ผู้เขียน หัวข้อ: กว่าจะชุบชีวิตหนังได้สักเรื่อง...ไม่ง่ายเลย  (อ่าน 88 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
"กว่าจะชุบชีวิตหนังได้สักเรื่อง...ไม่ง่ายเลย"
เขียนโดย น้องน้ำ Jantana Suneerach
เมื่อมีโอกาสได้เข้ามาช่วยงานลุงมนัส และพี่ๆทีมวัยหวานวันวาน ได้เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจว่า กว่าจะชุบชีวิตหนังสักเรื่องให้ฟื้นคืนมาอีกครั้ง ไม่ง่ายเลยสักนิด

หนังหนึ่งเรื่อง...กว่าจะได้ฟิล์มมา ก็ต้องรู้แหล่งฟิล์ม แหล่งฟิล์มมาจากหลายๆ แหล่งรวมกัน อาจจะมาจากเจ้าของบริการฉายหนังกลางแปลง อาจจะมาจากคนที่เคยดูหนังกลางแปลง บางทีปากต่อปาก ไล่ถามกันไปเป็นทอดๆ โยงใยกันไป จนพบแหล่งฟิล์ม เมื่อพบแหล่งฟิล์ม ลุงมนัส พี่นุ พี่จุ๊บ หัวเรือใหญ่ทั้งสาม ก็จะวางแผนเส้นทาง เพื่อไปตามหาฟิล์ม ไม่ว่าใกล้หรือไกล ขึ้นเหนือล่องใต้ ทั้งสามท่านก็มุ่งไป บางทีก็มีพวกเราไปแจมด้วย ถ้าไปแล้วเจอฟิล์ม ก็เหมือนเจอขุมทรัพย์อันล้ำค่า แต่บางครั้งไปแล้ว ก็ต้องผิดหวังกลับมา ไม่เจอฟิล์มบ้าง หรือฟิล์มเสียหายจนมองได้ชัดเจนว่าไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก

หากไปแล้วได้ฟิล์มกลับมา ก็จะนำฟิล์มนั้นกลับมาทำความสะอาด มาเช็คว่า เป็นเรื่องอะไร (กรณียังไม่ทราบชื่อเรื่อง) สภาพเป็นอย่างไร ฟิล์มเสียหายมากน้อยแค่ไหน พอจะจัดฉายได้หรือไม่ หากเช็คแล้วว่ายังสามารถนำมาจัดฉายได้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการ ดังต่อไปนี้...(ข้อความโดยลุงมนัส)

“...กากฟิล์มหนัง 16 มม.ที่ผ่านการฉายมานาน ก็จะมีรอยขาดและรอยต่อของฟิล์มหนัง ซึ่งทุกๆ รอยต่อ ก็จะมีคราบสกปรกติดอยู่ ทำให้ภาพที่เห็นไม่สวยงาม แม้เราจะทำความสะอาดฟิล์มแล้ว แต่คราบรอยต่อสกปรกแบบนี้ ก็จะยังมีให้เห็นอยู่..ในหนังเรื่องหนึ่งๆ จะมีเป็นร้อยๆ ครั้ง..เราจะไม่ตัดฟิล์มตรงนั้นออกไป แต่เราจะฉายทำไฟล์ภาพไปตามกากฟิล์มนั้นเลย เมื่อได้ไฟล์ภาพมาแล้ว เราก็เอาเข้าโปรแกรมตัดต่อหนัง.. มานั่งดูหนังทีละเฟรมไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นรอยต่อสกปรกแบบนั้น เราก็หยุดและตัดเล็มๆๆ ภาพที่สกปรกออกไป.. ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบเรื่อง...”

“...ก่อนหน้าจะตัดต่อ ก็มีกระบวนปรับแต่ง แก้สีหนังจากแดงๆ เป็นสีธรรมชาติอีกด้วยนะ...”

(ตามภาพประกอบ)

หนังเรื่องหนึ่งๆ หากมีบทพากย์ ก็ดีไป ก็สามารถลงเสียงได้เลย แต่ถ้าหากไม่มีบทพากย์ ก็ต้องแกะบทพากย์ก่อน โดยนักพากย์อาวุโส ซึ่งท่านจะแกะบทพากย์โดยการอ่านปากตัวแสดง ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะตัวแสดงไม่ได้ถ่ายเจาะหน้าตรงทั้งหมด แต่จะมีหันข้างบ้าง อยู่ไกลบ้าง หันหลังบ้าง นั่งบ้าง ยืนบ้าง บางทีฉากนั้น ตัวแสดงหลายๆ ตัวยืนเกาะกลุ่มคุยกันก็มี ก็ต้องอาศัยไหวพริบ การเขียนบท เขียนมุขตลก ในแต่ละฉาก เขียนมาแล้ว ก็ต้องพิมพ์บทพากย์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ต้องยอมรับในความสามารถตรงนี้จริงๆ ค่ะ

เมื่อมีบทพากย์แล้ว ก็เข้าสู่กระบวนการลงเสียงหนัง ซึ่งอย่างที่เคยเขียนไปแล้วว่า ไม่ง่ายเช่นกัน เพราะทีมลงเสียงวัยหวานวันวาน ไม่ใช่นักพากย์มืออาชีพ แต่เพราะอยากดูหนังที่ไม่ใช่หนังใบ้ จึงนำหนังมาลงเสียงกันเอง การลงเสียงจะใช้เวลาในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วางคิวไว้ ว่าวันนี้จะเป็นใครมาลงเสียง พระเอก นางเอก นางร้าย ตัวหลักๆ วางคิวเลย 1 คน / 1 วัน บางทีลงเสียงคนละตัวสองตัว หรือสามถึงสี่ตัวเลยก็มี โดยในแต่ละครั้งที่มีการลงเสียง บางครั้งก็มีกองเชียร์ไปนั่งให้กำลังใจอย่างเงียบๆ ...ก็เดี๋ยวเสียงจะเข้าไมค์...อิอิ... เมื่อถึงเวลาพักทานข้าว ก็จะช่วยกันทำกับข้าวกับปลา ทำเสร็จ ก็มานั่งล้อมวงทานข้าวด้วยกัน พูดคุยสนุกสนานเฮฮาตามประสาคนรักษ์หนังไทย ทานข้าวเสร็จ ก็ช่วยกันเก็บถ้วยชามไปล้าง ส่วนใครที่ลงเสียง ก็ลงเสียงต่อไป จนแล้วเสร็จ

พูดถึงการลงเสียงนั้น ก็ต้องดูบท ดูหนังด้วย ไปพร้อมๆ กัน ต้องใช้อารมณ์ ใช้พลัง เค้นเสียงออกมา ให้ได้ตามอารมณ์ของตัวแสดง ถ้าจะให้ดีก็ต้องลงเสียงให้ตรงปากเลย แต่ถ้าหากไม่ตรงปากจริงๆ ลุงมนัสก็จะตัดต่อ ปรับเลื่อนเสียงให้ไปตรงกับปากตัวแสดง และบางครั้ง ฟิล์มหนังเสียหายมาก ก็อาจจะต้องตัดออกไป หรือหนังโดด ทำให้บางที บทของตัวแสดงนั้นๆ อาจจะยาวหลายๆบรรทัด แต่หน้าหนังขยับปากเพียงนิดเดียว ก็ต้องปรับบทใหม่ เพื่อให้เข้ากับปากตัวแสดง ทำให้ใช้เวลาในการลงเสียงค่อนข้างนาน กว่าจะได้แต่ละฉาก แต่ละซีน ทุกคนทุ่มเทกันอย่างมาก บางทีลงเสียงกันจนดึกดื่น เพื่อให้เสร็จตัวแสดงนั้นๆ แล้วตื่นแต่เช้าๆ เพื่อมาลงเสียงตัวแสดงตัวต่อไป โดยมีกองเชียร์คอยเป็นกำลังใจไม่หนีหาย ง่วงๆก็นอนรอ จนกว่าจะลงเสียงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ในแต่ละบทบาท

พอลงเสียงเสร็จทุกตัวแสดงแล้ว ก็ต้องมาทำเอฟเฟคเสียงต่างๆ ในแต่ละฉาก เช่น ฉากยิงปืน ก็ต้องมีเสียงปืน ฉากต่อสู้ ก็ต้องมีเสียงชกต่อยตุ๊บตั๊บๆ ฉากทานข้าว ก็ต้องมีเสียงจานช้อนส้อม ฉากเปิดซองจดหมาย ก็ต้องมีเสียงกระดาษเสียดสีกันไปมา หลายๆ ฉาก ก็มีเสียงเอฟเฟคสำเร็จรูปอยู่แล้ว แต่บางฉากก็ต้องทำขึ้นมาเอง โดยหาสิ่งของใกล้ตัวนั่นแหละมาทำ เช่น เสียงไม้กระทบกัน ก็ใช้ปากกาหลายๆด้ามมาถูๆไถๆ ฉากทานข้าว ก็เอาจานช้อนส้อมมาเคาะ บางทีก็ต้องทำท่าทางให้เหมือนตัวแสดงไปเลย จะได้เหมือน อิอิ เอาเป็นว่า กว่าจะได้เอฟเฟคต่อหนังหนึ่งเรื่อง ก็ไม่ง่ายอีกเช่นกัน

พอทำเสียงเอฟเฟคเสร็จแล้ว ก็ต้องมาทำเสียงแบ็คกราวน์ โดยลุงมนัส ซึ่งเพลงที่นำมาใส่ในหนัง บางเพลงก็มีอยู่แล้ว บางเพลงก็ได้รับความช่วยเหลือจากหลายๆ ท่านในกลุ่มหนังไทย สรรหามาให้ เมื่อได้เพลงครบแล้ว ก็นำมาตัดต่อใส่ในหนัง บางฉากจะมีตัวแสดงร้องเพลงอยู่ ก็ต้องนำเพลงมาตัดใส่ให้ตรงปากตัวแสดง บางทีภาพโดด หรือภาพหายไป ลุงมนัสก็จะตัดต่อภาพให้ซ้ำไปซ้ำมา วนอยู่อย่างนั้น เพื่อให้จบเพลง ก็เป็นอีกขั้นตอนที่ไม่ง่ายเหมือนกัน

เมื่อลงเสียงพูด ทำเอฟเฟค ใส่แบ็คกราวน์แล้ว ลุงมนัส ก็จะมาดูอีกครั้ง ปรับเสียง เพิ่มเสียง ลดเสียง จนกระทั่งทุกๆ อย่างผสมผสานกันอย่างลงตัว จนเป็นหนังที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมฉายให้ทุกๆ ท่านได้ชมฟรี ณ โรงหนังศรีศาลายา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) นั่นเอง

***ปล.อาจจะยาวๆ หน่อย แต่เขียนด้วยใจ ตามความเข้าใจ และที่สัมผัสได้ หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะคะ


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
Re: กว่าจะชุบชีวิตหนังได้สักเรื่อง...ไม่ง่ายเลย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2019, 22:00:29 »
นี่คือ ภาพลอกๆ ที่ต้องตัดออกไป.. ทุกรอยต่อของฟิล์มจะมีรอยสกปรกลักษณะนี้ แม้ว่า เราจะเห็นบนจอหนังแค่แว่บเดียว แต่ก็ทำให้รำคาญลูกตา..ต้องตัดออกไป เพื่อให้เห็นแต่ภาพแบบนี้
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
Re: กว่าจะชุบชีวิตหนังได้สักเรื่อง...ไม่ง่ายเลย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2019, 22:01:13 »
ภาพทั้งหมดนี้ มาจากเรื่อง แม่ค้า (2512 มิตร-เพชรา) ซึ่งเตรียมไว้ฉายในโครงการ รำลึกมิตร ไม่ต้องรอถึงเดือนตุลา ครั้งที่ 3 นะครับ
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..