บทที่ 267 ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย วีดีโอ.. ช่วยหนังไทย วัดบ้านดง อ.พิชัย

[ฉัตรชัยฟิล์มshop]

บทที่ 267
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
วีดีโอ.. ช่วยหนังไทย วัดบ้านดง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
8-9 มิถุนายน 2556
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 11 มิถุนายน 2556)

ช่วยหนังไทย วัดบ้านดง อุตรดิตถ์

             สวัสดีครับทุกท่าน สืบเนื่องจากผมเขียนถึงเรื่องราวการจะไปช่วยหนังไทยเก่าๆ ไว้ใน บทที่ 13 ใครจะช่วย พิมพิลาไล กับ ขุนตาล บ้าง (ดูตามลิงค์นี้นะครับ)

บทที่ 13 ใครจะช่วย พิมพิลาไล กับ ขุนตาล
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=262213857256592&set=o.156185157894883&type=1&theater

             โดยขอแรงกาย แรงใจจากเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊กนี้เพื่อช่วยหนังไทยดังกล่าว.. ผมเปิดประเด็นเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2556 ตอนนั้นผมยังไม่ได้บอกว่า ฟิล์มดังกล่าวเก็บอยู่ ณ ที่ใดเพราะเคยทราบข่าว แหล่งที่เก็บฟิล์มไว้นั้น ไม่ประสงค์จะให้ใครนำฟิล์มออกจากสถานที่เก็บเลย แต่ด้วยความต้องการภาพจากฟิล์มหนังเรื่องเหล่านั้นให้คงอยู่สืบไป ผมจึงลองใช้วิธีจะขอนำเครื่องฉายเข้าไปฉายและอัดถ่ายวีดีโอไว้.. 

             โดยช่วงแรกนั้น ผมขอความร่วมมือให้คุณบัญชา วาจาสุวรรณ เจ้าของพิพิธภัณฑ์บัญชา ที่พิษณุโลก ซึ่งเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊กนี้ เป็นผู้ช่วยประสานงานต่างๆ ให้ ซึ่งก็ทราบมาว่า คุณบัญชาใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการเข้าหาผู้ใหญ่เพื่อเข้าไปพูดคุยกับสถานที่เก็บฟิล์มนั้น แต่เบื้องต้นก็ได้รับคำตอบแต่เพียงว่า ให้คอยคำตอบว่าจะอนุญาตหรือไม่ก่อน... 

             ซึ่งใช้เวลาเป็นเดือนๆ ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากแหล่งเก็บฟิล์มเลย กระทั่งคุณโต๊ะพันธมิตรซึ่งใจร้อนกว่า ขอลองโทรศัพท์ไปและให้ผมลองพูดคุยกับสถานที่ที่เก็บฟิล์ม.. ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2556 ท่านเจ้าของสถานที่เก็บฟิล์มก็ยินยอม อนุญาตให้พวกเราเข้าไปฉายหนังและอัดวีดีโอได้.. ผมจึงเปิดเผยแหล่งเก็บฟิล์มว่า “เป็นวัด” แห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ จากนั้นก็รีบขอแรงกาย แรงใจและกำลังทรัพย์จากเพื่อนๆ ในการออกไปช่วยหนังครั้งนี้ ซึ่งก็มีเพื่อนๆ หลายช่วยออกค่าใช้จ่าย.. เช้าวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2556 พวกเราเช่ารถตู้ของคุณต้อฯ เป็นพาหนะในการเดินทาง...

             โดยมี ผม พี่แต๋ว แฟนพันธุ์แท้มิตร ชัยบัญชา พี่ตุ่มน้องสาวพี่แต๋ว คุณอ้วน คุณนุ คุณแม็กกี้ พี่อี๊ดอาทร รวม 7 คน ออกเดินทางไปช่วยหนัง..แห่งแรกที่เราต้องไปก็คือ “หนังขายยาศรีอุดมโอสถ”  ที่อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ไปเพื่อนำฟิล์มที่ยืมมาเมื่อ วันที่ 1 พฤษภาคม 2556 ไปคืนให้กับ พี่เพ็ชร ไชยธงรัตน์ ลูกชายเจ้าของหนังขายยาดังกล่าว..  จากนั้นพวกเราก็มุ่งตรงไปยัง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ แหล่งเก็บฟิล์มไว้ ซึ่งเป็นวัดชื่อ วัดบ้านดง.. 

             พวกเราไปถึงวัดประมาณบ่าย 3 โมงกว่า.. หลังจากนมัสการหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัด แล้วท่านก็พาพวกเราขึ้นไปยังตึก 3 ชั้นเพื่อนำฟิล์มที่เก็บไว้ลงมา โดยทีแรกท่านตั้งใจว่า จะจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ก็ยังไม่ได้ทำเพราะมีนก มาอาศัยอยู่ใต้ฝาดานและทำอาคารเสียหาย..  จากนั้น ผมเราก็ขนย้ายฟิล์มทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่ม้วนจะเป็นสนิม ฟิล์มบางม้วนก็โดนละอองฝนที่ซัดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้ฟิล์มเริ่มแข็งตัวและลอกเป็นแห่งๆ แล้ว..  เมื่อนำฟิล์มมากองรวมกันที่ชั้นล่างแล้ว ผมจัดแจงแยกฟิล์มออกเป็นกลุ่มๆ เรียงลำดับตามความยากง่ายในการฉายก่อน..

             จากนั้นก็เริ่มตั้งเครื่องฉาย ตั้งกล้องและอัดถ่ายวีดีโอทันที.. ฟิล์มหนังเรื่อง ขุนตาล ที่เห็นอยู่ในกระเป๋าฟิล์ม ฟิล์มเป็นสีแดงๆ แล้ว สภาพพอฉายได้ ผมจึงยังไม่ฉาย.. ส่วนฟิล์มที่นำออกจากกระเป๋าหนังเรื่อง พิมพิลาไล สภาพบอบช้ำมากๆ โดนละอองน้ำ เริ่มแข็งตัว ผมจึงคิดว่า จะฉายเป็นเรื่องท้ายๆ จากนั้นก็หยิบฟิล์มที่ไม่ได้อยู่ในกระเป๋าเพราะหลวงพ่อ นำไปวางไว้ในตู้โชว์ออกมาฉายก่อนเพราะเห็นว่า สภาพดี สียังสดๆ พอเริ่มฉาย พวกเราก็เริ่มมุงดูกันเพราะไม่รู้ว่า มันคือเรื่องอะไร..

             ฉายม้วนที่ 1 ไปได้สัก 2-3 นาที พี่แต๋วเห็นภาพมิตร ชัยบัญชา ในฟิล์มก็โพล้งตะโกนออกมาว่า “ชุมทางหาดใหญ่” ซึ่งเป็นหนังในตระกูล 1 ต่อ 7 ที่ มิตร แสดงเป็นพระเอก... หนังเรื่องนี้เราได้ฟิล์มมาฉาย 3 ม้วนจบครับ.. ระหว่างผมฉายหนังนั้นเพื่อนๆ ก็จะช่วยกันกรอฟิล์มบ้าง กวาดพื้นที่เต็มไปด้วยสนิมของม้วนฟิล์มที่หล่นลงมาบ้าง..

             จากการประเมินสถานการณ์แล้ว พวกเราคงต้องใช้เวลานาน จึงให้รีบไปติดต่อหาโรงแรมที่พักในอำเภอพิชัย..  ซื้อข้าวปลาอาหารมากินกันที่วัด..  ทีแรกคิดว่า จะทำบุญทำสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้มิตร ชัยบัญชา ในตอนค่ำ แต่เพราะยังทำหนังไม่เสร็จ จึงขอนิมนต์หลวงพ่อในเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2556 แทน... หลังจากจบเรื่อง ชุมทางหาดใหญ่ แล้ว ผมก็เลือกนำฟิล์มเรื่อง ขุนตาล ที่สมบัติ-อรัญญา แสดงมาฉาย ซึ่งเรื่องนี้มี 3 ม้วน หนังก็ตรงตามกระเป๋าฟิล์มหนังที่เขียนไว้...จากนั้นผมก็หยิบฟิล์มอีกกองหนึ่งซึ่งมี 3 ม้วนมาฉาย ฉายไปสักพักก็ต้องหยุดฉายเพราะเป็นหนังเรื่อง รักเธอเสมอ ที่ สมบัติ-เพชรา แสดงนำ ผมมีหนังแล้ว ก็เลยไม่ฉายครับ ส่วนฟิล์มก็มีรอยลอกอย่างมากด้วย...

             ผมหยิบฟิล์มอีกม้วนหนึ่งมาฉายดู.. ฉายไปก็เห็นพระเอกคือ สมบัติ นางเอกคือ เนาวรัตน์ วัชรา ดูแล้วเป็นหนังม้วนจบ ตอนนั้นยังไม่ทราบชื่อ...  แต่พอกลับมาค้นข้อมูลดูที่บ้าน จึงรู้ว่าเป็นเรื่อง ทรายแก้ว ปี 2511.. จากนั้นก็หยิบฟิล์มกองสุดท้ายที่เป็นเรื่อง พิมพิลาไล มาฉายดู.. ฉายไปสักพักก็รู้ว่า ไม่ใช่หนังมิตรเรื่อง พิมพิลาไล แต่เห็นพระเอก-นางเอกเป็น สมบัติ-ภาวนา.. หนังยาว 4 ม้วน แต่ฟิล์มโดนน้ำลอกเป็นแห่งๆ พอกลับมาดูข้อมูลที่บ้าน ก็รู้ว่าเป็นเรื่อง เพลงสวรรค์นางไพร ปี 2514..

             พวกเราฉายหนังเสร็จประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง จึงกลับไปนอนยังที่พักที่จองไว้ก่อน...เป็นอันว่า การไปช่วยหนังครั้งนี้ พวกเราช่วยหนังไทยเก่าๆ ได้ 4 เรื่องครับ คือ ชุมทางหาดใหญ่ นำแสดงโดย มิตร-เพชรา หนังปี 2509.. ขุนตาล นำแสดงโดย สมบัติ-ลือชัย-อรัญญา หนังปี 2512.. เพลงสวรรค์นางไพร นำแสดงโดย สมบัติ-ภาวนา หนังปี 2514.. และได้เศษหนังเรื่อง ทรายแก้ว สมบัติ-เนาวรัตน์ วัชรา เป็นหนังปี 2511 มาด้วยม้วนหนึ่ง...

             เช้าวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2556 พวกเราเดินทางกลับมาที่วัดบ้านดงอีกครั้ง เพื่อทำบุญ ทำสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้มิตร ชัยบัญชา แต่ว่าก่อนจะทำพิธิ พวกเราก็ช่วยกันขนย้ายฟิล์มกลับไปไว้ที่ชั้น 3 ตามเดิมก่อน จากนั้นก็ลงมาทำบุญโดยพวกเราถวายเงินทำบุญซึ่งได้รับมาจากเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊กเป็นจำนวน 5,300 บาท.. หลังจากได้รับศีลรับพรจากหลวงพ่อแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับ...  โดยมาไหว้พระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีฯ พิษณุโลก จากนั้นก็ไปพบกับคุณสามารถ ยิ่งกว่า ซึ่งนัดจะเลี้ยงอาหารพวกเรา..  คุณสามารถพาพวกเราไปรับประทานอาหารที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่ทำอาหารอร่อยมากๆ ก่อนกลับคุณสามารถก็ยังมอบกล้วยตากตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ บ้านตะโม่ บางระกำ ให้พวกเราคนละ 1 แพ็คด้วย มื้อนี้ คุณสามารถเป็นเจ้ามือเลี้ยงนะครับ..

             ต้องขอบคุณอย่างมากๆๆๆ ส่วนเงินค่าใช้จ่ายและเงินทำบุญในการไปช่วยหนังไทยครั้งนี้ มีเพื่อนๆ ช่วยกันมา  คือ

1) แตง โปสเตอร์
2) จารุณี ใจแก้ว
3) ศุภชัย คัมภีระ
4) เห้าเหลียง แซ่น้า
5) สามารถ ยิ่งกว่า
6) Araya Pamonprawat
7) Jum Manikhao
8 ) Permpoon Chaisalee
9) Regis Madec
10) มนัส กิ่งจันทร์
11)คุณ นุหรือประเดิม
12) พี่อี๊ด อาทร
13) คุณอ้วน
14) พี่แต๋ว แฟนพันธุ์แท้มิตร ชัยบัญชาและน้องสาว
15) คุณแม็กกี้..

รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 18,856 บาท...  ผมจ่ายเป็น

1) ค่าเช่ารถ+น้ำมัน 7,100 บาท
2) ค่าห้องพัก 4 x 380 บาท 1,520 บาท
3) เงินทำบุญวัดบ้านดงและทำบุญมิตร ชัยบัญชารวม 5,300 บาท
4) ซื้อของฝากคุณเพ็ชร ไชยธงรัตน์ พิจิตร 650 บาท
5) ค่าอาหาร 1,531 บาท

รวมเป็นรายจ่าย 16,101 บาท คงเหลือเงิน 2,755 บาท..

             ซึ่งเพื่อนๆ เห็นว่า ควรเก็บเป็นเงินทุนในการช่วยหนังไทยครั้งต่อๆ ไปนะครับ.. เอาล่ะ เมื่อวานนี้ ดูภาพนิ่งกันไปแล้ว วันนี้มาดูวีดีโอกันบ้างนะครับ ความยาว 1 ชั่วโมง


             ตอนบ่ายแก่ๆ ก็ต้องซับเหงื่อเพราะตรงนั้น พัดลมเพดานก็เสียแล้ว..นานๆ จะมีลมพัดเข้ามาสักนิดหนึ่ง..เหงื่อก็ไหลลงหน้าจะเข้าลูกกะตา..ก็เลยร้องขอให้ช่วยซับเหงื่อหน่อย..สาวๆ ก็ไม่กล้า พี่อี๊ดเลยอาสาทำให้..แต่พอค่ำๆ คราวนี้ ไม่ต้องซับเหงื่อแล้วเพราะเนื้อตัวมีแต่เหงื่อ..แต่ก็ต้องหากระดาษมาพัดไล่ยุง ไล่แมลงต่างๆ กระดาษก็สู้ไม่ไหน เพื่อนก็หยิบฝาหม้อแกงใบใหญ่ๆ มาพัดซะเลย...

             ผมก็พยายามเก็บบรรยากาศต่างๆ ของการไปช่วยหนังไทยครั้งนี้ไว้ให้มากที่สุด..และในระหว่างเดินทางกลับ พวกเราคุยกันว่า ครั้งต่อไปจะไปช่วยหนังไทยที่ไหนดี..จิตใจเพื่อนๆ แต่ละคน ยังสนุก ยังมีแรงที่จะไป..แต่แหล่งเก็บฟิล์มหนังนี่ซิครับ..หายากเหลือเกิน..ที่ลำปาง ก็ยังเช็คไม่ได้ว่า เศษๆ หนังนั้นมีเรื่องอะไรบ้าง..แหล่งบางแห่งก็ไม่มีหนังไทยแล้ว..แต่ยังไง พวกเราก็ยินดีนะครับที่จะมีเพื่อนๆ ร่วมเดินทางไปด้วยกันเยอะๆ

             เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ..  หนังเรื่อง ชุมทางหาดใหญ่ นั้นเป็นตอนหนึ่งของหนังตระกูล ๑ ต่อ ๗ เรื่องที่โด่งดังของ ป๋า ส.อาสนจินดา.. เชือกกล้วย กางเกงแดง สัญลักษณ์ของ จ่าดับ จำเปาะ... ซึ่ง ส.อาสนจินดา สร้างมาหลายตอนแล้วตั้งแต่ปี 2501 แต่สำหรับ มิตร ชัยบัญชา นั้น เล่นหนังตระกูลนี้ครั้งแรกในปี 2506 ชื่อเรื่อง เจ็ดประจัญบาน นำแสดงโดย มิตร-คริสตินเหลียง-รุจน์-ทักษิณ สร้างโดยวัชรภาพยนตร์ โดย วิมล ยิ้มละมัย กำกับการแสดงโดย ส.อาสนจินดา เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2506 ที่โรงหนังคาเธ่ย์.. ซึ่งหาฟิล์มไม่ได้แล้ว..  ต่อมาปี 2508 จึงการสร้าง ๑ ต่อ ๗ อีกครั้งในชื่อตอน "ชุมทางหาดใหญ่" นำแสดงโดย มิตร-เพชรา-ไอดาหลิน-ปรียา-ทักษิณ-รุจน์-อดุลย์-สมควร-ฑัต-สาหัส-สมพล สร้างและกำกับโดย ส.อาสนจินดา เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2509 ที่โรงหนังควีนส์..

             ผมอ่านเรื่องย่อๆ ซึ่งมีนิดเดียวของหนังเรื่องนี้แล้ว ทีแรกก็งงๆ ว่า ใครเล่นเป็นใครบ้าง..แต่พอได้ดูจากฟิล์มที่พวกเราช่วยมาจากวัดบ้านดง..  เหลือความยาวมา 1.08 ชม. ซึ่งถือว่าน้อยนะครับ..แต่เพราะเป็นการเหลือแบบตัดกระชับมากขึ้น เนื้อเรื่องยังคงเรียกตามลำดับเหตุการณ์ไปจนจบเรื่อง..ก็เลยพอเดาได้ว่า ใครเล่นเป็นใครบ้าง..ส่วนช่วงตอนต้นๆ เรื่องที่หายไปนั้น เผอิญว่ามีเรื่องย่อมาอ่าน ก็เลยรู้ว่า หายไปถึงส่วนที่ลูกสาวจ่าดับ จำเปาะ ตาย.. อันเป็นเหตุแค้นที่เกิดเรื่อง ชุมทางหาดใหญ่.. ฟิล์มที่ได้มาจึงเปิดเรื่องฉากที่ มิตร ถูกโจรลีกิมซัว (ถวัลย์) จับตัวมา มิตรเป็น พ.ต.ชื่อ หนนัก เสนาประจัญ..ต้องการมาสืบราชการลับทลายรังโจรลีกิมซัวที่สงขลา.. มิตรลีลาเยอะนะครับ แกล้งเป็นบ้าบ้าง มีอาวุธพิเศษคือ จูบสาวๆ แล้วอ่อนระทวย หมดเรี่ยวหมดแรง.. เพชรา ชื่อแปลกๆ ชื่อ จิ๊งหน่อง เป็นลูกสาวโจรที่จะมอบตัว...

             ส่วนนางเอกจีนชื่อ ไอดาหลิน ก็เล่นเป็น ไอคาลิน อยู่ในรังโจรลีกิมซัว..ผมสังเกตดูว่า เวลามิตรจูบเพชรา จะใช้มุมกล้องช่วย แต่พอจูบสาวจีนนี้เหมือนจูบจริงเลย..ส่วนตัวละครแบบ หนึ่งต่อเจ็ด ที่เขียนชื่อไว้ก็มี จ่าดับ จำเปาะ-โบ้ บางระจัน-ตังกวย แซ่ลี้-มิสเตอร์ซังเต-กัปตันฮายิด..ขนาดผมฉายดูแบบใบ้ๆ ยังสนุกเลยครับ..แต่ว่าอดใจรอหน่อยนะครับเพราะหนังเรื่อง เพลงสวรรค์นางไพร ยังตัดไม่เสร็จและทั้งหมดก็ยังไม่ได้ใส่เสียงบรรยายนะครับ..

             ดูเฟสบุ๊กกลุ่มชุมทางหนังไทยในอดีต มาตั้งนาน ทำเป็นลืม..ผมก็ฉายหนังในเฟสบุ๊กกลุ่มฯนี้แหละครับ ไล่ดูตามบท ตามลิงค์สารบัญ..ให้สังเกตการเขียนเปิดกระทู้นะครับ..ถ้าเขียนว่า บทที่...ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอ.. แบบนี้แสดงว่า เป็นภาพนิ่ง..แต่ถ้าเขียนว่า บทที่..ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย..อย่างนี้แหละในบทนั้นๆ จะมีลิงค์ดูหนังเรื่องนั้นๆ ซ่อนอยู่ครับ..
           


วันนี้มาดูวีดีโอกันบ้างนะครับ ความยาว 1 ชั่วโมง
คลิ๊กดู...ช่วยหนังไทย 8-9 มิ.ย.56 วัดบ้านดง อุตรดิตถ์


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Mzov0tUh5xE?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
.................