ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 580 เสนอฉาย หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ปลุกมันขึ้นมาฆ่า 3 ตอน จ๊ะเอ๋  (อ่าน 968 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 580
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ปลุกมันขึ้นมาฆ่า 3 ตอน จ๊ะเอ๋ผีหัวขาด (2533 บิณฑ์-พันนา)
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 30 สิงหาคม 2557)


หนังไทยคงเหลือ ปลุกมันขึ้นมาฆ่า 3 2533 บิณฑ์ พันนา รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


         สวัสดีครับทุกท่าน..  วันนี้ โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขอเสนอฉายหนัง 35 มม.สโคป พากย์เสียงในฟิล์ม จากกากฟิล์มของคุณอุ้ย ขอนแก่น ที่ให้พวกเรายืมมาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2557 นะครับ นั่นก็คือเรื่อง ปลุกมันขึ้นมาฆ่า 3 ตอน จ๊ะเอ๋ผีหัวขาด นำแสดงโดย บิณฑ์-พันนา-นริศรา นามมงคล-สมภพ วงษ์ก่อ-เผ่าไท-ฉัตร-เป้า-บรรลุ-สุพจน์.. สร้างโดย เพชรพันนาโปรดักชั่น โดย ธวัชชัย ลัดลอย เป็นผู้อำนวยการสร้าง.. กำกับการแสดงโดย ประพนธ์ เพชรอินทร์ เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 20 ตุลาคม 2533 ที่โรงหนังปารีส-นครหลวงรามา-เฉลิมศรี-กรุงสยาม-ดาวสยาม-จันทิมา-ผึ้งหลวงรามา-สำโรงรามา...

         หลังจากปี 2529 ที่ พันนา ฤทธิไกร สร้าง เกิดมาลุย..จนเป็นที่รู้จักแล้ว หนังบู๊สไตล์พันนาก็เริ่มเป็นนิยมโดยเฉพาะสายหนังต่างจังหวัดแถบภาคอีสาน..แต่ก็นั่นแหละ จู่ๆ จะให้ดูหนังที่มีคิวบู๊ๆ อย่างเดียว ก็คงไม่ใช่.. พันนาและทีมงานจึงต้องพยายามสร้างบทภาพยนตร์ให้มีเนื้อเรื่องมาสัมพันธ์กับคิวบู๊ๆ ตามที่พรรคพวกตนเองถนัดให้ได้.. มุขการใช้ผี จึงเริ่มขึ้นในปี 2530 ด้วยการสร้างตัวละครผีดิบที่ฝีมือเก่งฉกาจขึ้นมา.. ลำพังแค่ผีดิบอย่างเดียว ก็ฆ่าไม่ตายแล้ว แต่นี่ผีดิบยังเก่งคิวบู๊ๆ อีก ก็ยิ่งทำให้เรื่องน่าสนใจขึ้น นั่นคือที่มาของเรื่อง ปลุกมันขึ้นมาฆ่า ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2530 จากนั้นพันนาก็ไปทำหนังบู๊ๆ อีกหลายเรื่อง ก่อนที่ปี 2532 จะหันกลับมาสร้างภาค 2 ของ ปลุกมันขึ้นมาฆ่า อีกครั้ง..เมื่อกระแสตอบรับช่วงนั้นเรียกว่า ใช้ได้.. จึงต้องมีภาค 3 ของปลุกมันขึ้นมาฆ่า ตามมาอีกในปี 2533

         ปลุกมันขึ้นมาฆ่า ภาค 3 นี้ ยังรวมทีมงานนักแสดงของพันนา ฤทธิไกร ไว้ครบครัน..ลีลาหนังก็พัฒนามากขึ้น ทั้งการตัดต่อที่ฉับไว คิวบู๊ที่โลดโผนและที่ขาดไม่ได้ก็คือ ความฮา..ที่มีให้เห็นบ่อยๆ ในหนัง..เรียกว่า หนังแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ ตั้งแต่ต้นจนจบนะครับ จึงจะสนุก ผมเองก็ลำบากใจกับการตัดต่อมาฉายเพราะจะเสียอรรถรสไป แต่ทำไงได้ครับ เมื่อเราฉายเพื่อการยกย่องและประชาสัมพันธ์ผลงานให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็เลยต้องดูกันแต่พอหอมปากหอมคอไปก่อนนะครับ..

         หนังเรื่องนี้เคยออกวีดีโอให้เช่า-ออกแผ่นวีซีดีมาแล้ว แต่ภาพเต็มจอ แต่เผอิญคุณอุ้ยไปได้กากฟิล์มชุดนี้มา คุณอุ้ยเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้น ฟิล์มเรื่องนี้กำลังจะถูกทิ้งแล้วเพราะฟิล์มสภาพเช่นนี้ หนังกลางแปลงเขาจะไม่ฉายกันแล้วครับ คุณอุ้ยเห็นฟิล์มแล้ว ก็นึกเสียดาย จึงซื้อไว้เก็บๆ ไว้ แม้ฟิล์มม้วนแรกจะโดนน้ำบ้าง ภาพจะลอกๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังดูได้ ฉายได้ ฟิล์มออกสีแดงๆ แล้ว แต่ก็ยังปรับแก้สีได้นิดหน่อย.. ฟิล์มอุตส่าห์เหลือมาขนาดนี้ เราก็ต้องขอทำภาพเก็บไว้ก่อนละครับเพราะไม่รู้ว่า ในภายภาคหน้าจะยังมีโอกาสเจอฟิล์มเรื่องนี้อีกหรือไม่.. ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์มหนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ปลุกมันขึ้นมาฆ่า 3 (2533 บิณฑ์-พันนา) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


คลิกชม..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ปลุกมันขึ้นมาฆ่า 3 (2533 บิณฑ์-พันนา) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม



<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/bLBvs1aa924?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
.......



 ;) ;) ;) ;)












------------


         ผีหัวขาด ของแท้รุุ่น สรพงศ์-วาสนา นั้น ยังไม่เคยเจอกากฟิล์มเลยครับ.. ส่วนปลุกมันขึ้นมาฆ่า ภาค 1 กับภาค 2 ก็ยังไม่เจอกากฟิล์มเช่นกันครับ

แตง โปสเตอร์ หนังสนุกดีค่ะพี่มนัส ยังมีต่อภาค4 555 ตามหาขิงดำ อ๊ะ..พี่ชายนู๋แสดงเป็นผีดิบ อิ..ขอบคุณค่ะพี่มนัส ขอบคุณน้องอุ้ย เจ้าของฟิล์มหนังด้วยค่ะ

         ภาค 4 ก็มี แต่มีแต่เป็นเทปวีดีโอ ไว้รอๆ เผื่อว่า จะมีกากฟิล์มดีกว่านะครับ ลุ้นๆ อยู่ว่า หนังแบบนี้มักจะมีคนเก็บฟิล์มไว้บ้าง แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่า จะอยู่ที่ใครนะครับ  วันนี้ ข่าวแว่วมาว่า กรุฟิล์มที่เราจะไปหาฟิล์มในวันเสาร์-อาทิตย์หน้านี้ มีกระเป๋าฟิล์มเรื่อง ปลุกมันขึ้นมาฆ่า ภาค 1 ปนอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่า ฟิล์มจะยังใช้ได้หรือไม่ ต้องไปพิสูจน์ครับ..

Thawatchai Jai-aue มากไปกว่านั้น ฟิล์มกับชื่อเรื่องบนกระเป๋าจะตรงกันหรือเปล่า  ปัญหาหลักของการขุดกรุคือ ฟิล์มกับกระเป๋าถูกแยกปะปนสลับกัน ฟิล์มไม่ตรงกับกระเป๋า สัตว์มีพิษซ่อนอยู่ในประเป๋า ฯลฯ....

         ใช่ครับ เห็นแล้ว ก็ต้องฉายดูก่อน จึงจะรู้ว่า ใช่หนังเรื่องนั้นหรือไม่..และบางครั้งที่เคยฉายดูมา พอฉายก็พลิกล็อคกลายเป็นหนังที่ไม่คาดฝันมาแล้วครับ ดังนั้น การเปิดกรุฟิล์มแต่ละครั้ง ยิ่งเป็นการเปิดกรุในชั้นลูกชั้นหลาน จึงต้องเพ่งพินิจที่เนื้อฟิล์มเป็นหลัก เห็นกระเป๋าเขียนชื่อเป็นหนังจีน แต่ข้างในอาจเป็นหนังไทยก็ได้ครับ..แล้วเวลาเจอฟิล์มเยอะๆ อย่างหนึ่งที่พวกเราลืมๆ ก็คือ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในกองฟิล์มเหล่านั้นๆ อย่างที่คุณอุ้ยบอกนั่นแหละ เพราะมักจะเผลอๆ ไปนะครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กันยายน 2014, 23:07:05 โดย นายเค »


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได