ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ 590 เสนอฉาย หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ผู้แทนนอกสภา (2526 สรพงศ์-ศิร  (อ่าน 2480 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย

บทที่ 590
ชุมทางหนังไทยในอดีต เสนอฉาย
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ
ตัวอย่าง ผู้แทนนอกสภา (2526 สรพงศ์-ศิริพร)
โดย มนัส กิ่งจันทร์

(facebook 23 กันยายน 2557)


หนังไทยคงเหลือ ตัวอย่าง ผู้แทนนอกสภา 2526 สรพงศ์ ศิริพร รีมาสเตอร์กากฟิล์ม


          สวัสดีครับทุกท่าน.. วันนี้ โครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ขอเสนอฉายหนังจากกากฟิล์มของบริการศิลาพันธ์ภาพยนตร์ จังหวัดตราด ซึ่งพวกเราเดินทางไปรับฟิล์มมาเมื่อวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2557 วันนั้นพี่มล นิรมล จันทร์สวัสดิ์ กับน้องชายซึ่งดูแลกิจการฉายหนังกลางแปลงสืบต่อจากบิดามารดาให้กากฟิล์มหนังไทยเก่าๆ แก่พวกเราหลายเรื่องครับ บางเรื่องก็เป็นหนังที่สูญพันธ์ไปแล้ว ท่านใดยังไม่รู้จักความเป็นมาของบริการศิลาพันธ์ภาพยนตร์ จังหวัดตราด ก็คลิกอ่านดูรายละเอียดได้จากบทที่ 585 เปิดกรุบริการหนังศิลาพันธ์ภาพยนตร์ จ.ตราด

คลิกชม..
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=507109066100402&set=o.156185157894883&type=1&permPage=1

          นอกจากจะให้กากฟิล์มแก่พวกเราแล้ว พี่มล นิรมล จันทร์สวัสดิ์และน้องชาย ยังเล่าเรื่องเก่าๆ ให้เราฟังด้วย ถ้าจะชมวีดีโอเทปก็คลิกดูได้จากลิงค์นี้ครับ.. ชุมทางหนังไทยในอดีต เปิดกรุบริการหนังศิลาพันธ์ภาพยนตร์ จ.ตราด 6 ก.ย.2557

คลิกชม..


          สำหรับหนังที่จะฉายในวันนี้นั้น เป็นหนังตัวอย่างเก่าๆ ที่บริการหนังศิลาพันธ์ภาพยนตร์เขาเลิกฉายแล้วและให้ฟิล์มเรามาฉายดู ตอนได้ฟิล์มมา ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องอะไร แต่พอต่อๆ ฟิล์มรวมกันแล้ว จึงรู้.. วันนี้จะเป็นตัวอย่างเรื่อง ผู้แทนนอกสภา นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี-ศิริพร เอี่ยมสุนทร-ดู๋ ดอกกระโดน-ดี๋ ดอกมะดัน.. สร้างโดยสหมงคลฟิล์ม กำกับการแสดงโดย สุรสีห์ ผาธรรม เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 9 เมษายน 2526 ที่โรงหนังเพรสซิเดนส์ สเตลลา ฯลฯ

          จุดเด่นอย่างหนึ่งของหนังก็คือ การเข้าไปถ่ายทำในบ้านซอยสวนพลูและเชิญ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายบุญชู โรจนเสถียร พร้อมกับสมาชิกพรรคกิจสังคมในสมัยนั้นมาเข้าฉากเพื่อเปิดตัวพระเอกของเรื่องคือ สรพงศ์ ชาตรี ที่จะลงสมัครผู้แทนในนามพรรคเราทำได้ หนังจะสมมุติชื่อคน ชื่อสถานที่ เริ่มเรื่องในจังหวัดสนธยาธานี ซึ่งอยู่ติดชายแดนทางภาคอีสาน จังหวัดนี้มีผู้แทนได้เพียงคนเดียว ซึ่งทุกครั้งจะผูกขาดโดยรัฐมนตรีช่วยอำนาจผู้แทนเก่า แต่ครั้งนี้ กลับมีผู้สมัครหน้าใหม่หลายคนมาลงเลือกตั้ง หนึ่งในนั้นก็มีทนายบุญไชย (สรพงศ์) รวมอยู่ด้วย ผู้สมัครบางคนก็เอาแต่ด่าคู่แข่งลูกเดียว บางคนก็โยนระเบิดใส่บ้านตัวเองเพื่อเรียกคะแนนสงสาร บางคนก็แจกข้าวแจกของให้แก่ชาวบ้านเป็นการมัดจำไว้ก่อน เช่น แจกรองเท้าแตะฟองน้ำให้ข้างเดียวก่อน ถ้าได้เป็นผู้แทนก็จะมาแจกเพิ่มอีกข้าง

          แต่สำหรับทนายบุญไชยแล้ว เขาใช้วิธีเดินเข้าถึงประชาชน พูดถึงนโยบายของพรรคที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน จึงมีพันธมิตรช่วยหาเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ต้องปราศรัยแข่งกับหนังกลางแปลง แต่ทนายบุญไชยก็พูดจนชาวบ้านทิ้งจอหนังกลางแปลงมาฟังผู้แทนหาเสียง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐมนตรีช่วยอำนาจอย่างมาก จึงสั่งเก็บทนายบุญไชยทันที แต่ทนายบุญไชยก็รอดมาได้เพราะมีชาวบ้านคอยช่วยเหลือ แต่แล้วในคืนก่อนวันเลือกตั้ง ทนายบุญไชยก็ถูกลอบยิงเสียชีวิตจนได้ ทำเอาคนดูซึมไปทั้งโรง แต่ชาวบ้านที่รู้ว่า ทนายบุญไชยตายแล้ว ก็ยังเลือกทนายบุญไชยอีก โดยบอกว่า ก็คนเป็นๆ มันไม่น่าเลือกนี่หวา ก็เลยต้องเลือกคนตาย บุญไชยจึงชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น แม้เขาจะได้เป็นแค่ผู้แทนนอกสภาก็ตาม

          ผู้แทนนอกสภา นับว่าเป็นหนังดี หนังคุณภาพอีกเรื่องหนึ่งของ สุรสีห์ ผาธรรม.. เคยออกวีซีดีแล้ว แต่ภาพเต็มจอ ไม่ค่อยชัด แต่ว่า วันนี้ที่จะนำมาฉายเป็นฟิล์มหนังตัวอย่างนะครับ.. สภาพฟิล์มยังพอฉายได้ครับ.. ก็เลยทำภาพเก็บไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังๆ มีโอกาสได้ศึกษา เรียนรู้ว่า สมัยก่อนเขาทำหนังตัวอย่างกันอย่างไร... ก่อนชมโปรดอย่าลืมว่า อดีตของหนังไทย..ไม่มีวันตาย หากวันนี้ เราช่วยกันเก็บภาพจากฟิล์มไว้ก่อน ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยหนังไทยจากกากฟิล์ม..


คลิกชม..
หนึ่งในโครงการภาพยนตร์ไทยคงเหลือ ตัวอย่าง ผู้แทนนอกสภา (2526 สรพงศ์-ศิริพร) รีมาสเตอร์กากฟิล์ม



<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/gDjv3BD0l3Y?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
…….





 :) :) :)














------------

Prapai Kujapan สุรสีร์ ผาธรรม ท่านเคยเป็นนักพากย์หนังชื่อดังทางภาคอีสาน ถ้าจำไม่ผิดท่านใช่ชื่อว่า สกุลเพชร ความโด่งดังจะเป็นรองจากโกญจนาท มหาราชและพงษ์พิทักษ์ นักพากย์ที่โด่งดังทางสายอีสานในยุคนั้น ท่านพากย์หนังก็เลยได้ดูหนังเยอะ เมื่อมาเป็นผู้กำกับประสบการณ์เกี่ยวกับหนังท่านจึงมีมาก เหมือนกับพรพจน์ กนิษฐเสน ผู้กำกับชื่อดังอีกคน ท่านก็มาเป็นทั้งผู้สร้างและผู้กำกับหนัง ท่านใช้ชื่อพากย์หนังว่า พรพจน์ พากย์คู่กับรัชนีวรรณ ครับ   เมื่อประมาณเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปี 2526 หลายฉากในหนังเรื่องนี้ได้ไปถ่ายทำที่หลายหมู่บ้านในตำบลโพธิ์ใหญ่ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี แม่และญาติๆของผมเคยไผเข้าฉากเป็นตัวประกอบ 

ชาวบ้านที่มาเป็นตัวประกอบทุกคนในสมัยนั้น ได้ค่าตัวเข้าฉากครั้งละ 100-500 บาท ถือว่ามากสำหรับคนต่างจังหวัด แล้วแต่ระยะเวลาที่เข้าฉากถ่ายทำ เคยถามจากทีมงานสร้างเขาบอกว่า ค่าตัวของสรพงษ์ 2 แสน ค่าตัวนางเอกศิริพร 1 แสน ผมได้ไปดูการถ่ายทำอยู่หลายฉาก สรพงษ์แม้ว่าท่านจะเป็นพระเอกดังในยุคนั้น ท่านถูกคุณสุรสีห์ผู้กำกับสั่งถ่ายทำใหม่หลายฉาก ท่านเชื่อฟังผู้กำกับมาก ท่านทำตัวเป็นกันเองเหมือนชาวบ้านธรรมดาไม่เรื่องมาก จึงไม่แปลกเลยที่ท่านเป็นพระเอกที่โด่งดังยาวนาน เมื่อปี 2556 ผมเจอท่านที่วิหารหลวงพ่อโต โคราชท่านก็ยังเป็นสรพงษ์คนเดิมที่ผมเคยเห็นเมื่อ 30 ปีที่แล้วครับ   

หนังของสุรสีห์ ผาธรรมเรื่อง ลูกแม่มูล และสวรรค์บ้านนา แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ในกทม.แต่ในต่างจังหวัดแถบอีสานคนดูแน่นโรงมาก ผมจะไปดูที่โรงหนังนิมิตรรามา จ.อุบลฯ ในสมัยนั้นคนเต็มโรงเข้าไปดูไม่ได้เลย จนมาได้ดูเมื่อไปจ้างหนังกลางแปลงมาฉาย แกสร้างหนังเพื่อคนอีสานจริงๆครับ


ทศพร นานามั่นคง ตอนปี 47 เคยไปบ้านญาติที่คลองใหญ่ เห็นตรงตลาดที่เป็นท่ารถทัวร์ และรถสองแถวที่จะเข้าคลองใหญ่ มีโรงหนังโรงหนึ่งเหมือนจะไม่ได้ฉายหนังแล้ว จำไม่ได้ว่าเป็นโรงนี้หรือเปล่า ปี 52 งานวันเด็ดแถวบ้านมีฉายหนัง ปีนั้นเอาหนังเก่ามาฉาย จำได้ว่ามี ผ่าโลกบันเทิง ผ่าปืน 91 สภาพฟิล์มยังแจ่มอยู่เลยครับ

           ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ความรู้เพิ่มเติมนะครับ.. เรื่องราวของคุณสุรสีห์ ผาธรรม นั้น ผมเคยเขียนไว้ในเฟสบุ๊กตัวเก่าที่ถูกปิดไปแล้ว พอเป็นเฟสบุ๊กกลุ่มฯ นี้ ผมก็นึกว่า นำมาเขียนไว้แล้ว พอไล่ดูรายชื่อบทความตามลิงค์ต่างๆ ที่เขียนไว้ 590 บท.. ปรากฏว่า ไม่มีครับ ผมยังไม่ได้นำมาลงซ้ำอีก.. ก็เลยถือโอกาสนำมาแปะต่อจากนี้ก็แล้วกันนะครับ....


วันวานของ..สุรสีห์ ผาธรรม โดย มนัส กิ่งจันทร์

           ในบรรดาผู้กำกับที่ทำหนังเพื่อคนอีสานแล้ว ชื่อของ สุรสีห์ ผาธรรม คงจะต้องจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ  เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมหนังที่สุรสีห์ทำออกมา จึงชอบที่จะสะท้อนชีวิตและความเป็นอยู่ของคนอีสาน

           สุรสีห์ ผาธรรม เป็นคนอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ชอบดูหนังกลางแปลงหนังขายยามาตั้งแต่เรียนชั้น ป.4 ถึงขนาดแทบจะทิ้งการเรียนเพื่อดูหนัง ยิ่งดูก็ยิ่งชอบ ใจจึงคิดที่จะเอาดีทางนี้ด้วยการหัดเป็นนักพากย์หนัง ต่อมาสุรสีห์ก็ได้เป็นนักพากย์หนังกลางแปลง ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นการพากย์แบบคนเดียวทั้งเดียว สุรสีห์ใช้ชื่อในการพากย์หนังว่า สกุลรัตน์ แล้วใช้ชีวิตนักพากย์หนังอยู่ในแถบภาคอีสานหลายปี จึงมีความคิดที่จะทำหนังกับเขาดูบ้าง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ กมล กุลตังวัฒนา ซึ่งเคยเป็นนักพากย์สายอีสานด้วยกันมาเปิดบริการจัดจำหน่ายหนังอยู่ในกรุงเทพฯ สุรสีห์ก็เลยได้เข้ามาช่วยงาน ช่วงแรก ๆ ก็จะจัดจำหน่ายหนังอินเดีย แต่ทำไปสักพักการเงินก็ไม่ดีขึ้น สุรสีห์จึงออกความคิดว่า น่าจะลองสร้างหนังเองดูบ้าง ซึ่งเกิดไปตรงกับความฝันของกมลพอดี หนังเรื่องแรกของดวงกมลมหรสพจึงเกิดขึ้นโดยเล็งไปที่หนังเพลงเพราะมีความเชื่อว่า หนังเพลงต้องทำเงินแน่ ๆ เหมือนอย่างที่ มนต์รักลูกทุ่ง ของรังสี ทัศนพยัคฆ์ ทำสำเร็จมาแล้ว

           มนต์รักแม่น้ำมูล คือ หนังที่กมลสร้างขึ้นเพื่อหวังจะให้เป็นมนต์รักลูกทุ่งของคนอีสาน มี พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ ส่วนสุรสีห์ ผาธรรม ได้เป็นผู้ช่วยกำกับให้กับดาราตัวประกอบ จุดนี้เองคือ ก้าวแรกที่ทำให้สุรสีห์ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกระบวนการทำหนังที่ฝันไว้อย่างจริงจัง มนต์รักแม่น้ำมูล ออกฉายวันที่ 12 สิงหาคม 2520 ที่โรงหนังเพชรรามา ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนอีสานในกรุงเทพฯ จนต้องมีการเพิ่มโรงฉายอีกที่เพชรเอ็มไพร์

           เมื่อมนต์รักแม่น้ำมูลประสบความสำเร็จ กมลจึงผลักดันให้สุรสีห์ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเองครั้งแรกด้วยเรื่อง ครูบ้านนอก ซึ่งงานนี้สุรสีห์ต้องไปคลุกอยู่กับชาวบ้านดอนเมย ที่สมมุติให้เป็นบ้านหนองหมาว้อตามเนื้อเรื่อง เพื่อให้เด็ก ๆ และชาวบ้านเกิดความรู้สึกว่า ไม่ใช่การถ่ายหนัง หากแต่เป็นการถ่ายทอดวิถีชีวิตจริง ๆ ใช้เวลาถ่ายทำประมาณ 4 เดือน หนังออกฉายเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2521 ที่โรงหนังเฉลิมไทย-ปารีส และได้คำชมเชยจาก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ด้วย จึงยิ่งทำให้หนังประสบความสำเร็จเกินคาด ชื่อของสุรสีห์ ผาธรรม จึงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้กำกับคลื่นลูกใหม่

           เมื่อหนังได้รับความนิยม ก็เป็นธรรมดาของผู้สร้างที่อยากจะทำภาคต่อ กมลจึงให้สุรสีห์กำกับครูบ้านนอก ภาค 2 ต่ออีกในชื่อเรื่อง หนองหมาว้อ โดยคราวนี้ เน้นบทไปที่ครูดวงดาวซึ่งยังอยู่สานอุดมการณ์ครูปิยะที่เสียชีวิตไปแล้ว หนังออกฉายวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2522 ที่โรงหนังแอมบาสเดอร์-ไดเรคเตอร์ แม้จะทำรายได้ไม่ค่อยดีนัก แต่สุรสีห์ก็ได้รับคำชมถึงพัฒนาการการทำหนังที่ดีขึ้น ในขณะที่ดวงกมลมหรสพถอยกลับไปที่เก่า ด้วยการทำหนังเพลงซ้ำรอยมนต์รักแม่น้ำมูล อีกในเรื่อง ลูกแม่มูล แล้วนำออกฉายวันที่ 26 กรกฎาคม 2523 ที่โรงหนังโคลีเซี่ยม-พาราเมาท์ แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่ามนต์รักแม่น้ำมูล

           ชื่อของ สุรสีห์ ผาธรรม กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไปกำกับหนังให้กับค่ายเพชรเกษมโปรดักชั่น ของ รักษ์ หล่อเกษมศานต์ โดยนำชีวิตครูเดินสอนมาสะท้อนความจริง แต่เป็นความจริงที่น่าหัวเราะในเรื่อง ครูวิบาก ออกฉายวันที่ 16 กรกฎาคม 2524 ที่โรงหนังควีนส์-สเตลลา-ออสการ์ หนังเรื่องนี้ชี้ให้เห็นความสามารถของคน 2 คน คนแรกคือ คำหมาน คนไค ซึ่งเป็นคนเขียนเรื่องครูบ้านนอก แต่ครั้งนี้เขียนออกมาในแนวตลกได้อย่างสนุกสนาน เช่นเดียวกับสุรสีห์ที่ได้แสดงถึงความสามารถในการกำกับหนังแนวตลกด้วยเช่นกันและครูวิบาก ยังได้รับ 2 รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ประจำปี 2524 ด้วยคือ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์สร้างสรรค์

           จากนั้นสุรสีห์ก็ไปกำกับหนังให้ค่ายสหมงคลฟิล์มอีก 2 เรื่องคือ ครูดอย ซึ่งมีเนื้อเรื่องต่อจากครูวิบาก หนังเล่าถึงภารกิจของครูเดินสอนที่ขึ้นไปช่วยพัฒนาหมู่บ้านบนดอยของจังหวัดเลย ออกฉายวันที่ 15 พฤษภาคม 2525 ที่โรงหนังเพรสซิเดนท์-สเตลลา-ออสการ์-ควีนส์ และอีกเรื่องหนึ่งคือ ผู้แทนนอกสภา หนังการเมืองการเลือกตั้ง ที่สมมุติว่าเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน สุรสีห์ถ่ายทอดกลวิธีในการหาเสียงผู้แทนได้อย่างสนุกสนาน แต่บทสุรปของหนังก็ทำให้คนเดินน้ำตาซึมออกจากโรง หนังเข้าฉายวันที่ 9 เมษายน 2526 ที่โรงหนังเพรสซิเดนท์-สเตลลา-โอลิมปิค  และเรื่องนี้เองที่ทำให้ สุรสีห์ ผาธรรม ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง (พระสุรัสวดี) ประจำปี 2526 ในฐานะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

           ในปีเดียวกัน สุรสีห์ก็ยังมีหนังสะท้อนชีวิตของคนอีสานอีกเรื่องหนึ่งออกมาฉาย ใช้คำโฆษณาว่า ..  หน้าแล้ง เข้ากรุงมุ่งหางาน หน้าฝน กลับมาพบกัน..  นั่นคือเรื่อง สวรรค์บ้านนา ออกฉายวันที่ 22 ตุลาคม 2526 ที่โรงหนังเพชรรามา-เพชรเอ็มไพร์ และตามด้วยหนังที่ถ่ายทอดชีวิตของครู ตชด.ที่ยึดคติว่า.. ยามศึก เรารบ ยามสงบ เราสอน..ในเรื่อง ครูชายแดน ออกฉายวันที่ 15 กันยายน 2527 ที่โรงหนังเฉลิมไทย-เฉลิมกรุง ซึ่งเรื่องนี้สุรสีห์กำกับร่วมกับยุทธศิลป์ มูลสำรวจ

           สุรสีห์ปิดฉากกำกับหนังด้วยเรื่อง ราชินีดอกหญ้า ของสีบุญเรืองฟิล์ม ซึ่งเป็นหนังที่ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านประเภทหมอลำของชาวอีสานได้เป็นอย่างดี ออกฉายวันที่ 31 พฤษภาคม 2529 ที่โรงหนังเอเธนส์-พาราไดซ์ และหนังยังได้รับ 3 รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ประจำปี 2529 คือ ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ผู้ประพันธ์เพลงยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

           กล่าวได้เลยว่า หนังของสุรสีห์ ผาธรรม นั้นเป็นหนังที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนชีวิต สะท้อนสังคมในรูปแบบการตีแผ่ความจริงออกมาให้สังคมโดยรวมได้รู้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งสาระและบันเทิงควบคู่กันไป สุรสีห์จะเน้นเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนอีสานเป็นหลักเพราะเขาเป็นคนอีสาน เขาเชื่อว่าสังคมไทยขณะนั้น คนอีสานเป็นคนที่ด้อยโอกาสมากกว่าคนภาคอื่น ๆ หนังของสุรสีห์จึงเป็นเสมือนสื่อกลางหรือเป็นตัวเชื่อมความแตกต่างในแต่ละสังคมให้สามารถเข้าหากันได้ และจะยิ่งดีขึ้น หากผู้มีอำนาจได้มาดูหนังและกลับไปแก้ไขปัญหาของสังคมนั้น ๆ ด้วย





Regis Madec ขอบคุณครับสำหรับ ตัวอย่าง ผู้แทนนอกสภา 2526 กับ สรพงศ์. หนังเรื่องนี้เป็นหนังสะท้อนปัญหาสังคม เรื่องแรกในดวงใจครับ. โชคดีจริงๆที่ได้ ตัวอย่าง สีสวย และ ยาวด้วยครับ. เมื่อก่อน 30 ปีที่แล้ว ตัวอย่าง ยาวเกือบ5นาทีครับ. ถ้าเปรียบเทียบการเมืองตอนนี้กับเมื่อก่อนได้เปลี่ยนเยอะไหมครับ? ผมคิดว่าจุดขายของเรื่องนี้ยังแข็งแรงมากครับ. หนังดีๆจริงๆ.

           หนังตัวอย่างสมัยก่อนนั้น บางเรื่อง เขาก็บอกจนหมดว่า ทิศทางหนังจะเดินไปทางไหน.. ซึ่งไม่ผิดธรรมเนียมหนังสมัยก่อนแต่อย่างไร ข้อนี้ให้เทียบกับการนำหนังไปออกอากาศเป็นละครวิทยุเพื่อโฆษณาหนัง ละครวิทยุเขาจะเล่นจนจบเรื่อง แล้วหนังเรื่องนั้นจึงมาเข้าโรงฉาย... ผู้แทนนอกสภา ก็เช่นกัน ตอนที่ผมดูในโรงหนังนั้น ก็เอาใจช่วยพระเอกสรพงศ์เพราะคลาดแคล้วมาหลายครั้ง..แต่สุดท้ายพระเอกก็ตาย.. ตายไปท่ามกลางความมึนงงของคนดู.. ไหนบอกว่า ประชาชนเป็นกำแพงให้.. ผมเสียดายที่หนังเรื่องนี้ ตอนออกวีดีโอเทปให้เช่า แม้ภาพจะดีกว่าแผ่นวีซีีดีมาก แต่เนื้อหนังก็ถูกตัดออกหลายฉากให้พอเหมาะกับความยาวม้วนวีดีโอ... เสียดายที่หนังดีๆ แบบนี้ฉายทำภาพแบบเต็มจอ.. เสียดายครับที่ไม่ได้เห็นหนังแบบจอสโคป ครับ..

Regis Madec ขอบคุณครับคุณ มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต ที่เล่าให้ฟัง ชีวิตของคุณสุรสีห์ ผาธรรมครับ. น่าสนใจมากครับ. ยังมีหนังของ สุรสีห์ ที่ผมยังไม่ได้ดูครับ คือ ครูวิบาก, ครูดอย, ครูชายแดน ครับ. ผมจะพยายามหาครับ. ผมรู้คุณมนัสยุ่งมากครับแต่ผมหวังว่าสักวันคุณมนัสจะโพสต์บทเก่าของ ชุมทางหนังไทยในอดีตอีกครับ. หลายบทน่าสนใจแบบบทของ สุรสีห์ ที่หายไปแล้วครับ    ;D ;D

           ครับ.. พอเราลองศึกษาย้อนหลังไปถึงชีวิตของคนทำงานแบบนี้ ก็มักจะพบว่า แต่ละคนก็เคยมีอดีต..อดีตที่ทั้งหวานและขม คละเคล้ากันไป..หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ความวิริยะอุตสาหะนั่นเองที่ทำให้เขาเหล่านั้น ก้าวมาถึงจุดนี้ได้.. ส่วนบทความเก่าๆ ที่เคยโพสและถูกลบไปนั้น ถ้ามีจังหวะเหมาะ ก็อาจจะนำกลับมาเขียนอีกนะครับ คุณ Regis Madec
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ตุลาคม 2014, 02:56:07 โดย นายเค »


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได