ฉายหนังที่บ้านดารา..แต่เรารับรู้ได้ว่า ตอนนั้นท่านมีความสุขมากกก..

[มนัส กิ่งจันทร์]

บางที ก็มีสื่อหรือคนอื่นๆ ถามผมว่า ทำไม ต้องเดินฉายสายฉายหนังมิตร ชัยบัญชา.. ฉายหนังที่บ้านดารา.. แล้วก็ไปกันแบบฟรีๆ อย่างทุกวันนี้ด้วย.. ผมเองก็งงๆ ที่จะให้คำตอบเหมือนกัน.. ไอ้ครั้น จะตอบไปจริงๆ ว่า ก็เพราะอยากจะฉาย อยากจะไป.. ก็กลัวเขาจะหาว่า ผมตอบกวน.... เขาอีก

แต่วันนี้ ถ้าทุกท่านได้อ่านคอมเม้นท์ที่พี่ตุ๊กตา จินดานุช เขียนลงในโพสต์งานที่พวกเราไปฉายหนังที่บ้านคุณวินัย พันธุรักษ์ นี้แล้ว ก็คิดว่า มีคำตอบของผมปนอยู่ในคอมเม้นท์ด้วยแล้วครับ..

พี่ตุ๊กตาใช้คำว่า คุณมนัส ไม่ได้เก็บความฝันไว้คนเดียว.. อันนี้แหละครับคือหลักจริงๆ ของผม.. ผมเองตามหาหนังไทยเก่าๆ ก็เพราะอยากจะดู อยากจะเห็นอีก.. แต่สมัยนั้น แต่ถ้าเป็นเทปวีดีโอ ก็ไม่ค่อยจะมีใครทำออกมาจำหน่าย ยิ่งเป็นหนัง 16 มม.ด้วยแล้ว แทบไม่มีเลย..

กระทั่งวันหนึ่งผมกับเพื่อนๆ รู้ว่า "ถ้าอยากจะดูหนังไทยเก่าๆ ก็ต้องออกตามหากากฟิล์มหนังกันเอง" และเมื่อหาฟิล์มหนังมาได้ แรกๆ ก็จะนั่งดูกันเอง ถ้าหนังไม่มีเสียง ก็ต้องนั่งดูแบบใบ้ๆ อีก.. แล้วเรื่องก็เลยเถิดมาถึงที่ว่า พวกเราจะต้องพากย์หนังกันเองอีก..

พอได้ดูหนังแล้ว ก็เริ่มคิดว่า ฟิล์มหนังเหล่านี้ บางเรื่องก็เป็นฟิล์มชุดสุดท้ายที่ค้นพบจริงๆ มีอยู่แต่ที่เรา คนอื่นๆ ไม่มี แล้วเราจะดูกันคนเดียวอย่างนั้นหรือ.. ตอนนั้น เผอิญผมได้เข้าทำงานที่หอภาพยนตร์ฯ จึงถือโอกาสนำหนังไทยเก่าๆ ที่หาดูได้ยาก เข้าโปรแกรมฉายที่หอภาพยนตร์ฯ ตลอดมา

แต่วันนี้ เกษียณแล้ว ความฝัน ความรู้สึกเดิมๆ ก็ยังมีอยู่ ก็เลยปรับเปลี่ยนความฝัน ออกมาเดินสายฉายหนังให้ดูฟรีๆ กันแบบนี้แหละครับ.. บางท่านถามผมว่า จะฉายได้อีกนานแค่ไหน.. ผมก็ตอบเขาไปว่า ก็จนกว่าเครื่องฉายจะพังหรือหมดสตางค์ค่ารถไปนั่นแหละ (นี่ เขาก็คงคิดว่า ผมตอบกวน... เขาอีก)

คอมเม้นท์พี่ตุ๊กตาปิดท้ายด้วยคำว่า "แต่เรารับรู้ได้ว่า ตอนนั้นท่านมีความสุขมากกก.." อันนี้แหละครับ คือ ยอดปรารถนาของผม.. และก็เป็นเหตุผลหลักๆ ในการสู้จัดกิจกรรมฉายหนังกันแบบนี้ ฉายแล้ว คนดูชอบ.. ฉายแล้วคนที่เกี่ยวข้องกับหนังไม่ว่าจะเป็นดารา ผู้สร้าง ผู้กำกับ เขาดู เขาชอบ ผมเองก็มีความสุขครับ.. คืนนั้น พอคุณวินัย พันธุรักษ์ เห็นภาพตัวเองบนจอหนัง ท่านก็เริ่มพูด เริ่มสาธยายเกี่ยวกับภาพบนจอ.. (ลองไปคลิกดูในเทปที่ผมโพสต์ไว้นะครับ) นั่นแหละครับ ความสุขของผม..

(ภาพประกอบ : เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2557 พี่ตุ๊กตา จินดานุช ถ่ายรูปกับกระเป๋าฟิล์มหนังเรื่อง ชะตาชีวิต ที่พี่ตุ๊กตาเคยแสดงเป็นลูกสาวของเพชรา เชาวราษฎร์ นางเอกของเรื่อง.. ถ่ายภาพที่บ้านอาจารย์ประนอม แซ่เซีย บุตรสาวเจ้าของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ที่เก็บฟิล์มหนังเหล่านี้ไว้)