ผู้เขียน หัวข้อ: หาฟิล์มเก่าๆ ที่กันทรวิชัย มหาสารคาม..ไม่ไป ก็ไม่รู้ 1 กันยายน 2562  (อ่าน 116 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         หาฟิล์มเก่าๆ ที่กันทรวิชัย มหาสารคาม..ไม่ไป ก็ไม่รู้ 1 กันยายน 2562 ก่อนเข้านอนคืนนั้น คุณนุ ประเดิม ก็นำลายแทงกรุฟิล์มต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงมานั่งคำนวณเส้นทางว่าจะไปหาฟิล์มกันที่ไหน สรุปได้ว่า รุ่งเช้าเราจะออกเดินทางไปอำเภอกันทรวิชัย มหาสารคาม เป้าหมายตามคำบอกเล่าว่า แถวๆ บ้านท่าขอนยาง เคยมีคนฉายหนัง 35 มม.อาจมีฟิล์มเก่าอยู่ เมื่อไปถึงบ้านท่าขอนยาง ก็สอบถามชาวบ้าน แต่ยังไม่พบเป้าหมาย แต่ได้ความว่า มีพระอยู่รูปหนึ่งเคยฉายหนัง เราจึงไปหาพระรูปนั้นชื่อพระสำลี บวชอยู่ที่วัดป่าใกล้ๆ นั้น พระสำลีเล่าให้ฟังว่า เคยเห็นคนฉายหนังแลกข้าว แต่ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพระสำลีเองก็เคยฉายหนัง 35 มม.มาก่อน เมื่อเลิกกิจการแล้วก็ขายเครื่องฉายและฟิล์มไปหมดแล้ว..

         จากนั้นเราก็เดินทางเข้าไปตัวอำเภอกันทรวิชัย เพื่อหาเป้าหมายที่ 2 แต่ก็หาเป้าหมายไม่พบ พบแต่ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ที่แถวๆ คุ้ม 2 โคกพระ เคยมีคนฉายหนังแลกข้าว เป็นหนัง 16 มม. เราจึงตามไปหาและพบว่า คนที่เคยฉายหนังขายยาและหนังแลกข้าวชื่อ นายเคลื่อน ศรีจำนงค์ ปัจจุบันอายุ 82 ปี เล่าให้ฟังว่า มีอาชีพเป็นครู แต่ฉายหนังเป็นอาชีพเสริม ตั้งชื่อบริกาหนังว่า บริการนพดลภาพยนตร์ เป็นชื่อลูกชายคนสุดท้อง มีหน่วยฉายอยู่ 5 จอ แรกๆ ก็ใช้วิธีเช่าฟิล์มหนังมาฉาย แต่ต่อมาก็ซื้อฟิล์มหนังไว้เป็นของตัวเอง โดยไปซื้อแถวๆ ร้อยเอ็ด จำชื่อหนังไม่ได้ แต่เป็นหนังมิตร-เพชรา ต่อมาเมื่อเลิกฉายแล้ว ก็ได้ขายเครื่องฉายและฟิล์มไป 3 ชุด จำคนที่ซื้อไปไม่ได้ โดยเหลือไว้ 2 ชุด แต่ไม่มีฟิล์มหนังแล้ว

         นายเคลื่อน เล่าให้ฟังอีกว่า แรงบันดาลใจที่ฉายหนังแลกข้าวก็คือ เห็นครูสมพร ประนัดทา ซึ่งอยู่บ้านใกล้ๆ นั้นฉาย ก็เลยฉายตาม พวกเราจึงเข้าไปครูสมพร พบแต่ลูกสาวเป็นครูชื่อศุภลักษณ์ เล่าให้ฟังว่า เห็นคุณพ่อฉายหนังแลกข้าวมาตั้งแต่เกิดแล้ว ตั้งชื่อบริการพรสวรรค์ภาพยนตร์ หนังที่เห็นคุณพ่อฉายก็คือ ขวัญหล้า มิตร-เพชรา ต่อมาเมื่อเลิกกิจการแล้ว คุณพ่อก็ให้เครื่องฉายและฟิล์มหนังแก่ลูกศิษย์ไป หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางไปอำเภอพล ขอนแก่น เพื่อสืบหาบริการหนังเป้าหมายตามลายแทงอีกแห่งหนึ่ง แต่ยังไม่พบ พบแต่ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า เคยมีใคร ที่ไหน ฉายหนังขายยาและหนังแลกข้าวบ้าง ซึ่งเราจะต้องติดตามสืบต่อไป.. นี่แหละ แม้ไปแล้ว จะยังไม่ได้ฟิล์มหนัง แต่ก็ยังได้เบาะแสข่าวแหล่งอื่นๆ ซึ่งจะเป็นลายแทงให้พวกเราติดตามหาต่อไป

         นั่งฟังลุงเคลื่อน ศรีจำนงค์ คนฉายหนังแลกข้าว เล่าเรื่องของคนฉายหนังขายยา-หนังแลกข้าวรุ่นราวคราวเดียวกันในอดีตให้ฟัง..เล่าๆ ไป ก็บอกว่า ลุงก็บอกว่า คนนี้ คนนั้นตายไปแล้ว..แต่เราก็เก็บข้อมูลมาเพื่อตามต่อไปยังทายาทของเขาเผื่อว่าลูกหลานจะยังเก็บฟิล์มไว้บ้าง

         แทบทุกครั้ง ก็คิดว่าจะคุยสักครึ่งชั่วโมง แต่ก็ลากยาวไปเรื่อยๆ พระสำลี เล่าให้ฟังว่า ฟิล์มที่เห็นๆ นี้เป็นฟิล์ม 35 มม.ที่บริการฉายหนังกลางแปลงเลิกฉายแล้ว พอเขาได้หนังมาใหม่ ก็จะกรอฟิล์มเก่าที่ไม่ใช่แล้วทิ้งไป เพื่อจะเอารีลเหล็กนั้นไปใส่ฟิล์มหนังมาใหม่แทน ฟิล์มเหล่านี้จะมีเป็นกระสอบๆ ตอนที่พระสำลีจะถมที่ทำศาลา ก็เลยไปขอเขามาถมที่เพื่อเทปูนทำพื้นศาลาวัด..


"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2837
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
         ขากลับเข้ากรุงเทพฯ พวกเราก็แวะไปแถวๆ บขส.เมืองพล ขอนแก่น เพื่อเก็บข้อมูลคนฉายหนังเก่าๆ แถวนั้น ก็เผอิญเห็นโรงหนังเมืองพล คุณจุ๊บก็เลยถ่ายมาฝากครับ.. เคยเข้าไปดู.สมัยนั้นข้างในมีประมาณ500ถึง600 ที่นั้ง.เบาะหนัง.พื่นเรียบเสมอเท่าๆกันพัดลมตัวใหญ่ข้างล่ะ4ตัว..แต่จะเปิดสลับฝั่งล่ะ2ตัว.ก่อนจะฉายหนังจะเปิดเพลงรักไทยและจะมีคนออ้อมไปหลังจอหนังดึงผ้าม่านเปิดจอหนัง..คับ..ถ้าหนังดังคนจะแน่นโรงหน่อย55..แต่ก้อคิดถึงเสมออยากดูอีก..
"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..