ผู้เขียน หัวข้อ: ฝัน.. เกิดจากอะไร  (อ่าน 100 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
ฝัน.. เกิดจากอะไร
« เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2017, 21:58:28 »
       เมื่อคืนนี้ ผมไปกับใคร.. ผมก็จำไม่ได้.. รู้แต่ว่า เขาเป็นผู้ชาย เขามาบอกผมว่า จะพาผมไปโรงหนังเก่าแห่งหนึ่ง..ผมก็เดินตามเขาไป พอไปถึง เขาก็พาเดินทะลุใต้ถุนโรงหนังเก่า ไม่รู้ว่าเป็นโรงหนังอะไร เห็นแต่ผู้คนนั่งอยู่ใต้ถุนโรงหนังเยอะมาก แต่คนเหล่านั้น ก็ไม่มีใครหันมาสนใจเราสองคนเลย ทำเหมือนกับไม่เห็นเรามาอย่างนั้นแหละ..พอเราเดินทะลุใต้ถุนโรงหนังไป ก็พบกับบ้านไม้เก่าๆ หลังหนึ่ง บริเวณบ้านนั้นเหมือนเป็นบ้านนอก คนละอย่างกับโรงหนังที่ผ่านมา บริเวณบ้านมีต้นไม้ใหญ่อยู่มาก พอผมมองขึ้นไปตามยอดไม้ ผมก็เห็นรีลฟิล์มหนังห้อยไว้เต็มไปหมด ราวกับเป็นผลของต้นไม้เหล่านั้น..ผมเห็นคนแก่ๆ คนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าบันไดขึ้นบ้านเหมือนรอรับพวกเรา..เขามองดูผมอย่างแปลกๆ แล้วคนที่พาผมไปนั้นก็เข้าไปพูดคุยอะไรกับคนแก่ๆ คนนั้น ส่วนผมเองก็มัวแต่เพลิดเพลินกับการมองม้วนฟิล์มหนังที่เขาวางกองตั้งเรียงไว้รอบๆ บ้าน ส่วนใหญ่เป็นฟิล์ม 35 มม. กระทั่งสายตาผมมองไปเห็นม้วนฟิล์ม 16 มม.วางแทรกๆ อยู่หลายม้วน ผมก็เลยเข้าไปหยิบฟิล์ม 16 มม.ดู..

       ฟิล์มยังดีๆ อยู่ครับ ว่าแล้วก็สาวฟิล์มออกมาส่องดูว่าเป็นหนังเรื่องอะไร..เห็นสีฟิล์มยังสีสดใส ดูไปก็คิดไปว่า หนังเรื่องนี้ เรายังไม่มีเลย ทำไงหนอ เขาถึงจะยอมให้ฟิล์มเราไป..ผมเพลิดเพลินกับการสาวดูฟิล์ม ม้วนแล้ว ม้วนเล่าอย่างไม่เบื่อหน่าย..กระทั่งคนที่พาไปนั้นบอกว่า ไป..กลับกันเถอะ.. ผมก็ถามเขาว่า แล้วฟิล์มหนังล่ะ จะทำอย่างไร.. เขาก็ไม่ตอบ..ผมหันไปมองหน้าคนแก่ๆ

       เจ้าของบ้าน.. มองอย่างให้เขารู้ว่า ผมอาลัยอาวรณ์กับฟิล์มหนังเหล่านี้เลยเกิน..อยากได้ แต่เขาก็ทำสีหน้าเรียบเฉย..แล้วผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

       ผมลุกขึ้นมานั่งทบทวนดูว่า เราฝันไปหรือนี่..ทำไม เราถึงฝันแบบนี้อีก.. อ๋อ..นึกได้แล้ว ก็เพราะเมื่อคืนนี้ เราคุยกันกับคุณนุและเพื่อนๆ ถึงเรื่องฟิล์มกรุใหม่ที่พวกเราจะไปหากันในเดือนพฤศจิกายนนี้..แม้เราจะพอรู้ว่า กรุนี้มีฟิล์มหนังเรื่องอะไรบ้าง แต่เราก็ยังไม่รู้อีกว่า แล้วอีกเป็นสิบๆ เรื่องนั้นจะมีเรื่องอะไรอีกบ้าง เรายังกังวลว่า เจ้าของฟิล์มเขา จะให้ฟิล์มเราไหมหนอ..หรือถ้าเขาจะขาย เขาจะขายเท่าไหร่ ขายแพงไหม..แล้วเราจะหาเงินจากที่ไหนไปซื้อฟิล์มเหล่านั้น..ยอมรับว่ากังวลจริงๆ ครับ.. นี่ถ้าเป็นตอนเด็กๆ เวลาอยากดูหนังมากๆ แล้วรู้ว่า จะไม่มีเงินไปดู.. หนทางสุดท้ายจริงๆ ก็คือ ต้องอดขนม อดข้าว เพื่อเอาตังค์ไปซื้อตั๋วดูหนังครับ..

      ฝันนี้ ดูเหมือนจะอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ แต่ของจริงที่พวกเราจะไปหากากฟิล์มนั้น อยู่ห่างจากกรุงเทพฯไปอีกเกือบ 900 กิโลเมตรครับ ไกลมาก ขึ้นเขาขึ้นดอยตลอด..เขาบอกว่าเก็บฟิล์มไว้เยอะ แค่แพลมชื่อออกมา 3-4 เรื่อง เราก็อยากไปแล้วครับ จะหาเงินจากไหนดีล่ะ.. ตอนนี้ เงินกองทุนฯก็กันไว้เป็นค่าพากย์หนังมิตรเรื่อง ตั๊กแตน.. เห็นทีจะต้องระดมใหม่แล้วละ


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..