นับแต่ปี 2490 ที่เริ่มมีการสร้างหนังไทย 16 มม.เรื่อง สุภาพบุรุษเสือไทย ออกฉายจนถึงปี 2515 ที่หนัง 16 มม.พากย์สดๆ เรื่องสุดท้ายคือเรื่อง ไอ้หนุ่ม อีสาว ออกจากโรงไป..และจากนั้นก็ไม่มีใครสร้างหนัง 16 มม.อีกเลย..
นับแต่ปี 2490 ถึงสิ้นปี 2515 มีหนังไทยออกฉายมาประมาณ 1,100 เรื่องและเกือบ 95 เปอร์เซ็นต์จะเป็นหนัง 16 มม.พากย์สดๆ
ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่า ยังมีกากฟิล์มหนัง 16 มม.เก็บซุก เก็บซ่อนอยู่ในต่างจังหวัดอีกมากมาย เพียงแต่เราไม่รู้ว่า ฟิล์มเหล่านั้นจะอยู่ที่ใดบ้าง..วันนี้ ถ้าเราไม่ช่วยกันลงมือค้นหากันอย่างจริงจัง เห็นทีว่า หนังไทย 16 มม.ต้องสูญพันธุ์หมดแน่ๆ
วันนี้ ท่านที่อายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ท่านจะช่วยหนัง 16 มม.ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะท่านที่อยู่ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด ยิ่งเป็นท้องถิ่นธุรกันดาร ยิ่งจะช่วยได้มากๆ ท่านเพียงแต่ลองนึกๆ คิดๆ ดูซิว่า ตอนที่ท่านเป็นเด็กๆ ท่านเคยเห็น ท่านเคยดูใครฉายหนัง 16 มม.กันบ้าง ถ้าจำชื่อบริการหนังได้ ก็ยิ่งดีใหญ่ จากนั้นเราก็ค่อยมาช่วยกันระดมข้อมูลดิบๆ เหล่านี้เพื่อสืบเสาะและค้นหาข้อมูลในปัจจุบันว่า บริการฉายหนังกลางแปลงหรือหนังขายยาหรือนักพากย์หนังคนนั้น เขายังอยู่หรือไม่ ถ้าตายหรือถ้าเลิกกิจการไปแล้ว ลูกหลานเขาจะยังเก็บกากฟิล์มไว้หรือไม่ เชื่อว่า ถ้าทำแบบนี้ให้ได้ทุกๆ อำเภอ ทุกๆ จังหวัด รับรองว่า เราจะช่วยหนัง 16 มม.ได้อีกแน่ๆ ครับ
การค้นพบกรุฟิล์มหนัง 16 มม.เก่าๆ นั้น ทุกกรุๆ ที่พวกเราไปเจอ ไปพบ ล้วนแต่ไปตามเสียงเล่าลือจากคนที่เคยหนังสมัยเด็กๆ ว่า เคยดูหนัง 16 มม.ที่ไหนบ้าง อย่างกรุหนังขายยาตามภาพนี้ เราก็ไปตามเสียงเล่าว่า ตอนเด็กๆ เขาเคยดูหนังขายยาที่อำเภอทับคล้อ พิจิตร เป็นหนังขายยาที่มีบ้านอยู่ทับคล้อ.. เราก็นั่งรถไปตามสืบหาๆๆๆๆๆ จนพบฟิล์มกรุนี้...
ภาพนี้ กรุหนังขายยาศรีอุดมโอสถ ที่ทับคล้อ พิจิตร กรุนี้ก็ไปตามเสียงเล่าลือครับ
กรุนี้ ก็ไปตามเสียงเล่าลือ ลือกันว่า สมัยเขาเด็กๆ เคยดูหนังที่หลวงพ่อฉายให้ดู.. หลวงพ่อมีเครื่องฉายหนัง ก็เลยตามไปดู... จนพบว่าเป็นความจริง