ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 529 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ อีเสือ (2520 กรุง-วาสนา-รุ้งลาวัลย์)  (อ่าน 683 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 529
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
อีเสือ (2520 กรุง-วาสนา-รุ้งลาวัลย์)
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 30 พฤษภาคม 2557)


หนังไทยคงเหลือ อีเสือ 2520 กรุง วาสนา รุ้งลาวัลย์ รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


            สวัสดีครับทุกท่าน.. วันนี้ โครงการภาพยนตร์คงเหลือ ขอเสนอฉายหนังจากกรุฟิล์มโรงหนังเฉลิมเอก จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพวกเรายืมฟิล์มมาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 รายละเอียดต่างๆ นั้น ผมเขียนไว้แล้วในบทที่ 525 เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย

คลิกดู..
บทที่ 525 เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=445509032260406&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1

            วันนั้น ทำให้พวกเราได้รู้จักอาจารย์ประนอม แซ่เซีย ลูกสาวนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย เจ้าของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ซึ่งเปิดกิจการโรงหนังยุค 16 มม.มาตั้งแต่ปี 2508 และหลังจากเลิกกิจการแล้ว นายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย ก็ยังคงเก็บฟิล์มหนัง 16 มม.และ 35 มม.ไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งผมลงเทปสัมภาษณ์อาจารย์ประนอมไว้แล้ว

คลิกดูจาก
เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซียและประนอม แซ่เซีย



            หนังทั้ง 19 เรื่องที่พวกเรายืมฟิล์มมานั้น พวกเราฉายเสร็จแล้ว.. คิววันนี้ ก็จะเป็นหนังที่หาดูได้ยากอีกเรื่องหนึ่ง.. เป็นหนังบู๊ที่หลายคนจดจำใบปิดโฆษณาได้ดี.. ภาพจะเห็นคุณวาสนา ชลากร เปลือยอกขี่ม้า มือหนึ่งถือปืนยาว..พร้อมกับมีชื่อบอกว่า อีเสือ.. อีเสือ ก็เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ฟิล์มถูกเก็บไว้ในกระเป๋าที่ทำด้วยแผ่นไม้ จึงทำให้ฟิล์มทั้ง 6 ม้วน ไม่กรอบ ไม่แห้งจนเกินไป แต่ก็มีเส้นฝนพอสมควร สีก็เหลือแต่สีแดงจางๆ ซึ่งก็เป็นไปตามอายุของฟิล์มหนังทั่วไปที่ผ่านการฉายมาอย่างหนักนั่นเอง..

            อีเสือ นำแสดงโดย กรุง ศรีวิไล-วาสนา ชลากร-รุ้งลาวัลย์ ศรีปฏิมากูร-นิรุตติ์ ศิริจรรยา-ศศิมา สิงห์ศิริ-กฤษณะ อำนวยพร-วิภาวดี ตรียะกุล-ศิริพงษ์-ไสล-สังข์ทอง-วิชัย-แพน.. สร้างโดย วีระศักดิ์ภาพยนตร์ โดย วีระศักดิ์ ฉายายน เป็นผู้อำนวยการสร้าง.. กำกับการแสดงโดย วินิจ ภักดีวิจิตร.. เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2520 ที่โรงหนังเพชรพิมาน 75-ออสการ์..


อีเสือ ก็เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ฟิล์มถูกเก็บไว้ในกระเป๋าที่ทำด้วยแผ่นไม้

            ถามว่า อีเสือ เป็นหนังดังหรือไม่.. ก็ต้องย้อนกลับไปถึงปี 2520 ที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายครั้งแรก ยุคนั้นหนังบู๊กำลังได้รับความนิยม แม้หนังจะกำกับโดย วินิจ ภักดีวิจิตร แต่ก็ไม่ใช่หนังในเครือบางกอกการภาพยนตร์โดยตรง หากแต่ผู้อุปการะหรือคนให้ทุนจะเป็น เสี่ยเจียง แห่งมงคลฟิล์ม ซึ่งขณะนั้นเพิ่งเริ่มลงมือสร้างหนังออกฉายเอง เข้าใจว่าผู้สร้างคือ วีระศักดิ์ ฉายายน จะให้เสี่ยเจียงช่วยเรื่องการหาโรงฉายให้ด้วย.. ดูแนวเรื่องก็ยังพอไหวที่จะเข้ายุคสมัยกับหนังบู๊ แถมยังได้พระเอก 2 คนคือ กรุง ศรีวิไล-นิรุตติ์ ศิริจรรยา ซึ่งขณะนั้นกำลังดังมาร่วมแสดง แต่ก็นั่นแหละเพราะพล็อตเรื่องต้องการเล่าถึงการแก้แค้นของลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่หลังจากพ่อแม่ถูกฆ่าตาย แล้วก็ถูกโจรนำไปเลี้ยงดู บ่มฝังร้อยแค้นไว้กว่า 20 ปี..

            จึงทำให้บทเด่นๆ ทั้งหมดจะต้องตกมาอยู่ที่ผู้หญิงคนนี้ แล้วใครล่ะครับที่จะรับบทหนักเช่นนี้ได้ ลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าฉากสุดท้ายของเรื่องจะต้องให้ผู้หญิงคนนี้เปลือยอกขี่ม้าด้วย จะหานางเอกดังๆ ในปี 2520 ได้จากไหน ใครจะกล้าเล่นบทนี้.. นั่นเอง บทจึงตกไปอยู่กับดารารุ่นเก่าอย่าง วาสนา ชลากร ทั้งๆ ที่ปีนั้นชื่อของวาสนา ก็อยู่ในกลุ่มดาราสมทบแล้ว.. คิดว่าผู้สร้าง-ผู้กำกับก็คงเข้าใจ สังเกตได้จากในใบปิดโฆษณาหรือในไตเติ้ลหนังที่ใส่ชื่อ รุ้งลาวัลย์ ศรีปฏิมากูร ต่อจากชื่อ กรุง ศรีวิไล.. ในเรื่องก็ให้ทั้งคู่เป็นคู่รักกัน.. อย่างไรก็ตามเพราะในอดีตชื่อของ วาสนา ชลากร กับบทบาทดาวยั่วเซ็กซี่เป็นที่คุ้นเคย ชื่อนี้จึงยังคงขายได้อยู่ ยิ่งใบปิดหนังสื่อออกไปทำนองนั้น ก็ทำให้คนดูคาดหวังเช่นนั้นด้วย ซึ่งนับเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของหนังเหมือนกัน

            อย่างที่บอกไว้ว่า หนังได้มาครบเรื่อง ก็มีส่วนสะดุด ส่วนขาดไปบ้าง แต่ก็ยังพอดูเข้าใจได้นะครับ.. ต่อจากนี้ไปคือ ส่วนหนึ่งของหนังจากกรุฟิล์มโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ซึ่งเราจะได้ดูพร้อมๆ กัน... ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..

คลิ๊กดู..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ อีเสือ (2520 กรุง-วาสนา-รุ้งลาวัลย์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม



<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/kN1pkew3pSI?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
............





















          นอกจากบทความในหัวข้อ "ชุมทางหนังไทยในอดีต" จะโพส ณ ที่นี่แล้ว ยังมีเพื่อนๆ ในอีกเว็บหนึ่ง นำไปโพสต่อด้วยนะครับ เขาจัดรูปร่างหน้าตา ตัวหนังสือได้สวย น่าอ่านน่าติดตามครับ

ลองคลิกดู ตามลิงค์นี้
http://www.thaicine.org/board/index.php?topic=7255.0#new

          วาสนา ชลากร นั้น เกิดจากบทดาวยั่ว ก็เลยไม่ค่อยมีใครกล้าฉีกบทให้เล่นอย่างอื่นๆ แต่ว่าพออายุมากขึ้น ก็มีหนังไทยรุ่นใหม่ๆ ให้วาสนาเล่นบทอื่นๆ ก็เลยมีโอกาสเห็นความสามารถมากขึ้น..ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..

ลองคลิกดู ตามลิงค์นี้
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ อีเสือ (2520 กรุง-วาสนา-รุ้งลาวัลย์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


          หนังเรื่อง 1 ต่อ 7 กับ วีระบุรุษกองขยะ ผมและเพื่อนๆ ก็พยายามตามหาอยู่นะครับ แต่ยังไม่เจอกากฟิล์มเลย ไม่รู้ว่า ชาตินี้จะได้เจอหรือเปล่า ส่วนเรื่องการตามหาหนังมันเหมือนบุญทำกรรมแต่งนะครับ บางครั้งเรื่องที่อยากเจอ กลับไม่เจอ เรื่องที่ไม่อยากเจอ กลับเจอ.. เหมือนหนังเขาจะแกล้งลองใจเรานะครับ..เพราะบางครั้ง หากเราปฏิเสธหนังไทยเรื่องไหนไป ก็อาจทำให้หนังไทยเรื่องอื่นๆ ไม่ตามมาหาเราด้วย.. อย่างเช่น พวกเราเองก็ไม่มีใครคาดคิดนะครับว่า จะเจอกากฟิล์มหนังอย่าง เสาร์ 5.. หนังดังปี 2519 ทั้งๆ ที่เรามีแผ่นดีวีดีดูแล้ว แต่พอเราดั้นด้นไปเอากากฟิล์มมาฉาย.. ก็เหมือนสวรรค์ช่วย จากนั้นอีกไม่นาน พวกเราก็ได้หนังดังๆ มาหลายเรื่องอย่างเช่น เจ้าพ่อ 7 คุก แม้จะได้มาจากคนละแหล่งกัน แต่มันก็ทำให้รู้สึกเหมือนว่า ถ้ารักหนังไทย อนุรักษ์หนังไทย ก็จงอย่าเลือกเพราะถ้าเลือก เราก็อาจไม่ได้หนังเรื่องที่เราอยากได้นะครับ..หนังไทยแต่ละเรื่องล้วนมีคุณค่าในตัว เพียงแต่ว่าพวกเราจะมองเห็นมันหรือไม่..

          ครับ แม้จะได้รับบทเด่นเช่นนางเอก.. แต่ถ้าดูในปิดหนังหรือไตเติ้ล จะเห็นว่า คนสร้างเขาก็ยังไม่กล้าที่จะขึ้นชื่อ วาสนา ชลากร ต่อจากพระเอก กรุง ศรีวิไล..อาจกลัวว่า หน้าหนังต่างจังหวัดจะขายไม่ได้นะครับ..

          หนังเก่าๆ ทุกเรื่องนั้น สีที่คงทนที่สุดก็คือ สีแดง ครับ เพราะเนื้อสีจะประกอบด้วยแม่สี 3 สีคือ RGB แต่ความรู้สึกของเราๆ ชอบพูดกันว่า หนังเป็นสีแดงๆ ซึ่งความจริงไม่ใช่เช่นนั้นเพราะสีแดงยังเหลือเท่าๆ เดิม ในขณะที่สีอื่นๆ ค่อยจางไปก่อน.. ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนจะปล่อยเลยตามเลย แต่ปัจจุบันระบบโปรแกรมแก้สีสามารถช่วยปรับแต่งได้ เพียงแต่ว่า ผมยังใช้โปรแกรมปรับแต่งไม่เก่งครับ..แต่คิดว่าในอนาคตจะทำได้ดีกว่านี้เพราะยังเก็บไฟล์ต้นฉบับไว้เหมือนเดิมครับ.. หนังเรื่อง อีเสือ นี้หลายคนถามหา คุณโต๊ะพันธมิตร ก็เคยถามหา เห็นคุณนุบอกว่า เอาไว้คุณโต๊ะว่างจากการกำกับหนังก่อน จะรีบแวะมาดู อีเสือ ครับ..

          เออ ใช่น่ะ สีที่ทนที่สุดก็ สีทนได้ จริงๆ ด้วย น่าพาไปเล่นตลกน่ะ..ส่วนที่พี่อี๊ดพูดไว้ก็ถูกนะครับ..แต่ก็น่าแปลกใจที่แต่ไหนแต่ไร พวกเราตามหา รอแล้วรอเล่า รอหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ไม่ยักกะเจอสักที แต่พอผมนำไปขึ้นบัญชีหนังไทยสูญพันธุ์ปุ๊บ อีกไม่นาน พวกเราก็ตามหากากฟิล์มเจอ เจอหลายเรื่องด้วย เหมือนๆ กับว่า หนังเขาออกมาร้องว่า เขายังไม่สูญพันธุ์ แต่ขอให้พวกเราต้องออกแรงค้นหาอีกหน่อยนะครับ..เพราะถ้าไม่ช่วยกันค้นหา รับรองว่า สูญพันธุ์แน่ๆ ครับ..

          ที่ถามว่า หนังไทยเรื่อง แหย่หนวดเสือ.. ทำไมมี 2 ภาษา.....นั้น ไม่เกี่ยวกับโรงหนังในภาคอีสานหรอกครับ ไม่ใช่ว่าเขาจะให้เลือกดูนะครับ เรื่องนี้ ตามต้นฉบับเดิมหนังค่ายเมทะนีฟิล์มตั้งแต่เรื่อง นักเลงเทวดา แหย่หนวดเสือ ท้ามฤตยู ฯลฯ นั้น ตอนสร้างเขาออกฉายใหม่ๆ ในปีนั้น เขาก็พากย์เสียงไทยในฟิล์มไว้อย่างเดียวนะครับ ก็ฉายไปทั่วประเทศด้วยเสียงพากย์เดียวกันหมด แต่ที่เราเห็นๆ ในแผ่นวีซีดีที่ให้เลือกฟังเสียงภาษาอีสานบ้าง ภาษาใต้หรือภาษาเหนือบ้างนั้น ก็เป็นเพราะว่าบริษัทที่ทำวีซีดีออกจำหน่ายในภายหลังนี้ เขาต้องการเพิ่มจุดขาย เขาก็เลยทำเป็นเสียงภาษาพื้นเมืองให้เลือกฟังนะครับ..เวลาดู หากจะฟังเสียงภาษาใด ก็คลิกเลือกเสียงได้ครับ..


ใบปิด ๑ ต่อ ๗






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 มิถุนายน 2014, 22:57:30 โดย นายเค »


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได