มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เปิดใจพูดถึงหนัง The Social Network เป็นครั้งแรก

[นายเค]

        หนังก็เข้าฉายกันไปหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนพี่ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุคคงจะเพิ่งมีอารมณ์มาเปิดอกคุยถึงหนังที่สร้างจากชีวิตตัวเองอย่าง The Social Network ซึ่งแน่นอนว่าช่วงแรกที่มันเข้าฉาย ได้มีข่าวลือหนาหูว่าเขานั่นจะไม่ยอมดูหนังเรื่องนี้เป็นอันขาด และเขาก็ต่อต้านหนังเรื่องนี้อย่างเป็นที่สุด ถึงแม้มันจะทำเงิน ได้คำวิจารณ์ที่ดี และได้เข้าชิงออสการ์ก็ตาม แต่มันเป็นหนังที่บิดเบือนหลักความจริงของชีวิตเจ้าตัวเป็นอย่างมาก แต่แน่นอนว่าใครๆก็กลืมน้ำลายตัวเองกันได้ทั้งนั่น ซึ่งล่าสุดพี่มาร์ค แกก็ได้ไปเปิดใจคุยกับหนังเรื่องนี้ผ่านทาง The Verge ไว้อย่างยาวเหยียดตามนี้

        ‘ผมใช้เวลาคิดอยู่กับมันนานมาก และมันเป็นประสบการณ์ที่ประหลาดดีนะที่ได้ดูหนังเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง ความจริงคือการนั่งเขียนโค้ด และสร้างเว็บไซต์นึงขึ้นมามันไม่น่าสนใจพอจะทำเป็นหนังหรอกจริงไหม เพราะฉะนั้นหลายอย่างในหนังล้วนแล้วแต่สร้างขึ้นมา ถ้าพวกเขาอยากจะสร้างหนังเกี่ยวกับเฟซบุคจริงๆ คงจะเป็นผมนั่งเขียนโค้ดอยู่หน้าคอมพ์ 2 ชั่วโมงมากกว่า แต่แน่นอนคนพวกนี้เขาอยากได้เงิน

        ผมยังไม่เคยเจอคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ แต่ผมเคยเจอกับ เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก ครั้งนึง, พวกเขาพยายามจะสร้างรายละเอียดที่ถูกต้องอย่างออฟฟิศของเฟซบุค แต่ในขณะเดียวกันในแง่ของบทหนังมันกลับแต่งเติมเข้าไปเยอะมาก จนผมรู้สึกว่ามันเจ็บปวดเหมือนกันนะ เพราะผมก็ทำงานของผมอย่างตรงไปตรงมา เราสร้างบริษัทนี่ขึ้นมาเพื่อเชื่อมให้คนทั่วมุมโลกติดต่อกันได้ง่าย ได้ติดต่อกับคนที่ตนรัก แต่สิ่งที่ผมพบเจอในหนังเรื่องนี้คือการที่ผมสร้างบริษัทขึ้นมาเพื่อหลอกล่อสาวๆ

        สิ่งที่สำคัญคือในชีวิตจริงของผม ผู้หญิงของผมนั่นคือคนเดิมที่เคยคบมานานกว่า 10 ปี และก็ก่อนจะสร้างเฟซบุคเสียอีก, คือถ้าหากผมจะสร้างเฟซบุคเพื่อให้ได้สาวติดเยอะกว่านี้หละก็ มันคงไม่ดีต่อความสัมพันธ์ของผมกับแฟนแน่ๆ แน่นอนว่าพวกเขาสนุกกับหนังที่พวกเขาสร้างขึ้นมา และอยากให้ผมจริงจังไปกับมัน แต่ความจริงคือพวกเราไม่ได้คิดอะไรมาก และผมรู้ว่าคนในบริษัทอยากดูหนังเรื่องนี้แน่ๆ เพราะฉะนั้นเราจึงยกทั้งบริษัทไปดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่มันเข้าฉาย’

        เพราะฉะนั้นเนี่ยดูเหมือนว่าพี่มาร์คของเราเขาจะไปดูหนังตั้งแต่วันแรกๆที่เข้าฉายเลยทีเดียว และจากบทสัมภาษณ์นี่คงจะไขปริศนาได้ซะทีนะ ว่าสรุปเขารู้สึกอย่างไรกับหนังเรื่อง The Social Network นี่กันแน่