ผู้เขียน หัวข้อ: ท้องนาสะเทือน ของ ศุภชัย โตสัมพันธ์  (อ่าน 423 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
ท้องนาสะเทือน ของ ศุภชัย โตสัมพันธ์
« เมื่อ: 16 มิถุนายน 2018, 18:26:33 »
       สมัยที่ผมเป็นเด็กๆ จะมีหนังกลางแปลงมาฉายให้ดูบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการฉายงานในศพ..และก็งานบุญประเพณีอื่นๆ ผมจึงมีโอกาสได้ดูหนังกลางแปลงบ่อยมากๆ บางครั้งก็ไปดูกับเพื่อน แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะไปดูคนเดียวเพราะบางครั้ง เพื่อนมันไม่ชอบหนังเรื่องไหน มันก็จะชวนผมกลับบ้าน แต่ผมนั้นก็อยากจะดูมันทุกๆ เรื่องที่เขาฉาย ฉายกัน 5 เรื่องโต้รุ่ง ผมก็อยากจะดูจนสว่างคาตา..จึงชอบที่จะไปคนเดียว

       เวลาดูหนัง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยจะรู้หรอกว่า เป็นหนังใครสร้าง ใครกำกับ ส่วนใหญ่จะจำแต่เนื้อหา จำดาราว่า ใครเล่นบ้าง เว้นแต่ว่า วันไหนเขาจะมีโปสเตอร์หนังมาติดไว้ที่งาน ก็จะไปอ่านดูโปสเตอร์หนัง (สมัยนั้นผมจะเรียกว่า โปรแกรมหนัง) ก็พอได้รู้ ได้จำว่า ใครสร้าง ใครกำกับบ้าง..หรือไม่บางครั้ง ผมก็จะไปที่บริการฉายหนังกลางแปลง ไปเก็บเศษฟิล์มและก็ไปดูโปรแกรมหนังที่เขาติดไว้ในสำนักงาน ดูแล้วก็เกิดกิเลสอยากจะดูหนังมันทุกๆ เรื่องถึงขั้นว่า ช่วงเรียน ม.ศ.3-ม.ศ.5 ผมก็ได้ติดรถไปหัดฉายหนังกลางแปลง หัดเป็นโฆษกกับบริการฉายหนังของพ่อเพื่อนคนหนึ่ง

       ถ้าพูดถึงหนังของ ศุภชัย โตสัมพันธ์ แล้ว เรื่องแรกๆ ผมก็ได้ดูจากจอหนังกลางแปลงคือเรื่อง สาวภูไท..แต่ก็นึกไม่ออกว่า ดูจากจอหนังบริการอะไรในสุรินทร์..มาจำได้แม่นๆ ก็เรื่องถัดมาคือ ตะวันรอนที่หนองหาร เรื่องนี้ ผมดูจากจอหนังกลางแปลงของครูทศ ศรีไทย ครูโรงเรียนเมืองสุรินทร์ที่ผมเรียนอยู่ ตอนนั้นครูทศเพิ่งจะเปิดบริการหนังชื่อ สยามรัตน์ภาพยนตร์และฉายครั้งแรกในงานศพที่วัดหนองบัว สุรินทร์ ผมเห็นเขาตั้งจอหนังตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว ค่ำๆ ผมก็บินเดี่ยวไปดูหนังของครูทศ.. เรื่องต่อมาก็ได้ดูเรื่อง เผ็ด..

       ครั้งนั้น ผมดูจากจอหนังบริการระพินทร์ภาพยนตร์ สุรินทร์ ของนายรามิศร ภัทรพาณี..จำได้แม่นๆ ว่า เขาฉายคืนวันที่ 12 ตุลาคม..ตอนนั้นก็ยังแปลกใจเลยว่า ทำไมจอหนังรามิศร จึงมีเพื่อนเรา (ที่ภายหลัง ผมก็ไปฉายหนังด้วยนั่นแหละ) มาฉายด้วย ก่อนฉายเขาก็ประกาศว่า คืนพรุ่งนี้ จะฉายที่โรงพักเมืองสุรินทร์ เนื่องในงานวันตำรวจ 13 ตุลาคม..จึงทำให้จำได้แม่นครับ..และคืนนั้นเอง ก็เป็นคืนสุดท้ายของบริการรามิศรภาพยนตร์เพราะเถ้าแก่พ่อเพื่อนผมได้ซื้อกิจการฉายหนังกลางแปลงจากรามิศรมาดำเนินการต่อ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริการสมยศภาพยนตร์ สุรินทร์ (ปัจจุบันคือ ไอเอส ภาพยนตร์ สุรินทร์)

       เผ็ด เป็นหนังที่ทำให้เห็นสภาพบ้านเมือง "กรุงเทพ" เยอะมากๆ เหมือนได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ เลยครับ สมัยที่ผมฉายหนังกลางแปลงกับเพื่อน.. เผ็ด ก็เป็นหนังที่เอาไว้แถมกันแล้วครับ.. แต่เรื่องที่ดูแล้วทึ่งจริงๆ ก็ต้องเรื่อง ท้องนาสะเทือน ครับ เรื่องนี้ ผมเดินไปดูที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากบ้านผมไปประมาณ 5-6 กิโลเมตร..ฉากที่จำได้แม่นๆ ก็คือ ฉากที่สมบัติยิงปืนอันโตๆ ใส่ต้นตาลจนกระจุย..และก็ฉากที่มีเพลง ผู้ยิ่งใหญ่ พอลงจากม้าก็กลายเป็น เทพ เทียนชัย..ในเรื่องนี้เองก็ทำให้ผมได้เห็นจอหนังกลางแปลงของศุภชัยภาพยนตร์ด้วยครับ ผมเป็นอะไรไม่รู้ ถ้าได้เห็นจอหนังในหนังแล้ว จะดูตื่นเต้นแกมดีใจตลอดเลยครับ..พอคุณโต๊ะพันธมิตร บอกว่าจะทำวีซีดี ท้องนาสะเทือน ออกจำหน่าย แม้ฟิล์มจะไม่ค่อยดี แต่เราก็เห็นเหมือนๆ กันว่า ทำไว้ ดีกว่าไม่ทำนะครับ..


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
Re: ท้องนาสะเทือน ของ ศุภชัย โตสัมพันธ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2018, 19:05:16 »
3 มิถุนายน 2561 ร่วมไว้อาลัย ศุภชัย โตสัมพันธ์
ผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย

พี่วิวรรธน์ ประสมศรี ส่งข่าวมาบอกว่า คุณศุภชัย โตสัมพันธ์ อดีตผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย เสียชีวิตแล้ว จะมีพิธีฌาปนกิจศพ ที่ วัดดีดวด ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 12 แขวง วัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ วันที่ 4-8 มิถุนายน 2561 และฌาปนกิจ วันที่ 9 มิถุนายน 2561

ผลงานภาพยนตร์ที่สร้างหรือกำกับไว้ เช่น ศาลาลอย (2515) สาวภูไท (2516) ตะวันรอนที่หนองหาร (2517) เผ็ด (2518) ท้องนาสะเทือน (2519) จงอางเพลิง (2520) ฯลฯ
..
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..