รอยนิ้วมือบนออสก้าร์ของเฉินหลง
ในหนังสือ Never Grow Up เฉินหลงเปิดใจเกี่ยวกับหลายแง่มุมในชีวิตของเขา และหนึ่งในนั้นคือช่วงเวลาที่ได้รับรางวัลออสการ์ ในปี ๒๐๑๖ เฉินหลงได้กล่าวสุนทรพจน์ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความสำเร็จของเขา ในสุนทรพจน์ของเขา เขาเล่าถึงความทรงจำตอนที่เขาไปเยี่ยมซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เมื่อ ๒๓ ปีก่อนเขาเห็นรางวัลออสก้าร์ครั้งแรกในบ้านของสตอลโลน เขาอธิบายว่าตัวเองสัมผัสและจูบรางวัลออสก้าร์รางวัลนั้น
“ผมสัมผัสมัน ผมจูบมัน ผมดมกลิ่นของมัน ผมเชื่อว่าถึงในตอนนี้มันยังมีรอยนิ้วมือของผมติดอยู่ นายเก็บเอาไว้ด้วยนะ”
เฉินหลงพูด พลางชี้มือไปทางสตอลโลนที่กำลังหยิบมือถือถ่ายเฉินหลงตอนกำลังกล่าวสุนทรพจน์
“ผมบอกกับตัวเองว่า ผมต้องการมันจริงๆ”
ย้อนไปในช่วงต้นยุค ๘๐ เฉินหลงได้ใช้ความพยายามที่จะแสดงภาพยนตร์ในฮอลลีวูดแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนช่วงกลางยุค ๙๐ เขาได้พบกับสตอลโลน และก็เป็นสตอลโลนที่ชักชวนเขามาฮอลลีวูดอีกครั้ง ในตอนนั้นฮ่องกงกำลังจะคืนนู่จีน ดาราฮ่องกงต่างขยับขยายหาเส้นทางงานแสดงใหม่ เฉินหลงกังวลว่าวัยที่กำลังจะขึ้นเลขสี่ของเขาจะเป็นอุปสรรค แต่ สตอลโลนบอกว่า วัยเลขสี่นี้คือวัยที่กำลังจะเริ่มต้น เฉินหลงจึงบุกเบิกเส้นทาง การแสดงของเขาจนสำเร็จ
“พ่อมักจะพูดกับผมเสมอว่า ‘ลูกเอ๋ย ลูกได้รางวัลภาพยนตร์มากมายในโลก แล้วลูกจะได้รางวัลนี้(ออสก้าร์)เมื่อไหร่’
เฉินหลงหัวเราะและตอบพ่อเขากลับไปว่า “ผมทำแต่หนังแอคชั่น คอมเมดี้ คงไม่มีทางได้รับรางวัลนี้หรอก”
เมื่อเฉินหลงรับรางวัลออสก้าร์เขาบอกกับทุกคนในงานวันนั้นว่า
“ในที่สุด หลังจาก ๕๖ ปีในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ผมแสดงภาพยนตร์กว่า ๒๐๐ เรื่อง ทำตัวเองกระดูกหักจนแทบจำไม่ได้ ในที่สุด มัน(รางวัลออสก้าร์) ก็เป็นของผม”