ผู้เขียน หัวข้อ: หนังขายยา นิยม ศรีวงษ์ แวงใหญ่ ขอนแก่น..  (อ่าน 110 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มนัส กิ่งจันทร์

  • มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 2815
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
    • มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต
          หนังขายยา นิยม ศรีวงษ์ แวงใหญ่ ขอนแก่น..จากบ้านบันลือศักดิ์ พวกเราก็เดินทางต่อไปยังบ้านแวงใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.แวงใหญ่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น เพื่อไปตามหาหนังขายยาของพ่อใหญ่นิยม ศรีวงษ์ ตามที่คุณBigsu Tammada ได้ให้ข้อมูลไว้ เมื่อไปถึงเราก็ตรงไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ เราจึงเดินเข้าไปหลังบ้านผู้ใหญ่ ก็พบบ้านของนายปราโมทย์ เขิมขัน อายุ 72 ปีและภรรยา ในบ้านมีจอหนังพับไว้ มีรถคล้ายรถหนังขายยาจอดอยู่ จึงเข้าไปสอบถามก็ได้ความว่า นายปราโมทย์เป็นสามีของน้องภรรยาของพ่อใหญ่นิยม ศรีวงษ์และก็เคยเป็นหนึ่งในบรรดาคนฉายหนังขายยาของพ่อใหญ่นิยมด้วย แต่พ่อใหญ่นิยมเสียชีวิตไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ขณะอายุได้ 83 ปี ก่อนเสียชีวิตก็ได้หยุดกิจการหนังขายยาซึ่งมีประมาณ 20 หน่อยฉายไปนานแล้วและก็ไม่ทราบว่า ในบ้านพ่อใหญ่นิยมจะยังมีฟิล์มหนังเก่าๆ เก็บอยู่หรือไม่ เผอิญเวลานั้นจวนจะค่ำแล้ว เราจึงขอเบอร์โทรหลานชายพ่อใหญ่นิยมไว้เพื่อติดต่อผู้คุยอีกครั้ง

          นอกจากนี้ นายปราโมทย์ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ก่อนที่นายปราโมทย์จะแต่งงานอยู่กินกับน้องสาวภรรยาพ่อใหญ่นิยมนั้น นายปราโมทย์ก็เคยเป็นคนฉายหนัง 16 มม.มาก่อน แต่เป็นการช่วยคนอื่นฉาย แต่คนนั้นได้เลิกกิจการไปนานแล้ว ไม่ทราบว่าจะมีฟิล์มหรือไม่ ตอนที่นายปราโมทย์มาฉายหนังกับพ่อใหญ่นิยมนั้น ก็ฉายแต่หนัง 35 มม.เท่านั้น โดยจะออกรถไปเร่ฉายขายยาในท้องที่จังหวัดอื่นๆ ส่วนน้องภรรยาพ่อใหญ่นิยมก็เล่าให้ฟังว่า เคยเห็นพ่อใหญ่นิยมฉายหนัง 16 มม. แต่ไม่รู้ว่า เมื่อเลิกฉายแล้ว จะเอาเครื่องฉายและฟิล์มหนังไปไว้ที่ไหน.. คืนวันที่ 12 ตุลาคม 2562 พวกเราจึงพักค้างคืนแถวๆ สี่แยกบ้านไผ่เพื่อเช็คข่าวเรื่องฟิล์มหนังจากหลานชายพ่อใหญ่นิยม

          เช้าวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562 พวกเราเดินทางเข้าไปบ้านพ่อใหญ่นิยมซึ่งอยู่หลังปั๊มน้ำมัน pt แวงใหญ่ ก็พบนางวิเชียร ศรีวงษ์ อายุ 81 ปีซึ่งเป็นภรรยาของพ่อใหญ่นิยม เมื่อเราแจ้งความประสงค์ให้ทราบ แม่วิเชียรจึงให้หลานไปหากุญแจห้องมาไขเปิดดูว่า จะยังมีฟิล์มหนังเก่าๆ เหลืออยู่บ้างหรือไม่ จากการเดินสำรวจพร้อมๆ กับหลานก็พบว่า ยังมีหัวเครื่องฉาย 35 มม. เตาอ๊าคพร้อมอุปกรณ์ฉายอยู่หลายชุด แต่สภาพก็ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ส่วนฟิล์มหนัง 35 มม.นั้นก็เหลืออยู่เพียง 5-6 กระเป๋า แต่ไม่พบเครื่องฉายและฟิล์ม 16 มม.เลย

          ระหว่างพูดคุยกันนั้น แม่วิเชียรและคนในบ้านก็ได้ให้ข้อมูลคนฉายหนังขายยาในตำบลแวงใหญ่อีกหลายแห่ง โดยบอกว่า ตำบลแวงใหญ่นี้มีคนฉายหนังขายยาอยู่หลายคน ให้ลองไปถามดูแถวๆ บ้านหนองกระรอก เราจึงเดินทางไปบ้านหนองกระรอก ก็พบบ้านนายสมบัติ แต่ไม่มีฟิล์ม.. ไปบ้านนายสถิตอยู่ใกล้ๆ วัดก็ได้ความว่า เลิกฉายหนังแล้วและได้ขายเครื่องฉายพร้อมฟิล์มให้ผู้อื่นไป คงเก็บฟิล์มหนัง 35 มม.ไว้เป็นระลึกเพียงหนึ่งเรื่อง เป็นหนังอินเดีย นายสถิตให้ข้อมูลอีกว่า นายสงวน บ้านอยู่ใกล้ๆ กันก็เคยฉายหนังขายยามาก่อน เราจึงตามไปบ้านนายสงวน ไม่พบตัว แต่ได้ความจากชาวบ้านบอกอีกว่า มี สจ.ที่อยู่แถวๆ ต้นตะโก ก็เคยฉายหนังขายยาด้วย

          เราจึงไปถามหาข่าวแถวๆ ร้านปลาเผา ก็ได้พบกับลุงประสิทธิ์ บุญทัน พอลุงประสิทธิ์ทราบเรื่องว่า เรามาตามหาฟิล์มหนังเก่าๆ ก็อาสานำทางพวกเราตระเวนทั่วตำบลแวงใหญ่เพื่อสอบถามหาฟิล์มหนัง ไปหากันอยู่ 5-6 บ้านที่เคยฉายหนังขายยา เช่น หนังขายยากำนันสวัสดิ์ ฯลฯ แต่ก็ได้ความว่า เมื่อเลิกกิจการแล้ว ได้ขายเครื่องฉายและฟิล์มหนัง 35 มม.ไปหมดแล้ว คงมีแต่หนังขายยานิคมรัตน์ภาพยนตร์ที่ยังเก็บฟิล์มไว้อยู่



"มนัส กิ่งจันทร์ ภาคสอง ชุมทางหนังไทยในอดีต" โดยเติมคำว่า "ภาคสอง" คั่นกลางไว้..
อดีตจากฟิล์มภาพยนตร์ ไม่มีวันตาย..