สวัสดีครับทุกท่าน.. วันนี้มารู้จักกับหนัง 16 มม.เรื่อง เจ็ดแหลก ปี 2501 ของป๋า ส.อาสนจินดา (หนึ่งต่อเจ็ด ภาค 3) กันนะครับ หนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในโครงการช่วยหนังของกลุ่มฯเราและก็ยังติดโผโหวตได้คะแนนเป็นลำดับที่ 2 (การนับคะแนน ยังไม่สิ้นสุดนะครับ) โดยฟิล์มหนังเรื่องนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากๆ ไม่มีเส้นฝนและโชดดีอย่างมากที่ยังมีบทพากย์หนังอยู่ครบถ้วน..ถ้าพากย์หนังเรื่องนี้ก็ไม่ต้องทำบทพากย์ครับ เหลือแต่การพากย์และวางแบ็กกราวด์ประกอบเท่านั้น..ความจริงแล้วพวกเราก็อยากให้หนัง 16 มม.ที่พวกเราหาฟิล์มมาได้ มีเสียงพากย์ทุกๆ เรื่องนะครับ แต่การพากย์หนัง ต้องใช้สตางค์ ก็เลยต้องขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยๆ กันตามมีตามเกิด ค่อยๆ พากย์กันไปทีละเรื่องตามแต่กำลังทรัพย์จะเอื้ออำนวยและเราก็นำไปฉายควบกับหนัง 35 มม.ที่มีเสียงในฟิล์มกันต่อไปนะครับ
เจ็ดแหลก นั้น เป็นหนังเก่ามากๆ ดาราในเรื่องต่างล้มหายตายจากกันไปหลายท่านแล้ว แต่พระเอกของเรื่องคือ คุณอาคม มกรานนท์ ยังอยู่ครับ เพื่อนๆ เราก็มีแนวคิดว่า ถ้าได้ฉายหนังเรื่องนี้ ก็จะลองเทียบเชิญคุณอาคม มกรานนท์ มาดูหนังด้วยกันกับพวกเรา..ไม่รู้ท่านจะสะดวกหรือเปล่าเพราะกลุ่มเรากับท่านก็ไม่เคยได้เจอะเจอกันเลย..ครับ ส่วนวันนี้ ผมนำใบปิด เจ็ดแหลก ที่ลงโฆษณาในหนังสือดาราเก่าๆ มาให้ดู เป็นภาพคุณอาคมกำลังถือปืนกลยิงศัตรู ก็เรียกว่า ยิงมากจนตัวเพี้ยนไปแหละครับ.. ถัดไปก็เป็นบทพากย์ตามด้วยไฟล์ภาพนิ่งจากฟิล์มซึ่งภาพจริงๆ จากฟิล์มที่จะฉาย จะสวยและคมชัดกว่านี้มากครับ..
ปี พ.ศ.๒๕๐๑ เจ็ดแหลก เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์พัฒนากร ผู้กำกับ: ส.อาสนจินดา นำแสดงโดย: อาคม มกรานนท์, อดุลย์ ดุลยรัตน์, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, วิภา วัฒนธำรงค์, ส.อาสนจินดา, จันตรี สาริกบุตร เรื่องนี้ ดาราแสดงเยอะมากๆ ครับ พระเอกก็ 7 นางเอกก็ 7 ผู้ร้ายก็ 7 อีก บางฉากก็ยังออกมายืนพร้อมๆ หน้ากันอีก ไม่รู้ว่าสมัยก่อนนักพากย์คนเดียว เขาพากย์สดๆ กันได้อย่างไร ผมว่า ยากมากๆ เลยครับ นอกจากนี้ ยังมีเสียงเอฟเฟคต่างๆ อีก เหนื่อยแทนนักพากย์จริงๆ ครับ.. ตัวหนังก็ยังอยู่นะครับ กำลังหาสตางค์พากย์เสียงครับ เอาไว้พากย์เสร็จ มาดูด้วยกันก็ได้นะครับ ผมก็ชอบดูหนังใกล้ๆ นักพากย์เหมือนกันครับ พยายามจะหัดเป็นนักพากย์แล้ว แต่ก็ไปไม่รอดครับ.. ถ้าพูดถึง 1 ต่อ 7 ผมได้พากย์เวอร์ชั่นแรกเท่านั้น สมัยหนัง 16 ม.ม. เจ้าของสายหนังจะดูว่าใครควรพากย์เรื่องไหน จากนั้นจะให้พากย์เดินสายไปเลย เรื่องหนึ่งๆก็ 6-7 เดือนเป็นอย่างน้อย ต้องพากย์สดทุกวัน ทุกรอบ จึงไม่ค่อยมีเวลาไปดูหนังเรื่องอื่น เวอร์ชั่นอื่นๆของ 1 ต่อ 7 ผมไม่ได้พากย์ และไม่ได้ดู ได้พากย์แต่ 7 แหลก เท่านั้นครับ สมัยหนังไทย 16 ม.ม. นักพากย์ส่วนมากจะกลัวหนังของป๋า ส. กันมาก ไม่อยากพากย์ เพราะต้องช่วยเด็กแบ็คกราวน์ทำเสียงปืน เสียงชกต่อย โดยเฉาะ ฉากยิงปืนกล สงสารคุณภาวนา ช่วยทำเสียงจนเป็นลมคาจอกลางแปลงที่สุพรรณ นึกแล้วขำครับ สมัยพากย์ประจำและอาศัยอยู่บ้าน ศุภชัย ที่คลองมอญ ตอนนั้น จอศุภชัยภาพยนตร์ฮอตมาก วันหนึ่งไปพากย์งานกลางแปลงที่วัดดอนหวาย ตอนกลางคืนฝนตก ลมแรง จอขาดลงมา ผมกับศุภชัยไปช่วยกันยกจอใหม่ ผมนุ่งผ้าขาวม้ากรำฝนเองเลย ขึ้นจอเสร็จก็ไปยืนข้างท่อไอเสียที่เครื่องปั่นไฟ เพราะมันหนาว อาศัยความร้อนจากท่อไอเสียช่วย เจ้ากรรม พัดลมที่เครื่องดันดูดชายผ้าขาวม้าผมลงไปติดเครื่อง เครื่องดับ ไฟมืด คนเลยไม่เห็นนักพากย์โป๊ ดีที่มีลิงช่วยไว้ได้ ศุภชัยเอาไปเล่าที่หลังเฉลิมกรุง คนฮากันกลิ้งเลย...
ความจริง ยังมีหนังไทยเก่าๆ อีกหลายเรื่องที่พวกเราได้มาเป็นฟิล์ม 16 มม.ไม่มีเสียง (บางเรื่องก็มีบทพากย์แล้ว บางเรื่องก็ไม่มีบทพากย์) ชุดนี้เรานำให้เพื่อนๆ สมาชิกช่วยกันโหวตก่อนว่า จะยอมร่วมลงทุนพากย์หนังเรื่องไหนและมานำฉายควบกับหนัง 35 มม.ก่อนนะครับ แต่ในใจนั้นคิดว่า ก็อยากจะพากย์ทุกๆ เรื่องเพราะไหนๆ หนังก็ยังอุตส่าห์เหลือฟิล์มกลับมาครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์ที่เพื่อนๆ จะร่วมด้วยช่วยกันนะครับ ถ้าช่วยกันหลายๆ คน ก็จะได้พากย์กันหลายๆ เรื่อง แต่ถ้าช่วยกันน้อย ก็คงต้องม้วนเสื่อกลับบ้านล่ะครับ ขอบคุณคุณเทพนภาที่จะช่วย คงต้องรอตัดสินใจเมื่อกำลังทรัพย์พร้อมนะครับ..
ความที่ เจ็ดแหลก นั้น ติดโผโหวตเรื่องหนึ่งด้วย เมื่อวานนี้ พวกเรา 4 คนก็เลยกลับเดินทางไปสระบุรี ไปขอฉาย เจ็ดแหลก อีกครั้งเพื่อปรับปรุงไฟล์ภาพให้เป็นระบบ HD ครับ.. บทพากย์ก็ถ่ายสำเนาชัดๆ มาสำรองไว้อีก ถ้าได้พากย์..
