ความสุขจากการดูตัวอย่างหนัง
ความสุขจากการดูตัวอย่างหนัง : มองผ่านเลนส์คม โดย... วิทยา ทองอยู่ยง
ดูเหมือนคนดู ดูหนังตัวอย่างกันน้อยลงนะครับ
ตัวอย่างหนัง หรือที่เรียกกันเก๋ๆ ว่า teaser สำหรับเรียกตัวอย่างแบบสั้น ที่ยังไม่บอกอะไรมาก แค่เรียกน้ำย่อย กับ trailer ที่ใช้เรียกตัวอย่างเวอร์ชั่นเต็ม มีฉากเด็ดอะไรโชว์ก็โชว์เต็มที่
ถึงจะมีคำเรียกที่หลากหลาย แต่ผมก็ยังคงเรียกมันว่าหนังตัวอย่างเหมือนเดิม เพราะพูดชื่อนี้แล้วมันเห็นภาพ รวมทั้งยังให้ความรู้สึกซื่อๆ ดีด้วย
สมัยเด็กๆ ผมเป็นคนที่ชอบดูหนังมาก ต้องบอกว่าชอบดูทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนจอมากกว่า หนังโฆษณาที่เคยเห็นในจอทีวีเล็กๆ ที่บ้าน หนังตัวอย่างของหนังที่เคยเห็นเป็นแค่ใบปิดหน้าโรง ดูได้ดูดีแม้จะเป็นรอบที่สองรอบที่สาม เข้าโรงหนังแทบทุกอาทิตย์ ดูบ่อยๆ จนจำลำดับของการฉายได้เลย ที่โรงหนังประจำแถวบ้านของผม จะเริ่มฉายสไลด์โฆษณาที่เป็นตัวหนังสืออย่างเดียว ไม่มีภาพ เขียนด้วยลายมือ หลังจากนั้นถึงเป็นหนังโฆษณา แล้วค่อยเป็นหนังตัวอย่าง ก่อนจะเป็นเพลงสรรเสริญ จบแล้วเข้าหนังเรื่อง แต่บางทีก็มีหนังตัวอย่างเรื่องทีเด็ด หรือตัวอย่างใหม่ๆ ที่ทางโรงจะเอามาฉายเป็นเรื่องแรก ฉายก่อนหนังโฆษณา ทำให้ผมต้องเข้าโรงหนังเร็วขึ้น เพื่อจะได้ไม่พลาดหนังตัวอย่าง ไวชนิดที่คนดูรอบก่อนหน้ายังออกไม่ทันหมดดี ผมก็เดินสวนเข้าไปแล้ว
หนังตัวอย่างนี่ถือหน้าเป็นตาของหนังทั้งหลายเลยนะครับ ตัวอย่างสนุก น่าติดตาม ก็มีผลทำให้หนังเรื่องดูดีมีอนาคตและคนดูบางคนจะนับวันรอหนังเข้าฉายเลยทีเดียว
โตขึ้นมา ในขณะที่วัฒนธรรมการห้ามสปอยล์ เป็นที่นิยมแพร่หลาย จากแต่ก่อนห้ามเล่าตอนจบของหนังประเภทหักมุม ก็กลายเป็นห้ามเล่าตอนจบหนังทั่วไป ลามไปถึงห้ามเล่าตอนจบของหนังสือ ไปจนถึงห้ามเล่าอะไรซักอย่างในหนังเลย จนเดี๋ยวนี้ ห้ามเล่าผลการแข่งขันกีฬาหรือการประกวดใดๆ เดี๋ยวชั้นจะไปตามดูย้อนหลัง ไปลุ้นเหมือนดูสดๆ เอาเอง เพื่อนผมบางคนนี่เลิกดูหนังตัวอย่างไปเลยนะครับ ไม่อยากเห็นอะไรเป็นตัวอย่าง เรียกว่าไม่อยากรู้อะไรซักอย่างในหนังเลยมากกว่า กลัวเสียอรรถรส ไปโรงหนังก็จะเข้าช้าๆ หรือหากเข้าไปนั่งดูแล้ว ยังมีตัวอย่างอยู่ มันก็จะหลับตาไม่ดู กลัวสปอยล์ !!
ดูเหมือนหนังตัวอย่างเริ่มจะไม่เป็นที่ต้องการของคนดูหนังบางกลุ่มไปแล้ว…
พอมามีอาชีพเป็นคนทำหนัง ขั้นตอนนึงที่ผู้กำกับต้องเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจร่วมกับสตูดิโอ ก็คือหนังตัวอย่าง จะยั่วน้ำลายคนดูด้วยฉากไหนดี? มีมุกตลกอันไหนที่ปล่อยมาแล้วฮา มุกผีทีเด็ดอันไหนที่คนจะรู้สึกว่าโคตรน่ากลัว ฉากแอ็กชั่นอันไหนน่าตื่นตาตื่นใจบ้าง แล้วผู้กำกับทั้งหลายจะเกิดอาการแบบเดียวกันหมด คือ เสียดายมุก ฉากนี้เอาไว้ไปดูในหนังดีกว่า ฉากนี้เห็นเยอะไป ฉากนี้รู้ความลับของหนัง ตัดออกได้มั้ยครับ
หรือบางทีก็อาจมีประเด็นอย่าง ฉากนี้ตลกที่สุดในเรื่อง ตัดเป็นตัวอย่างแล้วคนดูคาดหวัง พอมาดูหนังจริงฉากอื่นไม่ตลกเท่า ก็จะบ่นว่าตัวอย่างสนุกกว่าหนังจริง เอาฉากตลกน้อยกว่านี้ใส่ในหนังตัวอย่างแทนได้มั้ยครับ
จนบางทีคนตัดตัวอย่างต้องบอกว่าฉากไหนๆ ก็ใส่ไม่ได้ ระวังจะไม่มีใครได้เห็นของดีทีเด็ดนะ เพราะตัวอย่างไม่สนุก ใครที่ไหนจะสนใจอยากเข้ามาดูในโรง
ก็ต้องหาจุดลงตัวกันไประหว่างผู้กำกับกับฝ่ายโปรโมท ฉากไหนปล่อยมายั่วน้ำลายได้ ไม่เสียหายกับเรื่อง ก็ใช้งานในหนังตัวอย่างไป
สุดท้ายพอได้สำเร็จเป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายออกมา ผมก็เห่อมันและอยากอวดอยู่ดี ยังจำได้ตอนตัวอย่างหนังเรื่องแรกออกฉาย ผมตีตั๋วเข้าไปเพื่อรอดูตัวอย่างโดยเฉพาะ และยิ้มมีความสุขกับครั้งแรกที่เห็นหนังของเราปรากฏอยู่บนจอใหญ่...แม้เป็นแค่หนังตัวอย่าง
ผมยังรู้สึกว่าหนังตัวอย่างยังมีประโยชน์ ทำให้คนดูเห็นว่าหนังจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง ก่อนจะตัดสินใจเสียเงินเข้าไปดู
ซื้อรถยังต้องลองขับ จะซื้อกางเกงยังต้องลอง หนังดีๆ ซักเรื่องดูเสร็จมันจะอยู่กับเราไปนานกว่ารถกว่ากางเกงอีกนะครับ ลองเสียเวลาดูหนังตัวอย่าง ให้มันยั่วน้ำลายซักหน่อยก็ดีนะครับ
สวัสดีครับ
.......................................
(หมายเหตุ ความสุขจากการดูตัวอย่างหนัง : มองผ่านเลนส์คม โดย... วิทยา ทองอยู่ยง)