ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 611 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ ดาราคู่ขวัญหนังไทย  (อ่าน 4746 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 611
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
ดาราคู่ขวัญหนังไทย
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 2 พฤศจิกายน 2557)


          วัสดีครับ.. คำว่า พระเอก-นางเอก เราได้ยินมาจนคุ้นหู แม้ในระยะหลังๆ จะนิยมเรียกกันว่า นักแสดงนำ ก็ตาม แต่วันนี้ ผมจะพูดถึง พระเอก-นางเอก ที่เป็นข้ามขั้นไปเป็นดารา “คู่พระ-คู่นาง” และเป็น “ดาราคู่ขวัญ” โดยมีหลักเกณฑ์ง่ายๆ ไว้ว่า อย่างแรกดาราคนนั้นต้องเป็นพระเอก-นางเอก มาก่อน จากนั้นก็มีการจับคู่แสดงหนังร่วมกันในจำนวนมากพอสมควร ซึ่งขั้นนี้ ก็จะเรียกว่า เป็นดาราคู่พระ-คู่นาง แต่หากมีผลงานเป็นที่ถูกอกถูกใจหลายๆ เรื่องแล้ว ก็จะได้เป็น ดาราคู่ขวัญ.. ส่วนการเลือก ก็จะใช้ชื่อพระเอกเป็นตัวยืนก่อน จากนั้นก็จะพิจารณาจากเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ขอเริ่มจากพระเอกเก่าๆ ก่อนนะครับ

1. ลือชัย นฤนาท เข้าวงการมาเมื่อปี 2500 จากเรื่อง เล็บครุฑ เล่นเพียงเรื่องเดียว ชื่อก็ดังเป็นพลุแตก แถมยังคว้ารางวัลพระเอกตุ๊กตาทองไปครองเป็นคนแรกด้วย แต่เนื่องจากมีปัญหาส่วนตัวระยะหนึ่ง จึงมีงานแสดงน้อย หากนับจากปี 2500 ถึงปี 2514 ลือชัยขึ้นชื่อเป็นพระเอกอยู่ประมาณ 24 เรื่อง ซึ่งเมื่อเทียบกับพระเอกรุ่นน้องที่ตามมา ก็ยังถือว่า ลือชัยมีผลงานน้อยเกินไป ส่วนนางเอกที่ร่วมแสดงกับลือชัย มีอยู่หลายคน เช่น อมรา อัศวนนท์ ภาวนา ชนะจิต พิศมัย วิไลศักดิ์ เพชรา เชาวราษฎร์ โสภา สถาพร เอื้อมเดือน อัษฎา ฯลฯ แต่ก็จับคู่เป็นพระเอก-นางเอก เพียงคนละไม่กี่เรื่อง จึงยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะเป็นดาราคู่พระ-คู่นางได้


ลือชัย นฤนาท

2.ไชยา สุริยัน เข้าวงการมาเมื่อปี 2501 มีหนังเล่นติดต่อกันเป็นช่วงๆ เมื่อตรวจดูจากใบปิดหนังพบว่า มีชื่อไชยา สุริยัน แสดงเป็นพระเอกมาถึงปี 2521 ประมาณ 73 เรื่อง ไชยา สุริยัน เป็นพระเอก 3 ตุ๊กตาทองที่จับคู่แสดงกับนางเอกหลายคน เช่น อมรา อัศวนนท์ อรัญญา นามวงศ์ สุทิศา พัฒนุช นัยนา ชีวานันท์ รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ภาวนา ชนะจิต ฯลฯ แต่ที่แสดงคู่กันมากที่สุด นับได้ประมาณ 13-14 เรื่อง ก็คือ พิศมัย วิไลศักดิ์ และ เพชรา เชาวราษฎร์ แม้ว่า หนังที่ไชยา-พิศมัย หรือไชยา-เพชรา จับคู่เป็นพระเอก-นางเอก จะเป็นที่ถูกใจคนดูอย่างมาก แต่เนื่องจากช่วงนั้น เพชราก็จับคู่กับ มิตร ชัยบัญชา พระเอกอีกคนหนึ่งด้วย ทำให้คะแนนเทไปทางคู่มิตร-เพชรา มากกว่า จึงต้องพิจารณาว่า ไชยา-พิศมัย ควรได้เป็นคู่พระ-คู่นางหรือไม่ พิจารณาจากจำนวนหนังที่ไชยา-พิศมัย เป็นพระเอก-นางเอกแล้ว ยังมีปริมาณน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนหนังที่ไชยาเป็นพระเอกทั้งหมด ยิ่งเทียบกับดารารุ่นน้อง ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่า ปริมาณยิ่งน้อยลงไปอีก ดังนั้น จึงยังไม่ขอเรียก ไชยา-พิศมัย ว่าเป็นดาราคู่พระ-คู่นาง แม้ว่า คู่นี้จะมีหนังที่โดดเด่นหลายเรื่องเช่น ผู้ชนะสิบทิศ เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ธนูทอง เป็นต้น


ไชยา สุริยัน

3. มิตร ชัยบัญชา เปิดตัวเป็นพระเอกครั้งแรกเมื่อปี 2501 จากเรื่อง ชาติเสือ แล้วก็แสดงติดต่อกันเรื่อยมา เริ่มจับคู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ เมื่อปี 2505 จากหนังเรื่อง บันทึกรักของพิมพ์ฉวี หนังที่มิตร ชัยบัญชา แสดงนั้นจะมีชื่อมิตรขึ้นนำในใบปิดเสมอ ซึ่งนับจากปี 2501 ถึงปี 2513 มีประมาณ 266 เรื่อง ผ่านการแสดงคู่กับนางเอกหลายคนเช่น ปรียา รุ่งเรือง พิศมัย วิไลศักดิ์ อรัญญา นามวงศ์ สุทิศา พัฒนุช โสภา สถาพร ปริศนา ชบาไพร ฯลฯ แต่ที่แสดงคู่กันมากที่สุดก็คือ เพชรา เชาวราษฎร์ นับได้ประมาณ 166 เรื่อง เมื่อพิจารณาจำนวนหนังที่ มิตร-เพชรา แสดงคู่กันแล้ว เห็นว่า มีจำนวนมากพอ เข้าหลักเกณฑ์ที่จะเป็นดาราคู่พระ-คู่นาง ได้แล้วและเนื่องจากมีหนังมิตร-เพชรา ที่ถูกอกถูกใจคนดูมากๆ เช่นเรื่อง นกน้อย เงินเงินเงิน อัศวินดาบกายสิทธิ์ แสนรัก มนต์รักลูกทุ่ง อินทรีทอง เป็นต้น จึงนับว่า มิตร-เพชรา เป็นดาราคู่พระ-คู่นาง ที่ก้าวผ่านไปสู่การเป็น ดาราคู่ขวัญ คู่แรกของวงการหนังไทยแล้ว


มิตร ชัยบัญชา - เพชรา เชาวราษฎร์

4. สมบัติ เมทะนี เข้าวงการมาเมื่อปี 2504 จากเรื่อง รุ้งเพชร นับจากปี 2504 ถึงปี 2528 มีชื่อสมบัติ เมทะนี ขึ้นนำเป็นพระเอกอยู่ในใบปิดหนังประมาณ 570 เรื่อง ผ่านการแสดงคู่กับนางเอกมาแทบทุกคน แต่ 3 นางเอกที่แสดงคู่กันมากที่สุด ก็คือ อรัญญา นามวงศ์ มีประมาณ 164 เรื่อง เพชรา เชาวราษฎร์ มีประมาณ 87 เรื่องและพิศมัย วิไลศักดิ์ มีประมาณ 64 เรื่อง เห็นว่า นางเอก 3 คนนี้แม้จะเข้าวงการมาในเวลาใกล้เคียงกัน แต่มีเพียง อรัญญา นามวงศ์ ที่ยืนระยะเวลาแสดงเป็นนางเอกคู่กันได้ยาวนานกว่านางเอกคนอื่นๆ จึงขอยกให้ สมบัติ-อรัญญา เป็นดาราคู่พระ-คู่นาง และเมื่อพิจารณาผลงานโดยรวมที่ สมบัติ-อรัญญา แสดงคู่กันแล้วเห็นว่า มีหลายเรื่องเป็นที่ถูกอกถูกใจคนดูมากพอควร เช่นเรื่อง เกาะสวาทหาดสวรรค์ ตลาดอารมณ์ นักเลงเทวดา ฯลฯ จึงสมควรให้ สมบัติ-อรัญญา เป็นดาราคู่ขวัญ อีกคู่หนึ่งของวงการหนังไทย


สมบัติ เมทะนี - อรัญญา นามวงศ์

5. ครรชิต ขวัญประชา เป็นดารารุ่นน้องที่ มิตร ชัยบัญชา หมายมั่นปั้นมือจะให้ขึ้นเป็นพระเอกแทน ครรชิตเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2510 จากหนังเรื่อง นักเลงพันเหลี่ยม และมีชื่อเป็นพระเอกเต็มตัวเมื่อปี 2514 ถึงปี 2516 แสดงคู่กับนางเอกหลายคน เช่น อรัญญา นามวงศ์ ดวงใจ หทัยกาญจน์ สุทิศา พัฒนุช พิศมัย วิไลศักดิ์ ฯลฯ แต่นางเอกที่แสดงร่วมกันมากที่สุดประมาณ 15 เรื่องก็คือ เพชรา เชาวราษฎร์ แต่ระยะเวลาที่ ครรชิต ยืนเป็นพระเอกนั้นสั้นเกินไป ทั้งยังจับคู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ ซึ่งเคยเป็นนางเอกคู่กับ มิตร ชัยบัญชา มาก่อน ทำให้หนังครรชิต-เพชรา ยังดูน้อยเกินไปเมื่อเทียบพระเอกคนอื่น ดังนั้น คู่ ครรชิต-เพชรา จึงยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะเรียกว่า เป็นดาราคู่พระ-คู่นาง


ครรชิต ขวัญประชา


6. กรุง ศรีวิไล เปิดตัวแสดงหนังเรื่องแรกเมื่อปี 2514 คู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ เรื่อง ลูกยอด หากนับเฉพาะใบปิดหนังที่ขึ้นชื่อ กรุง ศรีวิไล เป็นพระเอกตั้งแต่ปี 2514 จนถึงปี 2526 จะมีประมาณ 165 เรื่อง ในจำนวนนี้มีนางเอกแสดงคู่กันหลายคน เช่น ภาวนา ชนะจิต ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ฯ มยุรา ธนบุตร เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ฯลฯ ส่วนใหญ่จะแสดงคู่กันเพียงคนละไม่กี่เรื่องและมักจะเป็นการประกบดารา มีแต่เพียง อรัญญา นามวงศ์ เท่านั้นที่แสดงคู่กันมากที่สุดประมาณ 19 เรื่อง ซึ่งจะอยู่ในช่วงปี 2518 ถึงปี 2521 เมื่อนับจำนวนหนังที่ กรุง-อรัญญา แสดงคู่กันแล้ว เห็นว่า ยังมีจำนวนน้อยกว่าพระเอกคนอื่น จึงยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะเรียกว่า เป็นดาราคู่พระ-คู่นางกัน


กรุง ศรีวิไล

7. นาท ภูวนัย เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2514 กับ เพชรา เชาวราษฎร์ เรื่อง แม่ศรีไพร ส่วนใหญ่มักจะเป็นการแสดงประกบพระเอกคนอื่นๆ หนังที่ นาท ภูวนัย ขึ้นชื่อเป็นพระเอกมีประมาณ 25 เรื่อง นางเอกที่แสดงคู่กัน เช่น ดวงนภา อรรถพรพิศาล ภาวนา ชนะจิต ธัญญรัตน์ โลหะนันท์ นัยนา ชีวานันท์ ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ฯ ปิยะมาศ โมนยะกุล ภัทราวดี ศรีไตรรัตน์ มยุรา ธนะบุตร วันดี ศรีตรัง ศิริขวัญ นันทศิริ อรัญญา นามวงศ์ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะสลับคู่นางเอกกันไปมา เฉลี่ยแล้วได้แสดงร่วมกันเพียงคนละไม่กี่เรื่อง จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะเป็นดาราคู่พระ-คู่นาง


นาท ภูวนัย

8. ไพโรจน์ ใจสิงห์ เข้าวงการมาเมื่อปี 2514 จากหนังเรื่อง ดวง ส่วนใหญ่จะเป็นการประกบพระเอกคนอื่นๆ เฉพาะที่ยืนเป็นพระเอกนับได้ถึงปี 2522 มีประมาณ 33 เรื่อง เป็นการแสดงสลับคู่นางเอกกันไปมาระหว่าง วันดี ศรีตรัง นัยนา ชีวานันท์ ปริศนา ชบาไพร พิศมัย วิไลศักดิ์ อรัญญา นามวงศ์ สุคนธ์ทิพย์ เสนะวงศ์ ฯลฯ ซึ่งมีคนละไม่มากนัก ไม่มีนางเอกคนใดโดดเด่นกว่ากัน จึงยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาว่า เป็นดาราคู่พระ-คู่นางหรือไม่


ไพโรจน์ ใจสิงห์

9. ยอดชาย เมฆสุวรรณ เข้าวงการเมื่อปี 2514 จากเรื่อง น้ำใจพ่อค้า คู่กับ ดีเสวต นางเอกจากกัมพูชา ยอดชายแสดงเป็นพระเอกจนถึงปี 2520 ผ่านการแสดงคู่กับนางเอกหลายคนเช่น เพชรา เชาวราษฎร์ วันดี ศรีตรัง สุคนธ์ทิพย์ เสนะวงศ์ สุทิศา พัฒนุช สุภัค ลิขิตกุล อรัญญา นามวงศ์ ลักษมี เพ็ญแสงเดือน ฯลฯ แต่ที่แสดงเป็นนางเอกคู่กันมากที่สุดประมาณ 22 เรื่องก็คือ ภาวนา ชนะจิต หนังที่โดดเด่นคือ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ จินตะหรา มีปัญหาว่า ยอดชาย-ภาวนา สมควรได้เป็นดาราคู่พระ-คู่นางหรือไม่ เห็นว่า แม้จำนวนหนังที่ยอดชายเป็นพระเอกจะมีประมาณ 68 เรื่อง แต่ก็จับคู่กับภาวนามากกว่านางเอกคนใดในรุ่นเดียวกัน จึงถือได้ว่า ยอดชาย-ภาวนา ผ่านเข้าไปเป็นดาราคู่พระ-คู่นาง แล้ว


ยอดชาย เมฆสุวรรณ - ภาวนา ชนะจิต

10. สรพงษ์ ชาตรี เริ่มเป็นพระเอกครั้งแรกเมื่อปี 2514 จากเรื่อง มันมากับความมืด สรพงษ์มีชื่อเป็นพระเอกในใบปิดหนังถึงปี 2539 นับได้ประมาณ 458 เรื่อง ผ่านการแสดงคู่กับนางเอกมาหลายคน แต่ที่แสดงคู่กันมากที่สุดประมาณ 66 เรื่อง คือ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ แต่การจับคู่ระหว่าง สรพงษ์-จารุณี ซึ่งมีประมาณ 39 เรื่อง กลับเป็นหนังที่โดดเด่นกว่า เช่นเรื่อง รักแล้วรอหน่อย เสือภูเขา ช่างเขาเถอะ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีหนังที่สรพงษ์จับคู่ครั้งแรกกับ นันทนา เงากระจ่าง ในเรื่อง แผลเก่า ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนสร้างประวัติการณ์ให้กับวงการหนังไทย จึงมีปัญหาว่า นางเอกคนใดจะเป็นดาราคู่พระ-คู่นางของ สรพงษ์ ชาตรี หากดูตามหลักเกณฑ์ที่เราตั้งไว้ ก็ต้องนับจากจำนวนหนังที่แสดงร่วมกันมากที่สุดซึ่งได้แก่ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ แต่ คู่สรพงษ์-เนาวรัตน์ จะผ่านเข้าไปเป็นดาราคู่ขวัญได้หรือไม่ ปัญหาอยู่ที่ว่า ในจำนวนหนังที่ สรพงษ์-เนาวรัตน์ จับคู่กันและหนังที่ สรพงษ์-จารุณี จับคู่กันนั้น เมื่อวัดจากกระแสความนิยมในยุคนั้นแล้วเห็นได้ว่า กระแสหนัง สรพงษ์-จารุณี ยังไม่เป็นรอง สรพงษ์-เนาวรัตน์ ซึ่งเป็นตัวดึงให้ คู่สรพงษ์-เนาวรัตน์ ไม่อาจผ่านความนิยมขึ้นไปเป็นดาราคู่ขวัญได้


สรพงษ์ ชาตรี - จารุณี สุขสวัสดิ์

11. ไพโรจน์ สังวริบุตร พระเอกวัยรุ่นในช่วงปี 2519 จากเรื่อง วัยอลวน แสดงคู่กับ ลลนา สุลาวัลย์ นางเอกใหม่เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ ไพโรจน์-ลลนา ถูกจับตามองตั้งแต่แรกว่า จะต้องเป็นดาราคู่พระ-คู่นาง คู่ใหม่ ไพโรจน์มีชื่อแสดงนำเป็นพระเอกอยู่ประมาณ 47 เรื่อง ผ่านการแสดงคู่กับนางเอกหลายคนเช่น จารุณี สุขสวัสดิ์ จินตหรา สุขพัฒน์ สินจัย หงส์ไทย ใหม่ เจริญปุระ ฯลฯ แต่ที่แสดงคู่กับ ลลนา สุลาวัลย์ มีประมาณ 9 เรื่อง ในขณะที่แสดงคู่กับ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ มากที่สุด ประมาณ 12 เรื่อง ทำให้ ไพโรจน์-ลลนา ไม่อาจจะเป็นดาราคู่พระ-คู่นาง ได้และขณะเดียวกัน ไพโรจน์-เนาวรัตน์ ก็ยังไม่เข้าเกณฑ์  เป็นดาราคู่พระ-คู่นางเพราะเนาวรัตน์เคยแสดงหนังกับพระเอกคนอื่นๆ มามากกว่านี้

[/url]
ไพโรจน์ สังวริบุตร - ลลนา สุลาวัลย์

12. จตุพล ภูอภิรมย์ แจ้งเกิดเมื่อปี 2520 จากเรื่อง ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพระเอกสังกัดค่ายไฟว์สตาร์โปรดักชั่น เป็นพระเอกมาถึงปี 2524 ประมาณ 19 เรื่อง จึงเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ นางเอกที่แสดงคู่กันมากที่สุดนับได้ประมาณ 6 เรื่องก็คือ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ หนังที่โดดเด่นเช่น ภูตพิศวาส ทัดดาวบุษยา ซึ่งคู่ จตุพล-เนาวรัตน์ ก็ยังไม่อาจเรียกว่า เป็นดาราคู่พระ-คู่นางได้เช่นกัน


จตุพล ภูอภิรมย์

13. ทูน หิรัญทรัพย์ เปิดตัวเป็นพระเอกครั้งแรกคู่กับ ลินดา ค้าธัญเจริญ เมื่อปี 2523 จากเรื่อง แก้ว ทูนมีชื่อเป็นพระเอกเรื่อยมาจนถึงปี 2528 นับได้ประมาณ 102 เรื่อง แสดงคู่กับนางเอกหลายคน เช่น อาภาพร กรทิพย์ อภิรดี ภวภูตานนท์ สุพรรษา เนื่องภิรมย์ สินจัย หงส์ไทย ม.ล.สุรีย์วัล สุริยง มนฤดี ยมาภัย ฤทัยรัตน์ อมตะวานิชย์ ปิยะมาศ โมนยะกุล ศิริพร เอี่ยมสุนทร ฯลฯ แต่ที่แสดงคู่กันมากที่สุดประมาณ 26 เรื่องก็คือ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ รองลงมาประมาณ 22 เรื่องก็คือ จารุณี สุขสวัสดิ์ หากพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็บอกได้ว่า ทูน-เนาวรัตน์ เป็นดาราคู่พระ-คู่นางกัน

14. ฉัตรชัย เปล่งพานิช มีชื่อเป็นพระเอกมาตั้งแต่ปี 2524 นับได้ประมาณ 47 เรื่อง นางเอกที่แสดงคู่กันเป็นประจำ กลับไม่ค่อยมี หนังส่วนใหญ่ก็เป็นหนังแนวบู๊เอาใจสายหนังต่างจังหวัดเป็นหลัก คู่นางเอกของฉัตรชัยจึงยังไม่มีใครโดดเด่นเพียงพอที่จะขึ้นมาเป็นดาราคู่พระ-คู่นางได้

15. พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นพระเอกอีกคนหนึ่งที่ถูกปั้นให้มาคู่กับ จารุณี สุขสวัสดิ์ เมื่อปี 2527 จากเรื่อง เลดี้ฝรั่งดอง จากปี 2528 ถึงปี 2529 พร้อมพงศ์ก็เป็นพระเอกคู่กับ จารุณี สุขสวัสดิ์ อีกประมาณ 11 เรื่อง แต่ก็ไม่สามารถฝ่าฟันกระแสหนังวัยรุ่นแนวใหม่ได้ จึงยังไม่ถือว่าเป็นดาราคู่พระ-คู่นาง

         ประมาณปี 2530 สันติสุข พรหมศิริ เป็นพระเอกใหม่วัยรุ่นแจ้งเกิดจับคู่กับ จินตหรา สุขพัฒน์ มีหนังแสดงร่วมกันถึงปี 2538 ประมาณ 34 เรื่อง มีทั้งหนังวัยรุ่น หนังตลก หนังชีวิต เรียกว่า เป็นการหวนคืนสู่การจับคู่แบบดาราคู่พระ-คู่นางกันอีกครั้ง ทั้งยังมีหนังหลายเรื่องเป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนๆ ด้วย จึงกล่าวได้ว่า สันติสุข-จินตหรา เป็นดาราคู่พระ-คู่นาง ที่ก้าวเข้าสู่การเป็นดาราคู่ขวัญ ซึ่งอาจจะเป็นคู่สุดท้ายของวงการหนังไทยก็ได้


สันติสุข พรหมศิริ - จินตหรา สุขพัฒน์

          เพราะหลังจากหมดยุค สันติสุข-จินตหรา แล้ว ดาราหนังส่วนใหญ่จะแสดงหนังกันเพียงคนละไม่กี่เรื่อง แม้ว่า หนังบางเรื่องที่แสดงนั้นจะสามารถทำเงินได้สูงสุดหรือเป็นหนังที่ได้รับการยกย่องก็ตาม แต่การยืนระยะของดาราเหล่านั้น ก็เป็นเพียงเวลาสั้นๆ จึงยังไม่เข้าลักษณะเป็นดาราคู่พระ-คู่นางหรือดาราคู่ขวัญอีกเลย

--------------


           ช่วงนี้เป็นการปัดฝุ่น หาบทความเก่าๆ ที่เขียนไว้ในนิตยสารเก่าๆ หลายปีมาแล้วบ้าง.. บทความที่เคยเขียนในเว็บบอร์ดไทยฟิล์มบ้าง บทความที่เขียนในเฟสบุ๊กยุคแรกๆ ที่ปิดไปบ้าง กลับมาโพสใหม่อีกครั้งนะครับ.. บทความนี้ตอนนั้น ผมเคยตั้งชื่อไว้ว่า ฟันธง.. คู่ขวัญหนังไทย ครับ..  ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน มาแสดงความคิดเห็นครับ....

Kob Kobkob ระหว่าง สมบัติ เมทะนี -พิศมัย วิไลศักดิ์ แล ไชยา สุริยัน-พิศมัย วิไลศักดิ์ พระเอกท่านใดที่ คนนิยมให้แสดงคู่ -พิศมัย วิไลศักดิ์ จะใช่ สมบัติ เมทะนี หรือไหม่ เพราะเห็นว่าแสดงคู่พิศมัย วิไลศักดิ์ มากกว่าพระเอกท่านอื่น

           คำว่า ดาราหรือนักแสดง นั้น แต่ละท่านต่างมีคุณค่า มีความหมายต่อประวัติศาสตร์หนังไทยทั้งสิ้นครับ แต่ตอนที่ผมเขียนบทความนี้นั้น ผมต้องการเจาะให้เห็นถึงความนิยมของแฟนภาพยนตร์ที่มีต่อดาราหนังไปถึงขั้นสูงสุดคือ การเป็นดาราคู่ขวัญ.. ก็เลยจำเป็นต้องมีเรื่องของการจับคู่แสดงหนัง ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีปริมาณตัวเลขหนังที่ออกฉายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย..จึงต้องแบ่งการเขียนออกมาเป็นว่า อย่างแรกต้องหาให้ได้ว่า ใครจะเป็นดาราที่เรียกว่าเป็น พระเอก-นางเอก.. ก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ ก้าวเข้าไปถึงขึ้นที่เรียกว่าเป็น “คู่พระ-คู่นาง” ซึ่งข้อนี้ก็จะดูว่า พระเอก-นางเอกท่านใด จับคู่กันบ่อยๆ มีปริมาณหนังมากขนาดไหน.. ก็จะเรียกว่าเป็น คู่พระ-คู่นาง..และหากการจับคู่ของท่านเหล่านั้นมีผลงานเป็นที่ถูกอกถูกใจหลายๆ เรื่องแล้ว ก็จะได้เป็น "ดาราคู่ขวัญ".. ครับ..

           ฉะนั้น ปริมาณหนังที่ออกฉายจึงเป็นตัวที่ทำผมไม่ได้เขียนถึงดาราท่านอื่นๆ ที่ยืนระยะเวลาการเป็นพระเอก-นางเอกได้ไม่นานครับ.. อย่างไรก็ตาม ยังมีดาราอีกหลายท่านที่ผมเคยเขียนถึงแล้ว ลองคลิกไล่ดูจากลิงค์สารบัญต่างๆ ที่ผมจัดเตรียมไว้ให้ข้างต้นแล้วครับ..อยู่กระทู้บนสุดที่ปักหมุดไว้นะครับ.. ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะครับ...รวม...ลิงค์สารบัญ ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์

คลิกดู.. รวม...ลิงค์สารบัญ ชุมทางหนังไทยในอดีต โดย มนัส กิ่งจันทร์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=262431557234822&set=o.156185157894883&type=1&theater

Surapong Aod ปี 2514 พระเอกใหม่เยอะมาก ร่วม 20 คนได้เลย ไม่เฉพาะพระเอกเท่านั้น นางเอกใหม่ก็เกิดใหม่ไม่น้อย นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของวงการภาพยนตร์ไทย หลังการเสียชีวิตของพระเอกยอดนิยมอับดับ 1 ตลอดกาลอย่าง มิตร ชัยบัญชา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2513 ซึ่งยุคสุดท้ายของเขา พระเอกแทบจะเหลือแค่ 2 คนเท่านั้น (ที่ขายได้) คือ มิตร กับ สมบัติ พอมิตรตาย เหลือสมบัติคนเดียว คงไม่ไหวแน่ (ต้องปั้นครรชิตขึ้นมาจากพระรอง และดันไชยา กับ ลือชัย ที่ดับไปแล้ว มาช่วยวงการแต่ก็ยังไม่เพียงพอ) ผู้สร้าง,ผู้กำกับ,แมวมองทั้งหลาย เลยต้องค้นหาพระเอกใหม่ขนานใหญ่เพื่อขึ้นมาประดับวงการ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของวงการภาพยนตร์ไทย เราเสียมิตรไป แต่ได้พระเอก-นางเอก กลับมาให้วงการอีกมากมายหลายสิบคน ทั้ง ไพโรจน์(ใจสิงห์) - ยอดชาย/นาท/กรุง/สรพงษ์/ขวัญชัย สุริยา/ระพิน ไพรวัลย์/ชัช ชัยบัญชา/นล นเรนทร์/สันติ คราประยูร/ชาติ ชัยภูมิ ฯลฯ นางเอกอาจน้อยกว่า แต่ก็มีหลายคน เช่น นัยนา/วนิดา/ดวงใจ/ดวงดาว/ลักษมี ฯ เป็นอีก 1 ในปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย

ขุนพล บูรพา ทศพร นานามั่นคง จัดให้ครับ "ชาติ ชัยภูมิ" ที่มาแสดงแทน "มิตร ชัยบัญชา" ครับ (เครดิตภาพโดย...FB เรื่องย่อหนังไทยในอดีต)


"ชาติ ชัยภูมิ"

Weerawat Intaraporn ชอบทูนจารุณีครับ ถ้าใช้ศัพท์สมัยนี้ก็ต้องว่าเคมีเข้ากัน คุณปู่ซู่ซ่า คุณย่าเซ็กซี่ แต่ทูนกับจารุณีไม่เยอะ ย้อนนึกๆ เหมือนจารุณีจะเป็นฝ่ายดันพระเอกหลายคนให้ดังนะครับ นอกจากทูน ก็มีพอเจตน์ ไกรสร ช่วงท้ายๆ ก็ พร้อมพงศ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ธันวาคม 2014, 18:42:54 โดย นายเค »


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได