให้ปานแก้วไปอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งความจริงแล้ว ป้าพวงได้ขายปานแก้วให้กับซ่องโสเภณีไปเป็นเงิน 6,000 บาท แม้ว่า นายแม่สารภีจะให้ยอมจ่ายเงินให้สูงกว่าหลายเท่า แต่ป้าพวงก็ไม่ยอมปล่อยตัวปานแก้วให้นายแม่สารภี โดยมีสาเหตุเนื่องจากป้าพวงมีความแค้นแต่เดิมกับพ่อของปานแก้วเพราะป้าพวงเคยอุปถัมภ์เลี้ยงดูพ่อแท้ๆ ของปานแก้วและป้าพวงก็แอบรักพ่อของปานแก้ว แต่พ่อของปานแก้วกลับไม่รัก กลับไปรักแม่ของปานแก้ว จนเมื่อปานแก้วคลอดออกมา ความแค้นทุกอย่างจึงมาตกที่ตัวปานแก้ว เพราะป้าพวงต้องการให้ชีวิตปานแก้วเหลวแหลกและลำบากสุดๆ นั่นเอง..

            ก่อนที่ปานแก้วจะเดินทางไปกรุงเทพฯ ได้เข้าไปบอกลาชายคนนั้นว่า จะต้องไปอยู่กรุงเทพฯ (โดยไม่รู้ว่า เป็นซ่องนางโลม) ชายคนนั้นจึงบอกให้ปานแก้วไปขุดหาโอ่งที่ฝังไว้ใต้ต้นหูกวางใกล้ๆ ซึ่งในโอ่งจะมีกำไลเก่าแก่อันหนึ่ง ให้ปานแก้วใส่กำไลนั่นไว้ตลอดเวลา และถ้ามีใครเห็นกำไลอันนี้แล้วเรียก ปานแก้ว ว่าเป็น “ขวัญหล้า” ก็ให้ดูว่าชายหรือหญิงคนนั้น มีตำหนิไฝแดงที่ท้ายทอยหรือไม่ ถ้ามี ก็ให้ปานแก้วรีบพาคนนั้นมาช่วยเหลือเขาที่นี่

            ปานแก้ว เข้ากรุงเทพฯ มาอยู่ที่บ้านคุณนายบานเย็น ซึ่งเป็นเจ้าของซ่องนางโลม ปานแก้วได้รู้จักกับบัวเรียว (อรสา) ที่เพิ่งรู้ตัวว่า ถูกหลอกมาขายซ่องเช่นกัน..ปานแก้วและบัวเรียวจึงพยายามจะหลบหนี แต่ยังไม่สบโอกาส..แล้ววันหนึ่งขณะที่คุณนายบานเย็นพาปานแก้ว บัวเรียวไปดูหนังเพื่อเตรียมให้รับแขก ก็เผอิญเจอกับชาย 2 คนในร้านอาหารที่เฝ้ามองปานแก้วอย่างสนอกสนใจ คนหนึ่งชื่อ สูรย์ อีกคนชื่อ อาโน ปรากฏว่า ชายที่ชื่อสูรย์ เรียก ปานแก้วว่า “ขวัญหล้า” และติดตามปานแก้วมาจนรู้ความจริงว่า อยู่บ้านหลังใหญ่ที่ซ่องของคุณนายบานเย็น..จึงคิดจะหาทางพาปานแก้วหลบหนีจากซ่อง ในขณะที่ทรงวิทย์ (ไม่รู้ว่าเป็นใคร) ลูกชายคนเดียวของคุณนายบานเย็นที่หลงรักปานแก้ว ก็เห็นใจที่ถูกแม่บังคับซื้อตัวมา ก็เลยคิดจะพาปานแก้วหลบหนีจากซ่องด้วยเช่นกัน.....

            เรื่องย่อหนังที่ได้มาก็จบซะดื้อ ๆ แค่นี้เองครับ..แต่พวกเราโชคดีที่ได้กากฟิล์มเรื่องนี้มาจาก อ.จรัส แม้จะยาวเพียง 6 นาที แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี หนังไม่มีเสียงพากย์ ผมก็เลยใส่เพลงและบรรยายประกอบไป.. บัดนี้ ถึงเวลาที่เราจะได้ดู ขวัญหล้า แหละนี่ก็คือ หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขวัญหล้า (2512 มิตร-เพชรา)

คลิีกที่นี่...

หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขวัญหล้า (2512 มิตร-เพชรา)

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/mpKRTap-ZV4?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
.......