ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 472 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ เมื่อพวกเราจะซื้อ..เครื่องฉายหนัง 35 มม.  (อ่าน 534 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 472
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ
เมื่อพวกเราจะซื้อ..เครื่องฉายหนัง 35 มม.
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 17 มกราคม 2557)


            สวัสดีครับทุกท่าน..วันนี้ มีเรื่องต้องแจ้งให้เพื่อนๆ ใน facebook ทราบนะครับ..คือว่า หลังจากที่พวกเราหลายๆ คนช่วยกันตามหากากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ มาแปลงสัญญาณภาพป็นไฟล์ดิจิทัลเก็บไว้ก่อนที่ฟิล์มจะเสียหายไปนั้น ต่อมาคุณนุ Praderm Sangaseang ตากล้องประจำกลุ่มของพวกเรา ก็ได้คิดพัฒนาการแปลงไฟล์หนังให้เป็นระบบ full HD 1080โดยได้รับความร่วมมือเรื่องอุปกรณ์เครื่องฉายหนัง 35 มม.จากคุณฉัตรชัย ไทยซีเน ราชบุรี เป็นอย่างดี.. ซึ่งหลายท่านคงได้เห็นหนังไฟล์ full HD ที่มาจากเครื่องฉายของคุณฉัตรชัยแล้วนะครับ..ต่อมาเพื่อพัฒนาการแปลงสัญญาณให้ดียิ่งขึ้นอีก คุณนุฯ ก็ลงทุนซื้ออุปกรณ์กล้องวีดีโอเพิ่มเติม ซื้อจอมอนิเตอร์ ฯลฯ แถมบางครั้งก็ยังไปหาซื้อกากฟิล์มหนังมาเก็บไว้อีก..

            และตอนนี้ คุณนุฯ ก็คิดที่จะซื้อเครื่องฉายหนัง 35 มม.มาใช้แปลงสัญญาณอีก โดยจะตั้งประจำบ้านคุณนุฯ เผื่อว่า ถ้ามีกากฟิล์มด่วนๆ เข้ามา จะได้ไม่ต้องรอเวลานานเพราะทุกวันนี้ แม้คุณฉัตรชัย จะยินดีให้พวกเราไปใช้เครื่องฉายหนังที่ราชบุรี แต่เดือนหนึ่งๆ เราก็ไปได้เพียงครั้งเดียว บางเดือนก็ไม่ได้ไปเลย เกรงว่า การช่วยหนังจะไม่ทันการณ์ แต่ถ้าเรามีเครื่องฉายเองและอยู่กรุงเทพฯ ยังไงๆ ก็ยังช่วยหนังได้มากขึ้นและสามารถจะกำหนดวันส่งคืนฟิล์มได้เร็วขึ้นด้วย..เรียกว่า สะดวกทั้งคนให้ยืมฟิล์มและพวกเราด้วยครับ...

            เมื่อพูดถึงเรื่อง ซื้อเครื่องฉายหนัง 35 มม.ดังกล่าวแล้ว ผมก็ลองปรึกษาไปยังเพื่อนๆ ที่มีความรู้ด้านเครื่องใน facebook ว่า ควรจะเป็นเครื่องฉายยี่ห้ออะไร ราคาควรจะอยู่สักกี่บาท..แรกๆ ก็คิดว่า จะหาเครื่องฉายเก่าๆ มาซ่อมแซม ดัดแปลงเพื่อประหยัดราคาเพราะการเทเลซีนของเรานั้น ไม่จำเป็นต้องใช้หลอดฉายซีน่อน ไม่จำเป็นต้องมีเตาอ๊าคไม่ต้องใช้เลนส์ฉายด้วย.. แต่จากการสอบถามหลายๆ ท่าน ก็ได้ข้อสรุปตรงกันว่า ในเมื่อผมกับคุณนุฯ ไม่มีความรู้ด้านซ่อมเครื่องฉายหนัง ก็ไม่ควรจะซื้อเครื่องเก่าๆ ที่จะต้องมีปัญหาในอนาคตประกอบกับกากฟิล์มหนังที่ได้มานั้น ล้วนแต่อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างแย่ เกรงว่า หัวเครื่องฉายเก่าๆ หรือบางยี่ห้ออาจจะฉายฟิล์มเหล่านั้น ไม่ผ่าน..ก็เลยจำเป็นต้องหาซื้อเครื่องฉายที่ฉายฟิล์มเก่าได้ครับ ซึ่งตอนนี้ สรุปตรงกันแล้วว่า จะใช้เครื่องฉายยี่ห้อใด ครั้นพอให้เพื่อนๆ ช่วยติดต่อหาซื้อให้..

            ปรากฏว่า มีอยู่เครื่องหนึ่ง แต่ไม่อาจจะขอซื้อโดยแยกชิ้นเฉพาะส่วนที่เราอยากได้ จำเป็นจะต้องซื้อแบบครบชุดซึ่งราคาค่อนข้างสูงกว่าที่เราคิดๆ เกือบ 3 เท่าตัว แต่เมื่อฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆ บางคนที่ว่า ถ้าเราซื้อเครื่องฉายสมบูรณ์มาก็ดีน่ะ.. วันไหนเกิดกลุ่มฯเราจำเป็นต้องฉายหนังกลางแปลงเป็นกิจกรรมบ้าง เครื่องชุดนี้ก็ยังฉายโชว์ได้ด้วย ซึ่งความข้อนี้ คุณนุฯ ก็เห็นพ้องด้วย ผมและเพื่อนๆ ก็เห็นด้วย แต่ราคานี่ซิครับ ยังสูงอยู่..จนคิดว่า เราไม่ควรปล่อยให้คุณนุฯ ลงทุนซื้อคนเดียวเหมือนตอนที่ซื้อกล้อง ซื้ออุปกรณ์ ซื้อฟิล์มหนัง.. เพราะงานที่เรากำลังทำอยู่นี้ ไม่ใช่เพื่อส่วนตัว แต่เป็นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แม้ว่าตอนนี้ จะยังไม่มีใครเห็นคุณค่าของงานที่ทำไว้ แต่มันก็เป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข ไม่ใช่หรือ..ที่พวกเราได้ช่วยชีวิตหนังไทยเก่าๆ ไว้ ไม่ให้สูญพันธุ์ไปมากกว่านี้..

            ผมเอง ตั้งแต่เริ่มโพสหนังใน facebook นั้น ก็มีเพื่อนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น บางครั้งก็พาเพื่อนๆ ไปลำบากลำบนด้วยกัน ไม่ใช่ผมไม่คิดนะครับ ผมก็เกรงใจเพื่อนๆ ทุกคนที่ไปลำบากกับผม..อย่างครั้งที่แล้ว ที่ผมไปอำเภอนาแก นครพนม..คุณนุฯ ไม่เคยออกแรงหนักๆ มาก่อนแบบนี้ ก็ถึงกับเส้นพลิก หวิดจะเดี้ยงแล้ว..ส่วนพี่อี๊ด อาทร ก็ต้องขับรถยนต์ไป-กลับ ขับกลางคืนทั้งๆ ที่สายตาไม่ค่อยดี.. ผมรู้ว่า เหนื่อยครับ แต่ก็พูดไม่ออก ก็หวังแต่ว่า จะมีคนอื่นๆ เห็นและเข้าใจว่า พวกเราทำไปเพื่ออะไร..นี่ถ้า หนังไทยเก่าๆ มีกระแสเหมือนหนังต่างประเทศ ก็คงจะมีคนทำออกมาขายสวยๆ ให้เราได้ซื้อได้หากัน เราคงไม่ต้องลำบากแบบนี้..

            แต่นี่เพราะคนไทยไม่สนใจหนังไทยเก่าๆ ครั้นเราจะปล่อยเวลาให้เนิ่นช้าออกไป รอจนกว่าหนังไทยเก่าจะมีกระแสกลับมาเอง ผมว่า ตอนนั้น เราก็คงหากากฟิล์มไม่ได้แล้วครับ..หรือไม่ บางทีพวกเราก็ต้องตายก่อนได้ดูหนังเหล่านั้นเป็นแน่

            ดังนั้น วันนี้ เมื่อเห็นคุณนุฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการแปลงสัญญาณกากฟิล์มให้ดีขึ้นยิ่ง ให้เร็วยิ่งขึ้นถึงขนาดจะยอมลงทุนซื้อเครื่องฉายหนัง 35 มม.มาใช้ในงานนี้แล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องบอกกล่าวให้เพื่อนๆ ใน facebook นี้ได้ทราบกัน แม้ว่า คุณนุฯจะบอกว่า อย่าไปรบกวนเลย..เกรงใจเขา.. แต่ผมก็บอกว่า งานนี้ เป็นงานที่เราเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม..ยังไงๆ ก็ต้องบอกให้เพื่อนๆ ได้ทราบ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อให้รู้ว่า หนังที่ท่านจะได้ชมอีกในอนาคตนั้น ก็มาจากเครื่องฉายที่คุณนุฯ ลงทุนซื้อนี่แหละครับ..ส่วนเพื่อนๆ ท่านใดมีความประสงค์จะช่วยแบ่งเบาภาระคุณนุฯ ครั้งนี้ ก็สุดแท้แต่ศรัทธา..ไม่ได้กะเกณฑ์อะไร แจ้งมาที่ผมได้เลยครับ จะได้รวบรวมไปช่วยคุณนุฯ ครับ...
..............


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต นี่แหละครับ..

เจ้าของเครื่องฉายหนังที่พวกเราจะไปขอซื้อมา..


          เทปวีดีโอวันที่ ผม คุณนุ คุณฉัตรชัย ไทยซีเน คุณบี.. เดินทางเข้าไปดูความเรียบร้อยของการประกอบเครื่องฉายหนัง 35 มม.ที่คุณนุและพวกเราจะช่วยกันซื้อ..แต่ว่า พอไปถึงตึกหลังดังกล่าว..จากการพูดคุยกัน จึงรู้ว่า ผู้จะขายให้นั้นเคยมีบทบาทสำคัญต่อวงการประวัติศาสตร์หนังไทยเหมือนกัน..ผมก็เลยถือโอกาสพูดคุย หาความรู้เพิ่มเติมและนำมาฝากเพื่อนๆ นะครับ ความยาวประมาณ 30 นาที ลองฟังดูครับว่า จะเป็นอย่างไรบ้าง..ส่วนเครื่องฉายนั้น ก็รอวันเสร็จสมบูรณ์ก่อนนะครับ...คลิกดูเทป....ไปดูเครื่องฉายหนังและพูดคุยกับ พรชัย สิริรัตนปัญญา อดีตผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์

          ขอบคุณทุกท่านไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ ช่วงนี้ ผมก็ต้องเทียวไปเทียวมาเพื่อเช็คระบบเครื่องฉายหนังอยู่นะครับ..ขอบคุณคุณเห้าเหลียง แซ่น้า ที่นำรูปโรงหนังที่คุณพรชัย สิริรัตนปัญญา เคยฉายมาให้ชมครับ..และเมื่อสักครู่นี้ คุณRegis Madec ส่งข้อความมาบอกว่า ได้เงินช่วยค่าซื้อเครื่องฉายหนัง 35 มม. มาให้อีก 1 คนแล้วนะครับ..ขอบคุณมากๆ ครับและผมจะได้รวบรวมส่งให้คุณนุต่อไปนะครับ..คิดว่า ก่อนตรุษจีนนี้ ทุกอย่างคงเรียบร้อยหมดครับ..ตอนนี้ ใครยังไม่เห็นหน้าตาเครื่องฉายหนัง ก็คลิกดูได้จากเทปนี้....ไปดูเครื่องฉายหนังและพูดคุยกับ พรชัย สิริรัตนปัญญา อดีตผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/eAWMlDIJvjw?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
ไปดูเครื่องฉาย คุยกับ พรชัย สิริรัตนปัญญา ผู้สร้างผู้กำกับหนัง



โรงหนัง ไซฮ้อ ที่ว่าครับ
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
สิ่งที่พวกเรากำลังรอคอย...อีกไม่นานก็จะเสร็จเรียบร้อย..


มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต วันพรุ่งนี้ วันเสาร์ที่ 25 มกราคม..พวกเราหลายๆ คนมีนัดเป็นกรณีพิเศษตอนค่ำๆ.. คุณนุฯ ก็ไปด้วยครับ หากเพื่อนๆ ท่านใดจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณนุฯ ในการซื้อเครื่องฉายหนังครั้งนี้ ก็จะได้เจอคุณนุฯ ตัวเป็นๆ ก็ช่วยๆ กันได้ตามสะดวกนะครับ ส่วนที่ฝากเงินผ่านผมมานั้น ผมรวบรวมนำให้คุณนุฯ หมดแล้วครับ..และก็เพิ่งทราบจากคุณนุฯอีกว่า พอมีเครื่องฉายปุ๊บ ก็ต้องซื้อที่กรอฟิล์มหนัง ต้องจ้างช่างมาต่อเติมที่ว่างข้างๆ บ้านเพื่อใช้เก็บฟิล์มหนังที่ไปซื้อมาอีก ก่อนที่จะระบายหรือนำไปแลกเปลี่ยนกับหนังเรื่องอื่นๆ ต่อไป

            ป.ล. ขอแจ้งข่าวเรื่อง กากฟิล์มหนังที่พวกเราไปขอแบ่งซื้อมาจากลุงสมาน ศรีกระสอน อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม และผมฝากให้คุณศักดิ์ที่ราชบุรี ช่วยซ่อมแซมให้นั้น ตอนนี้ซ่อมไปได้แล้ว 2 เรื่องจำนวน 4 กระเป๋า เหลืออีกจำนวน 10 กระเป๋า ซึ่งผมได้บอกว่า ไม่ต้องซ่อมแซมมากเพราะต้องการเตรียมนำมาลองฉายกับเครื่องของคุณนุฯเพราะได้ยินกิติศักดิ์ของเครื่องนี้ว่า ฟิล์มเก่าๆ ก็ฉายผ่านได้สบายๆๆ ก็เลยอยากลอง..คาดว่า อีกไม่ช้านี้ ผมจะไปขนย้ายฟิล์มทั้งหมดจากราชบุรีมาไว้ที่บ้านคุณนุฯ ก่อน.. พอได้เครื่องฉายมาก่อนตรุษจีน ก็จะได้ทดลองเดินเครื่องเลยครับ..


             สวัสดีครับทุกท่าน..ผมเพิ่งกลับมาจากบ้านคุณนุ Praderm Sangaseang ครับ ตอนนี้ เครื่องฉายหนังที่พวกเราช่วยสมทบทุนให้คุณนุฯซื้อมานั้น มาติดตั้งเรียบร้อยแล้วครับ เป็นเครื่องฉายจีนแดง เห็นว่าเป็นรุ่นเซี่ยงไฮ้ 104 ที่คนในวงการเข้าพูดกันว่า ฉายกากฟิล์มเก่าๆ ได้สบายๆ ครับ จึงแนะนำให้พวกเราไปหามาใช้..ตอนนี้ คุณนุฯ ยังไม่หัดฉาย แต่วันนี้ ผมฉายเล่นจนคล่องแล้วครับ ฉายไม่ยากอะไรเพราะมีแผนผังการใส่ฟิล์มไว้ให้เห็นๆ ข้างเครื่องฉาย..เครื่องฉายนี้ใ้ช้ไฟบ้านธรรมดาครับ เครื่องเดินเงียบมากๆ วันนี้ ก็เลยลองฉายกันสนุกไปเลยครับ...



            นอกจากเครื่องฉายแล้ว ที่พวกเราต้องหามาเสริมอีกก็คือ ที่กรอฟิล์มหนังไป-กลับ ชุดหนึ่ง..แล้วอีกอย่างก็คือ ตัวตัดต่อฟิล์ม ที่เห็นวางไว้กลางที่กรอฟิล์มนั่นแหละครับ..


ที่เราต้องนำเครื่องฉายมาเร็วกว่ากำหนดนั้น
อย่างแรกก็คือ ก่อนหน้านี้ คุณนุฯไปซื้อกากฟิล์มหนังเรื่อง ภุมรีสีทอง มา ซึ่งเป็นฟิล์มธรรมดา เปิดกระเป๋าออก ก็มีกลิ่นเปรี้ยวฉุนกึกขึ้นจมูกทันที ดูด้วยสายตาเปล่าๆ แล้ว ก็คิดว่า ฉายกับเครื่องธรรมดาๆ ไม่ผ่านแล้วครับ.. ก็เลยอยากลองว่า เครื่อง 104 นี้จะฉายได้จริงหรือเปล่า..
ประการที่สอง เห็นว่า แม้จะมีเพื่อนๆ อีกหลายคนบอกว่า จะช่วยสมทบทุนให้คุณนุฯตอนสิ้นเดือนมกราคมนี้ คุณนุฯก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไร หากได้เงินส่วนนั้นมา ก็จะเก็บไว้ช่วยซื้อกากฟิล์มเก่าๆ เพราะการซื้อเครื่องฉายคือ การลงทุนเครื่องมือไว้ก่อน แต่ต่อไปยังมีรายจ่ายอีกในการช่วยหนังไทย..นะครับ..
ฟิล์มเรื่อง ภุมรีสีทอง ที่ผมนำมาไว้บนกระเป๋าฟิล์มนั้น มี 5 ม้วนจบ สภาพเหมือนๆ กันทุกม้วนครับ.. วันนี้ อยากลองว่า จะฉายได้หรือไม่..



            ผมให้ดูสภาพฟิล์มแบบใกล้ๆ เลยนะครับ..วันนี้ ผมหยิบฟิล์มม้วนที่ 1 เรื่อง ภุมรีสีทอง มาทดลองฉาย.. หยิบมาปุ๊บ ก็ได้กลิ้นเปรี้ยวน้ำส้มสายชูปั๊บเลย แถมพอเอามือจับเนื้อฟิล์มดู ก็รู้สึกได้ว่า ฟิล์มมีเหงื่อเหนียว เยิ้มๆ ตลอดม้วน..ก็เลยบอกคุณนุฯว่า เดี่ยวจะลองกรอฟิล์มดูว่า จะกรอออกมาได้หมดม้วนหรือไม่..ถ้ากรอแล้ว ฟิล์มเกิดขัดติดตรงไหน ก็ต้องหยุดและตัดทิ้ง..จากนั้นก็เริ่มกรอฟิล์มไปเรื่อยๆ กรอไปก็เริ่มเห็นว่า บางส่วนก็มีรอยลอกๆ ของฟิล์มแล้ว พยายามค่อยๆ กรอไปจนจบม้วน ก็กรอได้หมดครับ แต่ว่า ฟิล์มจะไม่เรียบ มีรอยเป็นคลื่น บิดไปบิดมาตลอดเรื่อง.. จากฟิล์มม้วนเดียว พอกรอไป ฟิล์มก็โป่งพอง จนต้องตัดฟิล์มออกเป็น 2 ม้วนครับ.. แล้วก็ฉายดูครับ.. ผลจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวจะมาบอกครับ..


ปก ซีดีหนังเรื่อง ภุมรีสีทอง

           สำหรับ กากฟิล์มหนังเรื่อง ภุมรีสีทอง นั้น ตอนที่คุณนุฯไปนครสวรรค์ เขาจะขายให้ราคาถูกๆ คุณนุฯก็โทรมาถามผมว่า หนังเรื่องนี้เคยมีแผ่นวีซีดีหรือยัง ผมก็บอกว่า ผมมีม้วนวีดีโอ มีแผ่นวีซีดีด้วย แต่ว่าภาพเต็มจอ ถ้าเขาให้ถูกๆ ก็ซื้อมาเถอะ คุณนุฯบอกว่า คนขายให้บอกว่า เป็นฟิล์มดำ (ฟิล์มธรรมดา) ผมเห็นว่า ราคาถูกมาก ก็เลยให้คุณนุฯ ซื้อมาเพื่อที่จะได้ลองกับเครื่องฉายที่คิดจะซื้อ..แต่พอฟิล์มมาถึงที่บ้านคุณนุฯ ผมก็ไปเปิดกระเป๋าฟิล์มดู ถึงรู้ว่า ฟิล์มเสียหายมากๆ ดูแล้ว ถ้าเป็นเครื่องฉาย 35 มม.รุ่นปกติที่นิยมใช้กัน ก็จะฉายไม่ได้แล้ว.. แต่นี่เพราะเราตัดสินใจซื้อเครื่องฉาย 104 ก็เลยฉายได้ครับ ผมฉายไปแล้ว 1 ม้วน ยาวประมาณ 18 นาที.. แต่ว่าท้ายๆ ม้วนจะเสียหายมาก แต่ก็ฉายได้แบบภาพลอกนะครับ..

เดี๋ยวคืนนี้ให้ดูตัวอย่างภาพในการฉายก่อนนะครับ.. ตัดมาแค่ช่วงไตเติ้ล.. ภาพสั่นๆ เพราะฟิล์มบิด งอและโป่ง ไม่ราบเรียบนะครับ แต่เครื่องก็เอาอยู่ครับ..

ลองคลิกดูครับ... ฉายเครื่อง 104 กากฟิล์มบิดงอ มีกลิ่นเปรี้ยว แต่งสีครั้งที่ 1


           กากฟิล์มเรื่องนี้ ฟิล์มหดตัว เวลาฉาย เราจึงมองเห็นขอบฟิล์มที่มีรูหนามเตยอยู่ด้านขวามือ..เวลาฉายนั้น หากเรามองย้อนไปที่ประตูฟิล์ม จะเห็นว่า ฟิล์มสั่นไหวไปมา ลักษณะะเป็นคลื่นๆ ไม่ราบเรียบเหมือนกับฉายฟิล์มหนังใหม่ๆ ซึ่งฟิล์มที่บิดงอ โป่งและมีกลิ่นเปรี้ยวแบบนี้นั้น หากนำไปเข้าเครื่องเทเลซีนอย่างที่ คุณโต๊ะ พันธมิตร เคยใช้บริการนั้น แม้จะผ่านเครื่องเทเลซีนได้ (แต่ต้องทำความสะอาดจนไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำมัน ไม่มียางเยิ้มนะครับ) แต่ก็มีปัญหาเรื่องการปรับโฟกัสของภาพเพราะจะปรับโฟกัสไม่ได้ ภาพจะออกมาเบลอๆ เพราะเครื่องเทเลซีน จะไม่มีประตูฟิล์มมาช่วยหนีบฟิล์มไว้ครับ..

           แต่เครื่อง 104 นี้ ฉายภาพได้และพอจะปรับโฟกัสให้คงที่ได้กว่าครับ...เห็นสภาพฟิล์มแบบนี้ เห็นการทำงานของเครื่องฉายแบบนี้แล้ว บอกได้เลยว่า หนังไทยเก่าๆ ที่ฟิล์มลักษณะนี้ ไม่ตายแล้วครับ...


ดูภาพจากฟิลืมกันต่อนะครับ..


เป็นภาพจากฟิล์มม้วนที่ 1 นะครับ


สีของฟิล์มจะออกลักษณะนี้นะครับ..


           ส่วนภาพนี้เป็นส่วนที่ฟิล์มกำลังเยิ้มๆ เนื้อฟิล์มติดกัน แต่ว่า ผมก็พยายามลอกฟิล์มออกมาได้ ฟิล์มติดกันบ้าง แต่ก็พอ กรอฟิล์มได้ จะเห็นว่า ฟิล์มมีเนื้อติดทับกัน เมื่อลอกออกมาได้ ภาพก็จะลอกออกด้วย แล้วผมก็ลองนำไปฉายดู ปรากฏว่า ฉายผ่านเครื่องครับ..แต่จะเป็นภาพลอกๆ นะครับ เดี๋ยวบ่ายๆ จะให้ดูหนังจากกากฟิล์มที่เหลือของม้วนที่ 1 นี้ทั้งหมดนะครับ..


           ภาพจากฟิล์มหนังทั้งหมดและภาพจากวีดีโอที่ทดลองฉายให้ดูครั้งที่ 1 นั้นมาจากฟิล์มม้วนนี้ครับ..เห็นสภาพทีแรกก็จะถอดใจเหมือนกันครับ แต่เพราะต้องการรู้ว่า เครื่องจะฉายได้หรือไม่ ก็เลยลองทำดูครับ..


           คราวนี้ มาลองดูฟิล์มฉายแบบเต็มๆ ม้วนกันเลยนะครับว่า จะเป็นอย่างไรบ้าง..   ฉายเครื่อง 104 กากฟิล์มบิดงอ มีกลิ่นเปรี้ยว แต่งสีครั้งที่ 2

ลองคลิกดูครับ...


           ใช่ครับ ก็เพราะไปเห็นเครื่องฉาย 104 เมื่อครั้งที่ไปบ้านคุณโอคุณอุ้ย ขอนแก่น ครั้งนั้นแหละครับ ถึงได้ติดใจ..ทีแรกคิดว่า จะไม่มีเครื่องเหลือแล้ว แต่จากการประสานงานพูดคุยกัน จึงมีการประกอบเครื่องฉายตัวนี้มาให้พวกเราครับ..ตอนนี้ ผมก็ลองฉายกากฟิล์มเก่าๆ อย่างที่เห็นๆ นี้ก่อนว่า จะรอดหรือไม่..ปรากฏว่า รอดครับ.. ทำให้ใจชื่นขึ้นมาครับว่า เราจะช่วยกากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ ได้อีกมากครับ.ฟิล์มที่คุณโอคุณอุ้ยหามาได้นั้น หากมีหนังไทยเก่าๆ แล้ว ยังไงช่วยจัดไว้ให้หน่อยนะครับ..โดยเฉพาะ แค้นไอ้เพลิน นะครับ..

           ตอนนี้ มาดูคลิปการทดลองฉายกากฟิล์มที่สภาพพอๆ กับเรื่อง ภุมรีสีทอง ครับ แต่ยังไม่มีกลิ่น..หนังติดมาม้วนหนึ่งในกระเป๋าเรื่อง ภุมรีสีทอง พอฉายดูก็เห็นเป็นเรื่อง กลกามแห่งความรัก.. ก็เลยลองฉายมาดุเล่นๆ ครับ ฟิล์มสีเฟดและสีเลอะๆ ไปหมดครับ... ฉายเครื่อง 104 กากฟิล์มบิดงอ มีกลิ่นเปรี้ยว แต่งสี กลกาม

ลองคลิกดูครับ...


           กลกามฯ นั้น ฟิล์มเป็นสีแดงๆ เลอะๆ สีเนื้อผิวไม่ราบเรียบ ผมก็ทำเพียงลดสีแดงออกเท่านั้นเองครับ ครั้นจะปรับสีเพิ่มอีก ก็จะทำให้บางแห่งดูเลอะเทอะไปด้วยครับ.. ส่วนฟิล์มม้วนข้างบนที่ผมมีภาพถุ่ายมาให้ดูนั้น ผมเพียงแต่กรอไป-กลับและเช็คทำความสะอาดเล็กน้อย ดูเน้นเฉพาะรอยต่อเก่าๆ ไม่ให้ขาดเท่านั้นเองครับ ไม่ได้ซ่อมแซมอะไรมากนักเพราะเครื่อง 104 ฉายผ่านได้ครับ..สงสัยจะต้องหาเวลาลงไปดูฟิล์มเก่าๆ ที่บ้านคุณโออีกครั้ง.. ว่าแต่คุณอุ้ยพอจำได้ไหมครับว่า ที่เป็นฟิล์มหนังไทยเก่าๆ ที่สามารถกรอไปกลับ-ไปได้นั้น มีเรื่องอะไรบ้างครับ..

"สววรค์บ้านนา" มีคนทำรีมาสเตอร์ ผมไม่ทราบว่าเขาใช้โปรแกรมอะไร ถึงได้ดึงสีคืนได้มากขนาดนี้ คุณมนัสฯลองดูสิครับ

ลองคลิกดูครับ...


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/j-5GKDP6vx4?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>     
.....

           ส่วนใหญ่ การแ่ต่งสี ก็จะใช้โปรแกรมตัดต่อทั่วๆไปนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่า ต้องดูคุณภาพของเนื้อฟิล์มที่ฉายเป็นตัวกำหนดด้วยว่า โปรแกรมแต่งสีจะช่วยแต่งเพิ่มได้แค่ไหน..คือ ว่าต้องมีเชื้อสีพื้นเดิมๆ ไว้ให้เห็นก่อนด้วย เช่น เขียว เหลืองแบบจางๆ จึงจะแต่งช่วยได้ อย่างเรื่อง สวรรค์บ้านนา นั้น เข้าใจว่า เป็นฟิล์มทองเพราะมีการพิมพ์มาฉายใหม่ในช่วงปี 2536 พิมพ์ฟิล์มรุ่นเดียวกับ มนต์รักแม่น้ำมูล ลูกแม่มูล ฉายโรงหนังแอมบาสเดอร์ ที่เราเห็นๆ ฟิล์มอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละครับ ฟิล์มจึงยังไม่เฟดมาก ยังมีเชื้อสีสรรอยู่ครัับ ฟิล์มแบบนี้ แค่แก้สีครั้งเดียว ก็กลับเป็นสีธรรมชาติได้แล้วครับ อย่างคลิปไตเติ้ลสวรรค์บ้านนา ที่นำมาให้ชมนั้น..

           คลิปตัวนี้ คนทำเขาก็แต่งสีได้เป็นธรรมชาติที่สุดแล้วครับ..แต่ส่วนคลิปตัวบนนั้น คนแต่งสี เขาแค่ต้องการจะเน้นให้เห็นสีแจ๊ดๆ ของหนัง เพื่อจะบอกว่า ยังมีโปรแกรมตัดต่อที่สามารถเติมสีต่างๆ เข้าไปได้อีกจริงๆ ซึ่งก็แล้วแต่รสนิยมการแต่งสีนะครับว่า ชอบสีแนวไหน..ครับ     

           พอติดตั้งเครื่องฉายเสร็จสรรพ.. ผมก็ขอลองฉายกากฟิล์มหนังที่เสียหายมากที่สุด คือเรื่อง ภุมรีสีทอง ดูม้วนหนึ่งก่อนเพราะต้องการตรวจเช็คระบบการวิ่งของฟิล์ม การซ่อมแซมฟิล์มว่า ซ่อมแค่ไหนจะผ่านเครื่อง ตรวจดูการสั่นไหวของเครื่องฉายหรือของฟิล์มว่าจะมีผลกระทบต่อการทำภาพหรือไม่.. ก็เป็นอันว่า ระบบการทำเพื่อให้ได้ภาพมานั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ส่วนเรื่องการแ้ก้สีนั้น ก็ยังพอมีเวลาศึกษาโปรแกรมต่างๆ ได้อีกเพราะไฟล์หนังที่บันทึกเก็บไว้เป็นไฟล์ต้นฉบับ..สามารถปรับแต่งได้อีกในภายหลัง..

           จากนั้น ก็เลยลองฉายหนังพันนา ฤทธิไกร ดูอีกหนึ่งเรื่องเต็มๆ ซึ่งฟิล์มสีเฟดนิดหน่อยแล้ว ไ่ม่มีปัญหาอะไร..พอฉายเสร็จก็เลยตัดต่อเตรียมมาฉายให้เพื่อนๆ ได้ชมผลงานจากเครื่องฉาย 104 กันครับ..คิดว่า ไม่บ่ายๆ ก็เย็นๆ ล่ะครับ จะได้ชม..ผลงานเรื่องแรกจากเครื่องฉายที่พวกเราร่วมด้วยช่วยกัน...


           หนังเรื่อง ภุมรี สีทอง มี  คุณณัฐนี สิทธิสมาน ที่เล่นเป็นผีปอบด้วยครับ คนที่คอยห้ามคอยเตือนนางเอกสินจัยนั่นแหละครับ.. คุณณัฐนีเกี่ยวข้องกับวงการดารามานานแล้ว เล่นเองและสอนการแสดงด้วย..ส่วนคนที่เล่นเป็นพ่อสินจัยในเรื่องก็คือ วิทยา สุขดำรงค์ ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้วครับ...

           ครับ สวรรค์บ้านนา นั้น เป็นหนังที่มีบางส่วนถ่ายทำที่จังหวัดสุรินทร์บ้านผม.. ผมเขียนถึงไว้แล้ว ส่วนกากฟิล์มที่คุณ Jub Clasic Movie หามาได้นั้น เป็นฟิล์มที่พิมพ์ฉายครั้งที่ 2 เมื่อประมาณปี 2536 ที่โรงหนังแอมบาสเดอร์ แต่กากฟิล์มที่ได้มานั้นมีบางฉาก บางเพลงหายไปนะครับ สงสัยว่า เด็กหนังจะตัดเพลงออกไปเอง.. หนังเรื่องนี้ต้นฉบับจะยาวประมาณ 2.15 ช.ม.ครับ ส่วนวีดีโอเช่าที่ออกมานั้น ก็ตัดบางส่วนออกไปอีก.. แล้วที่เคยนำมาฉายทางช่องเคเบิ้ลทีวี ก็ตัดบางฉากออกไปอีกเหมือนกัน..ถ้าจะให้หนังสมบูรณ์จริงๆ จึงต้องนำหนังทั้ง 3 ส่วนมาต่อๆ รวมกันใหม่นะครับ..ส่วนความเป็นมาเกีี่ยวกับ สวรรค์บ้านนา นั้น ใครยังไ่ม่เคยอ่าน

ก็ลองคลิกอ่านนะครับ... บทที่ 171 หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ สวรรค์บ้านนา (2526 ปิยะ-แสงเดือน)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=266258120185499&set=o.156185157894883&type=1&theater

ลองคลิกดูครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มิถุนายน 2014, 12:34:38 โดย นายเค »
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได