รวมภาพนิ่งจากฟิล์ม 16 มม.เรื่อง เจ็ดแหลก (หนึ่งต่อเจ็ด ตอนที่ 3) ปี 2501

[มนัส กิ่งจันทร์]

        สวัสดีครับทุกท่าน.. เจ็ดแหลก เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งใน 11 เรื่องที่พวกเรากำลังขอแรงระดมทุนจากเพื่อนๆ ในการพากย์เสียงเพื่อจัดฉาย.. วันนี้ จึงนำภาพนิ่งจากฟิล์มหนังซึ่งพวกเราเพิ่งไปทำไฟล์ภาพเสร็จใหม่ๆ มาให้ชมกันนะครับ หนังยังอยู่ครบสมบูรณ์.. และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ภาพเก่าสำหรับเล่าอดีต..ถ้าเพื่อนๆ เห็นภาพ แล้วจำดาราท่านใดได้ ก็เชิญเล่าอดีตได้ตามสบายนะครับ..(คลิกดูภาพเพิ่มเติมได้อีก จะอยู่ในช่องแสดงความคิดเห็นนะครับ)

        เปิดเรื่องในสงครามเกาหลี..อาคม มกรานนท์ ยิงปืนข้ามวันข้ามคืน ฉากกลางคืน แต่สมัยก่อนเขาก็ถ่ายหนังกันตอนกลางวันนะครับ..

[มนัส กิ่งจันทร์]

          เปิดฉากในกระทรวงกลาโหม..ใครเป็นใครบ้างครับ อดุลย์ ดุลยรัตน์ กำลังก้มลงมองทหารตัวน้อยๆ ซึ่งถูกคนร้ายย่อส่วนมาเย้ยทหารไทย  เลขาฯหน้าห้อง ผู้บัญชาการกระทรวงกลาโหม.. นักแสดงชื่ออะไรใครทราบบ้าง เล่นจนจบเรื่อง  นี่ ก็นักแสดงหน้าใหม่ ใครทราบชื่อบ้าง.. เล่นจนจบเรื่องเหมือนกัน

[มนัส กิ่งจันทร์]

         คนซ้ายมือ มีคนบอกชื่อ เปิ่น ปฏิหาริย์.. ส่วนตรงกลางคือ ส.อาสนจินดา เขียนบทเอง เล่นเอง สร้างเอง ตัดต่อเอง กำกับเองด้วย.. ถ้ดมาทองฮะ วงศ์รักไทย.. ในเรื่องเล่นเป็น 2 คน คือ ตังกวย กับ ตังเกี๊ยะ  เรียงหน้ากระดานกันออกมา 7 สาว..   เรียงหน้ากระดานกันออกมา 7 สาว.. ฝ่ายชายก็เรียงหน้ากันออกมา.. สมัยนี้ ถ้าพากย์สดๆ เหนื่อยแย่ครับ ศรินทิย์-วิไลวรรณ-อดุลย์.. ศรินทิพย์ เล่นเป็น อินทรีปีศาจ

[มนัส กิ่งจันทร์]

      อาคม กับ ล้อต๊อก ฉากที่กลับจากสงครามเกาหลี มาเจอเมียมีผู้ชายคนใหม่ อาคม มกรานนท์ ซึ่งถูกวางให้เป็นพระเอกของเรื่อง อาคม มกรานนท์ ซึ่งถูกวางให้เป็นพระเอกของเรื่อง ส.อาสนจินดา-เปิ่น ปฏิหาริย์ (มีคนบอกว่าชื่อนี้ครับ) ฉากกลางคืนครับ แต่ถ่ายตอนกลางวันแทน

[มนัส กิ่งจันทร์]

        ฉากในร้านขายเหล้าของ ทองฮะ วงศ์รักไทย  เปิดตัว วิไลวรรณ วัฒนพานิช เทพธิดาโรงงาน วิไววรณ วัฒนะพานิช..ในบทยัยป้าท่ีทำงานโรงงานมาชั่วชีวิต.ป่วยแบบไร้ญาติ.แล้วบอกนางเอกว่า.ให้รู้จักทำงานเก็บเงิน.ส่งให้พ่อแม่.เพื่ออนาคต. (ประมาณนี้) ภาพตัดไปท่ียอดปล่องของโรงงาน.พระอาทิตย์ไกล้จะตกดินเสียงหวูดเลิกงานดังขึ้น . ฉากจำ ผลงานของ ยุทธนา มุดดาสนิท

       อาคม จับคู่ผู้หญิงคนนี้ จำได้ไหมครับว่า ผู้หญิงชื่ออะไร 

[มนัส กิ่งจันทร์]

        ทองฮะ วงศ์รักไทย อดุลย์ ดุลยรัตน์  อดุลย์ ดุลยรัตน์ ยืนนิ่งเป็นผีดิบคือ แป้น ปลื้มสระไชย.. ส่วนคนตรงกลางนั้นทีแรกคิดว่าเป็นหัวหน้าผู้ร้าย แต่พอใกล้จะจบ ก็มีหัวหน้ามาอีกคนหนึ่ง...ข้างๆขวามือเป็นอินทรปีศาจ  อดุลย์และเพื่อนๆ กำลังตกตะลึงกับคลังแสงอาวุธล้างโลกของเหล่าร้าย

[มนัส กิ่งจันทร์]

         ปรึกษาหารือกันว่า จะช่วยชาติอย่างไร ศรินทิพย์ ศิริวรรณ รู้จักท่านครั้งแรกในเรื่อง แผลเก่า .ฉากท่ีพ่อกำนันจะจับอีเรียมไปล่ามโซ่ขังไว้ในยุ้งข้าว..ศิรินทิยย์เล่นเป็นแม่.นางพยามจะช่วยลูกแต่กลับถูกผัวทั้งตีทั้งถีบ..ทั้งลูกสาวทั้งแม่ร้องไห้กันระงม.นางถูกลากออกมาอย่างถูลู่ถูกัง.อีเรียมก็ร้องไห้เรียก แม่ แม่ .โซ่ก็ติดอยู่ท่ีข้อเท้า .ตัวนางเองก็บอบช้ำทั้งกายใจร้องไห้บอกลูกว่า. เรียม แม่ช่วยลูกไม่ได้ แม่ช่วยลูกไม่ได้... นางป่วย.แล้วก็ส้ินใจ . แผลเก่า ปี 2520 เล่นเป็นแม่ แต่ปี 2501 ยังเล่นเป็นนางเอกได้ แต่โดนป๋า ส.ให้เล่นเป็นแม่ลูก 7 ...ซะแล้ว

         ฉากเด็ด จ่าดับ จำเปาะ ตัวจริงปะทะกับจ่าดับตัวปลอม 7 สาวๆ ลูกสาวจ่าดับตัวปลอมกับอินทรีปีศาจ

[มนัส กิ่งจันทร์]

       อดุลย์ กำลังเคลิ้มๆ กับอินทรีปีศาจ นี่แหละโฉมหน้าผู้คิดร้ายทำลายชาติที่ป๋า ส.วางตัวไว้ ฉากกลางคืน แต่ถ่ายกลางวัน พอปรับแสงช่วย ก็สวยดีครับ จ้องหน้าจะฆ่ากันกับภาพข้างบน

[มนัส กิ่งจันทร์]

        อาคมกับคู่รักในเรื่อง  อาคม เพี้ยนๆ จากสงครามเกาหลี ฆ่ามาเยอะเลย..กว่าจะฟื้นตัวได้ก็เกือบท้ายเรื่อง  อาคม เพี้ยนๆ จากสงครามเกาหลี ฆ่ามาเยอะเลย..กว่าจะฟื้นตัวได้ก็เกือบท้ายเรื่อง คนร้ายจับสาวๆ ไปขึงพืดล่อให้เพื่อนๆ มาช่วย หนังสไตล์ป๋า ส. เจ็บให้ตายยังไง ก็แข็งใจยืนสู้ ยืนเองไม่ได้ ก็ใช้ไม้ค้ำ...

[มนัส กิ่งจันทร์]

        ต้นตำรับไม้ค้ำ สู้ตาย.. ยึดอาวุธล้างโลก.. กว่าจะฟื้นตัวได้ ก็ท้ายเรื่อง.. เจ็ดแหลก... อยากให้พี่ลองนึกๆ ย้อนหลังสมัยที่ได้พากย์หนัง เจ็ดแหลก ให้ฟังบ้างนะครับพี่..เช่นว่า พากย์ที่ไหน/โรงหนังหรือกลางแปลง/ปฏิกิริยาตอบสนองจากคนดู.. เจ็ดแหลก...จำไม่ได้จริงๆ จำได้แต่ 1 ต่อ 7 เคยพากย์วิ่งรอก จากงานที่วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณ วิ่งมาทางนครปฐม ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ที่เหนื่อยไม่ใช่ดารามากพูดมาก เปล่าเลย หนังป๋า ส. ยิงกันหูดับตับไหม้ เราต้องช่วยเด็กแบ๊กกราด์ทำเสียงปืน แล้วส่วนมาก ผู้ร้ายในหนังป๋า ส. มักใช้ปืนกล ต้องเอาไมค์ "ชัวร์แบบหอยโข่ง" สีเขียวทหาร รูปร่างเหมือนหอยโข่ง เอามือกุมไว้ แล้วทำเสียง "ชู้ดๆๆๆๆๆๆ" พอออกจอมันจะเหมืองเสียงปืนกล เจ้าของจอชอบ งานหน้าเอาพี่ชาติมาพากย์อีก แล้วก็เอาเรื่องนี้อีก เฮยยย พากย์ทีไรหน้ามืดทุกที มานึกถึงวันนี้แล้วขำนะ...

         เท่าที่ได้สัมผัสเนื้อฟิล์ม 16 มม.เรื่อง เจ็ดแหลก นี้ เข้าใจว่า เป็นฟิล์มก๊อบปี้ A หรือฟิล์มต้นฉบับของการถ่ายทำนะครับ สังเกตุเห็นว่า ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนฉากก็จะมีการต่อฟิล์มด้วยน้ำยาต่อฟิล์มตลอด..ส่วนที่ว่าทำไมฟิล์มจึงเหลือมาสวยเหลือเกิน สมบูรณ์เหลือเกิน เข้าใจว่า ก๊อบปี้นี้ไม่ค่อยได้ใช้ออกฉายนะครับ คิดดูว่า หนังฉายครั้งแรกปี 2501 น่าจะผ่านการฉายแต่โรงหนังชั้นหนึ่งหรือหน่วยที่เครื่องฉายดีๆ กระทั่งปี 2515 ช่อง 7 จึงนำฟิล์มมาฉายออกอากาศพากย์สดๆ สังเกตในบทพากย์หนังมุมบนขวามือจะมีลายมือเขียนของนักพากย์หนังเขียนไว้..ได้ความว่าเป็นลายเซ็นของ รุ่งโรจน์ นักพากย์ที่พากย์เสียงการ์ตูนป๊อบอาย ครับ บอกว่า พากย์วันที่ 10 มีนาคม 2515 จากนั้นก็อาจเก็บฟิล์มไว้..หรือไม่งั้นก็ปล่อยฟิล์มออกมาและหลวงพ่อวัดนี้ไปซื้อมาเก็บไว้ ไม่ได้ฉายอีกเลย ฟิล์มจึงสวยครับ..

          หนังเรื่องนี้ออกฉายปีเดียวกับผมลืมตาดูโลกเลยฉายเดือนใหนก็ไม่รู้แต่ พศ ที่ฉาย 2501นานมากแต่ฟิล์มยังดีสีคงชัดคมอยุ่เลยครับหนังเรื่องนี้ ดาราที่เล่น เจ็ดแหลก จะเหลือมีชีวิตอยุ่กี่คน ถ้ามีอยุ่ตอนนี้อายุ-94-99 ผมเดาเอานะเพราะว่าสร้างนานแล้ว ดาราที่เล่นรุ้จักอยุ่ไม่กี่คนแต่ก็ล้มหายตายจาก ถูกต้องครับ ฟิล์มก็อปปี้ A หรือก็อปปี้แรก จะมีรอยต่อฟิล์มทุกช็อตตลอดเรื่อง เจ้าของหนังส่วนมากไม่อยากเอาก็อปปี้เอออกฉายเพราะถ้าเครื่องไม่ดีมันจะสะดุดบ่อยมาก ภาพที่จอจะเต้นทุกการเปลี่ยนช็อต เขาจึงเก็บไว้ มันก็เลยยังดีอยู่ครับ ถ้าป๋า.ส.ยังมีชีวิตอยุ่ท่านคงจะดีใจมากๆที่เหลือผลงานของท่านยังอยุ่ให้ใด้ดูใด้ชมกัน

           วันเสาร์ที่ผ่านเราไปทำการแปลงสัณญาณหนัง เจ็ดแหลก ใหม่ที่วัดกระทงลอย กำเริ่มลงมือแปลงสัณญาณเราได้ทำบุญถวายสังฆทาน ปัจจัย อุทิศให้ป๋า ส. และขอการแปลงสัณญานราบรื่น ซึ้งการทำงานของเราวันนั้นราบรื่นจริงๆ ตั้งค่าแสง สี สปีด ได้ง่ายมาก ปกติยากกว่านึ้เยอะ ปกติพระท่านให้เวลาทำแค่ 5 โมงเย็น วันนั้นพระท่านบอก ตามสบายแล้วแต่โยมเลย จะเลิกกี่โมง