ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 524 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย ปิดตำนาน สาวเครือฟ้า ของขวัญจิตรภาพยนตร์  (อ่าน 632 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 524
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
ปิดตำนาน สาวเครือฟ้า ของขวัญจิตรภาพยนตร์ มหาสารคาม
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 15 พฤษภาคม 2557)...


ปิดตำนาน สาวเครือฟ้า ของขวัญจิตรภาพยนตร์ บรบือ สารคาม.


          เชื่อว่า.. ทุกท่านคงจะเคยได้ยินได้ฟังนิยายโศกนาฏกรรมรักเรื่อง สาวเครือฟ้า.. สาวเหนือที่ปลิดชีวิตตัวเองเมื่อถูกชายคนที่รัก ทอดทิ้งนะครับ.. สาวเครือฟ้า เป็นหนังเรื่องที่ 2 ของ วิไลวรรณ วัฒนพานิช ออกฉายเมื่อปี 2496 ที่โรงหนังโอเดียน ได้รับความนิยมอย่างมาก..ต่อมาจึงมีการสร้างเรื่องคล้ายๆ กันอีกในปี 2498 เรื่อง ลูกเครือฟ้า นำแสดงโดย ชนะ ศรีอุบล.. และก็ยังมีการนำ สาวเครือฟ้า กลับมาฉายอีกครั้งในปี 2500 ขณะที่ปี 2503 ก็มีหนังผีเรื่อง ปีศาจเครือฟ้า นำแสดงโดย วิไลวรรณ วัฒนพานิช-ชลิต สุเสวี ออกมาฉายอีก

          ความโด่งดังของ สาวเครือฟ้า ทำให้ครูมารุต นำมาสร้างใหม่อีกโดยพระเอกคือ มิตร ชัยบัญชา ส่วนผู้ที่รับบทสาวเครือฟ้าก็คือ พิศมัย วิไลศักดิ์ ออกฉายเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2508 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง นอกจากนี้ยังมี สาวเครือฟ้า ที่สุพรรษา เนื่องภิรมย์ แสดงมาปิดท้ายอีกในปี 2523

          เรื่องราวเรื่องเล่าของ สาวเครือฟ้า ถูกพูดถึงกระทั่งผู้คนนึกอยากจะเห็นสาวเครือฟ้าอีก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นวิไลวรรณหรือพิศมัย วิไลศักดิ์ แสดงก็ได้ ขอให้แต่มีเถอะ


          สมัยที่ผมกับเพื่อนๆ ออกตามหากากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ นั้น ก็มีผู้คนถามหาหนังเรื่องนี้กันมาก ว่าจะยังคงมีอยู่หรือจะหากากฟิล์มได้หรือไม่ แต่พวกเราก็ไม่เคยเจอข่าวคราวเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีเพื่อนสมาชิกใน facebook คือ คุณเจน อักษราพิจารณ์ ส่งข่าวมาบอกว่า เคยได้ยินว่าที่อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น มีฟิล์มหนังเรื่องนี้อยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็น สาวเครือฟ้า รุ่นไหน.. ผมก็เลยติดต่อขอให้คุณ Surapol Wiangwong (สุรพล เวียงวงษ์) ช่วยหาข่าวและประสานงานให้

          จากการประสานงานของคุณเจนและคุณสุรพลดังกล่าวได้ข้อเท็จจริงว่า มีฟิล์มหนังเรื่อง สาวเครือฟ้า อยู่จริง โดยผู้ที่เคยฉายหนังเรื่องนี้ชื่อ ลุงขาลจิตร จำนงศรี แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า เมื่อเลิกกิจการฉายหนังแล้ว ฟิล์มหนังเรื่องนี้ถูกเก็บไว้ ณ ที่ใด ระหว่างบ้านเมืองเฟีย อำเภอบ้านไผ่ (ชนบท) จังหวัดขอนแก่นหรือที่บ้านบ่อใหญ่ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม.. ไม่มีใครยืนยันข้อมูลนี้ แต่จากการสอบถาม คุณพันธ์กิต เวียงวงษ์ น้องชายของ คุณสุรพล เวียงวงษ์ ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้ๆ บ้านญาติภริยาลุงขาลจิตรแล้วได้ความว่า ที่บ้านญาติๆ ของลุงขาลจิตรที่บ้านเมืองเพียนั้น ไม่น่าจะมีอะไรที่เกี่ยวกับการฉายหนังเหลืออยู่แล้ว

          ต่อมาคุณเจนได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านบ่อใหญ่ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคามก่อนเรา เพื่อจะสืบดูว่า จะยังมีฟิล์ม สาวเครือฟ้า อยู่หรือไม่ จึงทราบว่า ณ บ้านบ่อใหญ่นั้น ลุงขาลจิตรและภริยาคือ นางบุญเรือง จำนงศรี ได้มาปักหลักอยู่ที่นี่นานแล้วและมีอาจารย์ท่านหนึ่งคือ คุณชัยณรงค์ เคยช่วยลุงขาลจิตรฉายหนังด้วย จึงแจ้งให้พวกเราทราบเพื่อจะดำเนินการต่อไป


สิ่งที่พวกเราคิดตอนนั้น ก็คือ ถ้าไม่มีฟิล์มหนังแล้ว พวกเราจะเดินทางไปหรือไม่..

พวกเรา 3 คนคือ ผม คุณนุ ประเดิม สง่าแสง คุณจุ๊บ Jub Classic Movie ก็ตัดสินใจที่จะเดินทางไปครับ

          การเดินทางครั้งนี้ พวกเราเช่ารถตู้เจ้าเก่าที่เคยพาเราไปวัดบ้านดง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยจะเดินทางไปอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม แล้วก็ไปหาคุณโอ เทพมงคล ที่ขอนแก่น แล้วรุ่งขึ้นก็จะเดินทางไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด..รวมเวลา 2 วัน 1 คืน

          7 โมงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2557 พวกเราก็เดินทางออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่บ้านบ่อใหญ่ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ระยะทางประมาณ 450 ก.ม.ใช้เส้นทางหลักคือ ถนนมิตรภาพ หมายเลข 2 เลี้ยวขวาเข้าถนนแจ้งสนิท หมายเลข 23 แถวๆ อำเภอบ้านไผ่ แล้วก็วิ่งตรงไปยัง อำเภอบรบือ แต่ไม่ต้องเข้าอำเภอ ให้มุ่งหน้าไปทางร้อยเอ็ดห่างจากแยกเข้าบรบือประมาณ 10 ก.ม. เป้าหมาย บ้านบ่อใหญ่

          พอเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านบ่อใหญ่ไปสักพัก พวกเราก็จอดถามหาบ้านป้าเรือง-ลุงขาลจิตร.. ได้ผลครับ ชาวบ้านแถวนั้นรู้จักกันดี ชี้ทางให้เสร็จสรรพ.. พอจอดรถหน้าบ้านปุ๊บ ก็เห็นว่าเป็นไปตามที่คุณเจนบอกไว้ก่อนแล้วคือ บ้านที่มีประตูเหล็กเลื่อนได้ อยู่ตรงข้ามสระน้ำ หน้าบ้านมีโต๊ะหินอ่อนอยู่

          พวกเราได้พบกับป้าเรืองกำลังนั่งเขียนจ่าหน้าซองกำหนดการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่คุณพ่อขาลจิตร จำนงศรีและญาติๆ จากนั้นเรื่องราวของลุงขาลจิตร ก็ถูกถ่ายทอดให้พวกเราฟัง..


          ลุงขาลจิตร จำนงศรี เปิดบริการฉายหนัง 16 มม.ชื่อบริการขวัญจิตรภาพยนตร์ เมื่อประมาณปี 2511 โดยเช่าบ้านเป็นสำนักงานอยู่ใกล้ๆ สถานีตำรวจบรบือ ไม่ใช่บ้านหลังที่อยู่นี้..

          ป้าเรืองเล่าให้ฟังว่า ป้าเรืองเป็นคนเมืองเพีย อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น แต่ลุงขาลจิตร เป็นคนบรบือ เมื่อแต่งงานกันประมาณปี 2510 แล้วก็ได้ทุนมาก้อนหนึ่งจากพ่อแม่ ก็เลยมาซื้อรถบิ๊กอัพ ซื้อเครื่องฉายหนัง 16 มม. 2 เครื่องและซื้อหนังเรื่อง สาวเครือฟ้า รุ่นมิตร ชัยบัญชาและอีกเรื่องจำไม่ได้ มาเร่ฉายโดยจุดหลักๆ จะอยู่ที่บรบือ มหาสารคาม เวลาฉายหนังก็จะไปจ้างนักพากย์ที่ตัวเมืองสารคาม มาเป็นคนพากย์ ทำอาชีพฉายหนังเร่อยู่ประมาณ 3 ปีเศษๆ เห็นว่า แข่งขันกันสูง ก็เลยหันเหไปประกอบอาชีพอื่นแทน โดยได้ขายเครื่องฉายหนัง ฟิล์มหนังและอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับเพื่อนที่ชื่อ ลุงลำไย คนอำเภอวาปีปทุม ไปหมดแล้ว (ลุงลำไยเสียชีวิตแล้ว)

          นอกจากเรื่องเล่าแล้ว สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการฉายหนังที่เหลือๆ อยู่ ก็มีเพียงป้ายชื่อบริการหนังกับลังไม้ใหญ่ๆ 2 ลังซึ่งลังดังกล่าวนี้ เวลาลุงขาลจิตรไปฉายหนัง ก็จะเอาเครื่องฉายหนังและฟิล์มหนังใส่ลังใบขึ้นรถบิ๊กอัพไป..

คุณเจน อักษราพิจารณ์ เขียนถึงการตามหา สาวเครือฟ้า ไว้ดังนี้ครับ…
ตามหา “สาวเครือฟ้า” ที่สารคาม

          เกี่ยวกับฟิล์มหนังเรื่องสาวเครือฟ้า นั้นผมได้ทราบข่าวจากเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกัน ราวปี 2540 ว่าตอนนั้นมีอดีตเจ้าของหนังเร่ท่านหนึ่งชื่อลุงขาลจิตร จำนงศรี เป็นคนบ้านบ่อใหญ่ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม มีฟิล์มหนังเรื่อง สาวเครือฟ้า อยู่ชุดหนึ่ง ตอนนั้นผมไม่มีเวลาติดตามเพราะอยู่ในช่วงการขอย้ายกลับมาทำงานที่บ้านเกิด

          จนเมื่อประสานไปอีกครั้งหลายปีต่อมา ลุงขาลจิตร บอกว่าฟิล์มไปอยู่ที่บ้านเมืองเพีย อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยาของท่าน จนเมือท่านเสียชีวิตได้ประสานไปยังภรรยาของท่านอีกครั้งว่าฟิล์มอยู่ที่บ้านเมืองเพีย จึงได้เกิดย้อนรอยสาวเครือฟ้าที่มหาสารคาม

          ผมเองได้ติดตามข้อเขียนของ คุณมนัส กิ่งจันทร์ทางเว็บไซต์ไทยฟิล์มมาจนถึงเฟสบุ๊คในปัจจุบัน จนได้มีการตามหาสาวเครือฟ้า เพื่อความกระจ่างในหัวใจ จึงขอบคุณคุณมนัส และคณะมา ณ โอกาสนี้ ถึงแม้ว่าฟิล์มหนังเรื่องดังกล่าวยังค้นหาไม่พบ
ก่อนหน้านั้นผมได้ลงพื้นที่เบื้องต้นที่บ้านบ่อใหญ่ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 โดยการประสานงานของครูสุวัฒนะ ศิริพรรณ ครูรุ่นพี่ที่เป็นคนในพื้นถิ่น เพื่อสืบค้นเบื้องต้น


          ได้ความว่าเจ้าของฟิล์มหนังเรื่องสาวเครือฟ้า ชื่อว่า ลุงขาลจิตร จำนงศรี เจ้าของบริการหนังเร่ “ขวัญจิตภาพยนตร์” ตั้งสำนักงานอยู่ที่อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เริ่มต้นกิจการหนังเร่เมื่อปี 2511

          ลุงขาลจิตร จำนงศรี เป็นชาวบ้านบ่อใหญ่ อดีตเคยทำงานเป็นตัวแทนขายประกันของไทยสมุทรประกันภัย ไปทำงานอยู่ที่อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น จนได้พบกับคุณป้าบุญเรียง ณูเร ชาวบ้านเมืองเพีย และแต่งงานในเวลาต่อมา
คุณป้าบุญเรียง ณูเรเป็นลูกสาวของนายฮ้อยจารย์ชู ณูเร ได้บรรดาศักดิ์เป็น “ขุนเมืองเพีย” เป็นนายฮ้อยต้อนวัวต้อนควายมาขายที่จังหวัดขอนแก่น จนมีครอบครัวที่บ้านเมืองเพีย โดยไม่ได้กลับไปบ้านเกิดหลายปี จนญาติพี่น้องนึกว่าสูญหายไปแล้ว จนลูกโตจึงได้พากลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง เหตุที่ใช้นาสกุลว่า ณูเร เพราะว่ามาจากเรณู บ้านเกิด



          ลุงขาลจิตร จำนงศรี เริ่มกิจการหนังเร่ชื่อ “ขวัญจิตภาพยนตร์” ตั้งสำนักงานอยู่ที่อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ในขณะที่ลูกสาวคนโตมีอายุได้ 6 เดือน ปัจจุบันอายุได้ 46 ปี ทั้งสองมีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 2 คน โดยลูกชายคนกลางจบจากวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ปัจจุบันอยู่กับลูกชายคนเล็ก ชื่อ “ขวัญเล็ก” ที่บ้านบ่อใหญ่

          การลงทุนในการก่อตั้งครั้งแรกพ่อตาให้เงินลงทุนถึง 2 แสนบาท มาซื้อเครื่องฉาย อุปกรณ์ รถกระบะเร่ฉายแบบล้อมผ้าตามหมู่บ้านต่าง ๆ ด้วยตนเอง ส่วนนักพากย์จะจ้างต่างหาก ฟิล์มหนังนั้นซื้อมาเป็นของตนเองโดยซื้อต่อจากบริการกรุงเทพภาพยนตร์ จังหวัดมหาสารคาม

          หลังยุติกิจการหน่วยหนังเร่ ลุงขาลจิตร จำนงศรี ได้ขายเครื่องฉายภาพยนตร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับหน่วยฉายหนังเร่ของนายฮ้อยลำใย ที่อำเภอเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม จากนั้นจึงได้มาทำกิจการโรงสีข้าว และเลี้ยงหมูที่บ้านบ่อใหญ่ จนเสียชีวิตราวเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านในเร็ว ๆ นี้

          หน่วยหนังเร่ของนายฮ้อยลำไย ที่อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ผมได้ให้น้องที่เคยทำงานด้วยกันประสานให้ได้ความว่านายฮ้อยลำใยได้เสียชีวิตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ลูก ๆ ต่างแยกย้ายกันมีครอบครัวไปแล้ว ลูกสาวคนเล็กอยู่ที่บ้านดอนบม อำเภอวาปีปทุม อายุ 51 ปี ได้แจ้งว่าเครื่องฉายและอุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดทั้งฟิล์มหนังนั้นได้ขายให้หน่วยบริการหนังเร่หน่วยอื่นไปแล้ว


          นอกจากเรื่องเล่าแล้ว สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการฉายหนังที่เหลือๆ อยู่ ก็มีเพียงป้ายชื่อบริการหนังกับลังไม้ใหญ่ๆ 2 ลังซึ่งลังดังกล่าวนี้ เวลาลุงขาลจิตรไปฉายหนัง ก็จะเอาเครื่องฉายหนังและฟิล์มหนังใส่ลังใบขึ้นรถบิ๊กอัพไป.. เอาล่ะครับ คลิกดูเทปต่อได้เลยครับ...



คลิกดูเทปต่อได้เลยครับ..
ปิดตำนาน สาวเครือฟ้า ของขวัญจิตรภาพยนตร์ บรบือ สารคาม



<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/O7J0zkf-NMc?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
...........

           สรุปว่า ฟิล์มหนังเรื่อง สาวเครือฟ้า นั้น ไม่มีแล้วครับ ลุงขาลจิตรได้ขายไปให้ลุงลำไยตั้งแต่เลิกกิจการแล้วครับ คาดว่าจะอยู่ในช่วงปี 2513-2514 ครับ พอคุณเจนฯ ติดต่อญาติลุงลำไย ก็ได้ความลุงลำใยก็เลิกกิจการและขายต่อไปเรื่อยๆ จนไม่มีแหล่งข่าวเลยครับเพราะลุงลำไยเสียชีวิตไปก่อนให้ข้อมูลเช่นกันครับ


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นักพากย์ภูธรย้อนยุค

  • ThaiCineStaff
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • **
  • กระทู้: 1887
  • พลังใจที่มี 159
  • เพศ: ชาย
  • นักพากย์ย้อนยุค
    • Manoon Movie
     ขอบคุณ....ครับ......ถ่ายภาพ..ชัดเจน....ยกนิ้วให้....ท่าน ประเดิม....ส่วน ท่านจุ๊บ  ชำนาญเปิดลัง..เลยนะ
มนูญ  สุภาพ 
364 หมู่ 13  ต. สวนกล้วย  ถนนหลังวัดดอนตูม
อ. บ้านโป่ง จ. ราชบุรี  70110  โทร  089 - 7648423 อีเมล์ manoonmovie99[at]hotmail.com

:+: Manoon Movie | รักหนังย้อนยุค :+:
http://manoonmovie.com