ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 559 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เกิดมาลุย 3 (2533 พันนา-ม.ล.สุรีย์วัล  (อ่าน 534 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 559
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
เกิดมาลุย 3 (2533 พันนา-ม.ล.สุรีย์วัล)
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 23 กรกฎาคม 2557)


หนังไทยคงเหลือ เกิดมาลุย 3 พันนา ม ล สุรีย์วัล รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


          สวัสดีครับทุกท่าน.. เพื่อเป็นการรำลึกถึง พันนา ฤทธิไกร พระเอกนักบู๊ที่เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 วันนี้โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือจึงจะขอฉายหนังพันนา ฤทธิไกร ซึ่งพวกเราได้กากฟิล์มมาจากเพื่อนๆ หลายคนหลายเรื่อง บางเรื่องเราก็ฉายทำภาพไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ปรับแก้สี บางเรื่องเพื่อนก็เพิ่งจะแจ้งมาว่า จะให้พวกเรายืมฟิล์มฉาย.. ความจริงแล้ว ฟิล์มหนังรุ่นพันนานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นฟิล์มทองกันแล้ว แต่เพราะเหตุว่า ตามธรรมเนียมของคนฉายหนังกลางแปลง พอฟิล์มหนังเริ่มจะมีเส้นฝนหรือเริ่มจะออกเป็นสีแดงๆ แล้ว เขาก็จะไม่กล้าฉาย เขากลัวคนไม่ดูบ้าง กลัวเสียชื่อบริการหนังบ้าง..

          แต่เพราะความรักในหนัง รักในฟิล์ม เขาก็ยังเก็บกากฟิล์มสีแดงๆ นั้นไว้เรียกว่า เก็บไว้จนกระทั่งมีเหตุจำเป็นต้องการใช้รีลเหล็กมารองรับฟิล์มหนังตัวใหม่ๆ ที่เข้ามา คราวนี้แหละครับ เขาจึงต้องเริ่มโล๊ะฟิล์มสีแดงๆ ทิ้ง บางแห่งก็โล๊ะฟิล์มทิ้งไปเลย บางแห่งก็ยังนำกากฟิล์มนั้นออกมาขายถูกๆ เรื่องไหนโชคดีก็จะมีพวกเราคนรักการฉายหนังไปหาซื้อมาฉายดูกันอีก.. แต่ถ้าเรื่องไหนโชคร้ายหรือไปไม่ทัน ก็ไม่มีใครซื้อ พอเห็นว่า กากฟิล์มจะล้นบ้าน เขาก็เก็บทิ้งขยะไปหมด ด้วยเหตุเพราะการได้มาซึ่งกากฟิล์มแต่ละเรื่องเป็นอะไรที่ยุ่งยากและไม่อาจจะคาดหวังล่วงหน้าได้ ครั้นมีฟิล์มผ่านมือมา จะน้อยหรือมาก จะยาวหรือสั้น พวกเราก็เลยไม่เกี่ยงที่จะฉายดู..

          สำหรับหนังที่จะฉายวันนี้เป็นหนังที่คุณจุ๊บเพื่อนเราไปหากากฟิล์มมาได้..  สภาพฟิล์มก็ยังดี เนื้อหาก็ยังสมบูรณ์ แต่ขาดช่วงหัวม้วนท้ายม้วนไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ.. นั่นคือเรื่อง เกิดมาลุย 3 อัดเต็มพิกัด นำแสดงโดย พันนา-ม.ล.สุรีย์วัล-สมภพ-นริศรา-บรรลุ-สุรินทร์-น้อย-กิม.. สร้างโดย เพชรพันนาโปรดักชั่น โดย ธวัชชัย ลัดลอย เป็นผู้อำนวยการสร้าง.. กำกับการแสดงโดย ประพนธ์ เพชรอินทร์-โอเล่ย์ เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 3 พฤศจิกายน 2533 ที่โรงหนังรังสิตเธียเตอร์-อมรพันธ์รามา-ราชเทวีรามา..

          เกิดมาลุย 3 ก็ยังคงเป็นหนังบู๊ ดุเดือด เล่นเหมือนจริงตามสไตล์หนังพันนา เรียกว่า ดูเรื่องเดียวก็เห็นนักแสดง สตั้นท์แมนทั้งทีมเลย เรื่องบท เรื่องการตัดต่อและการลงเสียงพากย์ ไม่ต้องห่วงครับเรียกว่า อย่างมันส์.. เสียดายที่ต้นๆ ม้วนหนึ่ง ฉากที่พันนาออกมานั่งพูดเปิดตัวทีมงานนั้น ฟิล์มขาดหายไปแล้ว.. และเมื่อพวกเราฉายเสร็จ เราส่งฟิล์มไปให้คุณโอ เทพมงคล ขอนแก่น เอาไว้ฉายกับรถหนังขายยาตราถ้วยทอง..

ตามลิงค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/photo.php?v=658574094219494&set=o.156185157894883&type=2&theater

          เกิดมาลุย 3 นั้นเมื่อปี 2533 ก็เคยออกเป็นวีดีโอให้เช่าแล้วและภายหลังก็มาออกแผ่นวีซีดีอีก..แต่ว่าภาพยังไม่ค่อยสวยนัก พอเรามีกากฟิล์มก็เลยรีบทำๆ ภาพเก็บไว้ก่อนครับ วันนี้ก็เลยตัดย่อๆ มาให้ชมครับ.. ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..

คลิกชม..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เกิดมาลุย 3 (2533 พันนา-ม.ล.สุรีย์วัล) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม



<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/h9zXO6LrM5s?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
............


 ;) ;) ;) ;) ;)





















Kangaroo Wallabee น่าสังเกตครับว่าหนังไทยยุคนั้นส่วนใหญ่มักจะพากย์เสียงนักแสดง ทั้งที่ตอนนั้นมีระบบเสียงในฟิล์มแล้ว ผมเข้าใจว่าการฟังเสียงนักแสดงพูดด้วยเสียงของนักแสดงเอง กับการที่นักแสดงถูกพากย์เสียงนั้น มันให้อรรถรถต่างกัน เพราะเสียงพากย์นั้นพากย์ใคร คนนั้นก็ดูเท่ทุกคน ถ้าเป็นพระเอกก็เสียงหล่อ ซึ่งถ้าใช้เสียงของนักแสดงเองก็ไม่แน่ว่าจะได้อรรถรถมากหรือไม่ หรือนางเอกก็เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุที่นางเอกต้องสวย ดังนั้นจึงต้องใส่เสียงพากย์สวยๆด้วย เพื่อความสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะฉากปะทะคารมกันด้วยฝีปาก เสียงพากย์เนี่ยมันส์กว่าเสียงพูดของนักแสดงจริงๆเสียงอีก ในหนังไทยยุคเก่าส่วนใหญ่ เสียงพระเอกไม่ว่าจะคุณสมบัติ เมทะนี คุณสรพงษ์ ชาตรี และอีกมากมายจะถูกพากย์โดยคุณรอง เค้ามูลคดี และต่อมาก็มีทีมพากย์อินทรีย์ที่โด่งดังมากในยุคนั้น นอกจากพากย์หนังต่างประเทศ โดยเฉพาะหนังจีนฮ่องกงแล้ว ก็จะพากย์หนังไทยให้ด้วย ทำให้หนังไทยในยุคที่คุณพันนา ฤทธิไกร แสดงนั้น เปรียบเหมือนกำลังได้ดูหนังจีนฮ่องกงไปในตัวเลยครับ ไม่ทราบว่าที่ผมกล่าวมาข้างต้นนี้ ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ


           @Kangaroo Wallabee ครับ เห็นด้วยครับ การพากย์หนังก็เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ทุกคนไม่อาจจะทำได้แม้ว่าทุกคนจะพูดเป็น.. สมัยก่อนนักพากย์เก่งๆ เขาสามารถคุมควบอารมณ์หนังได้ดี เขามองหน้าตัวแสดงแล้วก็คิดกำหนดน้ำเสียงให้พากย์ออกมา คนพากย์หนังจะต่างกับคนเล่นละครโทรทัศน์ตรงที่มีโอกาสให้ปากตัวเองอยู่ใกล้ไมโครโฟนได้แค่ไหน เวลาเราดูหนังพากย์เสียงในฟิล์ม บางครั้งเราจึงได้ยินแม้เสียงลมหายใจของตัวละครด้วยครับ เสียงถอนหายใจจะเป็นธรรมชาติกว่าคนเล่นละครโทรทัศน์...

            หนังพันนาก็เช่นกัน ได้ยินมาว่า เขาให้ทีมพากย์ปล่อยมุขได้ตามสบาย เรียกว่าพอไม่เห็นปากตัวแสดงแล้ว เสียงมุขพากย์ก็มาทันทีอันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการดูหนังครับ.. เดี๋ยววันนี้มีหนังพันนาจากกากฟิล์มให้ชมอีกครับ..


           ตอนนี้ ฟิล์มหนัง เกิดมาลุย ภาค 3 นี้ พวกเราส่งไปอยู่กับรถหนังขายยาตราถ้วยทอง ที่คุณโอ เทพมงคล ขอนแก่น แล้วนะครับ ฟิล์มยังดีๆ สีไม่เฟด ฉายได้อีกนานครับ..แต่ว่าคลิปหนังที่ผมตัดต่อมาฉายนั้น ก็ต้องตัดบางส่วนออกไปเพราะมันจะยาวเกินไปนะครับ บอกตรงๆ ว่า เวลาตัดหนังพันนามาฉายนั้น ตัดยากจริงๆ ครับเพราะหนังจะมีมุขฮาตลอด แต่ก็จำเป็นต้องตัดๆ ไม่งั้นจะยาวเกินไปและอาจจะกระทบกระเทือนผู้เป็นเจ้าของหนังด้วยครับ..เราฉายเพื่อเรียนรู้และการประชาสัมพันธุ์ผลงานของผู้สร้างผู้กำกับนะครับ..

           ขอบคุณ คุณอุ้ย Thawatchai Jai-aue ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ.. ส่วนถ้าใครจะดูคุณบรรพต กิหมื่นไวย์หรือชื่อนักแสดงว่า วีระศาสตร์ หมื่นไวย์ Banphot ST อีกหนึ่งในพระเอกสตั้นแมนของพันนา ฤทธิไกร ฉากเต้นๆ ที่คุณอุ้ยพูดถึง ก็ต้องดูจากคลิปนี้ตอนท้ายๆ คลิปประมาณนาทีที่ 7 นะครับ ผมตัดไปโชว์นานแล้วครับ


คลิกชม.. ชุมทางหนังไทยในอดีต ตอน ถ้าไม่มีเพื่อน ก็ไม่มีหนังดู


           วันนี้ คุยโทรศัพท์กับคนที่เคยถือฟิล์ม เกิดมาลุย ภาค 1แบบฉายจอกลางแปลงจึงทราบว่า เมื่อฉายจนจะครบในเขตตัวเองแล้ว ก็ต้องปล่อยขายกากฟิล์มไปเรื่อยๆ จนบัดนี้เข้าใจว่า กากฟิล์มทางอีสานนั้นคงไม่เหลือแล้วครับ..

Tuu-sRi Five-aNgels เสียดาย! มากคับ เพราะว่าฟิล์มทุกม้วน เมื่อก่อนมันเหมือนไม่มีค่านะคับฉายไป ฉายมาไปตกถึงหลายมือ พอนานๆเข้า ซัก 10-20 ปี ทุกคนถามหากันว่าฟิล์ม เรื่องนี้ หายไป สาบสูญไป ผมว่า เราน่าจะอนุรักษ์ไว้ เก็บเข้า พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ก้อดีนะฮะ ในอนาคต เด็กๆที่ไม่เคยเหนดาราท่านนี้ ก้อจะทราบถึงประวัติความเปนมาของดาราหนังเรื่องนั้นๆ ^^*   เด่วนี้แก มะค่อยได้ทำงานสตั๊นท์ เรย ผิดกับเมื่อก่อน ถ้าเปงค่ายเพชรพันนา // 138/1 เอ็นเตอร์เทนเมนท์ // เล่นทุกเรื่อง ขำทุกเรื่อง แกชอบเปงตัวฮาๆ กับ พี่หมึก นะคับ อิอิ   คุนหนึ่ง ธัญญาลักษณ์ ราชธา นางเอก เพชรพันนา ก้อหายไปเรย แต่เหนเผินๆ เคยแสดง เปน แสตนอิน แทน น้าน้อย โพธิ์งาม เรื่อง คนไฟบิน" เหมือนกัน ฉากที่อุ้มลูกแร้วตกบันได "

          ตอนผมนั่งตัดต่อ เกิดมาลุย 3 มาโพส ก็หนักใจครับ เรียกว่าตัดไม่ลง เสียดายหลายๆ ฉากเพราะเขาจะปูมุขไว้ตลอด แล้วถึงมาตบมุข..เรียกว่า ฮาตลอด จึงเป็นหนังที่บู๊ก็บู๊จริงๆ พอฮาก็ฮามากๆ..ส่วนที่ถามคุณกิมนั้น ผมเองเคยไปสัมภาษณ์ไว้แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 57 ที่ผ่านมาครับ แต่ยังไม่ได้ตัดต่อเทปเลยครับ..  ภาพข้างล่างนี้แหละครับ คุณกิม ตัวฮาขโมยซีนหนังพันนาล่ะครับ..


          ผมว่า จะตัดต่อเทปสัมภาษณ์คุณกิมที่ถ่ายไว้คืนนั้นให้เสร็จและนำมาโพส (เคยโพสสัมภาษณ์พี่เปี๊ยก มรกต แก้วธานี ไปแล้ว) แต่มาติดขัดตรงภาพประกอบที่คุณกิมบอกว่า หนังเรื่องที่เล่นมีคุณพ่อเล่นด้วย แต่คุณกิมนึกชื่อหนังไม่ออก ผมก็เลยดูไม่ออกว่า คนไหนเป็นคุณพ่อคุณกิมครับ..

          แต่ตัดช้าก็ดีนะครับเพราะตอนนี้ เราได้ฟิล์มหนังพันนามาอีกหลายเรื่อง รีมาสเตอร์ใหม่หมด ภาพนักแสดงจะชัดขึ้นนะครับ ถ้าคุณอุ้ยนึกชื่อเรื่องออก ก็บอกหน่อยนะครับว่า คนไหนที่เป็นพ่อคุณกิม จะได้ตัดเสร็จสักที..ครั้งนี้ ผมจะไปร้อยเอ็ดวันที่ 10 สิงหาคม 2557 คาดว่าจะค้างคืนที่ร้อยเอ็ดก่อน แล้วตอนเช้า 11 สิงหาคม 2557 จึงจะวิ่งเข้าขอนแก่นครับ ไม่รู้ว่าจะมีเวลาเหลือพอที่จะพาพวกเราไปเยี่ยม อ.เจริญ ที่เก็บใบปิดหรือเปล่าครับเพราะคิดว่า บ่ายๆ ก็ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้วครับ

Thawatchai Jai-aue ต้องนัดกับอาจารย์ฯล่วงหน้าไว้ก่อนนะครับ เพราะบางทีเผื่อว่า อ.เจริญฯจะออกไปรับงานถ่ายภาพข้างนอก เราจะไม่เจอท่านน่ะครับ จริงๆ แถวนั้นมีบ้านสตั้นท์อีกหลายคน พี่เปี๊ยก มรกต รู้จักดีครับ วันนั้นผมยังเห็นบ้านพี่ โอเล่ คนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ชนป้ายโค้ก บ้านพี่น้อย บรรลุ บ้านน้าบูรณ์ ไพบูรณ์ ราชธา (คนถือเคียวที่ตะโกนบอกทางไปบ้านกำนันแจ่มในหนังครับ).... ในเรื่อง "โหดตามสั่ง" จะมีพ่อพี่กิมเข้าฉากครับ ผมจำได้ เรื่อง เชือด เหน่อ เหน่อ ที่คุณมนัสฯเคยโพสต์ ก็มีพ่อพี่กิมเล่นครับ เอ่อออ...คนที่ขับรถกระบะสีขาวมาเจอชาวเขา(เล่นโดยพี่กฤต+พี่เป้า) 2 คน แล้วสองคนนี่ก็คิดว่ารถกระบะเป็นสัตว์ประหลาด เลยรุมสกรัมรถกระบะ 5555++

          นี่แหละครับ คุณพ่อคุณกิม ที่คุณอุ้ยบอกไว้จากเรื่อง เชือดเชือดเหน่อๆ ครับ แต่ว่าภาพนี้มาจากแผ่นวีซีดีนะครับ เดี๋ยวเวลาตัดต่อเทปสัมภาษณ์คุณกิม จะใช้ภาพจากฟิล์มหนังที่ชัดกว่านี้แทนนะครับ ขอบคุณครับ..


คลิกชม.. ร่วมรำลึกถึงผลงานของ พันนา ฤทธิไกร..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เกิดมาลุย 3 (2533 พันนา-ม.ล.สุรีย์วัล) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม



Regis Madec ขอบคุณครับสำหรับหนังเกิดมาลุย 3 (2533 พันนา) ดีใจที่ได้เห็นอีก ราชินีหนังบู๊ คือ ม.ล.สุรีย์วัล . ขอบคุณคุณ @Jub ที่ให้ยืมฟิล์มครับ

         ครับ ผมเองก็ดีใจที่คุณจุ๊บได้ฟิล์มชุดนี้มา ทีแรกก็นึกว่า คงหมดหวังแล้วที่จะได้ เกิดมาลุย 3 แบบจอสโคป.. พอได้ภาค 3 มาก็ได้แต่นั่งคิดว่า แล้วเราจะไปตามกากฟิล์มภาค 1 กับภาค 2 ที่ไหนมาทำภาพแบบจอสโคปได้อีก โดยเฉพาะภาค 2 นี่มืดมนจริงๆ ครับเพราะวีดีโอเทปก็ยังตามหาไม่ได้ครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กันยายน 2014, 23:43:33 โดย นายเค »


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได