บทที่ 444 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ โครงการช่วยหนัง รีมาสเตอร์กากฟิล์ม 35 มม.

[นายเค]

บทที่ 444
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
โครงการช่วยหนัง รีมาสเตอร์กากฟิล์ม 35 มม. Full HD 1920x1080
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 23 พฤศจิกายน 2556)

โครงการช่วยหนัง แสงทวีฟิล์ม นาแก นครพนม

           สวัสดีครับ หลังจากที่ผมเขียน facebook บทที่ 441 เรื่อง ช่วยกันเก็บภาพไว้ก่อนที่กากฟิล์มจะตายไป เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556 แล้ว พวกเราก็เริ่มไปหากากฟิล์มหนัง 35 มม. (วันที่ 9 พฤศจิกายน 2556) เท่าที่พอจะยังหาได้มาทดลองแปลงสัญญาณภาพในระบบ Full HD 1920x1080 แรกๆ ก็พบว่า การแปลงสัญญาณภาพ มีปัญหาบ้าง แต่ก็แก้ไข ปรับปรุงจนเรียกว่า พร้อมปฏิบัติการได้แล้ว.. 

           โดย คุณฉัตรชัย ไทยซีเน หรือ สุวรรณโสภา ดูแลด้านเครื่องฉาย สถานที่ตลอดจนติดต่อประสานงาน คุณนุหรือประเดิม สง่าแสง ดูแลเรื่องกล้องถ่ายวีดีโอ ผมก็เน้นไปที่การเก็บไฟล์ภาพและตัดต่อ..ส่วนเพื่อนใน facebook หลายๆ คนก็เป็นผู้ร่วมสนับสนุน ช่วยทั้งแรงกาย แรงใจและกำลังทรัพย์...

           ดูเหมือนว่า ทุกอย่างพร้อม แต่ปัญหาก็กลับมาอยู่ตรงที่ว่า แล้วเราจะไปหากากฟิล์มหนังไทยเก่า ๆ ได้จากที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังเป้าหมายช่วงปี 2515 ถึงปี 252... กว่าๆ ไปจนถึงปี 2539 เกรงว่า อายุฟิล์มจะไม่อยู่รอพวกเรา แต่จากการที่ได้ลองติดตามถามไถ่ไปยังเพื่อนฝูงหลาย ๆ คน ก็พอมีเบาะแสว่า ยังมีคนรักหนังหลายคนที่มีเครื่องฉายหนัง 35 มม.และเก็บฟิล์มไว้ดั่งเป็นดวงใจ..ตอนแรกพอได้ข่าวแบบนี้ พวกเราก็ดีใจ แต่เพราะเขาเหล่านั้น รักหนังมาก ๆ ถึงกับยอมสละซื้อฟิล์มหนังไปเก็บไว้ฉายดูที่บ้านเอง..ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า แล้วเขาจะยอมให้เรานำฟิล์มออกจากบ้านเขาหรือครับ..

           ระหว่างที่กำลังนั่งคิดๆ อยู่นั้น ผมก็ได้ไอเดียจากเพื่อนคนหนึ่งที่บอกว่า ถ้านำฟิล์มออกจากบ้านเขาไม่ได้ เราก็ไปขอฉายที่บ้านเขาแทนซิ..แต่การเคลื่อนย้ายเครื่องฉาย 35 มม.ยุ่งยากและลำบากเหมือนกัน.. ก็เลยลองคิดเล่นๆ กันว่า ก็ในเมื่อที่บ้านเขามีทั้งเครื่องฉายและฟิล์มแล้ว เราก็ไปขอให้เขาฉายให้เราดูเลย ดัดแปลงเครื่องนิดหน่อย เราก็แปลงสัญญาณภาพได้แล้ว..ความคิดนี้ ถูกถามไปยังเพื่อนที่เก็บฟิล์ม ก็ปรากฏว่า ส่วนใหญ่ยินยอมและยินดีให้ความร่วมมือครับ..ขณะนี้ กำลังเคลียร์คิวหาวันว่างที่ตรงกันนะครับ..

           แต่ที่เปิดกระทู้นี้ก็เพราะว่า ระหว่างที่พวกเราช่วยกันหาแหล่งกากฟิล์มนั้น เผอิญผมไปเจอรูปถ่ายเก่าๆ ที่โพสไว้ที่เว็บไทยซีเนและเว็บพีเพิ่ลซีนเห็นว่า มีบริการฉายหนังกลางแปลงแห่งหนึ่งมีกากฟิล์มหนังเก่าเยอะมาก ก็เลยลองถามดูเผื่อว่า จะยังมีกากฟิล์มเหลืออยู่ ก็ได้คุยกับลูกสาวเจ้าของฟิล์มหนัง ธนัชพร คำชมภู..ก็ตามประสาคนเคยฉายหนัง ก็เลยมีเรื่องคุยกันไม่จบไม่สิ้น ไหนๆ พวกเราจะไปหากากฟิล์มที่บ้านเขาซึ่งอยู่ไกลมาก ๆ ก็เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันไว้ เผื่อว่า การเดินทางครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่ มีแต่เพียงผมกับคุณนุเท่านั้น..ใครจะไปด้วย ก็ยินดีนะครับและในการติดต่อประสานงานครั้งนี้ เราก็มีคุณโรจน์หรือสัจจะ มหาโจร เป็นหัวเรือใหญ่คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำและจะนำทางไปด้วยครับ..

           ยิ่งเขียนก็ยิ่งเหมือนกับพร้อมจะเดินทางไปแล้วนะครับ แต่จริง ๆ นั้น ยังครับ ผมคาดว่า อาจจะเดินทางได้ในช่วงเลยกลางเดือนธันวาคม 2556 นี้นะครับ..และก็ต้องเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย ถ้านั่งรถทัวร์ไปก็ใช้เวลา 11 ชั่วโมง..คุณโรจน์แนะนำว่า ควรไปรถทัวร์จะสะดวกและประหยัดกว่า..พอเช้าไปถึง ก็หาที่พักก่อน..จากนั้นสาย ๆ รถที่คุณโรจน์ติดต่อให้พวกเราก็จะมารับและเดินทางไปยังเป้าหมายที่ห่างออกไปอีกประมาณ 80 กิโลเมตร.. เราก็เลือกกากฟิล์มไป ซึ่งไม่รู้ว่า จะมีหนังเรื่องอะไรบ้างและวันนั้น ถ้าโชคดี เราอาจจะเจอเจ้าของฟิล์มด้วย ก็จะสัมภาษณ์ พูดคุยกัน..ใจผมนั้น อยากให้ 2 พ่อลูกที่ทำหนังกลางแปลงมาด้วยกันร่วมวงสนทนากันเลย คุยกัน เล่าความหลังกัน คงจะสนุกดี..คิดดูซิครับ ตอนที่หนังกลางแปลงบูมๆ เจ้านี้เขามีหน่วยหนังตั้ง 7 จอนะครับ ไม่ธรรมดา..

           เมื่อเลือกฟิล์มได้ ก็ช่วยค่าฟิล์มเขาไม่อยากจะเรียกว่า เป็นการซื้อขายนะครับ แต่เป็นการช่วยตอบแทนที่เขาอุตส่าห์เก็บกากฟิล์มไว้ให้พวกเราได้เห็นๆ กันอีก.. คุณโรจน์บอกว่า เมื่อได้ฟิล์มแล้ว ก็ขนไปที่บ้านคุณโรจน์เพื่อแพ็คของเตรียมส่งทางรถบรรทุกคล้ายๆ บริการของ รสพ.ในสมัยก่อน จะถูกกว่าเช่ารถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ เอง และกากฟิล์มทั้งหมด ก็จะถูกส่งไปพักไว้ที่บ้านคุณนุหรือประเดิมก่อน เพื่อรอการตรวจเช็ค ซ่อมแซมและนำไปฉายแปลงสัญญาณต่อไปนะครับ.. อดีตของหนังไทย ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..

โครงการช่วยหนัง แสงทวีฟิล์ม นาแก นครพนม

ดูหนัง คลิกที่ลิงคนี้ ครับ
โครงการช่วยหนัง แสงทวีฟิล์ม นาแก นครพนม


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/XDqhWjMXZOk?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
..........

[นายเค]

        คุณธนัชพร คำชมภู ผู้เป็นลูกสาว พูดถึงพ่อคือ ลุงสมาน ศรีกระสอน เจ้าของบริการหนังแสงทวีฟิล์ม..แม้จะเพียงสั้นๆ แต่ฟังแล้วก็กินใจ มันเจาะลึกเข้าไปแบบสุดขั้วหัวใจเลยครับ คำพูดแบบนี้ ผมเองก็เคยพูดกับพ่อกับแม่มาก่อน ตอนที่เรียนจบใหม่ๆ พอมีงานทำ เงินเดือนไม่กี่พันบาท แต่ก็คิดจะให้พ่อแม่ได้อยู่สุขสบายเพราะลำบากลำบนหาเลี้ยงเรามานาน กว่าจะเก็บเงินทีละบาทสองบาทส่งเราเรียนหนังสือ..แต่ท่านก็ไม่ยอม ท่านบอกว่า ขออยู่บ้านเราดีกว่า อยู่แถวนี้ยังมีเพื่อนๆ พูดคุยกัน กลัวว่ามากรุงเทพฯ แล้วจะเหงา..

         กว่าเราจะเข้าใจว่า ท่านปลื้มอกปลื้มใจที่ลูกๆ เอ่ยปากชวนท่าน ก็ต่อเมื่อผมกลับไปเยียมบ้านและเห็นท่านความสุขกับเพื่อนบ้าน ใครเดินผ่านหน้าบ้าน ก็ตะโกนคุยกัน บอกเขาว่า ลูกมาจากกรุงเทพฯ ถ้าเรามีอะไรไปฝากนิดๆหน่อยๆ ก็จะคุยบอกเพื่อนๆ ว่า ลูกชายซื้อจากกรุงเทพฯมาฝาก..ผมจึงเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี..แต่นั้นมา อะไรที่คิดว่า ท่านชอบ ท่านทำ ท่านมีความสุข เราก็ไม่ขวาง.. ผมเห็นภาพข้างนี้ซึ่งคุณตุ๋ม ธนัชพร โพสไว้ในเว็บพีเพิ่ลซีน นานแล้ว..

         ภาพเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมีความสุขกับงานที่กำลังทำนะครับ..ความสุขของคนรักการฉายหนังนะครับ.. ก็หวังแต่ว่า การเดินทางไปครั้งนี้ ผมจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตหนังเร่จากท่านมาฝากเพื่อนในเฟสบุ๊กแบบเต็มๆ นะครับ..

[นายเค]

         วันนี้ เพียงเห็นภาพ..ก็ทำให้คุณตุ๋มนึกถึงอดีต นึกถึงสิ่งที่พ่อเคยทำมา ภาพเก่าๆ เหล่านั้น คุณตุ๋มเองก็เคยประสบพบเห็นมาด้วยตาของตัวเอง ก็เลยมีอารมณ์ร่วมเป็นพิเศษนะครับ ผมว่า ท่านเองก็เข้าใจลูกๆ นะครับว่า รักและเป็นห่วงท่าน ผมเองดูภาพเก่าๆ ช่วงที่ท่านต้องเก็บของจากสำนักงานหนังเร่ ตอนที่หลานๆ ไปช่วยนั่นแหละครับ ดูสีหน้าและกิริยาของท่านเหมือนไม่อยากหยุด ไม่อยากเลิก พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่อยากกลับบ้านนั่นแหละครับ นั่นก็แสดงว่า ท่านรักและผูกพันกับอาชีพนี้มากๆ แม้ว่าปัจจุบัน ท่านก็ยังคงทำอยู่..

         ผมเองยังนึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าวันนั้น วันที่พวกเราไปหาคุณตุ๋มและท่านมาอยู่ด้วย..เวลานั่งสัมภาษณ์พูดคุยกัน ผมตั้งใจว่า อยากจะให้เห็นเป็นภาพ พ่อ-ลูกสาว-หลาน นั่งคุยถึงชีวิตหนังเร่ตามความรู้สึกของตนเอง.. ก็ไม่รู้ว่า พอท่านถ่ายทอดประสบการณ์ชีัวิตให้ฟัง..น้ำตาคุณตุ๋มก็คงจะไหลเป็นตุ่มๆ แน่..

         ช่วงนี้ เรายังไม่มีโอกาสได้คุยกับท่าน หากเพื่อนๆ ท่านใด อยากรู้อะไรก่อน คุณตุ๋มเองก็คลุกคลีกับหนังกลางแปลงมาตั้งแต่เกิดเช่นกัน ก็ถามไถ่กันได้นะครับ..

[มนัส กิ่งจันทร์]

ขอบคุณ คุณเค มากๆ เลยครับที่ช่วยนำเรื่องราวต่างๆ มาโพส ณ ที่นี้ แถมยังจัดวางได้สวยกว่าเฟสบุ๊กผมเสียอีก.. แต่เดิมคุณฉัตรชัย ก็เป็นแรงหนึ่งในการช่วย วันนี้มีสองแรงแล้วครับ..   

[ickilas]

ส่งไปให้หอภาพยนตร์จัดการก็ได้ครับ  เค้ามีหน้าที่ตรงนี้โดยตรง   

[บิ๊กโทนภาพยนตร์]

  :)ขอกราบขอบพระคุณ พี่ ๆ ทีมงานไทยซีเน ทุก ๆ ท่านคะ ที่เล็งเห็นชีวิตของคนทำหน่วยหนังกลางแปลง....ขอให้เรารัก ดูแล ใส่ใจ กันและกันคะ     ขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยคะ.....

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

ส่งไปให้หอภาพยนตร์จัดการก็ได้ครับ  เค้ามีหน้าที่ตรงนี้โดยตรง   

ส่งไปก็ตายอย่างเดียว....

[นายเค]

Praderm Sangaseang การเดินทางไปหากากฟิล์ม.. วันนี้ เวลาเจ็ดโมงเช้า พวกเราสามคนออกเดินทางจากกรุงเทพฯ นัดแนะกันที่ห้างบิ๊กคิงส์ บางใหญ่.. อุตส่าห์นัดกันใกล้ๆ บ้านสาวแตง โปสเตอร์ หวังจะได้กินข้าวเหนียวหมูปิ้งจากสาวแตง แต่ก็พลาดไปนิดเดียว.. รถเราวิ่งผ่านปากทางวัดลาดปลาดุกไปแป๊บเดียว สาวแตงก็โทรมาบอกว่า ข้าวเหนียวยังไม่สุก.. ก็เลยอด.. จากนั้น พวกเราไปถึง ม.ขอนแก่น ก็มีคุณโอ มารับเพื่อหาที่พักก่อน จากนั้นก็จะได้เดินทางไปดูลุงสมานฉายหนังที่บ้านหนองโน....

          คุณนุ บอกให้ ผม มนัส กิ่งจันทร์ รายงานแทนครับ เมื่อวานนี้บอกว่า จะไปดูลุุงสมานฉายหนังกลางแปลง แต่พอเราขับรถจะตามไปแหล่งที่ลุงสมานไปฉายหนัง กำลังจะไปถึงอำเภอห้วยเม็ก อยู่แล้ว แต่เผอิญคลื่นโทรศัพท์ระหว่างเรากับลุงสมานติดต่อกันไม่ได้ ก็เลยหาพิกัดสถานที่ฉายหนังไม่เจอประกอบกับตอนนั้นค่ำๆ แล้ว คุณโอมีคิวงานต้องฉายกลางแปลงด้วย จึงต้องกลับมาก่อน แต่พอมาถึงเมืองขอนแก่นก็ทุ่มกว่าแล้ว

          คุณโอก็เลยเลื่อนงานฉายหนังแก้บนออกไปเป็นคืนอื่นแทน แล้วก็บอกว่า ให้พวกเราไปแปลงสัญญาณกากฟิล์มที่บ้านคุณโอทันที ซึ่งพอไปถึงคุณโอก็ให้เราดูกระเป๋าหนังใบนี้ เป็นกระเป๋าใส่ฟิล์มแบบอลูมิเนียม แต่ที่น่าสนใจก็ตรงชื่่อหนังที่่เขียนไว้ข้างๆ กระเป๋าครับ จอมดาบพิชัยยุทธ หนังมิตรครับ แต่คุณโอเล่าว่า ตอนได้มา พอเปิดดูกระเป๋าแล้ว ไม่ใช่หนังมิตรครับ เห็นว่า กระเป๋าตกทอดกันมาเรื่อยๆ ต้นตอจริงๆ มาจากจังหวัดร้อยเอ็ด ครับ

          หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มตั้งเครื่องฉายที่คุณโอคุณอุ้ยบอกว่า ฉายแล้ว ถนอมฟิล์มมากๆ ฟิล์มเก่าๆ ฉายก็ได้ กว่าเราจะเซ็ทเครื่องฉายก็ใช้เวลาพอสมควร จากนั้นก็คิดกันว่า จะหาฟิล์มอะไรมาทดลองฉายดูก่อน ก็ได้ข้อสรุปว่า เราจะทำหนังที่คิดว่า ฟิล์มเก่าใกล้ตายก่อนดีกว่า

          ถ้าเป็นฟิล์ม 35 มม.ที่มีอายุมากที่สุดในบ้านคุณโอและคิดว่า จะเสียหายก่อนเพื่อน ก็ม้วนนี้ครับ เป็นฟิล์มปี 2515 เรื่อง ไอ้แกละเพื่อนรัก สรพงศ์-นัยนา เราก็อยากลองดูว่า ฟิล์มบิดๆ มียางเยิ้มนิดหน่อย มีรอยแตกบ้าง เส้นเสียงมีรอยลอกๆ เจ้าเครื่องฉายนี้มันจะยอมให้ฉายผ่านหรือไม่ พอฉายไป พวกเราก็ลุ้นไปครับ แต่ว่า แน่นอนจริงๆ ครับ เครื่องฉายนี้ฉายผ่านครับ แต่ต้องเปลี่ยนวิธีปล่อยฟิล์มลงเครื่องใหม่ เปลี่ยนวิธีเก็บฟิล์มเข้ารีลใหม่หมด จึงฉายผ่าน เดี๋ยวผมกลับถึงบ้าน จะตัดต่อมาให้ดูนะครับ

          ภาพนี้คุณโอคุณอุุ้ย กำลังลุ้นว่า จะฉายผ่านหรือไม่ งานนี้ พวกเราทุกคนโชคดีครับเพราะคุณโอคุณอุ้ยบอกว่า จะจัดห้องไว้ให้พวกเราห้องหนึ่ง จะนำเครื่องฉายที่ดัดแปลงนี้ไปตั้งไว้ แล้วบอกว่า ถ้าพวกเราว่างๆ ก็มาแปลงสัญญาณได้เลย พอเราฉายผ่านและช่วยกากฟิล์มเก่าๆ ได้แบบนี้ คุณโอก็บอกว่า นี่ถ้ารู้เร็วกว่านี้ พวกเราคงจะช่วยหนังเก่าๆ ได้อีกหลายเรื่อง เสียดายตอนนั้น เห็นฟิล์มแบบนี้ ก็ไม่กล้านำกลับมาเพราะฟิล์มสีเฟดแล้ว นำมาฉายกลางแปลง ก็ไม่มีคนดู ก็เลยยังไม่นำมา ตอนนี้ ถ้าเห็นก็จะนำมาเก็บไว้ก่อนแล้วครับ...

          เดี๋ยวอีกสักครู่ พวกเราจะไปบ้านคุณโออีกครั้งเพื่ออัดเทปสัมภาษณ์นะครับ จากนั้นก็จะไป กระนวนและต่อไปที่ นาแก นครพนมครับ...

          ลืมบอกไปว่า คุณโอค้นหาฟิล์ม 16 มม เก่าๆให้พวกเราได้ 7 ม้วนครับ บอกให้ผมนำไปแปลงสัญญาณที่กรุงเทพฯ ผมดูฟิล์มแล้ว ยังไม่รู้ว่าเป็นฟิล์มเรื่องอะไรครับ แต่ดูๆ แล้ว มีหนังไทยเก่าๆ แน่นอนครับ

          นี่คือ ฟิล์ม 16 มม.ที่คุณโอให้พวกเรายืมมาแปลงสัญญาณซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นหนังไทยเรื่องอะไรครับ ของดีๆ แบบนี้ คนรับมอบก็ต้องเป็นพี่ใหญ่ของเราครับ พี่อี๊ดอาทรเป็นคนรับมอบนำฟิล์มกลับมากรุงเทพฯ ครับ

          พี่อี๊ดอาทร เข้านอนไปแล้วครับ ขับรถทั้งวัน ขึ้นเขา ลงห้วย บ่นปวดเมื่อย ขาดคนนวดให้ ก็เลยขอนอนก่อนครับ.. ตอนนี้ พี่มนัส ขอทำหน้าที่รายงานแทนนะครับ... เช้าวันนี้ พวกเราสามคนออกจากเมืองขอนแก่น มุ่งตรงไปหา ลุงสมาน ศรีกระสอน เจ้าของบริการหนังแสงทวีฟิล์ม ที่อำเภอกระนวน ก็ได้พบ ได้เจอตัวแล้วครับ ลุงสมาน น่ารัก ใจดี มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหนังไทยเก่าๆ เยอะครับ พวกเราสัมภาษณ์อัดเทปเสร็จช่วงเที่ยงๆ ก็ถามเส้นทางที่จะไปยังแหล่งเก็บกากฟิล์มของลุงที่อำเภอนาแก นครพนม..

          แรกๆ ลุงสมานก็บอกทางให้ว่า จะไปแบบไหนถึงจะเป็นทางลัด แต่คงเพราะเห็นว่า พวกเราทำหน้างงๆ ก็เลยใจดีนำทางไปเองเลยดีกว่า จะได้กลับไปเยี่ยมลูกสาวคือ คุณตุ๋มด้วย.. ก็ต้องเรียกว่า เป็นโชคดีครับที่ลุงสมานนำทางพาเราไปนาแก ไม่งั้น ป่านนี้ก็คงหลงทาง ไปไม่ถึงหรอกครับ...แต่ว่า ก่อนเดินทาง ก็เลยถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกหน้าสำนักงานแสงทวีฟิล์ม ก่อนนะครับ

          พอพวกเราไปถึงนาแก นครพนม.. ทีแรกก็จะจอดรถที่บ้านคุณตุ๋ม แต่ว่าหาที่จอดรถยาก แถวนั้น เช้าเย็นจะเป็นตลาดครับ ผู้คนพลุกพล่าน รถราเต็มไปหมด ลุงสมานก็เลยบอกว่า จะพาไปดูบ้านหลังที่เก็บฟิล์มกันก่อน ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณตุ๋ม...

          บ้านหลังนี้แหละครับที่ภายในเก็บอุปกรณ์การฉายหนังกลางแปลงทั้งชีวิตของลุงสมานไว้ มีทั้งใบปิดหนัง เครื่องฉาย ลำโพง เครื่องขยายและกากฟิล์มต่างๆ โดยเฉพาะกากฟิล์มที่ผมเคยนำรูปมาโพสนั้น พอผมเข้าไปดูคร่าวๆ ทั้งชั้นล่างและชั้นบนแล้ว ก็พบว่า ภาพที่พวกเราเห็นๆ นั้นเป็นเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้นครับ ยังมีอีกมากที่ลุงสมานเก็บไว้ แต่ว่าวันนี้ ค่ำแล้ว พวกเราก็เลยพาลุงสมานและญาติมิตรที่เพิ่งเจอะเจอกันวันนี้ไปกินข้าวปลากันก่อน..

          โดยมีการเปลี่ยนแผ่นกันกะทันหันว่า พรุ่งนี้ พวกเราจะขอเข้าไปดูว่า จะมีฟิล์มเป้าหมายอะไรที่พวกเราพอจะช่วยหนังได้บ้าง คาดว่าจะใช้เวลาทั้งวันในการตรวจดู... ก็เลยเปลี่ยนว่า พวกเราจะต้องนอนค้างอีกคืนที่นาแกครับ จากนั้นวันรุ่งขึ้นจึงจะกลับไปส่งลุงสมานที่อำเภอกระนวน และเราก็จะตีรถเข้ากรุงเทพฯครับ...

Maxkie Mitt เท่าทีผ่านๆมา ภาระกิจตามล่าฟิล์มหนังเก่าครั้งนี้ ช่างทรหดอดทน และต้องสู้กับสภาพอากาศที่หนาวเย็นช่วงนี้มากๆด้วยนะครับ ผมขอให้โชคดี และได้หนังเก่าทั้ง16 และ 35 กลับมาเยอะนะครับ ขอบคุณพี่มนัส ท่านพี่อี๊ด คุณนุ คุณโรจน์ ลุงสมาน คุณโอ คุณอุ้ย และคุณตุ๋ม ที่ช่วงประสานงานในภาระกิจครั้งนี้ กับทั้งเพื่อนๆทุกท่านที่ร่วมด้วยช่วยกันในการสบทบทุนค่าใช้จ่ายในการตามล่าฟิล์มครั้งนี้ ขอบคุณมากๆครับ  ป่านนี้คงง่วนอยู่กับการค้นโกดังฟิล์มหนังเก่าอยู่แน่ๆเลยครับ คณะของพวกเรา รู้สีกสังหรณ์ใจว่าเหมือนจะได้หนังมิตร กลับมาด้วยจังเลยครับ อิ อิ

แตง โปสเตอร์ พี่มนัส รายงานด้วยยยย นุ พี่อาทร ได้รัยมั่งอ่าเจอมั้ยหนังที่บอกเมื่อกลางวันอ่ะ รอฟังข่าวนะเนี่ยอุตส่ารีบกลับบ้านมะไปคลองถมเผื่อจะได้รับข่าวดีกว่า...อิอิ พี่อาทรตอนนี้รีบนอนก่อนเลยนะเพราะพรุ่งนี้ขับรถกลับกรุงเทพฯแต่เช้า อย่าออกสายนะเด๋วจะมืดก่อนถึง กทม น้องเป็นห่วงน๊า...รอฟังข่าวดีอยู่คร่า...พี่มนัส

Praderm Sangaseang มนัสรายงาน... เมื่อวานนี้ เรียกว่า ทั้งวันยันค่ำ พวกเราสามคนก็วุ่นๆ อยู่กับกองกากฟิล์มมหึมาที่เก็บไว้ในบ้านของลุงสมานหลังข้างต้นดังกล่าว ภายในบ้านจะแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นล่างพอเปิดประตูเข้าไป ก็จะเจอกองกากฟิล์มแบบนี้ มีเครื่องขยายเสียงหลอดรุ่นเก่าๆ เตาอ๊าค ลำโพง เหล็กเสาจอ ขาตั้งเตาอ๊าค เครื่องปั่นไฟ ฯลฯ ถัดเข้าไปที่ข้างๆ บ้านด้านขวาที่ต่อเติมออกไป ก็เป็นที่จอดรถอีแต๋น ที่ผมเคยนำภาพมาให้ขมข้างต้นแล้ว บนรถอีแต๋นจะเต็มไปด้วยกองกากฟิล์ม ลุงสมานบอกว่า ยังไม่มีใครเคยได้รื้อค้นกองนี้มาก่อน พวกเราเป็นเจ้าแรกเลยครับ..

         พอขึ้นไปบนบ้านชั้นสอง ก็จะเป็นห้องสองห้อง ซึ่งแต่ละห้องก็มีแต่ใบปิดหนังเก่าๆ และกระเป๋าฟิล์มหนังกองไว้ให้รื้อค้น แถมที่ว่างหน้าห้องเหล่านี้ ก็มีแต่กองกากฟิล์มหนังครับ...  พวกเราช่วยกันรื้อค้น เปิดกระเป๋าฟิล์มดูแทบทุกกระเป๋าเพราะลูกชายลุงสมานบอกว่า ถ้าเห็นกระดาษเขียนชื่อแปะไว้บนฝากระเป๋า ก็จะเป็นหนังเรื่องนั้นๆ แต่ถ้าไม่มีหรือไม่แน่ใจ ก็ต้องเปิดกระเป๋าดู..ผมกับคุณนุรับหน้าที่รื้อค้นกระเป๋าฟิล์มหนัง ส่วนพี่อี๊ดอาทรไปรื้อค้นใบปิดหนังตามถนัด... พวกเราใช้เวลาอยู่ในบ้านหลังนั้นจนเกือบหกโมงเย็นครับ..

         กากฟิล์มที่พบส่ว่นใหญ่จะเป็นหนังจีน หนังไทย แต่ว่าฟิล์มจะอยู่กระจัดกระจายกันครับ บางเรื่องเจอเพียงกระเป๋าเดียว บางเรื่องก็เจอสองกระเป๋าจบเรื่อง ฟิล์มหนังส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเสียหาย เว้นแต่ที่อยู่ในรถอีแต๋นที่มีละอองน้ำฝนเข้ามา ก็เลยมีปลวกกินกระเป๋าฟิล์มบ้างครับ..หนังจีนบางเรื่องที่ผมเคยดู ก็ยังเจอฟิล์มที่นี่ครับ แต่ก็ขอผ่านไป.. ส่วนหนังไทยเก่าๆ นั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปี 2529 มาถึงเกือบปัจจุบัน บางเรื่องก็เป็นฟิล์มทอง ส่วนที่เป็นฟิล์มเป้าหมายคือ ฟิล์มดำฟิล์มธรรมดานั้น มีไม่มากครับเพราะลุงสมานบอกว่า ก่อนหน้าจะย้ายฟิล์มมาไว้ที่บ้านหลังนี้ ฟิล์มธรรมดาซึ่งฉายมานานเสียหายไปตามเวลา ก็เลยสับฟิล์มที่เหม็นเปรี้ยวทิ้งเป็นร้อยๆ เรื่องครับ...ระหว่างรื้อค้นฟิล์ม คุณนุก็จะตะโกนถามเรื่อยๆ ว่า เจอหนังเป้าหมายหรือยัง..

         พวกเราใช้วิธีดูเนื้อฟิล์มเป็นหลักครับ คือว่า ไม่สนใจชื่อที่กระเป๋าฟิล์มหนังเพราะมักจะไม่ตรงเรื่องกับฟิล์มที่อยู่ด้านใน โดยจะใช้วิธีดูฟิล์มก่อน ถ้าเป็นฟิล์มทอง ก็เดาไว้ก่อนเลยว่า เป็นหนังใหม่ๆ ในสายตาเรา ก็เลยลุ้นหาแต่ฟิล์มดำหรือฟิล์มธรรมดาเป็นหลักครับ.. และด้วยเหตุที่เราต้องรื้อฟิล์มทั้งหมด ทั้งบ้านนี้เอง พอกลับมากินข้าวต้มร้านประจำ ครั้นจะกลับไปบ้านคุณตุ๋มเพื่อถ่ายภาพนิ่งที่หน้าบ้าน คุณนุของเราก็เกิดอาการเส้นพลิกอย่างกะทันหัน เล่นเอาพวกเราตกกะใจกันหมด กว่าจะวิ่งซื้อมากิน คุณตุ๋มหายามาทาให้ ก็ลุ้นๆ กันว่า จะต้องพาไปส่่งโรงพยาบาลหรือไม่่...สักพักพวกเราก็ค่อยๆ พยุงตัวคุณนุนั่งรถกลับมาที่พักได้ครับ แต่ก็ลุ้นๆ ว่าจะพลิกอีกหรือไม่ พอให้คุณนุเข้านอนได้สักพัก ลุงสมานก็โทรมาถามอาการว่า พอไหวไหม ถ้าไม่ไหว ให้รีบไปโรงพยาบาลน่ะ...

         คุณนุนอนได้พักหนึ่ง ก็ต้องตื่นมาเยี่ยว.. พวกเราก็บอกว่า ให้เอาขวดมานั่งฉี่ดีกว่า คุณนุไม่ยอม ก็เลยต้องคลานๆๆๆ เข้าห้องน้ำครับ... พอเข้ามาก็ค่อยยังชั่วแล้วครับ ตอนนี้ จะออกเดินทางไปรับลุงสมานเพื่อกลับขอนแก่นครับ...

แตง โปสเตอร์ ขอบคุณค่ะพี่มนัส ขอบคุณน้องตุ๋มที่บอกข่าวและรายงาน เมื่อคืนโทรคุยกะพี่ๆก็เป็นห่วงอาการของนุ ยังบอกให้ไปหาหมอแต่นุบอกถ้าได้นอนพักคงจะดีขึ้น ตอนนี้คงเดินทางกลับกันแล้ว ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยด้วยค่ะ และขอให้นุอาการดีขึ้นและหายเป็นปกติโดยเร็วด้วยนะคะ...พี่อาทรขับรถดีๆนะ ขอบคุณทุกๆข้อมูลด้วยค่ะพี่มนัส อิอิ ดีใจได้หนังถูกใจ

          สวัสดีครับทุกท่าน ผมกลับมาแล้วครับ ขอขอบคุณทุกท่านนะครับ..พวกเราสามคนแยกกันเมื่อถึงหน้าสนามบินดอนเมืองครับ คุณนุฯ ก็นั่งรถต่อไปบ้านที่บางบอน ส่วนผมก็เพิ่งมาถึงบ้านตอน 3 ทุ่มครึ่งนี่เองครับ.. ตอนนี้ ขอเวลาโหลดภาพนิ่งจากกล้องของคุณนุฯ และไฟล์วีดีโอจากสองกล้องก่อนนะครับ.. แล้วค่อยชมภาพกัน..ขอบคุณทุกความห่วงใยครับ ขอบคุณผู้ร่วมช่วยหนังไทยเก่าๆ ทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นคุณโอ คุณอุ้ย หจก. ส. ธรรมสุจริต Thawatchai Jai-aue ที่่ขอนแก่น..

          ขอบคุณลุงสมาน ศรีกระสอน ที่อำเภอกระนวน ขอนแก่น ที่ผมและเพื่อนๆ คุยไปคุยมา ก็เรียกว่า พ่อแล้วครับ ขอบคุณท่านที่ใจดีให้กากฟิล์มมาแบ่งกันดูกันครับ ตอนนี้ ผมฝากลูกสาวพ่อสมานคือ คุณตุ๋ม ธนัชพร คำชมภู เป็นผู้ช่วยส่งฟิล์มมาให้เราต่อเพราะรถเราบรรทุกไม่ไหวครับ ขอบคุณคุณโรจน์สัจจะ มหาโจร ที่แม้จะมาตามนัดไม่ได้เพราะมีธุระสำคัญกะทันหัน แต่ก็ติดตามถามไถ่ตลอดเวลา..ขอบคุณครอบครัวพ่อสมาน ศรีกระสอน ทุกๆ ท่านที่ต้อนรับด้วยความอบอุ่นอย่างยิ่ง..เดี๋ยวถ้าได้ดูภาพนิ่งหรือดูวีดีโอที่พวกเราบันทึกไว้ ก็จะรู้ว่า ทำไมการไปขอนแก่นและนาแกครั้งนี้ ทำให้พวกเราอบอุ่นแค่ไหน แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นก็ตาม..

          มาแล้วครับ..  ภาพเหตุการณ์ การไปช่วยหนังไทยเก่าๆ ที่ขอนแก่นและนาแก นครพนม ระหว่างวันที่ 5-8 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา.. แต่ว่า ได้เป็นภาพนิ่งจากกล้องของคุณนุฯ ก่อนนะครับ ส่วนภาพจากกล้องวีดีโอยังต้องตัดต่อ ลำดับภาพ ใส่เสียงก่อนนะครับ จึงจะฉายได้...เช้าวันที่ 5 พวกเราสามคน ก็ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปขอนแก่น โดยนัดหมายเจอคุณโอ เทพมงคล ที่ศาลเจ้าพ่อมอดินแดง ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น.. ระหว่างรอคุณโอมานำทางต่อ.. ก็ถ่ายรูปกันไว้ก่อนนะครับ..

          ศาลเจ้าพ่อมอดินแดงแห่งนี้ คุณโอบอกว่า รับงานฉายหนังแก้บนบ่อยมากๆ ครับ...แบบนี้ พี่อี๊ดอาทร ก็เลยต้องบนๆๆ ดูบ้าง..

          สักพัก คุณโอ ก็มารับพวกเรา..คุณนุก็เลยบอกว่า ถ่ายรูปก่อนๆๆๆๆ

          จากนั้น คุณโอก็พาพวกเราไปหาที่พักก่อน.. พี่อี๊ดอาทร รับเป็นฟรีเซ็นเตอร์ให้ครับ..

          หมายนัดงานแรกคือ ตามลุงสมาน ศรีกระสอน เจ้าของบริการแสงทวีฟิล์ม ไปบันทึกภาพการฉายงานกลางแปลงที่บ้านหนองโน อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธิ์..งานนี้ คุณโอและคุณอุ้ย ธวัชชัย (เสื้อสีดาำ) อาสาตามไปด้วย..แต่ก็คว้าน้ำเหลวครับเพราะแหล่งหมายไม่ชัดเจนพอจะตามหาเจอได้ประกอบกับค่ำแล้ว ก็เลยต้องงดหมายนี้ ภาพนี้ไปถึงอำเภอห้วยเม็กแล้ว กำลังถามทางอยู่ครับ..

          เมื่อหมายนัดแรกผิดพลาดไป พวกเราก็เลยกลับมาตั้งหลักกันต่อที่บ้านคุณโอ เทพมงคล เพื่อเตรียมตัวแปลงสัญญาณกากฟิล์มหนัง 35 มม.กันต่อทันที.. ตอนนี้ คุณโอ กำลังเตรียมฟิล์มเพื่อทดสอบระบบภาพและการบันทึกเสียง.. เราพยายามเลือกฟิล์มที่เก่าที่สุดมาลองทำดูครับ..

          ฝ่ายคุณอุ้ย ธวัชชัย ก็รับอาสากรอฟิล์มให้ครับ..และก็ลุ้นว่า ภาพจะออกมาชัดแค่ไหน..

          คืนวันที่ 5 ธันวาคม 56 ผมกับคุณนุฯ เสร็จภารกิจทดลองแปลงสัญญาณหนังที่บ้านคุณโอประมาณหกทุ่มกว่าๆ โดยกลัีบมาพร้อมกับไฟล์วีดีโอหนังและกระเป๋าใส่ฟิล์มหนัง 16 มม.กระเป๋านี้จำนวน 7 ม้วน ซึ่งคุณโอให้ยืมมาแปลงสัญญาณ..พอพี่อี๊ดเห็นก็ตื่นเต้นใหญ่ ขอถ่ายรูปทันที..

          จากนั้น เช้าวันที่ 6 ธันวาคม 2556 พวกเราก็กลับเข้าไปหาคุณโอ เทพมงคล ที่บ้านอีกครั้ง..ไปเพื่อบันทึกเทปสัมภาษณ์สดๆ ซึ่งจะนำเสนอต่อไป..

          พอบันทึกเทปที่บ้านคุณโอ เทพมงคล เสร็จแล้ว พวกเราสามคนก็ออกจากขอนแก่น ตรงไปยังอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น..  ไปหาลุงสมาน ศรีกระสอน ที่บริการหนังแสงทวีฟิล์มเพื่อพบ พูดคุยและบันทึกเทปสัมภาษณ์สดๆ ครับ ภาพนี้ ขณะนั่งสัมภาษณ์ครับ เทปจะนำเสนอต่อไป..

          สัมภาษณ์เสร็จสรรพ ก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก.. แต่ว่าก่อนจะลากลับเพื่อเดินทางไปอำเภอนาแก นครพนม..แต่พอเราถามเส้นทางแล้ว ลุงสมานก็กลัวว่า พวกเราจะหลงทาง ก็เลยใจดีอาสานำทางและจะได้กลับเป็นหาลูกสาวด้วย..พวกเราก็โชคดีครับเพราะไม่ต้องคลำทางไป..

          แต่ว่า ก่อนออกเดินทาง พี่อี๊ดอาทร บอกว่า ขอถ่ายรูปกับรถหน่วยฉายหนังก่อน..

          ไปถึงอำเภอนาแก นครพนม ก็ค่ำแล้ว พวกเราเลยพากันไปกินข้าวต้มและกลับไปนอนพักผ่อนก่อนที่รีสอร์ทที่คุณตุ๋มฯ ติดต่อไว้ให้ ห้องริมสุดนี่แหละครับ... ทีแรกคิดว่า จะนอนคืนเดียว แต่ว่าภารกิจไม่เสร็จก็เลยต้องนอนสองคืนครับ..

          ไปถึงอำเภอนาแก นครพนม ก็ค่ำแล้ว พวกเราเลยพากันไปกินข้าวต้มและกลับไปนอนพักผ่อนก่อนที่รีสอร์ทที่คุณตุ๋มฯ ติดต่อไว้ให้ ห้องริมสุดนี่แหละครับ... ทีแรกคิดว่า จะนอนคืนเดียว แต่ว่าภารกิจไม่เสร็จก็เลยต้องนอนสองคืนครับ..

[นายเค]

          เช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2556 ปฏิบัติการค้นหาหนังเป้าหมาย ณ บ้านพักของลุงสมาน ศรีกระสอน ก็เริ่มขึ้น โดยพวกเราสามคนและลุงสมานกับลุงอีกคนเป็นผู้ช่วยในการรื้อค้นๆๆๆ (ช่วงนี้ ไว้รอดูภาพสดๆ จากกล้องวีดีโอนะครับ).. ตอนนี้ดูภาพนิ่งไปก่อน..

          ทั้งชั้นบน ชั้นล่าง มีเพียบครับ..

          เรียกว่า เลือกค้นๆๆๆ จนคุณนุฯ เส้นพลิก

          ผมเอง ก็เปิดดูฟิล์มแทบทุกกระเป๋า ตามหาหนังเป้าหมายครับ..

          อะไรที่เกี่ยวข้องกับการฉายหนัง ที่นี่มีเก็บไว้ครับ แต่ว่าคุณนุฯ เน้นถ่ายที่กระเป๋าฟิล์มหนังเป็นหลัก           ทุกอย่างถูกเก็บไว้.. รอการมาเยือนของคนรักหนัง..

          คุณนุฯ ถ่ายทั้งภาพนิ่งและวีดีโอไปพร้อมกัน 2 กล้อง.. ก็หลงๆ ไปบ้าน ภาพกองฟิล์มหนังบนรถอีแต๋น ดันลืมถ่ายภาพนิ่ง แต่ว่า ถ่ายเป็นวีดีโอไว้ คอยรอชมนะครับ

          ถ่ายไว้หลายมุม.. พวกเราจำใจต้องเสร็จสิ้นภารกิจการรื้อค้นๆๆ ประมาณ 6 โมงเย็นของวันที่ 7 ธันวาคม 2556 เพราะค่ำแล้วและได้เวลากินข้าวกัน.. ก็ไปกินข้าวพร้อมเพรียงกันที่ร้านข้าวต้มเจ้าเิดิมอีก.. กินเสร็จก็กะว่า จะกลับไปถ่ายรูปหมู่ที่บ้านคุณตุ๋มก่อน.. แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คุณนุฯเกิดเส้นพลิกกะทันหัน.. จึงงดภารกิจไปก่อน..วิ่งหายามาทา หายามากิน ปล่อยเวลาไปเกือบชั่วโมง คุณนุฯถึงพอเคลื่อนไหวร่างกายได้.. ก็เลยกลับไปนอนพักฟื้นตัวก่อน..เช้ามาก็ค่อยยัังชั่้วครับ..เดินได้ แต่คุณนุฯ ก็บอกว่า เข้าถึงกรุงเทพฯ จะไปให้หมอตรวจเช็คร่างกายที่แสนจะบอบบางทันที..

          เช้าวันที่ 8 ธันวาคม 2556 พวกเราไปรับลุงสมาน ศรีกระสอน ที่บ้านเพื่อเดินทางกลับอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น.. ก่อนเดินทางก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกก่อน..ส่วนกากฟิล์มหนังที่พวกเราเลือกได้นั้น ลุงสมาน ใจดีครับยอมให้พวกเรามาทำแบ่งปันกันดู ท่านบอกว่า ไม่เคยให้ใครแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า พวกเรานำมาทำประโยชน์ให้กับลูกหลานในอนาคต..แต่ว่า รถของเราบรรทุกฟิล์มกลับมาไม่ได้ ก็เลยวานให้คุณตุ๋มช่วยประสานงานจัดส่งมาให้พวกเราภายหลังนะครับ...

          ดูกันแบบใกล้ๆ นะครับก่อนออกเดินทาง...ในภาพนอกจากจะมีพวกเราสามคนแล้ว ก็มี ลุงสมาน ศรีกระสอน - ลูกชาย และอีกคนก็ลุงหลอ.. ครับ..ตลอดการเดินทางกลับ พวกเราคุยสนุกสนานกับการฟังลุงสมานเล่าอะไรให้ฟังเยอะครับ.. นอกจากนี้ ท่านยังบอกทางลัดให้พวกเราไปจนถึงขอนแก่น..คอยโทรถามเป็นระยะว่า ไปถึงไหนแล้ว..นอกจากนี้ ท่านยังบอกว่า จะพยายามติดต่อคนฉายหนังเก่าๆ ที่มีฟิล์ม 16 มม.และ 35 มม.ให้พวกเราด้วย.. นี่เล่าัสั้นๆ ก่อนนะครับ เอาดูแบบเต็มๆ ได้จากเทปวีดีโอนะครับ..

Aartoanr Roopchom ขอขอบคุณคุณทุกๆท่านที่ส่งกำลังใจไปให้พวกเรานะครับในการตามหาฟิล์มครั้งนี้เป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆกว่าทุกครั้งที่พวกเราไปกันมาแต่ก็ดีใจที่ได้รับความร่วมมือช่วยเหลือและให้การต้อนรับที่อบอุ่นประทับใจและเป็นกันเองทั้งน้องตุ๋มน้องโอและหลุงหมานมิตรภาพและสิ่งดีๆที่มอบให้พวกเราจะไม่มีวันลืมครับ

          ขอบคุณ คุณเห้าเหลียง แซ่น้า มากๆ นะครับที่ช่วยบริจาคเงินให้พวกเราทุกครั้งที่ออกไปหากากฟิล์ม..ครั้งนี้ เราไปแบบกะทันหัน เพื่อนๆ บางคนก็ยังไม่ทราบเรื่องด้วย ตอนที่ผมมอบเงินให้ลุงสมานนั้น ลุงก็ถามว่า จะเอาฟิล์มไปทำอะไร ได้สตางค์หรือเปล่า แล้วจะมีคนดูไหม.. พอรู้ว่า เราทำไปโดยไม่มีรายได้ตอบแทนเข้ามา แต่เป็นการทำเพื่อช่วยหนังไทยเก่าๆ ไม่ให้ถูกลืม ส่วนเงินค่ากากฟิล์มนั้น เราก็เรี่ยไรมาจากเพื่อนๆในเฟสบุ๊ก งวดนี้ ผมเรี่ยไรได้มาเท่านี้ (บอกตัวเลขไป) ท่านก็ฟัง..ผมก็บอกต่อไปว่า เดี๋ยวผมก็ต้องไปจ่ายค่าอื่นๆ เพิ่มอีกกว่าจะได้เป็นหนังออกมาฉายให้เพื่อนได้ดู.. ท่านก็เข้าใจและบอกว่า ไม่เป็นไร ถ้าเอาไปทำแล้วมันมีประโยชน์กับคนอื่นๆ ก็เอาไปเถอะ..

          จากนั้น ผมก็มอบเงินที่เพื่อนๆร่วมกันบริจาคมาทั้งหมดให้แก่ลุงสมาน..แล้วเราก็ได้กากฟิล์มมาครับ...เมื่อวานนี้ ผมตัดต่อเทปสัมภาษณ์คุณโอ เทพมงคล เสร็จแล้ว.. วันนี้เป็นวันหยุด ก็จะตัดต่อเทปสัมภาษณ์ลุงสมาน ศรีกระสอน ให้เสร็จคิดว่า พรุ่งนี้เย็นๆ ก็คงจะเริ่มโพสฉายให้เพื่อนๆได้ชมกัน.. โดยจะแบ่งเป็น 2 เทป เทปแรกจะเป็น "เทปช่วยหนังไทย ตอน เยี่ยมบ้าน โอ เทพมงคล ขอนแก่น 5-6 ธันวาคม 2556" ส่วนเทปที่ 2 ก็จะเป็น "เทปช่วยหนังไทย ตอน เปิดกรุแสงทวีฟิล์ม ของลุงสมาน ศรีกระสอน นาแก นครพนม 6-8 ธันวาคม 2556" โปรดอดใจรอชมพรุ่งนี้ เย็นๆ นะครับ..

Praderm Sangaseang ลุงสมานท่านมีพรสวรรค์ด้านการพูดครับ เหมาะกับเป็นโฆษกหน่วยหนัง หรือพูดในที่ชุมชนครับ

          การเดินทางไปครั้งนี้ แบ่งการบันทึกเทปออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นการไปเยี่ยมบ้านคุณโอ เทพมงคล ก่อนนะครับ เดี๋ยวฉายครับ..  คิดว่า คงต้องมีสักวันนะครับ ที่เราจะได้ไปด้วยกัน งานแบบนี้ ทำคนเดียวไม่ได้หรอกครับ ใครรู้แหล่งเก็บ ใครรู้ช่องทาง ก็บอกๆ กันมาได้นะครับคุณ Popeye Filmplay..เมื่อวานนี้ เพิ่งได้ฤกษ์ฉายเทปตัวนี้ในบทที่ 451 ก็เลยนำมาแปะไว้ในบทนี้ด้วยครับ.. ทุกสิ่งทุกอย่างในการเดินทางครั้งนี้ ผมตัดต่อเทปวีดีโอมาให้ดูเพียง 1 ชั่วโมงนะครับ

คลิกดูได้เลยครับ...
ช่วยหนังไทย ตอน เปิดกรุ แสงทวีฟิล์ม ของ ลุงสมาน ศรีกระสอน อ.นาแก จ.นครพนม 6-8 ธันวาคม 56

[ickilas]

ส่งไปให้หอภาพยนตร์จัดการก็ได้ครับ  เค้ามีหน้าที่ตรงนี้โดยตรง   

ส่งไปก็ตายอย่างเดียว....

ตายยังไงครับพี่ฉัตร 

[kaitow]

ผมมาที่นี่บ่อยและก็มาฉายหนังช่วยบ่อยมากเคยเข้ามาดูฟีล์มแต่ไม่เคยรื้อเห็นแล้วทั้งที่งและเสียดายครับ

[บิ๊กโทนภาพยนตร์]

มาบ่อยมากคะ.....จนจะเป็นคนอำเภอนาแกแล้วคะ พี่เต่า รู้จักทุกซอกทุกซอย..... อิอิ

[มนัส กิ่งจันทร์]

ผมมาที่นี่บ่อยและก็มาฉายหนังช่วยบ่อยมากเคยเข้ามาดูฟีล์มแต่ไม่เคยรื้อเห็นแล้วทั้งที่งและเสียดายครับ

มาบ่อยมากคะ.....จนจะเป็นคนอำเภอนาแกแล้วคะ พี่เต่า รู้จักทุกซอกทุกซอย..... อิอิ

วันนั้น.. กากฟิล์มของลุงสมาน ยังมีอีกมากครับ แม้จะยากในการตรวจดูว่า เป็นหนังเรื่องอะไรกันบ้าง แต่ภาพรวมๆ ก็คือ ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หนัง
แม้บางเรื่องจะมีไม่จบเรื่อง บางเรื่องฟิล์มก็เสียไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยากได้มาทำภาพเก็บไว้ครับ

[ickilas]

ดูคลิปนี้ครับ  การสแกนฟิล์มต้นฉบับเนกาตีฟเพื่อรีมาสเตอร์  และการสแกนฟิล์มฉายเก่าๆ ที่เสีย  เพื่อแก้ไขภาพ


<a href="http://www.youtube.com/v/GzbTSKLs7-c?version=3&amp;amp;hl=th_TH" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/GzbTSKLs7-c?version=3&amp;amp;hl=th_TH</a>