THE HOBBIT ของปีเตอร์ แจ็คสัน จะฉายด้วยระบบ 48 เฟรมต่อวินาที เมื่อสองผู้กำกับ เจมส์ แคเมรอน และ ปีเตอร์ แจ็คสัน แก้ปัญหาและทำให้การถ่ายทำหนังที่เฟรมเรต 48 เฟรมต่อวินาทีได้สำเร็จ ผู้ผลิตเครื่องฉายหนังในโรงก็เริ่มเดินหน้าพัฒนาเพื่อให้สามารถฉายหนังที่ 48 เฟรมต่อวินาทีให้ทันฉายหนังเรื่อง The Hobbit: An Unexpected Journey ในวันที่13 ธันวาคมนี้
เทคโนโลยีใหม่ของวงการหนังโรงกำลังพัฒนาเพื่อที่ในอนาคต ผู้ชมจะสามารถสนุกกับ The Hobbit: An Unexpected Journey ในระบบ 3 มิติที่48 เฟรมต่อวินาทีได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว หนังทั่วไปในโรงหนัง จะฉายอยู่ที่ 24 เฟรมต่อวินาที
คำถาม ณ จุดนี้ก็คือ จะมีโรงภาพยนตร์ทั่วโลกจำนวนมากแค่ไหน ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ของตนเองเพื่อให้สามารถรองรับหนังแฟนตาซีผจญภัยเรื่องใหม่ของ ปีเตอร์ แจ็คสัน ได้ ซึ่งจะถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกของโลกที่จะฉายในโรงด้วยเฟรมเรตนี้
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่าคงจะมีโรงหนังหลักหมื่นทั่วโลกที่น่าจะเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ฉายหนัง 48 FPS (Frame per second) ได้ ในขณะที่โรงหนังอีกมากที่เหลือ คงจะรอดูกระแสตอบรับของผู้ชมก่อน ก่อนที่จะลงทุนอีกมากสำหรับหนังเรื่องอื่นๆ ในระยะยาว
เฟรมเรตนั้นก็คือจำนวนของภาพนิ่งที่ฉายลงบนจอภาพในเวลา 1 วินาที โดยทั่วไปแล้วหนังจะฉายในโรงที่ 24 เฟรมต่อวินาที หรือ 24 FPS ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันมานาน ในขณะที่โทรทัศน์ทั่วไปจะฉายที่ 25 FPS (ระบบ PAL) หรือ 29.97 FPS (ระบบ NTSC)
การฉายภาพเคลื่อนไหวที่เฟรมเรตสูงขึ้น ย่อมหมายถึงความนุ่มนวลของการเคลื่อนไหว ที่ดูเป็นธรรมชาติต่อสายตามนุษย์มากขึ้น ซึ่งเครื่องฉายหนังในแต่ละระบบ จะต้องปรับปรุงและพัฒนาในรูปแบบของตัวเอง เพื่อให้สามารถฉายหนังที่ 48 FPS ได้
นอกจากนี้ ผู้กำกับ เจมส์ แคเมรอน ยังบอกว่า เขาจะสร้าง Avatar 2 และ Avatar 3 ที่เฟรมเรตสูงๆ เช่นกัน ซึ่งอาจหมายถึง 48 FPS หรือ 60 FPSในอนาคต
แหล่งที่มา
http://www.majorcineplex.com