บทที่ 528 เสนอฉาย โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เจ้าพ่อ 7 คุก (2520 สมบัติ-สรพงศ์-เน

[นายเค]

บทที่ 528
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
เจ้าพ่อ 7 คุก (2520 สมบัติ-สรพงศ์-เนาวรัตน์)
โดย มนัส กิ่งจันทร์
(facebook 28 พฤษภาคม 2557)

หนังไทยคงเหลือ เจ้าพ่อ 7 คุก 2520 สมบัติ สรพงศ์ เนาวรัตน์ รีมาสเตอร์กากฟิล์ม

           สวัสดีครับทุกท่าน..วันนี้ โครงการภาพยนตร์คงเหลือ ขอเสนอฉายหนังจากกรุฟิล์มโรงหนังเฉลิมเอก จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพวกเรายืมฟิล์มมาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 รายละเอียดต่างๆ นั้น ผมเขียนไว้แล้วในบทที่ 525 เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย

คลิกดูจาก
บทที่ 525 เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=445509032260406&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1

           วันนั้น ทำให้พวกเราได้รู้จักอาจารย์ประนอม แซ่เซีย ลูกสาวนายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย เจ้าของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ซึ่งเปิดกิจการโรงหนังยุค 16 มม.มาตั้งแต่ปี 2508 และหลังจากเลิกกิจการแล้ว นายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย ก็ยังคงเก็บฟิล์มหนัง 16 มม.และ 35 มม.ไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งผมลงเทปสัมภาษณ์อาจารย์ประนอมไว้แล้ว

คลิกดูจาก
เปิดกรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ของนายเอี่ยวเซีย แซ่เซียและประนอม แซ่เซีย


           หนังทั้ง 19 เรื่องนั้น พวกเราฉายเสร็จแล้ว วันนี้จึงจะขอฉายหนังที่หลายคนตามหามานานและไม่คาดคิดว่า จะยังมีฟิล์มหลงเหลืออยู่..บอกตรงๆ ว่า ถ้าไม่มีกรุฟิล์มโรงหนังเฉลิมเอก หนังเรื่องนี้ก็คงจะสูญพันธุ์ไปแล้วเพราะนับตั้งแต่ออกฉายเมื่อปี 2520 กระทั่งถึงยุคของระบบวีดีโอเทป ก็ยังไม่เคยมีใครเห็นหนังเรื่องอีก..เข้าใจว่า หาฟิล์มไม่ได้ พอมาถึงยุคของแผ่นวีซีดีที่หลายๆ คนคิดว่า จะต้องมีแผ่นหนังออกมาบ้าง ก็ไม่มีอีก กระทั่งผมต้องขึ้นบัญชีหนังเรื่องนี้ว่า เป็นสูญพันธุ์

           โชคดีครับ..ที่อาจารย์ประนอม แซ่เซีย ยังคงเก็บกากฟิล์มของเตี่ยคือ นายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย ไว้เหมือนเดิมและก็โชคดีอีกที่เตี่ยมีวิธีการเก็บฟิล์มหนังไม่เหมือนใคร..นั่นคือ เก็บฟิล์มใส่กระเป๋าที่ทำขึ้นจากแผ่นไม้ และก็วางเรียงๆ กันไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้เวลาที่ผ่านมาถึง 37 ปีไม่อาจทำให้ฟิล์มเรื่องนี้เหม็นเปรี้ยวหรือเสียหายได้

กล่องหนัง "เจ้าพ่อ 7 คุก" มี 2 กระเป๋าไม้ กระเป๋าละ 3 ม้วนรวมเป็น 6 ม้วน

           วันนั้น หลังจากความประสงค์แล้ว อาจารย์ก็เปิดบ้านต้อนรับพวกเรา เรามองเห็นชั้นเก็บฟิล์ม พอเปิดม่านบังชั้นออก หนังเรื่องแรกที่เราสะดุดตา เห็นเด่นเป็นสง่ารอรับเราเลย ก็คือเรื่อง เจ้าพ่อ 7 คุก นี่แหละครับ..พวกเราไม่มีใครคาดว่า จะเจอฟิล์มเรื่องนี้ ดังนั้น กระเป๋าแรกที่เราเปิดดูฟิล์มก็คือหนังเรื่องนี้เอง.. หนังมี 2 กระเป๋าไม้ กระเป๋าละ 3 ม้วนรวมเป็น 6 ม้วน พวกเราค่อยๆ ดึงม้วนฟิล์มออกมาดูทีละม้วน ทีละม้วนพร้อมกับหันมายิ้มให้กัน.. ฟิล์มยังฉายได้ นั่นคือ สิ่งที่ผมบอกเพื่อนๆ และตลอดทางที่เรานั่งรถตู้กลับกรุงเทพฯ พวกเราก็คุยกันแต่เรื่องหนังกรุนี้ ยังพูดกันเล่นๆ ว่า ถ้าเกิดข้างใน ไม่ใช่ฟิล์มเจ้าพ่อ 7 คุก จะทำอย่างไร.. นั่นเอง จึงเป็นเหตุให้พวกเราต้องเปลี่ยนแผนในการทำงานทันทีเพราะทีแรกเราคิดว่า พอขนฟิล์มลงหมดแล้ว เราจะแยกย้ายกันกลับบ้าน แล้วค่อยมาตรวจซ่อมฟิล์มและฉายในสัปดาห์ถัดไป.. ไม่ใช่เช่นนั้นแล้วเพราะพวกเราต่างลงความเห็นใหม่ว่า คืนนั้น เราจะตรวจเช็คฟิล์มและฉายดูทันทีว่าใช่ เจ้าพ่อ 7 คุกหรือไม่..

           จากการตรวจสภาพฟิล์มพบว่า หนังเรื่องนี้ หลังจากฉายครั้งสุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่ได้กรอฟิล์มกลับ..พอผมกรอฟิล์มกลับ ก็สังเกตเห็นว่า ฟิล์มมีรอยชโลมน้ำมันเครื่องอยู่ตามแบบฉบับของหนังต่างจังหวัด ทำให้ฟิล์มไม่กรอบ ไม่แห้งจนเกินไป บางช่วงบางตอนก็มีรอยต่อฟิล์มที่ปิดทับเทปพันสายไฟ ผมก็แกะออกแล้วต่อฟิล์มใหม่..ฟิล์มจะมีเส้นฝนพอสมควร สีก็เหลือแต่สีแดงจางๆ ซึ่งก็เป็นไปตามอายุของฟิล์มหนังทั่วไปที่ผ่านการฉายมาอย่างหนักนั่นเองครับ..

นายเอี่ยวเซีย แซ่เซีย

           เจ้าพ่อ 7 คุก นำแสดงโดย สมบัติ-สรพงศ์-นิรุตติ์-เนาวรัตน์-ศิริขวัญ-มานพ-เกชา-ดามพ์-สุรสิทธิ์-พิภพ สร้างโดยกมลโปรดักชั่น.. กำกับการแสดงโดย จรัล พรหมรังษี เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2520 ที่โรงหนังเพชรรามา-เพชรเอ็มไพร์ เป็นหนังบู๊ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเรื่องหนึ่ง ใช้ดาราดังๆ แสดงประกบกันหลายคน สร้างจากบทประพันธ์ของ พ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์ นักเขียนชื่อดัง ฉายาบรรทัดละ 8 บาท ซึ่งก็ร่วมแสดงในหนังด้วย

           จุดขายที่สำคัญ ก็เน้นไปที่วิธีการแหกคุกของนักโทษคือ สมบัติ เมทะนี ที่เข้าคุกไหน เป็นต้องแหกมันทุกคุก หนีมันทุกครั้งที่มีโอกาส จนได้ฉายาว่า เจ้าพ่อ 7 คุก ฉากที่สมบัติจับหนูเป็นๆ กินในคุก ฉากที่ใช้ไม้ค้ำถ่อกระโดดหนีข้ามกำแพงคุก ฉากที่แหกคุกหนีลงท่อระบายน้ำแล้วผู้คุมเอาน้ำมันเทจุดไฟตาม ก็เป็นที่จดจำของแฟนหนังในยุคนั้น และต่อจากนี้ไปคือ ส่วนหนึ่งของหนังบู๊ดังแห่งประวัติศาสตร์จากกรุฟิล์มของโรงหนังเฉลิมเอก ซึ่งเราจะได้ดูพร้อมๆ กัน...ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..

คลิ๊กที่นี่...
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เจ้าพ่อ 7 คุก (2520 สมบัติ-สรพงศ์-เนาวรัตน์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/KEJlHu225K0?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
............

            ครับ นี่เป็นหนังเรื่องแรกในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ซึ่งเราฉายจากกากฟิล์มของโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด.. เดี๋ยวบ่ายๆ ก็จะฉายอีกเรื่องนะครับ..หนังเหล่านี้ ผมคิดว่า คงไม่มีใครทำลิขสิทธิ์ออกมาจำหน่ายหรอกครับเพราะคงหาฟิล์มที่สภาพดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว..แต่ก่อนกากฟิล์มแบบนี้ คุณโต๊ะัพันธมิตร เคยลองนำมาทำขายบ้างแล้ว แต่ถูกตำหนิอย่างมากเช่นเรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง-อินทรีทอง-ไอ้เหล็กไหล-แม่ศรีไพร-พระลอ ฯลฯ ซึ่งเป็นหนังมีเส้นฝน แม้จะพยายามทำให้ดีที่สุดของเครื่องเทเลซีนแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะคนซื้อคิดแต่เพียงว่า เมื่อเสียเงินซื้อแล้ว ต้องได้สินค้าที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้มองในแง่ความตั้งใจหรือการอนุรักษ์อดีตของหนังไทย..ในที่สุดก็ต้องเลิกล้มไป.. ตอนนี้ พวกเราก็เลยต้องออกหากากฟิล์มมาฉายดูกันเองครับ..

            ชายกลาง บ้านกล้วย มาถึงวันนี้หนังไทยเก่าก็ยังมีพ่อค้ายังต้องการซื้ออยู่นะครับ แต่....ต้องเป็นหนังไม่มีเส้นครับ มีเส้นแบบกากฟีล์มจบเลย เพราะปัจจุบันนี้เรื่องทำแผ่นขายคงเป็นไปได้ยาก พ่อค้าบอกเสี่ยง เขาจะซื้อนำไปป้อนทีวีเคเบิ้ลดาวเทียม เท่านั้น หรืออีกช่องทางก็คือเสียเงินดูทางเน๊ตเท่านั้นที่เป็นทางออกปัจจุบัน มีหลายเรื่องแล้วนะครับที่ไม่ออกแผ่นแต่หาดูทางเคเบิ้ลหรือช่องทางทีวีดาวเทียม อาทิ หนังดัง ด่านนรก หนี้รัก ดวงนักเลง เห่าดง สงครามเพลงแผน2 เป็นต้น ฉนั้นหนังกากฟีล์มนั้นจะหาดูได้ที่เห็นขณะนี้ก็น่าจะที่ช่องยูทูป ของชุมทางหนังไทยในอดีตของคุณมนัสเท่านั้น

            ผมว่า การดูหนังที่ทำจากกากฟิล์มนั้น ต้องใช้เวลาปลุกกระแสอย่างมากเพราะคนรุ่นใหม่ๆ หรือคนที่เคยดูแล้วมักจะตั้งความหวังไว้สูงๆ ว่า หนังต้องชัด ต้องสีสวย ต้องไม่มีเส้นฝน..แต่สิ่งเหล่านี้จะมีให้เราเห็นทุกๆ อย่างในกากฟิล์ม..เราอาจจะเน้นบอกว่า นี่แหละคือ โครงการหนังดีต้องมีเส้น..เพราะการจะก่อให้เกิดเส้นฝนบนเนื้อฟิล์มได้นั้นตามปกติค่อนข้างจะใช้เวลานานพอสมควร คิดดูซิครับ ครั้งแรกที่หนังฉายจากเครื่องฉายดีๆ ในโรงหนังชั้นหนึ่งหรือโรงชานเมือง ก็แทบจะหาเส้นฝนสักเส้นไม่ได้เลยทั้งๆ ที่อย่างน้อยก็ฉายวันละ 2 รอบ..

            พอออกจากโรงนี้ไป ก็ไปฉายโรงนั้น โรงโน่น จังหวัดโน้น จุังหวัดนี้ จนในที่สุดก็มาถึงจอหนังกลางแปลง จอหนังขายยา ช่วงนี่แหละครับที่หนังจะเริ่มมีเส้นฝนแล้ว..ซึ่งก็แสดงว่า อย่างน้อยๆ หนังก็ถูกฉายมาตลอด ทำไม ถึงต้องฉายมาตลอด นั่นก็เพราะมีคนอยากดู เขาก็ฉายให้ดูเรื่อยมา กระทั่งหนังตกรุ่นหรือหมดยุค จึงหยุดฉาย..บอกตามตรงว่า ถ้าเขาหาฟิล์มที่สวยกว่านี้ได้ เขาก็ไม่ต้องใช้กากฟิล์มฉายหรอกครับ..ฉะนั้น การเห็นร่องรอยของเส้นฝนบนจอ คนดูหนังเก่าๆ อย่างเราๆ จึงมองเห็นเป็นรอยอดีตแห่งความรุ่งเรือง ยิ่งเมือบวกกับอายุฟิล์มที่เป็นเวลา 30-40 ปีด้วย ก็ยิ่งภูมิใจเรา เราได้มีโอกาสดูหนังจากฟิล์มชุดเดียวกันที่สร้างประวัติมาแล้ว..แล้วคุณคิดว่า มันขลังหรือเปล่าละครับ...หนังดีต้องมีเส้น...ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..

คลิ๊กดู..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เจ้าพ่อ 7 คุก (2520 สมบัติ-สรพงศ์-เนาวรัตน์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


            ใช่ครับ..ดาราระดับพระเอกต้องเด่นเสมอ แม้แต่เวลาจะตายก็ต้องให้ดูดีๆ ดูเท่ๆ แบบนี้แหละครับ..ส่วนเรื่องทรงผม หลังจากที่สรพงศ์ตัดผมสั้นๆ เพื่อเล่นเรื่อง แผลเก่า ของคุณเชิด ทรงศรี แล้ว..เรื่องต่อๆมาหลังจากปี 2521 แล้ว จะยังมีผมยาวหรือไม่..อันนี้ยังไ่ม่เคยสังเกต คงต้องอาศัยเพื่อนๆ ช่วยกันเช็คดูว่า หลังจากปี 2520 ที่แผลเก่าฉายแล้ว ทรงผมของสรพงศ์จะอยู่ในทรงไหน..

           คุณRegis Madec ถามถึง ก็เลยนำมาให้ดูทั้งสามคนเลยครับ..แต่ถ้าในเรื่อง เจ้าพ่อ 7 คุก นักเลงมีหนวดเล็กๆ ที่ถูกสรพงศ์ฆ่าตายนั้นชื่อ แพน บรเพ็ด ครับ..

           เจ้าพ่อ 7 คุก จากกรุโรงหนังเฉลิมเอกที่พวกเราตื่นเต้นกันมากๆ เพียงแค่เปิดม่านคลุมชั้นฟิล์มหนัง สายตาพวกเราก็มองไปปะทะกับกล่องไม้ใส่ฟิล์มเรื่องนี้แล้ว..เราเร่งเรารีบฉายและนำมาโพสเป็นเรื่องแรกเลยครับ.. ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม.. หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เจ้าพ่อ 7 คุก (2520 สมบัติ-สรพงศ์-เนาวรัตน์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


คลิ๊กดู..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ เจ้าพ่อ 7 คุก (2520 สมบัติ-สรพงศ์-เนาวรัตน์) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม

[akrawee]

 ผมก็หาแผ่นอยู่เหมือนกัน  ช่วยตามหา สิงห์รถบรรทุก กับดับสุริยาให้ด้วยครับ

[ป๊อปอาย ไทยซีเน]

 เยี่ยมเลยครับพี่    ลืมถามไป   ใช้หัวฉายตัวไหนเดินฟิล์มครับ....

[มนัส กิ่งจันทร์]

ผมก็หาแผ่นอยู่เหมือนกัน  ช่วยตามหา สิงห์รถบรรทุก กับดับสุริยาให้ด้วยครับ

หนังเรื่อง เจ้าพ่อ 7 คุก นั้น ผมเคยขึ้นบัญชีเป็นหนังสูญพันธุ์ไปแล้วเพราะไม่มีทั้งฟิล์มเนกาตีฟและไม่มีกากฟิล์มให้เห็นอีกเลย
กระทั่งเมื่อพวกเราไปร้อยเอ็ดและได้พบกากฟิล์มหนังที่เจ้าของโรงหนังเฉลิมเอก ฉายและยังเก็บไว้อยู่ ก็เลยได้มาทำภาพครับ
โชคดีครับที่ท่านเจ้าของฟิล์มเข้าใจความประสงค์ของพวกเรา จึงยอมให้ฟิล์มมาได้ ไม่งั้นก็ต้องเป็นหนังสูญพันธุ์เหมือนอีกหลายๆ เรื่อง
ที่แม้จะทราบว่ามีฟิล์มอยู่บ้าง แต่เจ้าของยังหวงอยู่ ก็เลยไม่มีหนังดูครับ....ส่วนเรื่อง สิงห์รถบรรทุก กับ ดับสุริยา นั้น ผมก็ตามหาเช่นกัน
แต่ก็ยังไม่เจอวี่แววเลยครับว่า จะมี..เคยแต่มีข่าวเืมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่ตลาดคลองถม ที่มีคนเดินมาคุยว่า มีฟิล์ม ดับสุริยา แต่ก็ไม่เคย
เห็นฟิล์มและก็ไม่เคยเห็นตัวคนที่คุยอีกเลยครับ...

............

เยี่ยมเลยครับพี่    ลืมถามไป   ใช้หัวฉายตัวไหนเดินฟิล์มครับ....


คุณป๊อบอายฯ ครับ ก็ใช้เครื่องจีนแดง 104 ที่คุณฉัตรชัยพาไปซื้อนั่นแหละครับฉาย แต่ว่า ตอนฉายอาจต้องช่วยประคองเฟื่องบ้าง
เพราะฟิล์มบางเรื่องเริ่มหด และเบี้ยว จะวิ่งไม่ผ่านช่วงหลอดซาวด์ทำเสียง ก็เลยต้องรั้งๆ ข้อเหวี่ยงบ้างนะครับ..ขอบคุณครับ..

[สถิตย์ บุตรน้อย]

ขอบคุณอย่างสูงครับคุณมนัส ที่ไปเสาะ แสวงหา มานําเสนอให้ชมกัน
หลายเรื่องเคยดูแต่ใบปิด ไม่มีหนังมาฉายแถวบ้าน เรื่องนี้ก็เช่นกัน
เห็นเขาวาดเป็นโปรแกรมใหญ่ๆ ข้างรถ โตโยต้าไดน่าสมัยยังเป็นเด็ก
จําได้ยันทุกวันนี้ ขอบคุณมากๆครับ(ผมอยู่อุบลครับ สมัยก่อนหนังกลางแปลง
เยอะมาก)

[มนัส กิ่งจันทร์]

ขอบคุณอย่างสูงครับคุณมนัส ที่ไปเสาะ แสวงหา มานําเสนอให้ชมกัน
หลายเรื่องเคยดูแต่ใบปิด ไม่มีหนังมาฉายแถวบ้าน เรื่องนี้ก็เช่นกัน
เห็นเขาวาดเป็นโปรแกรมใหญ่ๆ ข้างรถ โตโยต้าไดน่าสมัยยังเป็นเด็ก
จําได้ยันทุกวันนี้ ขอบคุณมากๆครับ(ผมอยู่อุบลครับ สมัยก่อนหนังกลางแปลง
เยอะมาก)

เช่นกันครับ ผมเองก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาเยี่ยมชมอดีตของหนังไทย..
เจ้าพ่อ 7 คุก นั้น ผมเองก็ดูจากหนังโรงที่สุรินทร์ก่อน..
แล้วหนังก็หายเงียบไปเลย เข้าใจว่า สายอีสานนั้น คงมีฟิล์มไม่เกิน 2 ก๊อบปี้
แล้วก็ถูกใช้ฉายไปเรื่อยๆ จนหมดยุคหนัง..แต่ความโชคดีของเราก็คือ หนังมา
มายุคเอาที่กรุโรงหนังเฉลิมเอก ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นกรุที่รักและหวงฟิล์มมากๆ เขา
ก็เลยเก็บกากฟิล์มไว้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และที่โชคดียิ่งกว่าก็คือ พวกเราดันไป
รู้จักลูกสาวเจ้าของกรุนี้ซึ่งปัจจุบันอายุ 70 ปีแล้วครับ ท่านใจดีและให้ยืมฟิล์มมาครับ
แล้ววันเสาร์ที่ 7 มิถุนายนนี้ พวกเราจะเดินทางนำไปฟิล์มไปคืนท่านและไปขอบคุณบรรพบุรุษของท่านด้วยครับ..

[สถิตย์ บุตรน้อย]

ดับสุริยา กับสิงห์รถบรรทุก ถ้ามีฟิล์มหลงเหลืออยู่คงเป็นบุญของเรานะครับ
คุณมนัส  2 เรื่องนี้ น่าจะฉายที่โรงเฉลิมสิน อุบลครับ ผมไม่ได้ดูหรอก ไม่มีค่าตั๋วดู
ได้แต่ไปยืนดูคัทเอาท์หน้าโรง ฟังเสียงหนังก็ยังดี ความหลังอ่ะครับ หนังสมัยก่อน
ไม่ว่าฉายโรง หรือกลางแปลง คึกคักมากๆครับ นึกถึงความหลังครับ ขอบคุณ คุณมนัสอีกครั้งครับ

[akrawee]

หนังสองเรื่องนี้ น่าจะฉายประมาณ ปี 2519-2520 ครับ ไม่น่าจะเกิน 2521