ชื่ออังกฤษ : A Gas Station
ปีที่เปิดตัว : 2559
วันที่เข้าฉาย : 8 ธ.ค. 2559
แนวหนัง : ดราม่า
ผู้กำกับ : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
นักแสดง : ปรมะ อิ่มอโนทัย, อาภา ภาวิไล, เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา
สร้างโดย : Thailand
จำหน่ายโดย : TrueVisions Original Pictures
เรื่องย่อ A Gas Station "ชีวิตมันเศร้า ต้องกินเหล้าเคล้าน้ำตา" เตรียมกับแกล้มและทิชชู่ให้พร้อม แล้วมานั่งร่ำสุรากับปั้นจั่น ใน "ปั๊มน้ำมัน"
คำเตือน : หนังเรื่องนี้เศร้ามากกกกกกก โปรดระวังน้ำตาท่วมโรง เตรียมพบกับปั้นจั่น ปรมะ, แม็กกี้ อาภา, ต่าย เพ็ญพักตร์ และ หนูจ๋า อชิรญาณ์
ณ ถนนริมท้องทุ่งนาแห้งแล้งห่างไกลความเจริญ มีปั๊มน้ํามันเล็กๆ เป็นปั๊มน้ํามันเดียวที่มีอยู่ในละแวกนี้ ที่นี่มีเจ้าของปั้มเป็นชายหนุ่มหล่อในชุดคาวบอย ชื่อ มั่น (ปรมะ อิ่มอโนทัย) เขาอาศัยอยู่คนเดียวเพื่อรอคอยคนรัก นก (อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา) ซึ่งหลังจากแต่งงานได้ไม่นานนกก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มั่นเฝ้ารอนกทุกวันด้วยความหวังว่าเธอจะกลับมาแม้เวลาจะผ่านไปปีแล้วปีเล่าก็ตาม
ในระหว่างนั้นก็มี เจ๊มัท (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) สาวใหญ่ในชุดไทยสีแดงสด นางเป็นแม่ค้าขับรถพุ่มพวงขายของชําอยู่ในหมู่บ้านที่เทียวมาหามั่น เอาข้าว เอาน้ํา เอาของใช้ต่างๆ มาให้เขาอยู่เสมอ และก็มี ฝน (อาภา ภาวิไล) เด็กสาวมัธยมต้นอายุ 15 ปี ในชุดเจ้าหญิงดิสนี่ย์ ที่มักจะขี่มอเตอร์ไซค์มาที่ปั๊ม เธอชอบมานั่งเล่าว่ามีใคร เรียนอยู่ห้องไหนมาจีบเธอบ้าง ถึงแม้มั่นจะไม่สนใจแต่เธอก็เล่าของเธอไป เหนื่อยก็ขี่รถกลับบ้าน ทั้งหมดก็ใช้ชีวิตประจําวันแบบนี้ไปเรื่อยๆ
“ชีวิตมันเศร้า ต้องกินเหล้าเคล้าน้ำตา” เตรียมกับแกล้มและทิชชู่ให้พร้อม แล้วมานั่งร่ำสุรากับปั้นจั่น ใน “ปั๊มน้ำมัน”
ความรักก็เหมือนกับศาสนาและการเมือง คือ การเชื่อโดยปราศจากเหตุผล ใช้เพียงความรู้สึกความศรัทธาเป็นที่ยึดเหนี่ยวนั้นจะทำให้ชีวิตมีเป้าหมายมีหลักให้จับให้ยึด แล้วคนเราก็จะยึดจะผูกจะมัดตัวเองไว้กับศรัทธานั้น ๆ เพื่อให้ตัวเองมีความสุข หนังเรื่องปั๊มน้ำมันก็ได้จำลองชีวิตสังคมเล็ก ๆ ที่ยึดมั่นถือมั่นในความรู้สึกความเชื่อในความรักซึ่งเราอาจจะมองว่าไม่มีเหตุผลทั้งที่ความจริงแล้วเมื่อคนเรามีความรักเหตุผลจะตามมาทีหลังความรู้สึกเสมอ เรานำเสนอคนที่มีความยึดมั่นถือมั่นจากเนื้อเรื่อง และเล่าผ่านเสื้อผ้าของตัวละครที่มีความสำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก ๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้เห็นความทุกข์ของการยึดติดกับความรัก ความเชื่ออย่างไม่มีเหตุผลแต่ในความทุกข์นั้นมันก็ยังมีความสุขอันสวยงามซ่อนอยู่ จะทุกข์จะสุขอยู่ที่เราเลือกชีวิตของเราเอง เพราะบางครั้งเราก็มักจะเลือก “ความสุขแบบทรมาน”