บทที่ 633 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ ไผ่สีทอง (2522 สรพงศ์-สุพรรษา)

[นายเค]

บทที่ 633
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
ไผ่สีทอง (2522 สรพงศ์-สุพรรษา)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 23 ธันวาคม 2557)


         สวัสดีครับทุกท่าน.. เมื่อ 35 ปีที่แล้ว มีหนังรักเศร้าๆ อยู่เรื่องหนึ่งที่คนทางภาคอีสานชื่นชอบกันมาก..  ตอนนั้น ผมน่าจะกำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (รุ่นนั้นมีเรียนถึงแค่ชั้น ม.ศ.5 ครับ) ก่อนที่หนังจะมาฉาย สถานีวิทยุกระจายเสียงก็จะออกอากาศเป็นละครวิทยุให้ฟังก่อน.. ฟังกันวันละตอนๆ ละประมาณ 30 นาที ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สมัยนั้น ใครเป็นคนจัดให้มีละครวิทยุที่เป็นหนังแบบนี้ จะว่าเป็นโรงหนัง ก็ไม่น่าใช่.. จะว่าเป็นเจ้าของหนัง ก็ไม่จะน่าใช่อีกเพราะหนังพวกนี้เขาขายออกต่างจังหวัดไปแล้ว จะขายขาดให้กับสายหนังไปจัดการกันเอง ระหว่างฟังละครวิทยุ ก็จะมีโฆษณาคั่นรายการด้วย เข้าใจว่าจะเป็นกลุ่มคนที่ซื้อเวลาจากสถานีวิทยุไว้และใช้ละครวิทยุมาเป็นวัตถุดิบในการจัดรายการมากกว่า..

         ละครวิทยุเรื่อง ไผ่สีทอง นั้น ออกอากาศจนชาวบ้าน แม่ค้าพ่อขาย ติดกันงอมแงมครับ..พอถึงเวลาที่ละครวิทยุจะมา ทั้งตลาด บ้านช่องต่างๆ ก็จะพากันเปิดวิทยุกระเป๋าหิ้วกันสนั่นเรียกว่า เดินผ่านไปทางไหน ก็ได้ยินแต่เสียงละครวิทยุเรื่อง ไผ่สีทอง..ครับ.. บ้านผมก็เช่นกัน คุณแม่ก็ชอบฟังละครวิทยุ ผมก็ต้องฟังด้วยเพราะมีวิทยุอยู่เครื่องเดียว ฟังไปฟังมา ชักสนุกแฮะ.. เพราะเป็นความรักของพระเอกจนๆ ที่หมายปองดองฟ้าลูกสาวเจ้านาย..แถมยังมีเพลงเพราะๆ ให้ฟัง..มีกลอนแปดที่พระเอกเฝ้ารำพันถึงนางเอก.. ละครแบบนี้แหละที่คนต่างจังหวัดเขาชอบฟัง ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่า ใครจะมาเป็นพระเอก-นางเอก ก็ได้แต่เฝ้ารอว่า เมื่อไหร่ละครเรื่องนี้เขาจะออกมาเป็นหนังสักที แต่ภายหลังมารู้ความจริงว่า ละครวิทยุแบบนี้นั้น เขามักจะสร้างเป็นหนังฉายโรงอยู่แล้ว แต่กว่าจะมาถึงต่างจังหวัด อาจใช้เวลาเป็นเดือนๆ ละครวิทยุก็เลยมาถึงก่อนนะครับ..

         ก็อย่างที่บอกครับ ละครวิทยุเรื่อง ไผ่สีทอง ได้รับความนิยมอย่างมาก เมื่อหนังเดินทางมาถึงโรงในจังหวัดสุรินทร์ พอเข้าโปรแกรมฉาย ก็เลยเป็นอะไรที่มีคนอยากดูมากๆ อย่างหนึ่งก็เพราะต้องการจะรู้ว่า พระเอก-นางเอกจะเล่นได้ดีเหมือนอย่างที่ฟังจากละครวิทยุหรือเปล่า.. ไผ่สีทอง นำแสดงโดย สรพงศ์-สุพรรษา-นิรุตติ์-รุ่งนภา-ธม-สุรชาติ-สมพงษ์..สร้างโดย วีรกรณ์โปรดักชั่น โดย ฉวีวรรณ วูวงศ์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง.. กำกับการแสดงโดย แสนยากร ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2522 ที่โรงหนังโคลีเซี่ยม-พาราเมาท์..

         เมื่อหนังรอบแรกผ่านไป ก็เริ่มมีเสียงลือเสียงเล่าถึงความดีของหนังบ้าง ความน่ารักของนางเอกใหม่ สุพรรษา เนื่องภิรมย์ บ้าง.. ความน่าสงสารที่พระเอกต้องมากระอักเลือดจนตัวตายบ้าง.. ตอนนั้น เรื่องย่อหนังก็รู้ๆ กันหมดแล้ว คนที่ไปดูหนังมาก่อน ก็ยังมาเล่าบอกอีกว่า หนังเริ่มต้นอย่างไร จบอย่างไร แต่คนสมัยนั้นก็ไม่ค่อยจะเคร่งเครียดอะไรนัก ยังคงไปดูหนังด้วยความสุข ความชอบเหมือนเดิม..ตอนนั้น ผมเองก็เริ่มไปช่วยเพื่อนฉายหนังกลางแปลงแล้ว ก็ได้แต่คิดว่า ทำอย่างไร เถ้าแก่(พ่อเพื่อน)จะซื้อหนังเรื่องนี้มาฉายบ้าง ถ้าได้ฉายหนังรับรองว่า บริการหนังเราต้องดังแน่ๆ แต่สุดท้ายก็มีบริการหนังอื่นซื้อไปฉาย.. เรื่องราวของ ไผ่สีทอง จึงค่อยๆ เลือนรางไป..

         ผมเริ่มมาคิดถึง ไผ่สีทอง อีกครั้งหนึ่ง ก็ราวๆ ปี 2528 ที่กระแสวีดีโอเทปเริ่มระบาดหนักๆ ก็พยายามไปหาเช่าม้วนวีดีโอเรื่องนี้มาดู แต่ก็ไม่มีให้เช่า.. รอเรื่อยมาจนเบื่อจะรอแล้ว..  กระทั่งปี 2541 ผมมารู้จักกับคุณโต๊ะพันธมิตร ซึ่งตอนนั้นจะนำหนังเรื่อง อัศวินดาบกายสิทธิ์ มาฉายในงานรำลึก 28 ปีมิตร ชัยบัญชา ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง..ก็เลยรู้ว่า คุณโต๊ะพันธมิตร ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบหนังเรื่อง ไผ่สีทอง.. แล้วแกก็แอบซุ่มเงียบไปหาฟิล์มเนกาตีฟเรื่องนี้มาแปลงเป็นม้วนวีดีโอเทปและนำออกจำหน่ายครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2542 ที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง (ตอนนั้นทำวีดีโอ 3 เรื่องคือ อินทรีทอง-ชุมแพ-ไผ่สีทอง) นั่นแหละครับ ผมถึงได้ดู ไผ่สีทอง อีกครั้ง

         การได้กลับมาดู ไผ่สีทอง อีกครั้ง ก็ทำให้ผมเห็นรายละเอียดของหนังมากขึ้นเพราะสมัยก่อนการดูหนังในโรงหนัง (พัดลม) หรือดูหนังกลางแปลง ผู้คนมากมาย บางครั้งเราก็เผลอเหลือบไปมองสิ่งอื่นๆ บ้าง ก็เลยไม่เห็นรายละเอียดบางอย่าง..แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ ความชอบในเนื้อหนัง ชอบเพลง รักตรึงใจ (เพลงเอกของเรื่อง) ที่สมัยนั้นเพื่อนนักเรียนพากันเอากีตาร์โปร่งมาดีด มาร้องเพลงนี้กันเป็นแถวๆ แม้แต่คำกลอนแปดที่ขึ้นต้นว่า

“ถ้าถามว่า ข้ารัก มากแค่ไหน
จะขอให้ สัจจา ประสาซื่อ
หัวใจพร้อม ถอดวาง กลางฝ่ามือ
แล้วยื่นถือ ให้นาง อย่างเต็มใจ..”

         ก็เป็นคำกลอนยอดฮิตในยุคนั้น ที่หนุ่มๆ แอบจำไปจีบสาวๆ ด้วย ผมว่า ใครยังไม่เคยดู ก็ลองหามาดูนะครับ.. ส่วน สุพรรษา เนื่องภิรมย์ นั้น มีชื่อเล่นว่า ษา เกิดที่กรุงเทพมหานคร ขณะเรียนชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนสตรีนนทบุรี เพื่อนของคุณพ่อเห็นหน้าตาเข้าที น่าจะเป็นนางเอกหนังได้ จึงพาสุพรรษาไปฝากกับคุณนายแดง จิรวรรณ กัมปนาทแสนยากร เจ้าของค่ายจิรบันเทิงฟิล์ม จึงได้แสดงหนังเรื่องแรกคือ รอยลิขิต ซึ่งเป็นการร่วมสร้างระหว่างไฟว์สตาร์โปรดักชั่นกับจิรบันเทิงฟิล์ม มี พอเจตน์-อำภา เป็นดารานำ ส่วนสุพรรษารับบทนักศึกษาสาวผู้มีใจกตัญญู แม้คนที่ตัวเองเรียกแม่มาตลอดเวลานั้นจะเป็นนางโจรก็ตาม

         ระหว่างกำลังสร้าง แสนยากร ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก็ยังได้กำกับสุพรรษาอีกเรื่องในบทบาทนางเอกเต็มตัวคู่กับ สรพงศ์ ชาตรี ในหนังรักเศร้าๆ เรื่อง ไผ่สีทอง แต่ปรากฏว่า ไผ่สีทอง เข้าฉายได้ก่อนในวันที่ 14 กรกฎาคม 2522 สุพรรษาจึงแจ้งเกิดทันทีจากเรื่องนี้ ขณะที่รอยลิขิตฉายถัดมาอีกเดือนในวันที่ 10 สิงหาคม 2522 ก็เป็นแรงเสริมที่ตอกย้ำภาพลักษณ์นางเอกสวยแสนดีให้กับสุพรรษามากยิ่งขึ้น คลิกฟังเพลง รักตรึงใจ ตามลิงค์นี้

------------------------

เรื่องย่อเรื่อง ไผ่สีทอง

แตง โปสเตอร์ อร๊ายยยยยยยยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดดดด หนังในดวงเลยค่ะเรื่องนี้ ชอบมากๆเลย ดูทีไรร้องให้น้ำตาท่วมจอ พระเอกตายตอนจบเดินออกจากโรงหนังน้ำตายังไหลอยู่เลย อิอิ ประทับใจกับหนังเรื่องนี้มากๆเลย เพลงก็เพราะค่ะ  นั่นไง 555 ดูเมื่อใหร่ก็ยังร้องให้ทุกครั้งเลยจ้าหน่อง อิอิ แต่ชอบน่ะ เพลงเพราะมากๆ แล้วคนพากษ์เสียงพี่ษา ฉากตอนจบที่ร้องเพลงให้พระเอกฟังอ่ะโอ๊ย..มันแบบบรรยายไม่ถูกเลยอ่ะเก่งมากๆเลย คนพากษ์

ภราดร ศักดา ใช่ครับพี่ดูสมัยก่อนร้องไหลน้ำตาออกเลย พอพี่โต๊ะมาทำ VCD ขาย มาดูอีกรอบโตแล้วยังน้ำตาชึ่มเลย

แตง โปสเตอร์ เรื่องไผ่สีทอง น่าจะไม่เคยทำเป็น DVD นะคะ เคยแต่เป็น VCD ค่ะ แต่ภาพก็OK ค่ะถือว่าชัด  มาสร้างใหม่ ก็เคยดูค่ะ แต่สู้ยุค พี่เอก แสดงไม่ได้ สมัยนั้น ดังมากๆเลยค่ะจำได้ว่าเคยฟังละครวิทยุ ด้วยค่ะ

Regis Madec DVD ไผ่สีทอง - http://www.thaifilm.com/imgUp.../reply1457991_1255678982.jpg

DVD ไผ่สีทอง

        สมัยนั้นทั้งละครวิทยุและหนังก็ดังพอๆ กัน.. แต่น่าเสียดายตอนที่เกิดยุคของวีดีโอเทปกลับไม่มีใครซื้อไปทำขาย.. นี่ถ้าไม่ใช่ความชอบส่วนตัวของคุณโต๊ะพันธมิตรที่ชอบเรื่องนี้มากๆ เราก็คงไม่ได้เห็นวีดีโอหรือดีวีดีเรื่องนี้หรอกครับ..และทราบว่าหลังจากเทเลซีนจากฟิล์มเป็นเทปเบต้าแล้ว ฟิล์มต้นฉบับก็เสียไปแล้วครับ..

        ในเรื่อง พระเอกคือ ไผ่ สีทอง ตายตอนจบ หนังเรื่องนี้ก็เช่นกันเกือบตายตามพระเอกไปด้วยครับ ถ้าคุณโต๊ะไม่ทำไว้..ยังจำภาพวันที่นำเทปวีดีโอชุดแรกวางขายที่โรงหนังศาลาเฉลิมกรุง..ปรากฏว่า ขายได้แต่เรื่อง อินทรีทอง..  ส่วน ชุมแพ กับ ไผ่สีทอง แทบไม่เตื้องเลย.. เสร็จงานมิตรปีนั้น ยอดขาย ไผ่สีทอง ได้ต่ำสุดครับและภาพรวมการขาย ก็ทำให้คุณโต๊ะถอดใจคิดจะเลิกทำวีดีโอขายเลย..ก็หยุดไปพักหนึ่งกระทั่งมาถึงยุคของแผ่นวีซีดีจึงหวนกลับมาทำ โครงการคิดถึงหนังไทย..ครับ