พบฟิล์มหนังเก่า ยังไม่ทราบชื่อเรื่อง-ชื่อนักแสดงจากกรุฟิล์มของ ปัญญาพรภาพยนตร์

[มนัส กิ่งจันทร์]

          พบฟิล์มหนังเก่า ยังไม่ทราบชื่อเรื่อง-ชื่อนักแสดง-ปีฉายจากกรุฟิล์มของ ปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบลฯ เป็นฟิล์มหนัง 16 มม.ไม่มีเสียง เหลืออยู่เพียง 1 ม้วน ประมาณ 20 นาทีเศษๆ..เรื่องย่อๆ ที่ดูได้จากฟิล์มจะเห็นคนที่แสดงเป็นเจ้ามอบแหวนและดาบให้แก่ทหารนายหนึ่ง เข้าใจว่าเป็นพระเอกของเรื่อง..ต่อมาเกิดเรื่องในวังนี้ พระเอกก็ไปอยู่ที่กระท่อมในป่าพร้อมทหารอีก 3-4 นาย ต่อมานางเอกก็ไปรับพระเอกกลับวัง..แต่อีกฝั่งหนึ่งไม่ค่อยพอใจ..ฟิล์มหมดม้วนแล้วครับ..

ขณะนี้ ทราบแต่เพียงว่า ฟิล์มที่ใช้ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นฟิล์มที่ออกจำหน่ายในปี 2494 ครับ..

[มนัส กิ่งจันทร์]

เมื่อวานนี้ ผมนำภาพนิ่งจากฟิล์มหนัง 16 มม.ไม่มีเสียง ซึ่งพวกเราได้รับมาจากกรุฟิล์มของปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบลฯ มาให้ชมกัน แต่ก็ยังไม่มีท่านใดทราบว่า จะเป็นหนังเรื่องอะไรแน่..มีเพียงพี่มานิตย์ วรฉัตร จากพิพิธภัณฑ์ หนังกลางแปลง ซึ่งเคยรู้จักพี่ปัญญาเจ้าของฟิล์ม คิดว่าเป็นเรื่อง เจ้าจอมหม่อมห้าม ปี 2495 นะครับ.. วันนี้ จึงตัดต่อหนังจากฟิล์มหนังม้วนดังกล่าวมาให้ชมอีกเผื่อจะจำได้ว่าเป็นหนังเรื่องอะไร ฟิล์มหนังม้วนนี้เหลือมาเพียง 20 นาทีเศษๆ สีสันยังสดใส แต่บางช่วงก็มีรอยลอกๆ จากความอับชื้นแล้วนะครับ ฟิล์มม้วนนี้เป็นฟิล์มที่ผลิตออกจำหน่ายในปี 2494 ก็ 68 ปีมาแล้วนะครับ..
หนัง 16 มม.จากกรุฟิล์ม ปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบล


หนัง 16 มม.จากกรุฟิล์ม ปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบล

[มนัส กิ่งจันทร์]

 

[มนัส กิ่งจันทร์]

 

[มนัส กิ่งจันทร์]

เมื่อวานนี้ ผมนำภาพนิ่งจากฟิล์มหนัง 16 มม.ไม่มีเสียง ซึ่งพวกเราได้รับมาจากกรุฟิล์มของปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบลฯ มาให้ชมกัน แต่ก็ยังไม่มีท่านใดทราบว่า จะเป็นหนังเรื่องอะไรแน่..มีเพียงพี่มานิตย์ วรฉัตร จากพิพิธภัณฑ์ หนังกลางแปลง ซึ่งเคยรู้จักพี่ปัญญาเจ้าของฟิล์ม คิดว่าเป็นเรื่อง เจ้าจอมหม่อมห้าม ปี 2495 นะครับ.. วันนี้ จึงตัดต่อหนังจากฟิล์มหนังม้วนดังกล่าวมาให้ชมอีกเผื่อจะจำได้ว่าเป็นหนังเรื่องอะไร ฟิล์มหนังม้วนนี้เหลือมาเพียง 20 นาทีเศษๆ สีสันยังสดใส แต่บางช่วงก็มีรอยลอกๆ จากความอับชื้นแล้วนะครับ ฟิล์มม้วนนี้เป็นฟิล์มที่ผลิตออกจำหน่ายในปี 2494 ก็ 68 ปีมาแล้วนะครับ..

[มนัส กิ่งจันทร์]

         ตัดต่อลำดับภาพ "สวรรค์บ้านนา" ปี 2513 ผลงานของ ชุติมา สุวรรณรัต เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะส่งไปทำบทพากย์หนัง.. แต่สำหรับหนังเรื่อง "ลำพู" ปี 2513 ผลงานของ เชิด ทรงศรี ซึ่งเป็นกากฟิล์มอีกเรื่องหนึ่งที่เราได้มาจากหนังขายยาปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบลราชธานี นั้น หากตัดต่อ ลำดับภาพและเติมเสียงเพลงเอกของเรื่องเสร็จเมื่อใด ก็จะใส่เสียงพูดได้ทันทีเพราะหนังมีบทพากย์ติดมากับกระเป๋าฟิล์มด้วยครับ..

         วันนี้ ก็เริ่มลงมือตัดต่อ ลำพู แล้ว กากฟิล์มจะเป็นสีแดงๆ แต่ปรับแก้สีให้เป็นสีธรรมชาติได้เท่าที่เห็นๆ นี่นะครับ ฟิล์มมีรอยลอกๆ และเป็นดาวแดงเกือบทั้งเรื่อง มากบ้าง น้อยบ้างนะครับ แต่ยังพอดูได้ เปิดฉากแรกมาเห็นเด็กนักเรียนวัดบางฉนาก คุยกัน.. สองคนนี้แหละครับ โตขึ้นจะเป็นพระเอก-นางเอกของเรื่อง พระเอกชื่อ เปรม..ส่วนนางเอกชื่อ ลำพู ฉากนี้เป็นฉากเรียนจบ..นางเอกก็มอบผ้าเช็ดหน้าลายดอกลำพูให้พระเอกไว้ครับ ก็ไม่รู้เหมือนกันเด็กสองคนนี้แสดงโดยใคร ชื่ออะไรครับ..

ป้ายบอก ตลาดเช้าบ้านแหลมตะลุมพุก...
ภาพต่อเนื่องกันครับ.. ปริม ประภาพร มาจ่ายตลาด
ฉากตลาดฯนี้ ก็อาจเป็น กทม.ก็ได้ครับเพราะคนแวดล้อมเหมือนคนกทม. แถมยังมีคนหิ้วกระจาดทุเรียนอีกด้วย

[มนัส กิ่งจันทร์]

       คุณเชิดเป็นคนนครศรีฯ ครับ คงมีบางฉากไปถ่ายจริง แต่บางฉากจะถ่ายอยู่แถวๆ สะพานพระราม 6 นนทบุรีครับ..บางฉากก็ถ่ายในโรงถ่ายครับ ฉากตลาดฯนี้ ก็อาจเป็น กทม.ก็ได้ครับเพราะคนแวดล้อมเหมือนคนกทม. แถมยังมีคนหิ้วกระจาดทุเรียนอีกด้วย