อย่างไรก็ตาม พี รามลี ยังมีโอกาสแสดง ในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตัวตลก แต่เขาก็ยังหาโอกาส เรียนรู้เบื้องหลังการถ่ายทำ โดยอาสาทำงานหลายอย่าง เช่น ผู้ช่วยกล้อง ตัวแสดงแทน ดูแลความต่อเนื่อง เป็นต้น กระทั่งผู้กำกับลักชมานา กริชนัน ต้องการหานักแสดง ที่มารับบทพระเอกในเรื่อง "Bakti" และเขาก็เลือกรามลีมารับบทนี้
หลังจากที่ภาพยนตร์ออกฉาย ทำให้ชื่อเสียงของ พี รามลี โด่งดังในเวลาอันรวดเร็ว และยังได้แสดงนำในภาพยนตร์ อีกสองเรื่อง คือ "Takdir Lahir" และ "Antara Senyum & Tangis" ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ทำให้ผู้กำกับหลายคน ต้องการเขามาแสดงในภาพยนตร์ ทำให้เขามีผลงานหลายต่อหลายเรื่อง เนื่องจากฝีมือการแสดง และเสียงร้องที่โดดเด่นกว่าใคร ๆ และเอกลักษณ์ส่วนตัว โดยเฉพาะผมหยิกลอนที่งามสลวย หนวดเคราที่ไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงการเหน็บผ้าเช็ดหน้า ไว้ในกระเป๋าหลัง ก็ทำให้ ใครต่อใครพากันเลียนแบบเขากันไปทั่ว
ในที่สุดพี รามลี ได้รับโอกาสครั้งสำคัญ โดยลงมือกำกับภาพยนตร์เรื่อง "Penarik Beca” เป็นเรื่องแรก และยังทำหน้าที่ทั้งกำกับการแสดง เขียนบท แต่งเพลง แต่งดนตรีประกอบ และแสดงนำ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับความนิยมมาก ทำให้เขามีผลงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง เช่น ภาพยนตร์แนวชีวิต "Ibu Mertuaku", "Antara Dua Darjat" , "Sumpah Orang Minyak" รวมทั้งภาพยนตร์แนวตลกอย่าง "Musang Beranggut" , "Nujum Pa' Belalang" และ "Bujang Lapaok" ซึ่งต่อมาได้รับการยกย่อง ให้เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล เรื่องหนึ่งของประวัติศาสตร์ หนังมาลายาเลยทีเดียว
ตลอดระยะเวลา 20 ปี ในวงการภาพยนตร์ เขามีผลงานแสดงกว่า 20 เรื่อง รวมทั้งกำกับ เขียนบท และเขียนเพลงประกอบด้วย โดยภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยม ในระดับนานาชาติของเขาคือ "My Son Sazali" หรือ "Anak-Ku Sazali" ซึ่งทำให้พี รามลี ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงานภาพยนตร์เอเชีย แปซิฟิกครั้งที่ 4 ณ กรุงโตเกียว (ปี พ.ศ.2500)
ต่อมายุคทองของภาพยนตร์มาเลเซีย เริ่มซบเซา ทำให้ความพยายามที่จะสร้าง บริษัทภาพยนตร์ของพี รามลี ต้องยุติลง พร้อมกับชีวิตของเขาในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2516 ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ยุคทองของภาพยนตร์มาลายา จึงต้องสิ้นสุดลงด้วย
ก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิต พี รามลี เคยกล่าวไว้ว่า "ความนิยมในภาพยนตร์นั้น เปรียบเสมือนสภาพอากาศ บางครั้งก็แจ่มใส บางครั้งก็ขมุกขมัว มันเป็นวัฏจักร ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้"
ภายหลังจากการเสียชีวิตของ พี รามลี เขาได้รับการยกย่อง จากรัฐบาลให้เป็น รัฐบุรุษของชาติ โดยจะมีการจัดงานรำลึกถึงพี รามลี ทุกวันที่ 29 พฤษภาคม ของทุกปี