ผู้เขียน หัวข้อ: ร่องรอยและคราบสกปรกแบบนี้ ภาพนี้มาจากหนังเรื่อง ไอ้แก่น  (อ่าน 119 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         ถึงวันนี้ ฟิล์มหนัง 16 มม.อายุ 60 ปีแบบนี้ ก็ยังฉายได้นะครับ แต่ถ้าเป็นฟิล์ม 35 มม.อายุเท่าๆ กัน ก็จะฉายไม่ได้แล้ว นี่จึงเป็นข้อดีของหนัง 16 มม.ที่ฟิล์มจะมีอายุยาวนานกว่าหนัง 35 มม. ภาพนี้มาจากหนังเรื่อง ไอ้แก่น (2502 รัตนาภรณ์-ลือชัย) ที่ฟิล์มผ่านการฉายมาอย่างหนัก ทำให้ฟิล์มมีรอยขาด รอยต่อและคราบสกปรก ซึ่งเมื่อฉายขึ้นจอ ก็จะเห็นคราบหรือร่องรอยตามภาพแบบนี้ แม้จะเห็นแค่แว่บเดียว แต่ก็ทำให้รำคาญลูกนัยน์ตา ถ้าเป็นการฉายด้วยฟิล์ม เราก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น ขืนไปตัดต่อฟิล์มส่วนนั้นๆ ซ้ำอีก ก็จะทำให้ภาพช่วงนั้นๆ ขาดหายมากขึ้นไปอีก แต่พอเราทำภาพเป็นไฟล์ไว้แล้ว เราก็จะค่อยๆ ฉายไล่ดูภาพช้าๆ แล้วก็ตัดภาพส่วนที่เสียๆ นี้ออกไปนะครับ ซึ่งแม้จะใช้เวลานานหลายวัน แต่เราก็ต้องทำเพื่อให้หนังดูสวยและสบายตาขึ้น..แหละนี่ก็คือ ภารกิจเร่งด่วนในช่วงนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือใส่เสียงพากย์ให้กับหนัง ไอ้แก่น ต่อไปนะครับ..

         ร่องรอยและคราบสกปรกแบบนี้ เกิดขึ้นเพราะฟิล์มหนังขาด..จากนั้นเขาก็จะมีการต่อฟิล์มที่ขาดนั้นๆ ด้วยน้ำยาต่อฟิล์มซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของหนังกลางแปลง..แต่ต่อมาก็เริ่มมีคราบสกปรกของฝุ่นต่างๆ ที่เวลาเขาไปหนังฉายกลางแปลง กลางแจ้ง ฝุ่นเหล่านั้นก็จะติดมากับเนื้อฟิล์ม เมื่อกรอฟิล์มเพื่อเช็คทำความสะอาด คราบฝุ่นเหล่านั้นก็จะถูกเช็คไล่ให้ไปเกาะติดรวมๆ กันช่วงที่มีรอยต่อแบบนี้แหละและก็จะเกิดเป็นคราบดำๆ อย่างที่เห็นบนหน้านางเอกรัตนาภรณ์..แม้เราจะเช็คฝุ่นออกไปได้ แต่ก็จะยังเห็นคราบช่วงรอยต่อฟิล์มนั้นอยู่อีก..เราจึงจำเป็นจะต้องตัดภาพแบบนี้ออกไปให้หมด เพื่อให้หนังเก่าๆ ดูได้สวยงามมากขึ้น ไม่ต้องห่วงนะครับว่าเสียงพากย์จะขาดหายไปเพราะคนพากย์ใหม่ เขาก็จะไล่รวบปากพากย์ได้เองเพราะภาพที่หายไปแบบนี้มีไม่มาก แต่ละครั้งก็แทบจะไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำไปครับ

         สมควร กระจ่างศาสตร์.. เสียๆ แบบนี่ ก็ตัดออกครับ  ฉากนี้ นาทีที่ 1.11.27 ของหนัง.. รัตนาภรณ์ ซึ่งรับบทเป็น ไอ้แก่น กำลังพูดกับ สมควร กระจ่างศาสตร์ ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง แต่ตอนนั้น ไอ้แก่น ยังไม่รู้ว่า นี่แหละคือ พ่อของตน..

         การตัดต่อและเล็มๆ ภาพส่วนที่เสียหายออกไปนั้น เราก็จะต้องกางบทพากย์หนังหนังดูประกอบไปพร้อมๆ กันด้วยนะครับ..พอตัดต่อฉากนั้นๆ เสร็จ เราก็จะต้องซ้อมพูดเสียงดูว่า ภาพหนังจะเหลือพอกับถ้อยคำในบทพากย์หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเหลือไม่ค่อยพอเพราะฟิล์มหนังผ่านการฉายมาอย่างหนัก ย่อมจะต้องขาดหรือเสียหายไปนะครับ วิธีแก้อย่างแรกก็คือ พยายามรวบคำ รวบปากดูก่อนว่า พอกับภาพที่เหลือๆ มาหรือไม่..ถ้าไม่พอจริงๆ ก็อาจปรับเปลี่ยนประโยคคำพูดให้สั้นกะทัดรัดอีกนิดหน่อย..แต่ถ้ายังไม่พอจริงๆ เราก็จะต้องหาฉากหรือภาพที่ใกล้เคียงกันนั้น มาซ้ำภาพอีก..หรือมาคั่นไว้ทำเสียงพากย์ออฟซีนแทน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้คนดูดูหนังเรื่องนะครับ ..


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         เมื่อคืนตอนที่เธอลงรถตู้ แยกกันกลับบ้านนั้น พี่เทพกับเสี่ยนุก็ยังชวนๆ กันเลยว่า พี่เทพไปพากย์ ไอ้แก่น คืนนี้กันเลยมั๊ย.. นี่ก็ใจร้อนเหมือนกัน.. ลุงเองก็พยายามเร่งตัดต่อให้เร็วๆ แต่ทำไงได้ หนังมีรอยตำหนิเยอะมากๆ ก็จะต้องค่อยๆ ดูไปเรื่อยๆ ตอนนี้เนื้อเรื่องจริงๆ จะเหลือประมาณ 25 นาที หนังก็จะจบเรื่องแล้ว ซึ่งคาดว่า น่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4-5 วัน ก็น่าจะตัดต่อเสร็จนะ..รอหน่อย

         รอยไหม้ของฟิล์ม ซึ่งแสดงว่า หนังเรื่องนี้เคยฉายผ่านเตาอ๊าคมาแล้ว สมัยนั้นหนัง 16 มม.จะฉายด้วยเครื่องหลอด แต่ถ้าบริการฉายหนังเจ้าไหนอยากจะให้หนังตัวเองแสงชัดๆ สว่างๆ ก็จะเอาหัวเครื่องฉาย 16 มม.นั้นไปผ่าด้านหลังออกและพ่วงเตาอ๊าคเข้าไปด้วยเพื่อให้แสงสว่างมากๆ ครับ..ซึ่งแสงไฟจากเตาอ๊าคจะมีความร้อนอยู่ด้วย ถ้าฟิล์มหนังเดินๆ และหยุดนิ่ง ก็จะทำให้ฟิล์มมีรอยไหม้ลักษณะนี้ครับ

         ฉากนี้ นาทีที่ 01.12.02 ของเรื่อง ไอ้แก่น จะพูด "เอ๊ะ ลุงร้องไห้ทำไมจ๊ะ" แต่ว่า ปากตามฟิล์มจะเหลือแค่คำว่า เอ๊ะ.. แค่นั้น จึงต้องเอาภาพหน้าพ่อซึ่งน้ำตาไหลในฉากก่อนหน้านั้นมาคั่นไว้ทำเสียงออฟซีนเพื่อรับกับคำพูดที่ว่า ลุงร้องไห้ทำไมจ๊ะ...

         สมควร ซึ่งรับบทเป็น ชัย พ่อของไอ้แก่น ตอบว่า ..ผมเห็นคุณหนูแล้ว ผมอดคิดถึงลูกสาวของผม อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับคุณนี่แหละ....
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         ตัดต่อมาตั้งแต่ 8 โมงจนถึงเที่ยง เพิ่งจะได้เนื้อหนัง 2 นาทีเศษๆ เอง... ฟิล์มไหม้...  การต่อฟิล์มขาด ด้วยน้ำยาต่อฟิล์ม (ปัจจุบันเลิกใช้เพราะเป็นสารเคมีอันตรายมาก) สมัยก่อนนั้น เด็กหนังเขาจะใช้มีดโกนขูดเยื่อฟิล์มข้างหนึ่งออกก่อน เวลาขูดเยื้อฟิล์มก็จะต้องระวังไม่ให้ขูดกินเนื้อฟิล์มมากเกินไป ขูดเฉพาะท่อนที่จะใช้น้ำยาต่อเท่านั้น ถ้าขูดมากเกินก็จะเห็นเป็นสีขาวๆ อย่างที่เห็นในภาพนี้ ส่วนปลายฟิล์มอีกข้างหนึ่ง เขาก็จะขูดฟิล์มด้านที่ไม่มีเยื่อฟิล์มให้สากๆ หน่อย จากนั้นก็เอาฟิล์มขาดสองท่อนมาวางทาบกันให้รูหนามเตยทับพอดี อย่าให้เหลื่อมเฟม จากนั้นก็เอาน้ำยาต่อฟิล์มป้ายลงไปนิดหน่อยตรงกลางฟิล์ม กดให้สนิท แค่อึดใจแล้ว ฟิล์มสองท่อนก็จะติดกัน..

         แต่ ไอ้แก่น รุ่นแรกปี 2502 นี้ พระเอกคือ ลือชัย ซึ่งรับเป็น ปิ่น.. ส่วน ไอ้แก่น รุนจารุณี นั้น พระเอกคือ สรพงศ์ รับบทเป็น อนุ..ซึ่งเป็นคนละบทกับ ปิ่น ในรุ่นแรก บท อนุ ใน ไอ้แก่น รุ่นแรก ผู้แสดงคือ วิน วิษณุรักษ์ เป็นช่างภาพซึ่งเพื่อนกับพระเอกลือชัย ซึ่งรุ่นแรกไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก แต่ไอ้แก่น รุ่นที่ 2 นั้น ตัดบทของ ปิ่น ออกไป และดึงเอา บทของ อนุ ขึ้นมาเป็นพระเอกแทน
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..