ผู้เขียน หัวข้อ: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร  (อ่าน 7944 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 05:42:11 »

คริสตศักราชที่ 1519

       Hernán Cortés นายทหารชาวสเปนผู้โหดเหี้ยมและห้าวหาญ นำกองกำลังของตนบุกล่าอาณานิคมไปทั่วทวีปอเมริกา เมื่อกองกำลังของพวกเขาบุกรุกไปถึงดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณของชาวอินคา คอเตสและทหารของเขาเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์พื้นเมืองแห่งนี้ไปมากมาย ซ้ำยังบุกรุงวิหารเทพเจ้า Aztec และเผาทำลายวิหารอย่างไร้ปราณี  คอเตสพบหีบศิลาที่บรรจุเหรียญทองคำมากมายภายในวิหารเทพเจ้าแอซเทค คอเตสจึงแจกจ่ายเหรียญทองเหล่านั้นให้กองกำลังชาวสเปนของตน เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอินคานี่เอง เทพเจ้าแอซเทคจึงลงคำสาปไว้ในเหรียญทุกเหรียญว่า "มันผู้ใดหยิบเหรียญทองนี้ออกไปจากหีบศิลาแม้แต่เหรียญเดียว มันผู้นั้นจะต้องคำสาปไม่เป็นไม่ตาย (Undeath) ไปชั่วนิรันดร์ "

       หลังจากนั้นไม่นาน คอเตสและเหล่าทหารของตนต่างก็ประสบชะตากรรมที่ต้องสาปนี้ ทุกคนที่นำเหรียญแอซเทคไป จึงนำมันมาคืนที่หีบศิลาทั้งหมด และคอเตสก็นำหีบศิลาที่บรรจุเหรียญทอง 882 เหรียญ ไปเก็บไว้ยังเกาะมหาสมบัติของตน โดยเกาะนี้มีชื่อว่า " Isla de Muerta " ซึ่งในเวลาต่อมา เกาะมหาสมบัติก็แปรเปลี่ยนเป็นเกาะมรณะแทน นี่จึงเป็นตำนานอันดับต้นๆของเหล่านักล่าสมบัตินั่นเอง..


หีบศิลาที่บรรจุเหรียญทองต้องสาป 882เหรียญของแอซเทค

คริสตศักราชที่ 1523

       Juan Ponce de León (ฮวน พอนซ์ เดอ ลิ'ออง) กัปตันเรือชาวสเปนยุคไล่ล่าอาณานิคมเช่นกัน พอนซ์ เดอ ลิ'ออง ล่องเรือซานดิเอโกของตนมาอย่างยาวนานไปทั่วผืนทะเลอันกว้างใหญ่ เพื่อมุ่งหวังที่จะตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัยในตำนานปรัมปรา จนกระทั่งเขาก็ได้ค้นพบมันที่สถานที่ลึกลับแห่งนึ่ง ต่อมา ทั้งกัปตัน พอนซ์ เดอ ลิ'ออง ทั้งเรือซานดิเอโกก็หายสาปสูญไป  แต่ก็มีลายแทงของสถานที่ซ่อนน้ำพุแห่งความเยาว์วัยหลุดรอดออกมา นี่จึงเป็นอีกตำนานอันดับต้นๆของเหล่านักล่าสมบัติอีกอย่างนึงนั่นเอง..


สมุดบันทึกตำแหน่งน้ำพุแห่งความเยาว์วัยของ พอนซ์ เดอ ลิ 'ออง

คริสตศักราชที่ 1600

       Calypso ตำนานของคาลิปโซ่ เป็นเรื่องเล่าขานของชาวประมงและกะลาสีรวมถึงบรรดาโจรสลัดมากาลนาน เรียกว่าทุกคนที่ต้องเดินเรือสู่ท้องทะเล ล้วนแล้วต้องรู้จักคาลิปโซ่ ตามตำนานเล่าว่า คาลิปโซ่นั้นเป็น "สตรี" นางจึงถูกเรียกขานว่า เทพธิดาแห่งท้องทะเล และนางก็มีอิทธิฤทธิ์บรรดาลให้ผืนท้องทะเลบ้าคลั่งไปด้วยพายุและมรสุมได้ ถ้านางพิโรธ จึงทำให้นักเดินเรือทั้งหลายต่างเกรงกลัวต่อคาลิปโซ่กันไปทุกคน


(รูปสเก๊ตภาพเทพธิดาคาลิปโซ ตามตำนานความเชื่อของนักเดินเรือทั่วโลก)

       แต่แล้วคาลิปโซก็ถูกชะตานักเดินเรือชาวสก๊อตแลนด์ ผู้ซึ่งหลงใหลในท้องทะเลอย่างบ้าคลั่ง นั่นก็คือ Davy Jones ผู้ห้าวหาญทรนง คาลิปโซ่จำแลงกายไปในรูปร่างของหญิงสาวเพื่อไปพบกับโจนส์ นางยื่นข้อเสนออันแสนยิ่งใหญ่ให้แก่โจนส์ เพื่อให้เป็นกัปตันเรือต้องคำสาปศักดิ์สิทธิ์  " Flying Dutchman " ซึ่งหน้าที่กัปตันเรือฟลายอิ้งดัชแมนก็คือ นำพาเหล่าดวงวิญญาณที่ตายในท้องทะเลไปส่งยังอีกภพหนึ่ง (Afterlife) แต่กัปตันฟลายอิ้งดัชแมนจะเหยียบแผ่นดินได้ในรอบ 10 ปี ขึ้นฝั่งได้เพียงวันเดียว

       เดวี่ โจนส์ หลังจากพบเจอกับกับร่างมนุษย์ของคาลิปโซเพียงแรกพบ ก็ตกหลุมรักคาลิปโซ่แบบหมดหัวใจ ซึ่งเดิมทีโจนส์นั้นก็มึความสเน่หาในท้องทะเลอยู่แล้ว จึงรับข้อเสนอคาลิปโซแบบไม่ลังเล และยินดีเป็นกัปตันเรือฟลายอิ้งดัชแมน ล่องเรือต้องสาปไปชั่วกัปชั่วกัลป์จวบจนถึงคราวอวสานของโลก คาลิปโซเห็นช่องทางใช้งานโจนส์ให้เต็มที่ จึงให้สัญญากับโจนส์ว่า ทุกๆสิบปีที่โจนส์จะมีโอกาสได้ขึ้นฝั่งหนึ่งวัน นางจะจำแลงกายเป็นมนุษย์เพื่อมาครองรักกับโจนส์นั่นเอง


กัปตันเดวี่ โจนส์ The Lord of the sea

       เทพธิดาคาลิปโซ นางเป็นถึงเทพเจ้า นางไม่ได้สนใจในตัวโจนส์มากนักอยู่แล้ว โจนส์ก็แค่ผู้รับใช้ แต่คาลิปโซก็พลาดมหันต์ ที่ให้โจนส์ล่วงรู้ความลับวิธีที่จะกักขังนางไว้ในร่างมนุษย์

       ตำแหน่งกัปตันเรือฟลายอิ้งดัชแมน มาพร้อมกับอำนาจวิเศษ นั่นคือการสาปคนที่ใกล้ตาย ให้เลือกด้วยความสมัครที่จะยื้อชีวิตตนเอง และเป็นกะลาสีบนเรือฟลายอิ่งดัชแมนหนึ่งร้อยปี เพื่อตอบแทนในการที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่กัปตันฟลายอิ้งดัชแมน ก็มีอำนาจถอนคำสาปได้ทุกเมื่อเช่นกัน และกัปตันฟลายอิ้งดัชแมนก็สามารถควบคุม และรับรู้ได้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในท้องทะเล เรียกว่าคาลิปโซให้อำนาจเสร็จสรรพให้กัปตันเรือฟลายอิ้งดัชแมนทีเดียว ที่สำคัญ " เรือฟลายอิ้งดัชแมนจะต้องมีกัปตันสเมอ "

       ตำนานเล่าขานถึงกัปตันเดวี่โจนส์และเรือต้องสาปฟลายอิ้งดัชแมนของเขานั้น เลื่องลือไปทั่วทั้งเจ็ดคาบสมุทร ว่าถ้าผู้ใดได้พบเห็นเรือต้องคำสาปนี้บนผืนทะเล ถือว่าเป็นลางมรณะ เรือลำนั้นและลูกเรือทั้งหมดจะถึงฆาตอย่างแน่นอน

เรือต้องคำสาป ฟลายอิ้งดัชแมน

       วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ.1600 ที่ลอนดอน รัฐบาลอังกฤษก็จัดตั้ง East India Trading Company ขึ้นมา เพื่อที่จะเปิดเส้นทางการค้ากับอารยธรรมป่าเถื่อนต่างๆทั่วโลก และเนื่องจากความอันตรายของท้องทะเล อีสท์อินเดียฯจึงต้องมีกองทัพเรือราชนาวีอังกฤษที่ทรงอานุภาพที่สุดประจำการด้วยนั่นเอง

คริสตศักราชที่ 1610

       ตลอดระยะเวลาสิบปี ที่กัปตันเดวี่โจนส์ทำหน้าที่ของตนเอง โดยการนำพาเหล่าดวงวิญญาณที่เสียชีวิตในทะเลไปส่งยังโลกหลังความตาย เค้าก็ทำหน้าที่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อรอเวลาที่จะครบสิบปีตามกำหนด และได้ไปอยู่กับคาลิปโซบนแผ่นดินนั่นเอง แต่เมื่อครบกำหนดสิบปีแรก กัปตันเดวี่โจนส์รีบไปรอคาลิปโซ่ตามนัดทั้งวันจวบจนพระอาทิตย์ตก แต่เค้ากลับไม่พบหญิงที่เขารัก กัปตันเดวี่โจนส์จึงอาฆาตแค้นใจคาลิปโซ่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

       กัปตันเดวี่โจนส์เริ่มยึดติดกับห้วงทะเลลึก นานวันเข้า ตัวของกัปตันเดวี่โจนส์และลูกเรือ ก็ค่อยๆกลายเป็นส่วนนึงของทะเล ร่างกายแปลเปลี่ยนเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ทะเลกลายเป็นอสูรกายกันทั่วทั้งเรือต้องสาปนี้ และกัปตันเดวี่โจนส์ผู้หัวใจสลาย ก็ไม่อยากมีหัวใจเพื่อรักใครอีกต่อไป เค้าจึงควักหัวใจตนเองออกมาจากร่าง และใส่หีบปิดผนึก ก่อนจะนำไปฝังซ่อนไว้บนชายหาดที่เกาะ Isla Cruces พร้อมกับนำลูกกุญแจหีบคล้องคอไว้ตลอดเวลา


กัปตันเดวี่ โจนส์ ในร่างอสูรกาย The Lord of the sea

คริสตศักราชที่ 1611-1620

       การประชุมศาลพี่น้องโจรสลัดครั้งที่หนึ่ง หรือ " The First Brethren Court " ก็เกิดขึ้น  โดยที่สภาโจรสลัดในอ่าวเรือแตกแห่งนี้ สร้างขึ้นจากซากเรือเก่าแก่สองลำประกบติดกัน และลอยเรืออยู่ในอ่าว

       กัปตันเดวี่ โจนส์ ซึ่งได้ยินเรื่องราวการรวมตัวของโจรสลัด ก็โผล่มากลางที่ประชุมสภาโจรสลัดครั้งที่หนึ่ง ในฐานะผู้ควบคุมความตายในท้องทะเล พร้อมกับเสนอวิธีกักขังคาลิปโซไว้ในร่างมนุษย์ ด้วยการจัดตั้ง ศาลโจรสลัด ซึ่งต้องประกอบด้วยผู้นำโจรสลัด (Pirate Lord) ตัวแทนน่านน้ำทั้งเก้าทะเลทั่วโลก นำเหรียญเงินแปดเรียลมาคนละเหรียญ (Silver Eight Real Coin) เพื่อที่จะทำพิธีกักขังคาลิปโซนั่นเอง ซึ่งเหล่าไพเรทลอร์ดก็เห็นดีเห็นงามในการกักขังคาลิปโซด้วย

       แต่บรรดาไพเรทลอร์ดทั้งเก้าไม่มีเหรียญแปดเรียล จึงใช้สิ่งของส่วนตัวทดแทนเหรียญแปดเรียล และศาลโจรสลัดก็ร่ายคาถากักขังคาลิปโซเอาไว้ เทพธิดาคาลิปโซจึงกลายเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่ชื่อว่า" Tia Dalma "และเนรเทศนางไปอยู่ในคิวบาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา


สิ่งของที่บรรดาไพเรทลอร์ดทดแทนเหรียญแปดเรียล (The nine pieces of eight)

       แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อิทธิฤทธิ์ของ เทีย ดาลม่า ก็ยังสูงส่งกว่ามนุษย์ธรรมดาอยู่ดี โดยผู้คนนับถือนางในฐานะแม่หมอผู้มีเวทย์มนต์วูดูอันน่าครั่นคร้าม.. (ถึงโจรสลัดจะบ้าดีเดือด แต่ก็คงไม่กล้าฆ่าเทพเจ้าครับ เพราะฆ่าไม่ได้ หรือกลัวว่าฆ่าไปแล้วจะเกิดอาเพศอะไรตามมานั่นแล จึงเนรเทศนางแทนการกำจัด) และสัญญาณการเรียกตัวเหล่าไพเรทลอร์ดทั้งเก้าครั้งต่อไปก็คือ เสียงดนตรีจากเหรียญแปดเรียลนั่นเอง

คำกำกับ :: เหรียญแปดเรียลที่สมมุติขึ้นเพื่อกักขังคาลิปโซ่ คือสิ่งที่ส่งต่อให้กันได้ แต่เหรียญแปดเรียลที่แท้จริงนั้น จะมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกเหรียญทั่วโลก เมื่อเหล่าโจรสลัดมีปัญหาร้ายแรง เสียงดนตรีจากเหรียญแปดเรียลจึงเป็นสัญญาณเทียบเชิญไพเรทลอร์ดนั่นเอง


เหรียญเงินแปดเรียล (Silver Eight Real Coin)


คริสตศักราชที่ 1670

       เมื่อเหรีญแปดเรียลมีเสียงดนตรี การประชุมศาลพี่น้องโจรสลัดครั้งที่สอง หรือ " The Second Brethren Court " ก็เกิดขึ้น การหารือกันครั้งนี้ มีสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือ บทบัญญัติกฎต่างๆของโจรสลัดที่ต้องมีนั่นเอง เนื่องจากที่ผ่านมานั้น บรรดาโจรสลัดนั้นล้วนแล้วแต่เจ้าเล่ห์ ขี้โกง หักหลัง ฯลฯ เหล่าบรรดาผู้นำโจรสลัดทั้งเก้า หรือ Pirate Lord จึงแต่งตั้งให้ Bartholomew และ Henry Morgan ซึ่งเขียนรวบรวมกฎต่างๆของโจรสลัดมาตลอดเกือบสิบปี และนำกฎนั้นมาบังคับใช้ในศาลโจรสลัด เริ่มตั้งแต่การประชุมครั้งที่สองนี้เป็นต้นไป และผู้คุ้มกฎแห่งโจรสลัดคนแรกก็คือ มารดาของ Edward Teague


กฎโจรสลัดของมอร์แกนและบาโธโลมิว


คริสตศักราชที่ 1700

       เมื่อเหรียญแปดเรียลมีเสียงดนตรี การประชุมศาลพี่น้องโจรสลัดครั้งที่สาม หรือ " The Third Brethren Court " ก็เกิดขึ้น ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้งผู้คุ้มกฎโจรสลัดคนใหม่ นั่นก็คือ กัปตัน Edward Teague  ไพเรทลอร์ดแห่งมาดากัสก้า และต่อมาไม่นาน กัปตันเอ็ดเวิร์ดก็มีลูกชาย และตั้งชื่อว่า Jack Sparrow


กัปตันเอ็ดเวิร์ด ทีค ผู้คุ้มกฎโจรสลัดคนที่สอง บิดาของ แจ็ค สแปโรว์


คริสตศักราชที่ 1718

       Edward Teach หรือที่รู้จักกันในนามหมู่โจรสลัดว่า Blackbeard ซึ่งมีอายุ 38 ปี (เกิดปี ค.ศ. 1680) แบล็คเบี้ยดเป็นโจรสลัดหนุ่มผู้เก่งกาจและเจ้าชู้ แบล็คเบี้ยดมีเมียถึง 13 คน และหนึ่งในนั้นก็คือหญิงชาวสเปน ผู้ให้กำเนิดลูกสาวของเขา และลูกสาวของแบล็คเบี้ยดก็มีนามว่า Angelica ในปีนี้เอง กัปตันแบล็คเบี้ยดก็เกือบโดนสังหาร หากแต่มีแม่หมอผู้มีเวทมนตทมาช่วยเขาเอไว้


คริสตศักราชที่ 1719

       แบล็คเบี้ยดจึงเริ่มสนใจในศาสตร์มืดมนต์ดำและการเล่นของเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น แบล็คเบี้ยดก็กลายเป็นจอมโจรสลัดผู้มีเวทย์มนต์อันแกร่งกล้า แบล็คเบี้ยดทำให้เรือรีเว้นส์ของตนเองมีชีวิต จากการลงอาคมลงไปในดาบประจำตัวนั่นเอง และผู้ใดครอบครองดาบเล่มนี้ ก็มีเวทย์มนต์ควบคุมเรือทุกลำในโลกได้


กัปตันจอมขมังเวทย์ แบล็คเบี้ยด


สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
Re: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 06:11:56 »
คริสตศักราชที่ 1727

       แจ็ค สแปโรว์ ในวัย 27 ปี เติบโตขึ้นมาเป็นหนึ่งในเก้าจอมโจรสลัด หรือ ไพเรทลอร์ดแห่งทะเลคาริบเบี้ยน กัปตันแจ็คนำเรือรักของตนที่ชื่อ Wicked Wench ส่งสินค้าและทาสให้กับอีสท์อินเดียฯ โดยผู้การแบ็คเก๊ตเป็นคู่ค้าขายของกัปตันแจ็ค เมื่อธุรกิจบาปลุล่วง ผู้การแบ็คเก๊ตก็ไม่ซื่อจับกุมตัวกัปตันแจ็ค พร้อมกับตั้งข้อหาโจรสลัด ซ้ำยังเผาเรือ Wicked Wench ก่อนจะจมมันลงสู่ก้นทะเล ผู้การแบ็คเก๊ตยังได้ตีตราที่ข้อมือกัปตันแจ็คเป็นตัว P อันย่อมาจาก Pirat หรือโจรสลัดนั่นเอง และผู้การแบ็คเก๊ตก็จับกัปตันแจ็คไปขังคุก


Captain Jack Sparrow - Pirate Lord of the Caribbean

       กัปตันแจ็ค สแปโรว์ แหกคุกออกมาได้ และหาวิธีอัญเชิญมัจจุราชแห่งท้องทะเล กัปตันเดวี่ โจนส์ แห่งเรือฟลายอิ้งดัชแมน เมื่อกัปตันแจ็คพบกัปตันเดวี่โจนส์ กัปตันแจ็คก็ยอมขายวิญญาณยอมเป็นลูกเรือฟลายอิ้งดัชแมน 100 ปีให้แก่กัปตันเดวี่โจนส์ เพื่อแลกกับการกู้เรือ Wicked Wench ขึ้นมาจากใต้ทะเลลึก โดยที่กัปตันแจ็คให้คำมั่นสัญญญาไว้ว่า ขอเวลา 13 ปี ในการท่องทะเลก่อน กัปตันเดวี่โจนส์ยอมตกลง เพราะวิญญาณของกัปตันแจ็คซึ่งเป็นหนึ่งในเก้าจอมโจรสลัดคุ้มค่าแก่การรอคอย และกัปตันเดวี่โจนส์ก็จากไป หลังจากนั้นกัปตันแจ็คก็เปลี่ยนชื่อเรือ Wicked Wench เป็นเรือ Black Pearl ที่ใช้ชื่อแบล็คเพืร์ลก็เพราะว่า เรือและใบเรือมีสีดำเจากการถูกเผาไปทั้งลำนั่นเอง


เรือ Black Pearl


คริสตศักราชที่ 1729

       ตั้งแต่กู้เรือ Wicked Wench ซึ่งมีชื่อใหม่ว่าเรือแบล็คเพิร์ลจากก้นสมุทรผ่านมาได้ 2 ปี กัปตันแจ็ค สแปโรว์ ซึ่งออกตามหาลายแทงขุมทรัพย์มหาสมบัติต้องสาปของคอเตส ในที่สุด กัปตันแจ็คก็ได้ค้นพบลายแทงไปเกาะมรณะ " Isla de Muerta " ของคอเตส ที่ซึ่งมีหีบศิลาบรจุเหรียญทองคำทั้ง 882 เหรียญแห่งคำสาปเทพเจ้าแอซเทคอยู่ที่นั่น พร้อมด้วยทรัพย์สมบัติแก้วแหวนเงินทองมากมายในเกาะ กัปตันแจ็คจึงเดินทางมาเกณฑ์ลูกเรือที่ทอทูก้า อันเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าคนโฉดและโจรสลัด รวมถึงกะลาสีว่างงาน เพื่อออกเดินทางไปค้นหาเหรียญทองแอซเทคในตำนานนี้  และที่ทอทูก้า กัปตันแจ็คก็ได้พบกับหนึ่งในเก้าจอมโจรสลัด หรือ ไพเรทลอร์ดแห่งทะเลสาปแคสเปียน นั่นก็คือกัปตัน Hector Barbossa มาทำหน้าที่ต้นเรือแบล็คเพิร์ล กัปตันบาโบสซ่านำลูกน้องของตนส่วนนึงไปขึ้นเรือแบล็คเพิร์ลด้วย และกัปตันบาโบสซ่า ก็วางแผนที่จะยึดเรือแบล็คเพิร์ลในครั้งนี้ จึงร่วมเดินทางไปที่เกาะมรณะด้วยนั่นเอง

Captain Hector Barbossa - Pirate Lord of the Caspian

       เมื่อเรือแบล็คเพิร์ลออกจากทอทูก้าได้เพียง 3 วัน และกำลังลอยลำอยู่กลางทะเล กัปตันบาโบสซ่าซึ่งอยู่บนเรือแบล็คเพิร์ลในฐานะต้นเรือ ก็มาบีบบังคับให้กัปตันแจ็คบอกข้อมูลทุกอย่าง เพื่อความโปร่งใส กัปตันแจ็คไม่คิดว่ากัปตันบาโบสซ่าจะคิดไม่ซื่อ จึงบอกพิกัดที่ตั้งเกาะมรณะ และแผนการเดินเรือทั้งหมดให้กัปตันบาโบสซ่าได้รับรู้ด้วย

       ในคืนนั้นเอง กัปตันบาโบสซ่าจึงทำการก่อกบฎและยึดเรือแบล็คเพิร์ล ก่อนที่จะเนรเทศกัปตันแจ็คทิ้งไว้ที่เกาะร้าง พร้อมกับมอบปืนหนึ่งกระบอกกับลูกกระสุนหนึ่งนัดให้กัปตันแจ็ค และกัปตันบาโบสซ่าก็ตั้งตนเองเป็นกัปตันเรือแบล็คเพิร์ลนับตั้งแต่นั้น


กัปตัน แจ็ค สแปโรว์ โดนลูกเรือแบล็คเพิร์ลก่อกบฎ

       ด้านทาง William "Bill" Turner กะลาสีผู้เที่ยงธรรม แอบส่งเหรียญทองคำต้องสาปของแอชเทคไปให้ภรรยาและลูกชายของตนในอังกฤษ ภรรยาบิลจึงนำเหรียญทองนี้คล้องคอลูกชายนางนับตั้งแต่นั้น และบิลแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับกัปตันบาโบสซ่า ที่ก่อกบฏและเนรเทศกัปตันแจ็คลงจากเรือ บิลจึงโดยกัปตันบาโบสซ่าจับมัดโดยเชือกผูกรองเท้าของบิลเอง และผูกไว้กับปืนใหญ่ก่อนจะนำไปถ่วงทะเล บิลจึงได้ฉายาว่า Bootstrap มานับตั้งแต่นั้น ขณะที่ บิล หรือ บูธสแตรป กำลังจะขาดใจตาย เค้าก็อธิษฐานขอชีวิตกับใครก็ได้ที่ได้ยิน และยอมทำทุกอย่างเพื่อมีชีวิตต่อไป

William "Bootstrap Bill" Turner

       เสียงอธิษฐานของบูธสแตรปมีผู้ที่ได้ยินแน่นอน นั่นก็คือมัจจุราชแห่งท้องทะเลอย่างกัปตันเดวี่โจนส์นั่นเอง และบูธสแตรปก็ได้รับการช่วยเหลือ วิลเลี่ยม "บูธสแตรป บิล" เทอเนอร์ จึงกลายเป็นลูกเรือฟลายอิ้งดัชแมน 100 ปี ตามเงื่อนไขการไว้ชีวิตของกัปตันเดวีโจนส์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..

       กัปตันแจ็ค สแปโรว์ หลังจากโดนทิ้งไว้ที่เกาะร้างได้เพียง 3 วัน กัปตันแจ็คก็ได้รับการช่วยเหลือจากนักเดินเรือที่ขนเหล้าเถื่อน เพราะเกาะแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บเหล้าเถื่อนนั่นเอง กัปตันแจ็คนั้นออกตามหาเรือแบล็คเพิร์ลของตัวเองไปทั่ว ได้ยินเพียงข่าวคราวเท่านั้น สิ่งที่น่าแปลกคือ กัปตันแจ็คนั้นไม่เคยตามแบล็คเพิร์ลทันซักที และมักจะช้ากว่าแบล็คเพิร์ลเสมอ นั่นเป็นเพราะมีอาถรรพ์บางอย่างปกคลุมเรือแบล็คเพิร์ลไปแล้วนั่นเอง..


คริสตศักราชที่ 1730

       กัปตันบาโบสซ่าและเหล่าลูกเรือแบล็คเพิร์ล ก็สำเริงสำราญกับการใช้จ่ายทองคำอาถรรพ์แอชเทคกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งทองต้องสาปทุกเหรียญถูกใช้ซื้อสุรานารีไปจนหมด หากแต่อาถรรพ์และคำสาปก็เริ่มบังเกิดกับลูกเรือแบล็คเพิร์ลทุกคน นั่นคือร่างกายเริ่มไม่หิวอาหาร และดื่มกินอะไรไม่ได้อีกเลยนับตั้งแต่นั้น ความสุขทางเพศก็หมดไป จนกระทั่งแสงจันทร์สาดส่อง บรรดาลูกเรือแบล็คเพิร์ลจึงรู้ว่า บัดนี้พวกเขากลายเป็นอันเดธไม่มีวันตายไปขั่วกัปชั่วกัลป์ ต้องอยู่อย่างหิวและอยาก แต่ไม่สามารถดื่มกินหรือเสพสิ่งที่อยากได้อีกต่อไป เพราะพวกเขาทุกคนล้วนถูกคำสาปเทพเจ้าแห่งแอชเทคเข้าให้แล้ว..


เหรียญทองอาถรรพ์ต้องคำสาบแห่งเทพเจ้า Aztec

       กัปตันบาโบสซ่าจึงค้นหาวิธีล้างคำสาปอาถรรพ์นี้ และพบว่า ต้องนำเหรียญทองแอชเทคทุกเหรียญพร้อมด้วยเลือดของผู้ที่นำมันไป และนำเลือดชุบที่เหรียญต้องสาป ก่อนจะหย่อนคืนลงไปในหีบศิลาที่เกาะมรณะ " Isla de Muerta "

       ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กัปตันบาโบสซ่าจึงนำเรือแบล็คเพิร์ลและกะลาสีอันเดธ ออกตามล่าหาเหรียญทองต้องสาปไปทั่วทุกอ่าว สร้างความสยองขวัญกับผู้พบเห็น ถึงตำนานกัปตันและลูกเรือผีดิบอันเดธแห่งเรือต้องสาปแบล็คเพิร์ล


ลูกเรืออันเดธของแบล็คเพิร์ล



คริสตศักราชที่ 1732

       ในที่สุด กัปตันบาโบสซ่าก็ได้เหรียญทองแอชเทคมา 881 เหรียญ และยังขาดหนึ่งเหรียญ กัปตันบาโบสซ่าจึงคิดออกว่า บูธสแตรปส่งเหรียญทองของตนเองไปให้ลูกและเมีย เรือแบล็คเพิร์ลจึงมุ่งค้นหาตัวครอบครัวของบูธสแตรป

       ที่อังกฤษ เมื่อวิลลูกชายบูธสแตรปเติบโตขึ้นจนอายุได้ 12 ขวบ แม่ของเขาก็เสียชีวิต วิลจึงออกเดินทางมากับเรือเดินสมุทรลำนึง และมุ่งหน้าไปพอร์ทรอยัลเพื่อตามหาพ่อของเขา ระหว่างการเดินทางและกำลังเข้าเขตทะเลคาริบเบี้ยนนั้น ก็เกิดหมอกปกคลุมทั่วทั้งผืนทะเล จู่จู่เรือเดินสมุทรที่วิลอาศัยมา ก็ถูกโจมตีโดยเรือแบล็คเพิร์ลในตำนานนั่นเอง


เรือเดินสมุทรที่แสนอับโชค โดนแบล็คเพิร์ลยิงปืนใหญ่โจมตีจนย่อยยับ

       ระหว่างทางที่เรือแบล็คเพิร์ลกำลังจะเข้าเขตแดนน่านน้ำคาริบเบี้ยนในหมอกทึบ กัปตันบาโบสซ่าก็สัมผัสได้ว่า เหรียญทองต้องสาปชิ้นสุดท้ายอยู่ใกล้ๆนี่เอง และทันใดนั้น ในหมอกทึบกลางทะเล ก็ปรากฏเรือเดินสมุทรที่ชะตาขาดลอยลำผ่านมาพอดี กัปตันบาโบสซ่าจึงสั่งการให้แบล็คเพิร์ลยิงปืนใหญ่โจมตีเรือลำนั้นทันที ผลคือตายทั้งลำ ยกเว้นเพียงเด็กหนุ่ม วิล เทอเนอร์ ที่รอดตายราวปาฎิหารย์ วิลโดนแรงระเบิดจนตนเองกระเด็นตกเรือ และนอนสลบอยู่บนเศษแผ่นไม้เรือแตก


William Turner ที่สอง ในวัย 12 ปี นอนสลบอยู่บนเศษแผ่นไม้เรือแตก

       เมื่อกัปตันบาโบสซ่าสำรวจทั้งเรือเดินสมุทรแล้ว ก็ไม่พบเหรียญทองคำแอชเทคอยู่บนเรือ เขาจึงหันหัวเรือแบล็คเพิร์ลออกห่างไป โดยที่กัปตันบาโบสซ่าไม่ทันสังเกตุเลยว่า ในหมอกทึบนั้น มีสายตาของเด็กสาวจากเรืออีกลำจ้องมองเรือแบล็คเพิร์ลของเค้าอยู่..

       Weatherby Swann ข้าหลวงแห่งสหราชอาณาจักร ล่องเรือเดินทางออกจากเกาะอังกฤษ มุ่งหน้าสู่ทะเลคาริบเบี้ยนพร้อมกับลูกสาว Elizabeth Swann วัย 12 ขวบ ครอบครัวสวอนเดินทางไปกับเรือรบหลวง Dauntless แห่งราชนาวีอังกฤษ เพื่อที่ข้าหลวงสวอนจะไปรับตำแหน่งผู้ว่าแห่งเกาะ Port Royal ซึ่งถูกอังกฤษบุกยึดครองในเขตบริเวณทะเลคาริบเบี้ยนนั่นเอง (น่านน้ำคาริบเบี้ยนแถบจาไมก้าในปัจจุบัน)


Elizabeth Swann ในวัย 12 ปี กำลังร้องเพลงโจรสลัดท่ามกลางหมอกหนาทึบ

       ณ กลางทะเลคาริบเบี้ยนระหว่างเดินทางนั้น ขณะที่หมอกหนาทึบปกคลุมไปทั่วผิวน้ำ สาวน้อยอลิซาเบธผู้หลงไหลในตำนานโจรสลัด ก็พบกับเด็กหนุ่มนิรนามลอยอยู่กลางทะเลมากับเศษแผ่นไม้ของเรือแตก และเบื้องหน้าในความหนาทึบของหมอก นายเรือ Joshamee Gibbs อดีตโจรสลัด ก็บอกทุกคนบนเรือดอนท์เลสให้ดูซากเรือที่อยู่ไกลๆ ลักษณะเหมือนเพิ่งโดนปืนใหญ่ยิงถล่มอย่างหนักจาก "สิ่งใดบางอย่าง"


นายเรือกิปส์ สนทนากับบรรดาลูกเรือดอนท์เลส

       ผู้หมวด James Norrington ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการเดินทาง จึงสั่งให้กะลาสีส่วนนึงลงไปสำรวจผู้รอดชีวิต แต่ก็ไม่พบคนอื่นที่รอด และเด็กหนุ่มปริศนาผู้นี้ ก็คือผู้รอดตายเพียงหนึ่งเดียว ข้าหลวงสวอนน์สั่งให้อลิซาเบธดูแลเด็กหนุ่มคนนี้ สักพักเด็กหนุ่มก็รู้สึกตัว และบอกกับอลิซาเบธว่าตนเองชื่อ วิล เทอเนอร์ ก่อนที่จะหมดสติไปอีกครั้ง


เหรียญทองต้องสาปแอซเทคบนคอวิลเลี่ยม เทอร์เนอร์ ที่สอง

       อลิซาเบธพบเหรียญทองต้องสาปแอซเทคห้อยคอวิลอยู่ จึงเดาว่าวิลคงจะเป็นโจรสลัดแน่ๆ จึงมีเหรียญทองเช่นนี้ นางจึงรีบหยิบมาเก็บไว้กับตัว เพื่อปกปิดความลับให้วิลนั่นเอง และในหมอกหนาทึบนั้น อลิซาเบธก็ได้เห็นเรือแบล็คเพิร์ลอยู่ไกลๆเป็นครั้งแรก ก่อนที่เรือทั้งลำจะหายเข้าไปในม่านหมอก..

       วิลฟื้นขึ้นมาก็ไม่พบกับเหรียญทองบนคอที่แม่เขาให้ไว้ จึงคิดว่าน่าจะหล่นหายไปในทะเลแล้ว และรับรู้ว่าทุกคนบนเรือเดินสมุทรที่เขานั้นอาศัยมาตายไปทั้งหมด ต่อมาเมื่อขึ้นถึงฝั่ง ข้าหลวงสวอนน์ก็นำเด็กหนุ่มวิลไปฝากไว้ที่ร้านตีเหล็ก blacksmith และวิลก็ฝึกฝนการใช้ดาบนับตั้งแต่นั้น ด้านทางนายเรือกิปส์ก็ถูกทอดทิ้งเพราะความขี้เมาของเขา นายเรือกิปส์จึงซัดเซพเนจรไปอยู่ในที่ที่เค้าควรจะอยู่ ที่นั่นก็คือ ทอทูก้า


นายเรือกิปส์ผู้ติดเหล้างอมแงม

       ด้านทางกัปตันบาโบสซ่านั้นก็เดินทางมาถึงอังกฤษ และสืบหาตัวลูกเมียของบูธสแตรป แต่กลับได้รับข่าวว่า เมียของบูธสแตรปตายไปแล้ว และลูกของบูธสแตรปก็หายตัวไป และไม่มีใครรู้เรื่องราวของครอบครัวนี้มากนัก รู้แต่เพียงนางตายไปแล้วนั่นเอง กัปตันบาโบสซ่าจึงถึงทางตัน และก็ยังไม่รู้ว่า ลูกของบูธสแตรปเป็นชายหรือหญิง


คริสตศักราชที่ 1740

       เริ่มเข้าสู่ยุคที่เหล่าโจรสลัดโดนสหราชอาณาจักรซึ่งนำโดยอังกฤษ ตามล่าสังหารจนแทบจะหมดสิ้น และต่างอยู่กันอย่างหลบซ่อน มันผู้ใดมีสัญลักษณ์โจรสลัด หรือถูกข้อหาโจรสลัด จะต้องขึ้นตะแลงแกงและถูกแขวนคอ


กัปตัน แจ็ค สแปโรว์ เดินทางมาที่ พอร์ท รอยัล ในเขตน่านน้ำคาริบเบี้ยน

       ตลอดสิบปีที่เสียเรือแบล็คเพิร์ลของเขาไป มาในครั้งนี้ กัปตัน แจ็ค สแปโรว์ ในวัย 40 ปี (เกิด ค.ศ. 1700) ได้ใช้เรือหาปลาลำเล็กเดินทางสู่แผ่นดินที่ใกล้ที่สุด เพื่อหวังที่จะขโมยเรือเดินสมุทรซักลำหนึ่ง และใช้ออกไล่ล่าแบล็คเพิร์ลของตน และที่นั่นก็คือเกาะพอร์ทรอยัลกลางมหาสมุทรคาริบเบี้ยนนั่นเอง ทางเข้าเกาะพอร์ทรอยัลที่อยู่ในอาณานิคมของอังกฤษนั้น ล้วนแล้วแต่มีซากศพของโจรสลัดที่โดนแขวนคอห้อยร่องแร่งอยู่มากมาย..

ยุคสมัยที่การแขวนคอโจรสลัด ไม่ผิดศีลธรรมกับคนหมู่มากที่เรียกตนเองว่า "ผู้ดีอังกฤษ"

       ผู้หมวดนอริงตัน กำลังจะเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือราชนาวีอังกฤษประจำพอร์ทรอยัล และกำลังจะขออลิซาเบธแต่งงาน ข้าหลวงสวอนน์ก็เห็นดีเห็นงามด้วย และซื้อชุดกุลสตรีที่กำลังเป็นที่นิยมของหญิงอังกฤษมาให้อลิซาเบธใส่ เพื่อไปงานฉลองพิธีรับตำแหน่งผู้บังคับการของนอริงตัน แต่เสื้อนั้นรัดแน่นเกินไป ขณะที่อลิซาเบธกำลังคุยกับผู้การนอริงตันอยู่นั้น เธอก็เป็นลมเพราะความแน่นของเสื้อ และร่วงลงจากหน้าผาป้อมปราการลงไปในทะเล และนั่นทำให้เหรียญทองต้องสาปที่อลิซาเบธห้อยคออยู่สัมผัสกับท้องทะเลอีกครั้ง และสัญญาณจากเหรียญต้องสาปนั้นก็ได้รับรู้ไปถึงบาโบสซ่ากัปตันเรืออาถรรพ์แบล็คเพิร์ล.. 

Elizabeth Swann ในวัย 20 ปี[/center]

       ขณะเดียวกันนั้น กัปตันแจ็คที่กำลังวางแผนขโมยเรืออินเตอเซปเตอร์ ก็เห็นผู้หญิงตกลงมาจากป้อมปราการร่วงลงสู่ทะเล กัปตันแจ็คจึงรีบกระโดดลงไปช่วย และพาอลิซาเบธขึ้นมาได้ กัปตันแจ็คเห็นเหรียญต้องสาปที่ห้อยคออลิซาเบธอยู่ กัปตันแจ็คจึงเกิดคำถามมากมายที่อยากรู้ว่า แม่หญิงผู้ดีอังกฤษนางนี้ไปเอาเหรียญต้องสาปแอซเทคมาจากไหน? แต่เมื่อผู้การนอริงตันเห็นรอยประทับตราโจรสลัดของกัปตันแจ็คที่โดนผู้การแบ็คแก็ตตราไว้ ผู้การนอริงตันจึงจะจับกัปตันแจ็คไปแขวนคอข้อหาโจรสลัด

       กัปตันแจ็คจึงจับอลิซเบธเป็นตัวประกันชั่วคราว ก่อนจะปล่อยอลิซาเบธหลังจากตนเองหนีสำเร็จ และกัปตันแจ็คก็หนีเข้าไปในร้านตีเหล็กแบล็คสมิธเพื่อจะตัดโซ่ตรวนที่แขนออก เจ้าของร้านก็เมาสลบไม่ได้สติ  วิล เทอเนอร์ กลับมาที่ร้านตีเหล็กแบล็คสมิธที่ตนเองทำงานพอดี จึงได้มีโอกาสประลองเพลงดาบกับกัปตันแจ็ค ทั้งคู่ดวลดาบกันอย่างสูสี แต่เจ้าของร้านตีเหล็กฟื้นสติมาพอดี และใช้ขวดเหล้าตีหัวกัปตันแจ็ค ผู้การนอริงตันจึงจับกัปตันแจ็คไปขัง

William Turner ที่สอง ในวัย 20 ปี

       ในคืนนั้น กัปตันบาโบสซ่าก็นำกะลาสีอันเดธมาพร้อมกับเรือแบล็คเพิร์ลบุกพอร์ทรอยัล เพื่อค้นหาเหรียญทองแอชแทคชิ้นสุดท้าย ระหว่างชุลมุนกันอยู่นั้น วิลก็เห็นว่าพวกโจรสลัดที่บุกมารู้จักกัปตันแจ็ค แต่โจรสลัดเหล่านั้นไม่ยอมช่วยแจ็คออกจากห้องขัง

       Ragetti และ Pintel สองสหายโจรสลัดลูกเรือแบล็คเพิร์ล บุกไปเพื่อจะสังหารอลิซาเบธถึงในห้องนอน เพื่อจะได้ชิงเหรียญทองต้องสาปมจากศพอลิซาเบธง่ายๆ แต่อลิซาเบธใช้กฎโจรสลัดและขอ "เจรจา" ทั้งสองจึงต้องนำตัวอลิซาเบธกลับมาที่เรือแบล็คเพิร์ลตามกฎโจรสลัดที่เคร่งครัด กัปตันบาโบซ่าเห็นอลิซาเบธห้อยเหรียญทองคำต้องสาปนี้เอาไว้ จึงถามว่าเธอชื่ออะไร อลิซาเบธจึงอ้างตัวว่าเธอชื่อ อลิซาเบธ เทอเนอร์ กัปตันบาโบซ่าจึงนำเธอไปด้วย เพื่อหวังให้เลือดมนุษย์ของสายเลือดเทอร์เนอร์ล้างคำสาปนั่นเอง


ราเกตตี้ และ พินเทิ้ล บุกมายังบ้านตระกูลสวอนน์

       ในเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากวิลรู้ว่าอลิซาเบธถูกโจรสลัดจับตัวไป วิลจึงไปขอให้ผู้การนอริงตันออกเรือช่วยเหลืออลิซาเบธ แต่ผู้การนอริงตันกลับไม่ใส่ใจคำแนะนำของวิล วิลจึงไปช่วยกัปตันแจ็คแหกคุก เพื่อหวังให้กัปตันแจ็คนำทางไปหาพวกโจรสลัด เพราะกัปตันแจ็ครู้จักโจรสลัดพวกนั้น

       หลังจากกัปตันแจ็ครู้ว่า วิลเลี่ยม เทอเนอร์ คือลูกของ วิลเลี่ยม บูธสแตรป บิล เทอเนอร์ กัปตันแจ็คจึงยอมช่วย เพราะมีแผนการบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวทันที และทั้งสองก็ร่วมกันขโมยเรืออินเตอร์เซปเตอร์ไปจากผู้การนอริงตัน


เรือ Interceptor

       ในคืนนั้นบนเรือแบล็คเพิร์ล กัปตันบาโบสซ่าก็เล่าให้อลิซาเบธฟังถึงคำสาปที่ตนเองและลูกเรือแบล็คเพิร์ลได้รับ และเมื่ออยู่กลางแสงจันทร์ ร่างอันเดธที่แท้จริงของกัปตันบาโบสซ่าและลูกเรือแบล็คเพิร์ลก็ปรากฎให้อลิซาเบธเห็น


กัปตันบาโบสซ่า ในร่าง Undeath

       วิล และ กัปตันแจ็ค มุ่งหน้าไปทอทูก้าอันดับแรก เพื่อเกณฑ์ลูกเรือก่อน และกัปตันแจ็คก็ไปหานายเรือกิปส์เพื่อนเก่า เพื่อให้ช่วยไล่ล่าแบล็คเพิร์ลนั่นเอง เมื่อนายเรือกิปส์เกณฑ์ลูกเรือได้แล้ว เรืออินเตอร์เซปเตอร์ก็ออกจากท่าทอทูก้าทันที กัปตันแจ็คดูเข็มทิศปรารถนาของตนเพียงแป็บเดียว เขาก็นำเรืออินเตอร์เซปเตอร์วิ่งฉิวในคลื่นลมพายุฝนกระหน่ำ จนทันเรือแบล็คเพิร์ลของตนเอง และเดินทางมาถึงเกาะมรณะ " Isla de Muerta " ที่ซึ่งกัปตันบาโบสซ่าและลูกเรือแบล็คเพิร์ลมาถึงก่อนเพียงชั่วครู่ ก่อนที่กัปตันบาโบสซ่าจะเริ่มทำพิธี และเชือดฝ่ามืออลิซาเบธชุบเลือดนางกับเหรียญต้องสาป และนำเหรียญต้องคำสาปเหรียญสุดท้ายปล่อยลงไปในหีบ แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลูกเรือแบล็คเพิร์ลทุกคนยังเป็นอันเดธเหมือนเดิม และทุกคนก็เริ่มหาเรื่องทะเลาะกัปตันบาโบสซ่า ที่นำพาทุกคนมาโดนคำสาปอันนี้

       วิล และ กัปตันแจ็ค พายเรือบดเข้ามาในถ้ำสมบัติบนเกาะมรณะ และมาแอบซุ่มดูอยู่นานแล้วตั้งแต่เริ่มพิธี แต่กัปตันแจ็คไม่ยอมทำอะไรซักที วิลจึงใช้ไม้พายเรือบดฟาดหัวกัปตันแจ็คสลบ และอาศัยจังหวะชุลมุนที่กัปตันบาโบสซ่าและลูกเรือแบล็คเพิร์ลกำลังทะเลาะกัน วิลจึงรีบแอบชิงตัวอลิซาเบธหนีออกมาได้ และอลิซาเบธก็แอบนำเหรียญต้องสาปชิ้นสุดท้ายออกมาด้วย
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
Re: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 06:28:46 »

กัปตันบาโบสซ่าเชือดมืออลิซาเบธ แต่ไม่ได้ผล

       เมื่อกัปตันบาโบสซ่า และลูกเรือแบล็คเพิร์ลรู้ว่าอลิซาเบธหายไป จึงหยุดทะเลาะกันและตามหาอลิซาเบธกันให้วุ่น เมื่อกัปตันแจ็คฟื้นขึ้นมาจึงโดนลูกเรือแบล็คเพิร์ลจับทันที ขณะที่กัปตันบาโบสซ่ากำลังสั่งให้ฆ่ากัปตันแจ็ค แต่กัปตันแจ็คก็ใช้อุบายหลอกล่อว่า เค้ารู้บุคคลที่กัปตันบาโบสซ่าตามหา กัปตันบาโบสซ่าจึงไว้ชีวิตกัปตันแจ็ค และพาขึ้นเรือแบล็คเพิร์ลไปด้วย เรือแบล็คเพิร์ลจึงออกจากอ่าวและไล่ล่าเรืออินเตอร์เซปเตอร์ทันที

       หลังจากวิลและอลิซาเบธหนีมาขึ้นเรืออินเตอร์เซปเตอร์ได้แล้ว วิลจึงได้รับรู้ว่า บุคคลที่กัปตันบาโบสซ่าต้องการตัวนั้น แท้จริงก็คือตัววิลนั่นเอง และเพียงชั่วคราวเดียว เรือที่แสนรวดเร็วอย่างอินเตอร์เซปเตอร์ ก็มิอาจหนีเรือแบล็คเพิร์ลที่เร็วกว่าได้ เรือทั้งสองจึงประจันหน้ากัน และยิงปืนใหญ่ใส่กันโครมคราม ที่สุดแล้วเรืออินเตอร์เซปเตอร์ก็พ่ายแพ้ให้แก่เรือแบล็คเพิร์ล ลูกเรืออินเตอร์เซปเตอร์ทั้งหมดจึงถูกจับมาขึ้นเรือแบล็คเพิร์ล และกัปตันบาโบสซ่าก็ระเบิดเรืออินเตอร์เซปเตอร์ทิ้งไป


เรืออินเตอร์เซปเตอร์แห่งราชนาวีอังกฤษกำลังจะโดนกัปตันบาโบสซ่าระเบิด

       วิล เทอเนอร์ มาขู่บาโบสซ่าให้ไว้ชีวิตลูกเรืออินเตอร์เซปเตอร์และอลิซาเบธ แล้วตนเองจะยอมไปที่เกาะมรณะด้วย กัปตันบาโบสซ่าจึงตกลง และจับลูกเรืออินเตอร์เซปเตอร์ทั้งหมดไปขัง ยกเว้นอลิซาเบธและกัปตันแจ็ค กัปตันบาโบสซ่าให้ทั้งคู่โดดสะพานเรือและนำไปปล่อยไว้ที่เกาะร้าง ซึ่งเป็นเกาะเดิมกับที่กัปตันแจ็คเคยโดนปล่อย และเรือแบล็คเพิร์ลก็ย้อนกลับไปที่เกาะมรณะอีกครั้ง

       ในคืนนั้นอลิซาเบธจึงมอมเหล้ากัปตันแจ็ค เพื่อไม่ให้ขัดขวางแผนของนางได้ เมื่อถึงเช้ากัปตันแจ็คจึงหลับยาว เป็นโอกาสให้อลิซาเบธทำตามแผน นั่นก็คือนำเหล้าเถื่อนมาเผาให้หมด ให้ควันไฟลอยเด่นชัดในท้องฟ้า เพื่อที่กองเรือราชนาวีของผู้การนอนริงตันจะเห็นและมาช่วย


อลิซาเบธเผาเหล้าเถื่อนบนเกาะร้าง

       เมื่อผู้การนอริงตันพบเห็นกลุ่มควันที่ว่า จึงนำเรือดอนท์เลสมุ่งหน้าไปที่เกาะร้างนั้นทันที หลังจากนำตัวอลิซาเบธและกัปตันแจ็คขึ้นเรือมาแล้ว อลิซาเบธก็ขอร้องให้ผู้การนอริงตันกลับไปช่วยวิลที่เกาะมรณะ โดยอลิซาเบธให้สัญญาหมั้นหมายกับผู้การนอริงตันว่า ตนเองจะแต่งงานด้วย ผู้การนอริงตันจึงตกลงกลับไปช่วยวิล โดยให้กัปตันแจ็คไปบอกทางคนคุมพังงาเพื่อมุ่งหน้าไปที่เกาะมรณะ

       ด้านทางเกาะมรณะ วิลกำลังจะโดนกัปตันบาโบสซ่าเชือดคอ กัปตันแจ็ครีบเข้ามาห้ามไว้ก่อน และบอกกัปตันบาโบสซ่าว่า มีเรือพิฆาตของราชนาวีอังกฤษนามว่าเรือดอนท์เลส ลอยลำอยู่ที่อ่าว และรอเวลาที่จะโจมตีเหล่าลูกเรือแบล็คเพิร์ล กัปตันแจ็คจึงแนะนำว่าอย่าเพิ่งทำพิธีเชือดคอวิลเอาเลือดมาล้างคำสาป แต่ให้ลูกเรือแบล็คเพิร์ลคงสภาพอันเดธเอาไว้ก่อน และบุกชิงเรือดอนท์เลสซะ ส่วนทางกัปตันแจ็คจะขอเรือแบล็คเพิร์ลคืน และให้บาโบสซ่าเป็นผู้บังคับการกองเรือ โดยให้เรือดอนท์เลสเป็นเรือธง เมื่อตนออกปล้นมาได้จะแบ่งให้ผู้การบาโบสซ่า10% ทั้งสองต่อรองกันจนจบที่กัปตันแจ็คจะแบ่งให้25% กัปตันบาโบสซ่าจึงตกลง ระหว่างนั้นกัปตันแจ็คก็แอบนำเหรียญต้องสาปออกมาจากหีบศิลา 1 เหรียญ ซึ่งทางวิลและกัปตันแจ็คมองตาก็รู้แผนการกัน


กัปตันบาโบสซ่ากำลังจะเชือดคอ วิล เทอเนอร์

       อลิซาเบธแอบหนีออกจากเรือดอนท์เลสและลอบมาขึ้นเรือแบล็คเพิร์ล ก่อนที่จะไปปล่อยนายเรือกิปส์และลูกเรือกัปตันแจ็คที่เกณฑ์มาจากทอทูก้า และลูกเรือกัปตันแจ็คก็ยึดเรือแบล็คเพิร์ลได้ อลิซาเบธขอร้องให้บรรดาลูกเรือเหล่านี้ไปช่วยวิลและกัปตันแจ็ค แต่พวกเขาก็เลือกที่จะแล่นเรือแบล็คเพิร์ลหนีไป อลิซาเบธจึงต้องเข้าไปในเกาะมรณะเพียงคนเดียว

       กัปตันบาโบสซ่าสั่งให้ลูกเรืออันเดธของตนเดินเท้าลงไปในก้นทะเล และปีนเชือกสมอเรือขึ้นไปยึดเรือดอนท์เลส ขณะที่เหล่าลูกเรืออันเดธของแบล็คเพิร์ลกำลังจะยึดเรือดอนท์เลสสำเร็จ กัปตันแจ็คก็ช่วยวิลจากการถูกจับ อลิซาเบธเข้ามาช่วยวิลต่อสู้ และทั้งหมดก็ตะลุมบอนกัน กัปตันบาโบสซ่าสังหารกัปตันแจ็คไม่ได้ เพราะกัปตันแจ็คโดนคำสาปทำให้กลายเป็นอันเดธไปด้วย


กัปตันแจ็ค สแปโรว์ ในร่าง Undeath

       ที่สุดแล้ว วิลก็กรีดฝ่ามือตนเองและหย่อนสองเหรียญสุดท้ายลงหีบศิลา (เหรียญของตนเองและเหรียญของกัปตันแจ็ค) จวบกับที่กัปตันแจ็คใช้ปืนที่มีกระสุนลูกเดียวที่ตนเก็บไว้มานานยิงกัปตันบาโบสซ่าทันที กัปตันบาโบสซ่าจึงขาดใจตายบนกองสมบัตินั่นเอง และเหล่าลูกเรือแบล็คเพิร์ลก็กลับคืนสภาพมนุษย์กันหมด ลูกเรือแบล็คเพิร์ลทุกๆคนจึงยอมแพ้ให้แก่ผู้การนอริงตัน


กัปตันบาโบสซ่า ถูกกัปตันแจ็คสังหารสิ้นใจตายบนกองสมบัติในเกาะมรณะ " Isla de Muerta "

       ด้านทางกัปตันแจ็คนั้น หลังจากโดนทิ้งบนเกาะมรณะ กัปตันแจ็คก็ถูกผู้การนอริงตันจับมาที่พอร์ทรอยัลเพื่อแขวนคอ อลิซาเบธสังเกตุเห็นนกแก้วของลูกเรือนายเรือกิปส์ จึงรู้ว่าพวกลูกเรือแบล็คเพิร์ล (ใหม่) มาช่วยแล้ว


กัปตัน แจ็ค สแปโรว์ กำลังจะถูกแขวนคอ

       วิลตัดสินใจจะช่วยแจ็คหนีอีกครั้ง วิลจึงไปบอกรักกับอลิซาเบธเป็นครั้งสุดท้าย และช่วยกัปตันแจ็คจากตะแลงแกง ทั้งสองต่อสู้กับทหารเรือราชนาวีอังกฤษจนมาสุดทางที่หน้าผาป้อมปราการ ไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว อลิซาเบธมาขวางผู้การนอริงตันและทหารไว้ ผู้การนอริงตันจึงรับรู้ว่า อลิซาเบธไม่เคยรักตนเองเลย นางรัก วิล เทอเนอร์ จังหวะนั้นแจ็คก็กระโดดหน้าผาลงไป ผู้การนอริงตันหมดอาลัยตายอยาก จึงปล่อยกัปตันแจ็คว่ายน้ำไปยังเรือแบล็คเพิร์ลที่ลอยลำรออยู่ที่อ่าว และผู้การนอริงตันก็ถอนหมั้นอลิซาเบธ ต่อมา.. ผู้การเจมส์ นอริงตัน ก็ลาออกจากราชนาวี และไม่มีใครพบเห็นเค้าอีกเลยว่าหายไปไหน..

อลิซาเบธและวิล ยืนกรานช่วยเหลือกัปตันแจ็ค จาก ผู้การนอริงตันและทหารแห่งราชนาวีอังกฤษ

       ผ่าน ไปอีกไม่กี่เดือน อลิซาเบธและวิลก็ตกลงปลงใจและกำลังแต่งงานกัน ขณะที่อลิซาเบธรออยู่ในชุดเจ้าสาว คัตเลอร์ แบ็คเก๊ต ซึ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นลอร์ด  และเป็นผู้บัญชาการคนล่าสุดแห่งอีสท์อินเดียเทรดดิ้งคัมปานี ก็เดินทางมาถึงพอร์ทรอยัลพอดีด้วยจุดประสงค์บางอย่าง และเมื่อลอร์ดแบ็คเก๊ตได้ทราบข่าวการหลบหนีของกัปตันแจ็ค ลอร์ดแบ็คเก็ตจึงทำการจับกุมตัวอลิซาเบธและวิลรอแขวนคอข้อหาช่วยเหลือโจรสลัด

       ลอร์ดแบ็คเก๊ตตกลงกับวิลว่า จะปล่อยอลิซาเบธจากการคุมขัง ถ้าวิลสามารถนำเอาเข็มทิศของกัปตันแจ็คกลับมามอบให้เขาได้ วิลจึงตกลง และออกเดินทางตามหากัปตันแจ็ค ซึ่งจุดหมายแรกของวิลคือ สืบหาเรื่องราวของเรือแบล็คเพิร์ลและกัปตันแจ็ค วิลจึงไปที่ทอทูก้า แต่สิ่งที่ลอร์ดแบ็คเก๊ตต้องการจริงๆนั้น หาใช่เข็มทิศไม่ แต่มันคือหัวใจของเดวี่โจนส์ เพราะลอร์ดแบ็คเก๊ตรู้ว่า ถ้าควบคุมเรือฟลายอิ้งดัชแมนได้ ก็ควบคุมท้องทะเลทั้งโลกได้นั่นเอง..


Lord Cutler Beckett ผู้บัญชาการจอมหักหลังแห่งกองทัพเรือ East India Trading Company

       ด้านทางกัปตันแจ็ค สแปโรว์ ก็รับรู้ว่าอยู่เต็มอกว่า ปี ค.ศ.1740 นี้ คือปีที่ครบกำหนด13ปีสัญญาลูกเรือ100ปี ซึ่งทำไว้กับกัปตันเดวี่โจนส์ แห่งเรือฟลายอิ้งดัชแมน กัปตันแจ็คอยากจะหาทางหลบหนีจากสัญญานี้ จึงสืบหาเบาะแสของกัปตันเดวี่โจนส์ทุกๆอย่างที่อาจจะช่วยเขาได้ และกัปตันแจ็คก็พบกับลายแทงเก่าแก่ที่เป็นรูป "กุญแจ"

       ในคืนนั้นเอง กัปตันเดวี่โจนส์ ก็ส่ง บูธสแตรป บิล เทอเนอร์มาหากัปตันแจ็คเพื่อนเก่า เพื่อแจ้งกัปตันแจ็คว่าใกล้ถึงวาระครบ 13 ปีในอีกไม่กี่วัน และบูธสแตรปก็ทิ้งรอยจุดดำมรณะ (Black Spot) ไว้บนฝ่ามือแจ็ค เพื่อเป็นสัญญาณให้คราเคนลากวิญญาณไปสู่ดินแดนแห่งการลงทัณฑ์.. (ดินแดนนี้อยู่ในมิติระหว่างโลกของคนเป็นกับโลกของคนตาย)

บูธสแตรป บิล ประทับรอยจุดดำมรณะไว้ที่ฝ่ามือกัปตันแจ็ค

       กัปตันแจ็คสติแตกทันที และรีปสั่งกะลาสีบนเรือแบล็คเพิร์ล นำเรือไปยังชายฝั่งแผ่นดินที่อยู่ใกล้ที่สุด และที่นั่นก็คือ เกาะ " Isla de Pelegostos " ซึ่งมีเผ่ามนุษย์กินคนอาศัยอยู่ เรือแบล็คเพิร์ลเกยชายหาด และกะลาสีเรือแบล็คเพิร์ลพร้อมด้วยกัปตันแจ็คก็ขึ้นฝั่ง

       แต่แล้ว เหล่ามนุษย์กินคนก็จับตัวกะลาสีทุกคนรวมถึงกัปตันแจ็คได้ และกินกะลาสีไปหลายๆคน ก่อนจะนำกระดูกของศพกะลาสีเหล่านั้นทำกรงขังตระกร้อ และนำกะลาสีที่เหลือไปขังไว้ในกรงขังตระกร้อนั้น ก่อนจะนำกรงขังตระกร้อไปห้อยที่หน้าผา รอกินไปทีละคน ทีละคน..

       ด้านกัปตันแจ็คนั้น พวกมนุษย์กินคนยังไม่ฆ่าและกิน หากแต่แต่งตั้งให้กัปตันแจ็คเป็นเทพเจ้าของพวกเขา กัปตันแจ็คจึงอยู่อย่างสุขสบายบนเกาะ กินดีอยู่ดี แต่กัปตันแจ็คก็รู้ตัวตลอดว่า พวกมนุษย์กินคนกำลังรอฤกษ์ที่จะกินตนเองเช่นกัน โดยเรียกพิธีนี้ว่า "การปลดปล่อยเทพเจ้าออกจากร่างมนุษย์"


กัปตันแจ็คเป็นเทพเจ้าของมนุษย์กินคนบนเกาะ Isla de Pelegostos

       ตัดมาที่ วิล เทอเนอร์ ที่กำลังสืบหาข่าวกัปตันแจ็คและเรือแบล็คเพิร์ลที่ทอทูก้า วิลนั้นสืบรู้ว่ามีคนเห็นเรือแบล็คเพิร์ลเกยตื้นอยู่บนชายหาดของเกาะๆนึง กลางทะเล วิลจึงหาเรือเดินสมุทรที่จะผ่านไปยังบริเวณเกาะนั้น และเมือเรือเดินสมุทรผ่านไปที่เกาะนั้น วิลกับลูกเรือคนนึงก็ลงเรือบดและพายเข้าชายฝั่ง แต่ลูกเรือไม่ยอมเข้าใกล้เกาะกินคนเด็ดขาด วิลจึงต้องว่ายน้ำเข้าไปเอง

       เมื่อวิลเข้าไปในเกาะ วิลก็โดนมนุษย์กินคนล้อมจับทันที และโดนลูกดอกยาสลบเป่าใส่ เมื่อวิลฟื้นคืนสตือีกที ตนเองก็ถูกมัดมือมัดเท้าเตรียมที่จะโดนย่างกินแล้ว และวิลก็พบกัปตันแจ็คในที่สุด


วิล เทอเนอร์ โดนกับดักของชนเผ่ามนุษย์กินคนบนเกาะ Isla de Pelegostos

       กัปตันแจ็คออกอุบายหลอกล่อพวกมนุษย์กินคนยื้อเวลากินวิลออกไป พวกมนุษย์กินคนจึงจับวิลไปขังไว้ในกรงขังตระกร้อกระดูกมนุษย์ รวมกับนายเรือกิปส์และกะลาสีเรือแบล็คเพิร์ลที่ยังไม่ถูกกิน

       ข้าหลวงสวอนน์ไปช่วยอลิซาเบธออกจากคุก แต่ระหว่างทางที่กำลังจะหนีไปขึ้นเรือ ทหารราชนาวีของอีสท์อินเดียฯก็มาขัดขวางไว้ก่อน ข้าหลวงสวอนน์จึงโดนจับกุม แต่อลิซาเบธหนีไปได้ และไปต่อรองกับลอร์ดแบ็คเก๊ตให้อภัยโทษวิลและตัวเอง เพื่อแลกกับเข็มทิศของแจ็ค อลิซาเบธจึงมุ่งหน้าไปทอทูก้าทันที

       ด้านราเกตตี้ และ พินเทิ้ล สองลูกน้องคนสนิทของกัปตันบาโบสซ่าลูกเรือแบล็คเพิร์ลเดิม ก็แหกคุกหนีออกมาจากพอร์ทรอยัลได้ ขณะที่ทั้งสองกำลังพายเรือบดอยู่กลางทะเลนั้น ทั้งสองก็พบเรือแบล็คเพิรืลเกยตื้นอยู่บนชายฝั่งบนเกาะ โจรสลัดทั้งสองจึงหวังที่จะขโมยเรือแบล็คเพิร์ล


ราเกตตี้ และ พินเทิ้ล พบเรือแบล็คเพิร์ลเกยตื้นอยู่บนเกาะ Isla de Pelegostos

       วิลคิดออกว่าจะหนียังไง จึงให้ลูกเรือทุกคนถ่วงน้ำหนักไป-มาให้เหมือนลูกตุ้ม ก่อนที่จะปีนขึ้นหน้าผาเพื่อจะหลบหนี แต่พวกเฝ้ายามมนุษย์กินคนเห็นพอดี จึงไปบอกกับพวกที่เหลือให้มาตามล่าพวกกะลาสีแบล็คเพิร์ล ด้านกัปตันแจ็คก็กำลังจะถูกย่างกิน แต่พวกมนุษย์กินคนก็กรูไปจับตัวกะลาสีเรือแบล็คเพิร์ลกันหมด และแจ็คก็หนีมาได้


วิลและนายเรือกิปส์ ติดอยู่ในกรงกระดูกมนุษย์ พร้อมด้วยกะลาสีเรือแบล็คเพิร์ล

       ที่สุดแล้วลูกเรือแบล็คเพิร์ลที่เหลือ (น้อย) รวมถึงกัปตันแจ็คจึงหนีมาขึ้นเรือแบล็คเพิร์ลทัน เพราะว่า ราเกตตี้ และ พินเทิ้ล เตรียมเรือออกไปนอกอ่าวพอดี โจรสลัดทั้งสองจึงตลกเฝื่อนขอเป็นลูกเรือแบล็คเพิร์ลอีกครั้ง และก็ไม่มีใครว่าอะไร เพราะไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรในหมู่โจรสลัดอยู่แล้ว..

       วิลขอร้องให้กัปตันแจ็คมอบเข็มทิศให้ แต่กัปตันแจ็คต่อรองกับวิลว่า ต้องให้วิลช่วยหา "ลูกกุญแจ" ในลายแทงนี้ก่อน และกัปตันแจ็คจะมอบเข็มทิศให้ วิลจึงตกลงร่วมมือกัปแจ็คหาลูกกุญแจ และเบาะแสแรกที่วิลและแจ็คต้องการ ก็คือเดินทางไปหาหญิงลึกลับผู้มีพลังแฝงประหลาด นั่นก็คือ เทีย ดาลม่า หรือ คาลิปโซ่ เทพธิดาแห่งมหาสมุทรในร่างมนุษย์นั่นเอง และกระท่อมที่อยู่ของเทีย ดาลม่า อยู่ที่คิวบา เรือแบล็คเพิร์ลจึงล่องไปจอดที่ปากอ่าวคิวบา ก่อนที่จะลงวิลและกัปตันแจ็คจะลงเรือบดพายเข้าไปในแม่น้ำ Pantano เพื่อมุ่งหน้าไปที่กระม่อมของเทีย ดาลม่า และดาลม่านี่เองที่เป็นผู้มอบเข็มทิศปรารถนาให้กัปตันแจ็ค


แบล็คเพิร์ลจอดทอดสมอพับใบเรืออยู่ปากอ่าวคิวบา

       เมื่อทุกคนมาถึงกระท่อมของดาลม่า สิ่งแรกที่นางทักก็คือ วิล เทอเนอร์ ดาลม่าสัมผัสได้ว่ามนุษย์ผู้นี้ มีชะตากรรมสำคัญยิ่งรออยู่ในอนาคตเบื้องหน้า กัปตันแจ็คจึงเข้าเรื่อง และถามวิธีตามหากุญแจในลายแทง ดาลม่าจึงให้โหลดินกับแจ็คไป และเสี่ยงทายโชคชะตาให้กัปตันแจ็คมุ่งหน้าไปหาที่ที่เรือฟลายอิ้งดัชแมนของกัปตันเดวี่โจนส์จะปรากฎ (เพราะเรือฟลายอิ้งดัชแมนจะมาจากอีกโลกหนึ่งก็ต่อเมื่อ เดวี่โจนส์สัมผัสได้กับเรือที่ถึงฆาต)


เทีย ดาลม่า แม่มดมนต์ดำวูดูผู้เก่งกาจ และมีชีวิตในร่างมนุษย์มาร้อยกว่าปีแล้ว..

       เมื่อมาถึงจุดหมายตามที่ดาลม่าเสี่ยงทายไว้ กัปตันแจ็คก็พบเรือเดินสมุทรลำนึงที่เพิ่งอัปปางลงพอดี กัปตันแจ็คจึงส่งวิลไปสืบหากุญแจบนเรือฟลายอิ้งดัชแมน และวิธีที่จะเข้าไปในเรือฟลายอิ้งดัชแมนได้ วิลก็ต้องปลอมตัวเป็นกะลาสีเรือที่เพิ่งอัปปางนั่นเอง

       เป็นอย่างที่กัปตันแจ็คคาดไว้ เรือฟลายอิ้งดัชแมนโผล่ขึ้นมาจากอีกโลกหนึ่งขึ้นมาทางใต้ทะเล และกัปตันเดวี่โจนส์ก็ไล่ถามกะลาสีผู้รอดชีวิตบนเรืออัปปาง ว่าต้องการยืดเวลาตายโดยขายวิญญาณเป็นลูกเรือฟลายอิ้งดัชแมน 100 ปีหรือไม่?


กัปตันเดวี่โจนส์กำลังเกณฑ์ลูกเรือฟลายอิ้งดัชแมน

       และเมื่อมาถึงคิวของ วิล เทอเนอร์ กัปตันเดวี่โจนส์ก็แปลกใจว่ามนุษย์ผู้นี้มิได้ชะตาขาดหรือใกล้ตาย เหตุใดจึงมาอยู่บนเรืออัปปางนี้ วิลจึงบอกัปตันเดวี่โจนส์ว่า กัปตันแจ็คส่งตนมาต่อรอง กัปตันเดวี่โจนส์จึงขึ้นเรือแบล็คเพิร์ลทันที เพื่อทวงสัญญา100ปีของกัปตันแจ็ค มิฉะนั้นปีศาจคราเคนจะมาลากวิญญาณของแจ็คไปดินแดนแห่งการลงทัณฑ์แน่นอน

       กัปตันแจ็คจึงเสนอแลกวิลกับตนเอง แต่กัปตันเดวี่โจนส์ไม่รับข้อเสนอ กัปตันเดวี่โจนส์ต้องการดวงวิญญาณ100ดวงภายใน 3 วัน กัปตันแจ็คจึงตอบตกลง และกัปคันเดวี่โจนส์ก็ลบจุดดำบนมือแกัปตันแจ็คป้นการชั่วคราว3วัน ถ้าเกินกว่านั้นเครื่องหมายจุดดำจะปรากฎเองอีกครั้ง และคราเคนจะมาตามล่ากัปตันแจ็ค เมื่อถึงเวลานั้น


กัปตันแจ็ค สแปโรว์ กำลังต่อรองกัปตันเดวี่ โจนส์ เพื่อแลกวิญาณตนเองกับวิญญาณของ วิล เทอเนอร์

       กัปตันแจ็ครีบไปเกณฑ์ลูกเรือที่ทอทูก้า เพื่อเอาไปใช้หนี้กัปตันเดวี่โจนส์ และกัปตันแจ็คก็พบกับอดีตผู้การนอริงตันกับอลิซาเบธที่ทอทูก้านี่เอง กัปตันแจ็คจึงให้เข็มทิศกับอลิซาเบธ และหลอกล่ออลิซาเบธว่า วิธีช่วยวิลมีวิธีเดียวคือ ต้องหาหัวใจเดวี่โจนส์ให้ได้ อลิซาเบธจึงรับคำ ทันทีที่อลิซาเบธจับเข็มทิศ มันก็ชี้ไปทางเกาะ Isla Cruces กัปตันแจ็คจึงสั่งนายเรือกิปส์เดินทางมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที

       ด้านวิลนั้นก็ได้พบกับบูธสแตรป บิล ซึ่งเป็นพ่อของเขาบนเรือฟลายอิ้งดัชแมน และกะลาสีเก่าแก่บนเรือก็บอกกับวิลว่า กุญแจที่วิลตามหาห้อยอยู่ที่คอของกัปตันเดวี่โจนส์ตลอดเวลา วิลก็ไปขโมยออกมาจนได้ และบูธสแตรปก็ช่วยวิลหนี บูธสแตรปยังให้มีดสั้นเล่มนึงไว้กับวิลจึงสัญญาว่า เขาจะกลับมาช่วยพ่อให้จงได้


วิลเลี่ยม เทอเนอร์ที่สอง คนลูก และ วิลเลี่ยม บิล เทอเนอร์ซีเนียร์ คนพ่อ พบกันครั้งแรกบนเรือฟลายอิ้งดัชแมน
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
Re: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 06:41:58 »
       ด้านวิลลอยคอหนีมาจนเจอเรือเดินสมุทรพาณิชย์ แต่ก็ไม่พ้น เรือฟลายอิ้งดัชแมนตามมาทัน และกัปตันเดวี่โจนส์ก็ปลุกอสูรกายคราเคนมาถล่มเรือเดินสมุทรจนเละ แต่วิลก็หนีทัน ก่อนจะไปแอบอยู่บริเวณหัวเรือฟลายอิ้งดัชแมนได้ และเรือฟลายอิ้งดัชแมนก็ตรงไปที่เกาะ Isla Cruces ทันทีเช่นกัน กัปตันเดวี่โจนส์ก็เห็นเรือแบล็คเพิร์ลทอดสมออยู่ ตัวเขาเองขึ้นฝั่งไม่ได้เนื่องจากยังไม่ถึงวาระ กัปตันเดวี่โจนส์จึงส่งลูกเรืออสูรกายไปนำหีบหัวใจของตนคืนมาให้จงได้


กัปตันเดวี่ โจนส์ ส่องกล้องดูชายหาดของเกาะ Isla Cruces ซึ่งมีหีบบรรจุหัวใจของตนซ่อนอยู่

       อดีตผู้การนอริงตัน และอลิซาเบธ รวมถึง กัปตันแจ็ค ก็ค้นพบหีบซึ่งบรรจุหัวใจเดวี่โจนส์ได้บนชายหาดของเกาะ  Isla Cruces เพราะเข็มทิศที่อลิซาเบธถือชี้มาที่นี่พอดีเป๊ะ ทันใดนั้นวิลก็ปรากฎตัวขึ้น และกำลังจะไขหีบและแทงหัวใจเพื่อสังหารกัปตันเดวี่โจนส์ แต่กัปตันแจ็คไม่ยอม เพราะอยากใช้หัวใจต่อรองไม่ให้คราเคนมาฆ่าตน ส่วนอดีตผู้การนอริงตันก็อยากจะนำหัวใจนี้ไปมอบให้ลอร์ดแบ็คเก๊ต เพื่อกู้คืนตำแหน่งหน้าที่การงาน คนทั้งสามจึงดวลดาบกันชุลมุน


ศึกดวลดาบสามเส้า

       แต่ในที่สุดแล้ว กัปตันแจ็คก็ชิงเอาลูกกุญแจมาจากวิลได้ และไปไขหีบออกโดยที่ไม่มีใครเห็น ก่อนจะนำหัวใจกัปตันเดวี่โจนส์มาใส่ไว้ในโหลดินที่ดาลม่ามอบให้ และปิดหีบคืนพร้อมกับเสียบลูกกุญแจคาไว้กับหีบ แต่อดีตผู้การนอริงตันก็สังเกตุได้ จึงมาชิงหัวใจกัปตันเดวี่โจนส์ไปอีกที และซ่อนไว้กับตัวเองพวกลูกเรืออสูรกายฟลายอิ้งดัชแมนไล่โจมตีพวกกัปตันแจ็คอย่างหนัก อดีตผู้การนอริงตันจึงทำทีว่าเสียสละลอยู่ล่อพวกลูกเรือฟลายอิ้งดัชแมน และให้พวกกัปตันแจ็คหนีไป แต่หลังจากลูกเรือฟลายอิ้งดัชแมนพบหีบนั้นแล้ว ก็เลิกตามล่าอดีตผู้การนอริงตันและกลับเรือฟลายอิ้งดัชแมนทันที

       ที่กลางทะเล เรือฟลายอิ้งดัชแมนเล็งปืนใหญ่เตรียมยิงถล่มเรือแบล็คเพิร์ล แต่กัปตันแจ็คขู่กัปตันเดวี่โจนส์โดยการชูโหลใส่ดินให้ดู ซึ่งกัปตันแจ็คคิดว่าหัวใจของกัปตันเดวี่โจนส์ยังอยู่ข้างในนั่นเอง แต่กัปตันเดวี่โจนส์ไม่เชื่อ ึงยิงปืนใหญ่ถล่มแบล็คเพิร์ลทันที เรือแบล็คเพิร์ลอาศัยว่าทิศทางลมเป็นใจ จึงแล่นฉิวหนีฟลายอิ้งดัชแมนออกไปไกลเรื่อยๆ กัปตันเดวี่โจนส์ก็ไม่ฝืนแล่นตาม หากแต่ให้สัญญาณปลุกคราเคนขึ้นมาอีกครั้งแทน


ลูกเรือต้องหมุนแท่นนี้ขึ้นมา และตอกลงไปคืนอย่างแรง ทำให้เกิดคลื่นเสียงใต้น้ำไปเรียกคราเคน

       เมืออสูรกายคราเคนถูกเรียก มันก็พุ่งเข้าโจมตีแบล็คเพิร์ลทันที จุดหมายมีเพียงอย่างเดียว คือนำแบล็คเพิร์ลและกัปตันของเรือซึ่งก็คือแจ็ค และนำทั้งสองไปที่ดินแดนแห่งการลงทัณฑ์

       ระหว่างที่คราเคนโจมตีอย่างหนัก แบล็คเพิร์ลก็พยายามสู้ แต่สู้อสูรกายดึกดำบรรพ์ตัวนี้ไม่ไหวจริงๆ โหลดินก็ตกแตก เผยให้เห็นว่าไม่มีหัวใจของกัปตันเดวี่โจนส์อยู่ในนั้น ทุกๆคนจึงคิดจะสละเรือ เมื่อลูกเรือที่เหลือลงเรือบดกันหมดแล้ว เหลือเพียงอลิซาเบธและกัปตันแจ็ค อลิซาเบธก็ใช้อุบายหลอกล่อกัปตันแจ็ค และใส่ตรวนข้อมือกัปตันแจ็คไว้กับเสากระโดงเรือแบล็คเพิร์ล เพราะรู้ว่าคราเคนตามล่ากัปตันแจ็ค ไม่ได้ตามล่าคนอื่น (ซึ่งกัปตันแจ็คก็ไม่คิดจะทิ้งเรือตนเองอยู่แล้ว ถึงอลิซาเบธไม่ทำอย่างนั้นก็เถอะ)


" นางโจร.. " กัปตัน แจ็ค สแปโรว์ กล่าวไว้

       วิลเห็นอลิซาเบธจูบกัปตันแจ็ค (ซึ่งนั่นคือนางกำลังหลอกล่อ) ก็นึกว่าอลิซาเบธมีใจให้กัปตันแจ็ค วิลจึงเริ่มคลางแคลงอลิซาเบธ และหลังจากนั้นสักครู่ อลิซาเบธก็ลงเรือบดคนสุดท้าย และบอกลูกเรือทุกคนว่า แต่ยังไงซะกัปตันแจ็คก็ปลดตรวนที่ข้อมือได้แย่างรวดเร็ว และกัปตันแจ็คก็สละชีพตัวเองไปพร้อมกับเรือแบล็คเพิร์ล หลังจากคราเคนทำหน้าที่เสร็จแล้ว มันก็กลับคืนใต้ทะเลอีกครั้ง และเรือฟลายอิ้งดัชแมนก็ลงไปในทะเลลึกด้วยเช่นกัน


กัปตันแจ็คสู้กับคราเคนจนวาระสุดท้ายในชีวิต

       ที่ฟอร์ทชาร์ลเลส (Fort Charles) ซึ่งเป็นฐานบัญชาการของอีสท์อินเดียฯ อยุ่ใกล้ๆกับพอร์ทรอยัลนั่นเอง (Port Royal) ลอร์ดแบ็คเก๊ต กำลังนั่งเซ็งที่แผนตนเองไม่สำเร็จ พวกททหารเรือราชนาวีก็เข้ามารายงานว่า พบชายผู้นึงกลางทะเล และคนผู้นี้ถือสารอภัยโทษไว้ ลอร์ดแบ็คเก๊ตจึงเรียกชายผู้นั้นเข้ามาพบ และชายผู้นั้นก็คือ อดีตผู้การนอริงตันนั่นเอง นอริงตันนำหัวใจกัปตันเดวี่โจนส์มามอบให้ลอร์ดแบ็คเก๊ต พร้อมกับขอตำแหน่งตัวเองคืน ลอร์ดแบ็คเก๊ตตกลงทันที เพราะบรรลุจุดมุ่งหมายที่แท้จริงแล้วนั่นเอง


อดีตผู้การราชนาวีอังกฤษประจำพอร์ทรอยัล เจมส์ นอริงตัน

       วิล เทอเนอร์,อลิซาเบธ,นายเรือกิปส์,ราเกตตี้ ,พินเทิ้ล, และลูกเรือแบล็คเพิร์ลอีก3-4คน ล่องเรือบดมาจนถึงคิวบา และเข้าไปพบกับเทีย ดาลม่า แต่ดาลม่านั้นรออยู่แล้ว เพราะรู้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไป ท้องทะเลจะไม่เหมือนเดิม วิกฤติขั้นร้ายแรงที่สุดของบรรดาโจรสลัดกำลังมาถึง ดาลม่าจึงเสนอให้ทุกคนไปนำกัปตันแจ็คกลับมาจากดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ให้จงได้ เพราะกัปตันแจ็คคือหนึ่งในจอมโจรสลัดทั้งเก้าหรือไพเรทลอร์ด ซึ่งดาลม่านั้นก็มีเจตนาแอบแฝง เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดแล้ว ที่นางจะปลดปล่อยตนเองออกจากร่างมนุษย์ นางจึงใช้มนต์ดำวูดูปลุกชีพกัปตันบาโบสซ่า เพราะกัปตันบาโบสซ่าก็เป็นหนึ่งในจอมโจรสลัดทั้งเก้าหรือไพเรทลอร์ดด้วยเช่นกัน นางต้องการไพเรทลอร์ดให้ครบทั้งเก้าคน เพื่อคืนร่างเทพเจ้าคาลิปโซให้นาง..


กัปตันบาโบสซ่าคืนชีพจากความตายด้วยอิทธิฤทธิ์ เทีย ดาลม่า หรือ เทพธิดาคาลิปโซในร่างมนุษย์

       โดยที่กัปตันบาโบสซ่าและดาลม่ามีเงื่อนไขร่วมกันในการคืนชีวิตนี้ นั่นคือกัปตันบาโบสซ่าต้องส่งสารเทียบเชิญไพเรทลอร์ดทั้งเก้า เพื่อเรียกประชุมศาลโจรสลัดครั้งที่สี่ เหรียญแปดเรียลจึงมีเสียงดนตรีไปทั่วโลกอีกครั้ง เพื่อเรียกชุมนุมโจรสลัด


เหรียญเงินแปดเรียล (Silver Eight Real Coin)

       หลังจากลอร์ดแบ็คเก๊ตได้หัวใจกัปตันเดวี่โจนส์มาไว้ในมือ ลอร์ดแบ็คเก๊ตก็บังคับให้กัปตันเดวี่โจนส์สังหารอสูรกายคราเคนซะ แล้วก็นำฟลายอิ้งดัชแมนไล่ล่าเหล่าโจรสลัดในผินทะเลไปทั่วทั้งโลก ด้านบนบก อีสท์อินเดียก็ไล่ล่าโจรสลัดและสังหารไปมากมายเช่นกัน ยุคแห่งการเข่นฆ่าโจรสลัดก็เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงดนตรีอันหวีดหวิวของเหรียญแปดเรียลนั่นเอง..


อีสท์อินเดียฯแขวนคอทุกคนไม่เว้นแม้เด็กและผู้หญิง ถ้าโดนข้อหาโจรสลัดหรือช่วยเหลือโจรสลัด


       และนี่คือ รายชื่อทั้งหมดของไพเรทลอร์ด หรือ จอมโจรสลัดทั้งเก้าแห่งน่านน้ำทะเลทั่วโลก  ซึ่งทุกคนกำลังจะมุ่งไปที่อ่าวเรือแตก เพื่อประชุมศาลโจรสลัดครั้งที่สี่นั่นเอง แม้ว่าบางคนจะไม่อยากไปก็ตาม แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ จอมโจลสลัดทั้งเก้าในปัจจุบันมีดังนี้..


1. Captain Sao Feng
- Pirate Lord of the South China Sea โจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้




2. Captain Ammand
- Pirate Lord of the Black Sea โจรสลัดแห่งทะเลสีดำ




3.Captain Hector Barbossa
- Pirate Lord of the Caspian Sea  โจรสลัดแห่งทะเลสาบแคสเปียน




4.Captain Chevalle
- Pirate Lord of the Mediterranean Sea โจรสลัดแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน




5. Captain Ching
- Pirate Lord of the Pacific Ocean โจรสลัดแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก




6.Captain Jocard
- Pirate Lord of the Atlantic Ocean โจรสลัดแห่งมหาสมุทรแอตแลนติก




7. Captain Sumbhajee Angria
- Pirate Lord of the Indian Ocean โจรสลัดแห่งมหาสมุทรอินเดีย




8.Captain Eduardo Villanueva
- Pirate Lord of the Adriatic Sea โจรสลัดแห่งทะเลเอเดรียติก




9. Captain Jack Sparrow
- Pirate Lord of the Caribbean Sea โจรสลัดแห่งทะเลแคริบเบียน



สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
Re: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 07:06:35 »
       คณะเดินทางของกัปตันบาโบสซ่าออกเดินทางไปที่สิงคโปว์ในแถบทะเลจีนใต้ ที่ซึ่งเป็นเมืองท่าทางเข้าทวีปเอเชียของพ่อค้าและเหล่าโจรสลัด เหตุที่มาที่นี่ นั่นก็เพราะที่หอไตรในวัดลัทธิเต๋าแห่งนึงในสิงคโปว์นั้น มีลายแทงไปยังสถานที่ลึกลับต่างๆทั่วโลกมากมายเก็บรักษาไว้ กัปตันบาโบสซ่าจึงส่งวิลไปขโมยแผนที่เดินทางไปดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ ส่วนตัวกัปตันบาโบสซ่าและอลิซาเบธจะเข้าไปหาจอมโจรสลัดผู้คุมน่านน้ำทะเลจีนใต้แห่งนี้ เพื่อขอยืมเรือเดินสมุทรนั่นเอง และไพเรทลอร์ดผู้นั้นก็คือ กัปตันเส้าเฟง


Captain Sao Feng - Pirate Lord of the South China Sea

       แต่โจรสลัดลูกน้องกัปตันเส้าเฟงก็จับตัววิลได้ที่หอไตรในวัด กัปตันเส้าเฟงจึงไม่พอใจอย่างมากที่คณะเดินทางของบาโบสซ่าทำเช่นนี้ หนำซ้ำพอได้รู้ว่า จะนำไปเพื่อช่วยกัปตันแจ็คจากโลกหลังความตาย กัปตันเส้าเฟงยิ่งเดือดเข้าไปอีก เพราะกัปตันแจ็คติดหนี้กัปตันเส้าเฟงมากมาย ขณะที่สถานการณ์การเจรจากำลังตึงเครียด กัปตันเส้าเฟงก็จับได้ว่ามีไส้ศึกในซ่องโจรของตน ทันใดนั้นทหารราชนาวีของอีสท์อินเดียฯก็โจมตีซ่องโจรของกัปตันเส้าเฟงทันที

       โจรสลัดทุกคนต่างหลบหนีออกมาจากซ่องโจรกันอย่างจ้าละหวั่น กัปตันบาโบสซ่าใชช่วงจังหวะนี้ลอบไปเอาแผนที่เดินทางลึกลับอีกอันมาจากจากหอไตรในวัด นั่นก็คือแผนที่เดินทางไปยังน้ำพุแห่งความเยาว์วัยนั่นเอง และระหว่างที่กำลังชุลมุน วิลและกัปตันเส้าเฟงก็มีข้อตกลงลับกัน โดยที่วิลจะหักหลังทุกคนและตกลงกับลอร์ดแบ็คเก๊ตชิงเรือแบล็คเพิร์ลเพื่อนำไปช่วยพ่อ วิลจึงเสนอการติดต่อให้กัปตันเส้าเฟงและลอร์ดแบ็คเก๊ตเจรจาสงบศึกกัน กัปตันเส้าเฟงจึงยินดีให้เรือเดินสมุทรพร้อมลูกน้องไปกับคณะเดินทางของกัปตันบาโบสซ่า และมอบแผนที่เดินทางไปดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ให้ด้วย


วิล เทอเนอร์ ดูแผนที่เดินทางไปดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ ซึ่งจุดหมายอยู่ที่ " สุดขอบโลก "

       เมื่อทุกคนเดินทางมาจนถึงสุดร่องน้ำลึกในขั้วโลกเหนือ แสงสีเขียวก็สว่างวาบขึ้นครั้งแรก นั่นคือสัญญาณที่บอกว่า เรือลำนี้ข้ามผ่านมิติของโลกมนุษย์ออกไปแล้ว และเรือเดินสมุทรของคณะเดินทางกัปตันบาโบสซ่า ก็ใกล้ถึงสุดขอบโลกเข้าไปทุกที จนกระทั่งผ่านจุดที่อยู่สุดขอบโลก เรือทั้งลำตกลงไปและพังพินาศ ทุกคนจึงดำดิ่งลงไปในระหว่างมิติโลกของคนเป็นและโลกของคนตาย สถานที่แห่งนั้นก็คือ ดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ หรือเรียกอีกชื่อว่า Davy Jones

       ที่แห่งนี้นั้น กัปตันแจ็คอยู่อย่างโดดเดี่ยวและประสาทหลอนบนเรือแบล็คเพิร์ล ซึ่งอยู่ท่ามกลางหาดทรายสีขาวสุดลูกหูลูกตา แต่ทันทีที่เทีย ดาลม่า ก้าวเข้ามายังที่แห่งนี้ ส่วนนึงของทะเลซึ่งก็คือตัวดาลม่าเอง ก็ช่วยเหลือแจ็คและเรือแบล็คเพิร์ลทันทีเช่นกัน ส่วนนึงของทะเลที่ว่านั่นก็คือ ปูขาวนับล้านตัวเคลื่อนเรือแบล็คเพิร์ลลงไปสู่ทะเลอีกครั้ง


กัปตันแจ็คเห็นภาพหลอนว่าลูกเรือแบล็คเพิร์ลเป็นตัวเองหมดทั้งลำ

       กัปตันแจ็ค พบนายเรือกิปส์และเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอย่างกัปตันบาโบสซ่า ก็พาลนึกว่าตนเองเห็นภาพหลอนอีกเป็นแน่ แต่เมื่อกัปตันแจ็คเห็นหน้าอลิซาเบธผู้ที่วางแผนสังหารตนเอง จึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ภาพหลอน คนพวกนี้มาจริงๆ

กัปตันบาโบสซ่าถือแผนที่เดินทาง และต่อรองกับกัปตันแจ็ค

       เมื่อทุกคนล่องเรือแบล็คเพิร์ลเพื่อจะกลับสู่มิติของโลกของคนเป็น ระหว่างการเดินเรือนั้น ดาลม่าก็เห็นวิญญาณหลงทางมากมาย ที่พยายามจะไปยังโลกของคนตายด้วยตนเอง ดาลม่าจึงบ่นว่า สมดุลย์ของทะเลเสียไปอย่างผิดเพี้ยนอย่างหนัก เพราะกัปตันเดวี่โจนส์ไม่ยอมทำหน้าที่ตนเอง และอลิซาเบธยังเห็นข้าหลวงสวอนน์พ่อของเธอด้วย อลิซาเบธจึงรู้ว่าพ่อของเธอก็ตายไปแล้วเช่นกัน


เหล่าดวงวิญญาณที่ตายในท้องทะเล แล่นเรือสวนทางกับเรือแบล็คเพิร์ล เพราะจุดหมายต่างกัน

       ตามตำนานเล่าว่า ถ้าจะกลับจากโลกของคนตายไปยังโลกของคนเป็น หรือไปจากโลกของคนเป็นไปสู่โลกของคนตาย จะต้องมีแสงสีเขียวปรากฎที่ขอบฟ้าตอนตะวันตกดิน แต่เรือแบล็คเพิร์ลลอยลำมาเกิน24ชั่วโมงแล้ว ก็ไม่มีวี่แววว่าตะวันจะตกดินเลย ถ้าเป็นเช่นนี้ทุกคนจะต้องติดอยู่ระหว่างโลกของคนเป็นและโลกของคนตายไปตลอดกาล..

       กัปตันแจ็คนั่งดูแผนที่อย่างไตร่ตรองอีกครั้ง จึงพบคำว่า " บน คือ ล่าง " กัปตันแจ็คจึงคิดออกทันทีว่าต้องพลิกเรือให้คว่ำลงนั่นเอง ทุกคนบนเรือแบล็คเพิร์ลจึงเหวี่ยงเรือให้โคลงไปมาจนกระทั้งจมลงไป ทันใดนั้นตะวันก็ตกดิน แสงสีเขียววาบแออกมาจากปลายฟ้า และน้ำทะเลก็กลับตาลปัตรจากบนสู่ล่าง เรือแบล็คเพิร์ลจึงกลับสู่โลกคนเป็น


เรือแบล็คเพิร์ลคว่ำตัวเรือลงน้ำ เพื่อกลับสู่โลกคนเป็น

       วิลเสนอให้ไปหาน้ำจืดยังเกาะที่ใกล้ที่สุด เพราะลูกเรือทุกคนกระหายน้ำอย่างมาก ในการติดอยู่ระหว่างมิติ โดยกัปตันแจ็คและกัปตันบาโบสซ่านำลูกเรือส่วนนึงลงไปหาน้ำจืดเอง วิลจะอาสาเฝ้าเรือให้ ซึ่งก็เป็นไปตามแผนซึ่งวิลและกัปตันเส้าเฟงวางเอาไว้ และไพเรทลอร์ดทั้งสองก็พบกับซากศพอสูรกายคราเคน ก่อนที่ทุกคนจะถูกลูกน้องโจรสลัดของกัปตันเส้าเฟงจับกุมตัวได้ทั้งหมด


ดวงตาอันไร้ชีวิตของ The Kraken

       กัปตันเส้าเฟงนำตัวกัปตันแจ็คไปให้ลอร์ดแบ็คเก๊ต ที่เพิ่งล่องเรือรบหลวง Endeavour มาถึงพอดี และลอร์ดแบ็คเก๊ตก็เสนอให้แจ็คร่วมมืออีกครั้ง โดยการให้แจ็คบอกสถานที่รวมพลพรรคโจรสลัดทั่วโลกว่าอยู่ที่ใด พร้อมด้วยความหมายของเหรียญแปดเรียลทั้งเก้าด้วย กัปตันแจ็คจึงเสนอว่า ตนเองต้องได้รับการปลดปล่อยจากกัปตันเดวี่โจนส์โดยเด็ดขาด แล้วกัปตันแจ็คจะบอกทางไปอ่าวเรือแตก พร้อมทั้งล่อพลพรรคโจรสลัดออกมาจากอ่าวเรือแตกให้ด้วย


กัปตันเส้าเฟง พาพี่น้องโจรสลัดชาวเอเชีย ยึดเรือแบล็คเพิร์ล

       ด้านกัปตันเส้าเฟงนั้นอยากได้เรือแบล็คเพิร์ลเช่นกัน จึงไม่มอบแบล็คเพิร์ลให้วิลตามที่เคยตกลงไว้ แต่กัปตันเส้าเฟงก็ไม่ได้ครอบครองแบล็คเพิร์ลอยู่ดี เพราะอีสท์อินเดียฯมิอาจให้เรือที่เร็วกว่าฟลายอิ้งดัชแมนกับใครทั้งนั้นแน่นอน ซึ่งนั่นหมายความว่า แบล็คเพิร์ลเร็วกว่าฟลายอิ้งดัชแมน

       กัปตันเส้าเฟงจึงแค้นใจพวกอีสท์อินเดียฯที่หักหลังตน จึงตกลงกับกัปตันบาโบสซ่า กัปตันบาโบสซ่าบอกว่า วิธีที่จะหยุดฟลายอิ้งดัชแมนได้มีวิธีเดียว คือปลดปล่อยคาลิปโซ่ออกจากร่างมนุษย์ กัปตันทั้งสองจึงคิดจะก่อกบฎยึดเรือคืน โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ อลิซาเบธต้องไปกับกัปตันเส้าเฟง และกัปตันบาโบสซ่าก็นำเรือแบล็คเพิร์ลไป เพราะกัปตันเส้าเฟงคิดว่าอลิซาเบธคือคาลิปโซ่ อลิซาเบธก็ยินดีไปด้วยโดยดี

       เรือ Empress ของกัปตันเส้าเฟงจึงยิงใส่เรือรบ Endeavour ของลอร์ดแบ็คเก๊ตทันที และขับไล่ทหารราชนาวีออกจากเรือโจรสลัดทั้งสองลำ กัปตันแจ็คจึงอาศัยช่วงนี้หลบหนีกลับไปขึ้นเรือแบล็คเพิร์ล และสั่งจับคนทรยศอย่าง วิล เทอเนอร์ ไปคุมขังใต้ท้องเรือแบล็คเพิร์ล ด้านกัปตันเส้าเฟงก็พาอลิซาเบธไปขึ้นเรือเอ็มเพรสของตนเอง และหนีไปอีกทาง เพื่อไปพบกันอีกทีที่อ่าวเรือแตก


เรือ Empress ของกัปตันเส้าเฟง

       แต่ในคืนนั้น เรือฟลายอิ้งดัชแมนก็ตามมายึดเรือเอ็มเพรสได้โดยเร็ว จากเหตุการณ์นี้ กัปตันเส้าเฟงก็เสียชีวิตจากแรงระเบิด ก่อนที่จะตาย กัปตันเส้าเฟงก็มอบตำแหน่งกัปตันเรือเอ็มเพรสให้อลิซาเบธ พร้อมกับตำแหน่งไพเรทลอร์ดแห่งทะเลจีนใต้ให้ด้วย พร้อมกับกล่าวคำสุดท้ายว่า "ยกโทษให้ข้าด้วย คาลิปโซ่.."

       บนเรือฟลายอิ้งดัชแมนนั้น ลอร์ดแบ็คเก๊ตให้ผู้การนอริงตันมากับเรือด้วย เพื่อควบคุมเดวี่โจนส์นั่นเอง ผู้การนอริงตันขอตัวกัปตันอลิซาเบธไปอยู่กับตนเอง ไม่ต้องเอาไปคุมขังรวมกับนักโทษคนอื่น แต่กัปตันอลิซาเบธซึ่งคิดว่าผู้การนอริงตันรู้เห็นในการตายของข้าหลวงสวอนน์พ่อของเธอ กัปตันอลิซาเบธจึงยินดีไปอยู่ในกรงขังร่วมกับลูกเรือโจรสลัดของตนเองดีกว่า


กัปตันอลิซาเบธและกะลาสีเรือเอ็มเพรสของเธอ

       บนเรือแบล็คเพิร์ล วิล เทอเนอร์ ซึ่งถูกขังไว้ แต่คุกแค่นี้ขังวิลไม่ได้แน่นอน และวิลก็มักแอบออกมาในเวลากลางคืน เพื่อนำศพของเหล่าทหารราชนาวีอังกฤษที่ตายเกลื่อนกลาดบนเรือแบล็คเพิร์ลครั้งนั้น ผูกเป็นทุ่นกับถังไม้เพื่อบอกทางลอร์ดแบ๊คเก๊ตไปยังอ่าวเรือแตก กัปตันแจ็คก็มาเห็นเข้า แต่ก็ไม่ห้ามวิล เพราะกัปตันแจ็คก็มีแผนการบางอย่างไว้ในหัวอีกแล้ว นั่นคือสังหารกัปตันเดวี่โจนส์ซะเอง และก็เป็นดกัปตันเรือฟลายอิ้งดัชแมนคนใหม่ พร้อมกับหลอกให้วิลตกลงทะเลไป วิลจึงต้องลอยคอเกาะทุ่นลังไม้ศพ เพื่อรอให้เรือ Endeavour ของลอร์ดแบ็คเก๊ตผ่านมารับ


ทุ่นสัญญาณบอกทางกลางทางทะเลของ วิล เทอเนอร์

       บนเรือฟลายอิ้งดัชแมน ผู้การนอริงตันก็ตัดสินใจเลือกข้างซักที กลางดึกคืนนั้น ผู้การนอริงตันก็ไปปล่อยกัปตันอลิซาเบธพร้อมกับลูกเรือเอ็มเพรสทั้งหมด กัปตันอลิซาเบธจึงจูบผู้การนอริงตันเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะปีนเชือกผูกเรือไปยังเรือเอ็มเพรส

       บูธสแตรปมาเห็นพอดี จึงเข้าต่อสู้กับผู้การนอริงตัน ซึ่งอาสาขวางทางถ่วงเวลาไว้ให้พวกกัปตันอลิซาเบธหนี และผู้การนอริงตันก็โดนบูธสแตรปสังหาร ก่อนที่ผู้การนอริงตันจะตาย กัปตันเดวี่โจนส์มาเสนอต่อชีวิตอีก100ปี แต่ผู้การนอริงตันปฎิเสธ และยอมตายไปตามธรรมชาติ กัปตันอลิซาเบธจึงแล่นเรือเอ็มเพรสมุ่งหน้าไปที่อ่าวเรือแตกทันที


ผู้การนอริงตัน ยินดีตายอย่างสมศักดิ์ศรี มิยอมขายวิญญาณให้กัปตันเดวี่ โจนส์

       เมื่อเหรียญแปดเรียลมีเสียงดนตรี การประชุมศาลพี่น้องโจรสลัดครั้งที่สี่ หรือ " The Fourth Brethren Court " ก็เกิดขึ้น ด้านทางกัปตันแจ็คและกัปตันบาโบสซ่าก็ไปถึงที่อ่าวเรือแตก และกัปตันบาโบสซ่าก็ให้ไพเรทลอร์ดที่มาถึงแล้ว นำเอาสิ่งที่แทนเหรียญแปดเรียลออกมาแสดงตน ราเก๊ตตี้ลูกน้องของกัปตันบาโบสซ่าเดินไปรวบรวมเอามาจากไพเรทลอร์ดทีละชิ้น แต่ก็ได้แค่เพียง 7 ชิ้น ยังขาดของกัปตันเส้าเฟงและกัปตันแจ็ค ซึ่งกัปตันแจ็คขอที่จะรอกัปตันเส้าเฟงก่อน


ลูกกะตาเทียมของราเก๊ตตี้ คือหนึ่งในเก้าสิ่งของทดแทนเหรียญแปดเรียล ซึ่งกัปตันบาโบสซ่าฝากไว้

       กัปตันอลิซาเบธมาถึงศาลโจรสลัดพอดี และแจ้งทุกคนว่ากัปตันเส้าเฟงตายไปแล้ว จากเงื้อมมือของฟลายอิ้งดัชแมน และกัปตันอลิซาเบธก็เสนอให้ทุกคนสู้ แต่กัปตันบาโบสซ่าเสนอให้ทุกคนปลดปล่อยคาลิปโซ่ พลพรรคโจรสลัดจึงตีกันวุ่นวายทั่วที่ประชุม เพราะความเห็นแตกออกเป็นหลายเสียง ก่อนที่กัปตันบาโบสซ่าจะยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อยุติ


การประชุมศาลโจรสลัดครั้งที่สี่อันแสนวุ่นวาย

       กัปตันบาโบสซ่าจึงบอกว่า กัปตันอลิซาเบธไม่มีสิทธิ์เปิดสงคราม หรือเจรจา เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของราชาโจรสลัด กัปตันเอ็ดเวิร์ด ทีค ผู้คุ้มกฎโจรสลัดและพ่อของกัปตันแจ็ค จึงต้องออกมาอ่านข้อบังคับกฎที่บัญญัติโดยมอร์แกนและบาโธโลมิวนี้ให้เหล่าไพเรทลอร์ดฟัง

       กัปตันแจ็คจึงเสนอให้โหวตเลือกราชาโจรสลัด และทุกคนก็เลือตัวเองกันหมด ยกเว้นกัปตันแจ็คที่เลือกกัปตันอลิซาเบธ เธอจึงได้เป็นราชาโจรสลัดในรอบหลายร้อยปีที่มีการเลือกเลยทีเดียว

       และกัปตันอลิซาเบธที่เป็นราชาโจรสลัด ก็เลือกที่จะเปิดสงครามกับอีสท์อินเดียฯและฟลายอิ้งดัชแมน กัปตันบาโบสซ่าจึงให้ราเก๊ตตี้รีบนำเอาสิ่งทดแทนเหรียญแปดเรียลของไพเรทลอร์ดไปซ่อนไว้ก่อน


กัปตันเอ็ดเวิร์ด ทีค ไพเรทลอร์ดแห่งทะเลมาดากัสก้า ผู้คุ้มกฎโจรสลัดมาหลายสิบปี

       ก่อนที่กองทัพเรือโจรสลัดทั่วทุกมุมโลก และกองทัพเรือหลวงราชนาวีอังกฤษของอีสท์อินเดียฯ จะปะทะกัน ก็มีการเจรจากันเกิดขึ้นก่อน โดยฝ่ายโจสลัดมีกัปตันอลิซาเบธราชาโจรสลัด กัปตันบาโบสซ่า และ กัปตันแจ็ค ด้านทางฝ่ายอีสท์อินเดียฯมีลอร์ดแบ็คเก๊ต วิล เทอเนอร์ และกัปตันเดวี่ โจนส์ คนทั้งหกไปพบกันที่อ่าวน้ำตื้นเล็กๆกลางทะเล เพื่อตกลงการรบเบื้องต้น


ฝ่ายอีสท์อินเดียฯ

       กัปตันอลิซาเบธใช้สิทธิ์ราชาโจรสลัดแลกตัว กัปตันแจ็ค กับ วิล เทอเนอร์ กัปตันบาโบสซ่าเห็นช่องทางคืนร่างให้คาลิปโซ่ จึงฟันดาบไปที่พวงลูกปัดบนหัวกัปตันแจ็ค เพื่อให้ลิงแจ็คไปนำมา ซึ่งพวงลูกปัดนั้นก็คือ สิ่งทดแทนเหรียญแปดเรียลของไพเรทลอร์ดแห่งคาริบเบี้ยนนั่นเอง


ฝ่ายราชาโจรสลัด

       เมื่อฝายเจรจาของโจรสลัดทั้งสามกลับขึ้นเรือแบล็คเพิร์ล กัปตันบาโบสซ่าก็สั่งพี่น้องโจรสลัดจับตัวกัปตันอลิซาเบธและวิลเอาไว้ก่อน เพราะเกรงว่าทั้งสองจะขัดขวางพิธีคืนร่างคาลิปโซ่  พี่น้องโจรสลัดส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับกัปตันบาโบสซ่า และกัปตันบาโบสซ่าก็เอาลูกแก้วที่ห้อยคออลิซาเบธมา ซึ่งนี่คือสิ่งที่กัปตันเส้าเฟงมอบให้กัปตันอลิซาเบธก่อนตาย ทำให้ตอนนี้ สิ่งทดแทนเหรียญแปดเรียลครบทั้งเก้าชิ้นแล้ว พินเทิ้ลและนายเรือกิปส์ก็ไปนำตัวเทีย ดาลม่า มาทำพิธีปลดปล่อยออกจากร่างมนุษย์ กัปตันบาโบสซ่าร่ายคาถาปลดปล่อย แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราเก๊ตตี้จึงร่ายคาถาที่ถูกต้องเอง และเทีย ดาลม่า ก็ร่างกายขยายใหญ่ขึ้น


ราเก็ตตี้ ร่ายคาถาปลดปล่อยคาลิปโซจากกายมนุษย์

       ทุกคนบนเรือแบล็คเพิร์ลคุกเข่าให้คาลิปโซ และบัดนี้ กัปตันบาโบสซ่าก็ทำหน้าที่ตนเองลุล่วงแล้ว คาลิปโซ่ค่อยๆกลายร่างเป็นปูทะเลหลายพันตัว  และปูทะเลเหล่านั้นก็กระโดดหายเข้าไปในทะเล คาลิปโซจึงกลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

       โจรสลัดทุกคนคิดว่าที่ทำไปทั้งหมดเสียเปล่า แต่ทันใดนั้น ลมพายุอันแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น เกิดน้ำวนอยู่กึ่งกลางกองทัพเรือทั้งสอง พร้อมด้วยลมพายุหมุนที่ดูดเข้าไปในแกนกลางน้ำวนนั้น กัปตันเดวี่โจนส์ รู้ทันทีว่าคาลิปโซ่ได้ถูกปลดปล่อยแล้ว

       เรือธงของโจรสลัดคือ " แบล็คเพิร์ล " แล่นเข้าไปในใจกลางน้ำวนทันที เรือธงของอีสท์อินเดียฯคือ " ฟลายอิ้งดัชแมน " ก็แล่นเข้าไปในใจกลางน้ำวนเช่นกัน เรีอต้องสาปทั้งสองก็ยิงปืนใหญ่ใส่กันอุตลุด ท่ามกลางคลื่นลมพายุที่รุนแรงและท้องทะเลที่แสนจะบ้าคลั่ง..


แบล็คเพิร์ล และ ฟลายอิ้งดัชแมน ต่อสู้กันในใจกลางน้ำวนอันแสนเชี่ยวกราก

       กัปตันแจ็คซึ่งถูกขังบนเรือฟลายอิ้งดัชแมนก็แอบหนีออกมา และไปแอบเอาหีบบรรจุหัวใจกัปตันเดวี่โจนส์มาได้สำเร็จ กัปตันเดวี่โจนส์เห็นกัปตันแจ็คถือหีบนั้นอยู่ จึงเข้าไปดวลดาบกับกัปตันแจ็ค เรือต้องสาปทั้งสองเข้าใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ จากการที่อยู่ในน้ำวนนั่นเอง และยอดเสาเรือทั้งสองก็เกี่ยวกันไว้ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกไม่นาน เรือทั้งสองต้องลงไปสู่ก้นทะเลแน่นอน กัปตันอลิซาเบธขอให้กัปตันบาโบสซ่าทำพิธีแต่งงานให้เธอและวิล ทั้งสองจึงทำพิธีแต่งงานกันอย่างสมบูรณ์บนเรือแบล็คเพิร์ลนี่เอง


วิล เทอเนอร์ และ กัปตันอลิซาเบธ เป็นสามี-ภรรยากันโดยสมบูรณ์

       วิลและกัปตันอลิซาเบธมาช่วยกัปตันแจ็คต่อสู้บนเรือฟลายอิ้งดัชแมน และกัปตันแจ็คก็กุมหัวใจกัปตันเดวี่โจนส์ไว้ในมือ กัปตันเดวี่โจนส์จึงนำดาบเสียบหัวใจวิลอย่างโหดเหี้ยม วิลกำลังจะตาย กัปตันแจ็คจึงตัดสินใจ จับมือวิลถือมีดสั้นให้มั่น และให้วิลเป็นคนแทงหัวใจกัปตันเดวี่โจนส์ด้วยตนเอง กัปตันเดวี่โจนส์จึงโดนสังหารด้วยมือของวิล เทอเนอร์ กัปตันแจ็คตัดใบเรือให้เป็นร่ม และพาอลิซาเบธหนีออกมาจากเรือฟลายอิ้งดัชแมน ขณะที่บูธสแตรปกำลังจะควักหัวใจวิลลูกชายของตนออกมา นั่นคือภาพสุดท้ายที่กัปตันอลิซาเบธเห็น 


" เรือฟลายอิ้งดัชแมนจะต้องมีกัปตันสเมอ "

       กัปตันบาโบสซ่าซึ่งคุมพังงาแบล็คเพิร์ลอยู่ ก็สั่งให้ยิงปืนใหญ่ใส่ยอดเรือ เพื่อให้หลุดพ้นจากการเกี่ยวกันไว้ของเรือทั้งสอง เรือแบล็คเพิร์ลจึงโดนดีดออกพ้นจากน้ำวน และเรือฟลายอิ้งดัชแมนก็จมหายไปในก้นทะเลลึกพร้อมกับน้ำวนนั่นเอง หลังจากนั้นพายุก็สงบ น้ำวนก็หายไป กัปตันแจ็คและกัปตันอลิซาเบธก็กลับมาขึ้นเรือแบล็คเพิร์ล

       เรือรบ Endeavour ของลอร์ดแบ็คเก๊ตจึงจะเข้าไปโจมตีแบล็คเพิร์ลซ้ำสอง ทันใดนั้นเรือฟลายอิ้งดัชแมนก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง พร้อมด้วยกัปตันคนใหม่คือ กัปตันเทอเนอร์นั่นเอง พร้อมกับลูกเรือฟลายอิ้งดัชแมนทุกคนกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ปกติ ไม่ต้องอยู่ในสภาพอสูรกายอีกต่อไป เรือแบล็คเพิร์ลและเรือฟลายอิ้งดัชแมนประกบซ้าย-ขวาเรือรบ Endeavour ของลอร์ดแบ็คเก๊ต พร้อมกับระดมยิงปืนใหญ่ถล่มใส่พร้อมๆกันอย่างไร้ปราณี และลอร์ดแบ็คเก๊ตก็โดนสังหารไปกับเรือ Endeavour ของตน กองทัพเรืออีสท์อินเดียที่เหลือล่าถอยหนีทันที กองทัพโจรสลัดจึงประกาศชัยชนะโดยที่ใช้เรือแบล็คเพิร์ลต่อสู้เพียงลำเดียว


วาระสุดท้ายของลอร์ด คัตเลอร์ แบ็คเก๊ต

       หลังจากนั้น ราชาโจรสลัดอลิซาเบธ และกัปตันเทอเนอร์แห่งเรือต้องสาปศักดิ์สิทธิ์ฟลายอิ้งดัชแมน ก็ขึ้นฝั่งที่ใกล้ที่สุด และใช้เวลาเข้าหอฮันนีมูนกันที่นี่ หลังจากแต่งงานกันบนเรือแบล็คเพิร์ลแล้วนั่นเอง ก่อนตะวันจะลับขอบฟ้า ทั้งคู่ก็สัญญากันว่า อีกสิบปี จะกลับมาพบกันที่เดิม พร้อมกับที่กัปตันเทอเนอร์ มอบหัวใจของตนเองให้อลิซาเบธเก็บรักษาไว้ และกัปตันเทอเนอร์ก็หายไปพร้อมกับฟลายอิ้งดัชแมน ในเวลาที่ตะวันลับขอบฟ้า และแสงสีเขียววาบขึ้นพอดี


กัปตัน วิล เทอเนอร์ แห่งเรือต้องสาปฟลายอิ้งดัชแมน The Lord of the sea คนใหม่

       แบล็คเพิร์ลมุ่งหน้าสู่ทอทูก้า เพื่อจะให้เหล่ากะลาสีพักผ่อนหย่อนใจ กัปตันบาโบสซ่าก็ยึดเรือแบล็คเพิร์ลอีกครั้ง และทิ้งกัปตันแจ็คกับนายเรือกิปส์ไว้ที่ทอทูก้า กัปตันบาโบสซ่าออกทะเลมุ่งหน้าไปค้นหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัยทันที แต่ส่วนรายละเอียดแผนที่นั้น กัปตันแจ็คได้ชโมยตัดส่วนนั้นออกมาเรียบร้อยแล้ว กัปตันบาโบสซ่าจึงได้แต่งมทางไปเอง


แผนที่เดินทางสู่น้ำพุแห่งความเยาว์วัย กับแกนกลางที่หายไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กรกฎาคม 2015, 21:59:03 โดย นายเค »
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
Re: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 22:42:28 »
คริสตศักราชที่ 1741-1749

       กัปตันแจ็ค สแปโรว์ ก็ดั้นด้นตามหาแบล็คเพิร์ลที่กัปตันบาโบสซ่าแย่งชิงไป (อีกครั้ง) อย่างไม่สิ้นหวัง จวบจนเขาได้มาพบกับว่าที่แม่ชีชาวสเปนผู้เลอโฉม นามว่า แองเจลิก้า ซึ่งเป็นลูกสาวของแบล็คเบี้ยดโจรสลัดนอกรีตจอมขมังเวทย์ กัปตันแจ็คมีสัมพันธ์สวาทกับแองเจลิก้า และพรากพรหมจรรย์ของนางไป ก่อนจะทิ้งนางไว้ที่เมืองเซวิลญ่าในสเปน แองเจลิก้า จึงไม่สามารถจะบวชเป็นชีได้อีกต่อไป และในที่สุด แองเจลิก้าก็ได้พบกับแบล็คเบี้ยดพ่อของตน แบล็คเบียดแต่งตั้งให้แองเจลิก้าเป็นถึงต้นเรือ รองกัปต้นเรือรีเวนส์เลยทีเดียว หลังจากนั้น แองเจลิก้าก็กลายเป็นจอมโจรสลัดสาวผู้เก่งกาจ


แองเจลิกา โจรสลัดสาวรองกัปต้นเรือ Queen Anne's Revenge

       ด้านทางเรือแบล็คเพิร์ล ที่ออกเดินทางดั้นด้นตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัย ก็ต้องประสบกับชะตากรรมที่รันทด เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเรือรีเว้นส์ กัปตันแบล็คเบี้ยดใช้มนต์ดำทำให้เรือแบล็คเพิร์ลมีชีวิต และจับตัวลูกเรือแบล็คเพิร์ลของกัปตันบาโบสซ่า เพื่อรอที่จะสังหารทิ้ง แต่กัปตันบาโบสซ่าตัดขาตนเอง ที่โดนเชือกอันมีชีวิตของเรือแบล็คเพิร์ลรัดไว้ กัปตันบาโบสซ่าจึงรอดตายมาได้ โดยเหลือแค่ขาเดียว ก่อนจะซมซานไปพึ่งบารมีของกษัตริย์คิงจอร์จที่สอง แบล็คเบี้ยดใช้มนต์ดำเสกเรือแบล็คเพิร์ลให้ไปอยู่ในขวดแก้ว ซึ่งกัปตันแบล็คเบี้ยดสะสมเรือมากมายไว้เป็นคอลเลคชั่นเลยทีเดียว

       กัปตันบาโบสซ่าไปยื่นข้อเสนอที่แสนยั่วยวนให้คิงจอร์จที่สอง ถึงการตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัยในตำนาน หลังจากนั้น กัปตันบาโบสซ่าจึงได้เรือรบหลวงของราชนาวีอังกฤษหนึ่งลำพร้อมลูกเรือ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงชนชั้นสูงของอังกฤษ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของกัปตันบาโบสซ่าก็คือ สังหารกัปตันแบล็คเบี้ยดเพื่อแก้แค้นนั่นเอง..


กัปตันบาโบสซ่า ชายขาเดียว ในลุคของกัปตันเรืออิสระ ภายใต้ธงเรือแห่งราชนาวีอังกฤษ


คริสตศักราชที่ 1750

       อลิซาเบธก็นำลูกชายวัยเก้าขวบของตนและวิล มารอพบกัปตันเทอร์เนอร์แห่งเรือต้องสาปฟลายอิ้งดัชแมนที่จุดนัด ทันใดนั้นที่ขอบฟ้าในตอนตะวันตกดิน แสงสีเขียวก็ปรากฎขึ้นที่ปลายท้องฟ้าสุดขอบทะเล พร้อมกับการปรากฎตัวของเรือฟลายอิ้งดัชแมน ตระกูลเทอร์เนอร์จึงมาพบกันอีกครั้งในรอบสิบปี

William Turner ที่สาม ในวัย 9 ขวบ มารอพบหน้าพ่อของตนเองครั้งแรกในชีวิต

       ที่ประเทศสเปน ชาวประมงพบกับกะลาสีหลงทาง และในมือกะลาสีผู้นั้นกุมสมุดบันทึกเล่มนึงไว้แน่นหนา ปากก็พูดแต่คำว่า " พอนซ์ เดอ ลิ'ออง " ชาวประมงทั้งสองจึงขอเข้าเฝ้าคิงเฟอดินาน กษัตริย์แห่งอาณาจักรสเปนเป็นการด่วน เมื่อคิงเฟอดินานรับรู้เรื่องราวทั้งหมด ว่าชายผู้นี้ไปพบเรือของ พอนซ์ เดอ ลิ'ออง พระองค์ก็ส่งนายทหารสเปนและกองทัพสเปนส่วนนึงไปตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัยทันที

       ที่อังกฤษ นายเรือกิปส์กำลังจะถูกแขวนคอ กัปตันแจ็คปลอมเป็นผู้พิพากษามาช่วยไว้ และทั้งสองก็หนีไปได้ไม่ไกล ทหารราชนาวีก็มารุมจับตัวคนทั้งสอง

       คิงจอร์จที่สองแห่งอังกฤษก็ขอคุยกับกัปตันแจ็ค ถึงหนทางไปน้ำพุแห่งความเยาว์วัย แต่เมื่อกัปตันแจ็คพบหน้ากัปตันบาโบสซ่า และรับรู้ว่า เรือแบล็คเพิร์ลได้จมลงสู่ก้นทะเล กัปตันแจ็คก็โมโหเป็นอย่างมาก และหนีออกจากวัง มุ่งสู่ทอทูก้าทันที (จริงๆแล้วแบล็คเพิร์ลไม่ได้จม หากแต่ถูกเสกคาถามนต์ดำใส่ไว้ในขวดแก้ว) และกัปตันแจ็คก็เพิ่งรู้ตัวว่า ได้ถูกนายเรือกิปส์ขโมยแผนที่เดินทางไปน้ำพุแห่งความเยาว์วัยไปแล้ว


กัปตันแจ็คมาช่วยนายเรือกิปส์แหกคุก

       กัปตันบาโบสซ่าจึงไม่มีทางเลือก จึงไปหานายเรือกิปส์เพื่อเอาแผนที่ แต่นายเรือกิปส์กลับเผามัน เพื่อยื้อชีวิตตนเอง และบอกว่า หนทางไปยังน้ำพุนั้น อยู่ในหัวเค้าทั้งหมดแล้ว กัปตันบาโบสซ่าจึงไว้ชีวิตนายเรือกิปส์ และแล่นเรือออกไปสู่น้ำพุแห่งความเยาว์วัยทันทีเช่นกัน

       ที่ทอทูก้า กัปตันแจ็คก็พบว่า มีผู้แอบอ้างชื่อของตนมาเกณฑ์ลูกเรือไปยังน้ำพุแห่งความเยาว์วัย และผู้ที่ปลอมตัวนั้นก็คือ แองเจลิก้ากิ๊กเก่านั่นเอง แองเจลิก้าใช้อุบายให้ลูกน้องเป่าลูกดอกยาสลบใส่กัปตันแจ็ค และนำกัปตันแจ็คไปขึ้นเรือรีเวนส์ทันที

       ที่เรือรีเวนส์กลางทะเล ลูกเรือใหม่ๆทุกคนที่เพิ่งถูกเกณฑ์มา รวมถึงกัปตันแจ็คด้วยนั้น ล้วนแล้วแต่ไม่เคยมีใครเคยเห็นหน้ากัปตันแบล็คเบี้ยด กัปตันแจ็คจึงมีทฤษฎีว่า กัปตันแบล็คเบี้ยดไม่มีตัวตน ในคืนนั้นกะลาสีบนเรือรีเว้นส์จึงก่อกบฎ

       กัปตันแบล็คเบี้ยดผู้นอกรีต จึงเผยตัวตนเป็นครั้งแรก พร้อมกับใช้เวทย์มนต์บังคับเรือรีเว้นส์ให้มีชีวิตด้วยดาบของตน กะลาสีกบฎจึงโดนเชือกมัดห้อยหัวทั้งเรือนั่นเอง และเพื่อเป็นการข่มขวัญ กัปตันแบล็คเบี้ยดก็สังหารลูกเรือกบฎไปหนึ่งคน โดยการให้ลงเรือบด และยิงปืนไฟใส่ เพื่อไม่ให้ใครคิดก่อกบฎอีก


ลูกเรือรีเวนส์ถูกเชือกผูกเรือห้อยระโยงระยาง

       กัปตันแบล็คเบี้ยดเล่าให้กัปตันแจ็คฟังว่า เหตุใดตนเองถึงต้องการตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัย นั่นก็เพราะมีคำทำนายจากหมอดูที่เค้านับถือ ว่าเค้าจะถึงฆาตจากชายขาเดียวที่มาสังหารเค้า และกัปตันแบล็คเบี้ยด ก็เสกมนต์ดำลงตุ๊กตาของกัปตันแจ็ค สิ่งใดเกิดขึ้นกับตุ๊กตาตัวนี้ ก็จะส่งผลไปถึงตัวกัปตันแจ็คด้วย กัปตันแจ็คจึงยอมร่วมมือค้นหาพุแต่โดยดี และจุดหมายก็คือ " อ่าวไวท์แคป "

       เรือรีเว้นส์เดินทางมาถึงอ่าวไวท์แคปในตำนานเวลากลางคืน ที่ซึ่งเหล่านางเงือกอาศัยอยู่ เพื่อจะจับนางเงือกไปซักตัวนั่นเอง เหล่านางเงือกและกะลาสีเรือรีเว้นส์สู้กันและตายไปหลายศพ จนกระทั่งนางเงือกตนนึงมาช่วยบาทหลวงฟิลิปส์ไว้ ทำให้นางเงือกตนนั้นถูกจับ และทั้งหมดก็เดินทางเข้าไปในเกาะต่อ


นางเงือกล่อลวงกะสีผู้หลงทาง

       ด้านทางกัปตันบาโบสซ่า ก็มาถึงอ่าวไวท์แคปในตอนเช้า กัปตันบาโบสซ่าลงเรือบดมากับนายเรือกิปส์และลูกเรือราชนาวีบางส่วน และที่ชายหาดอ่าวไวท์แคป ทุกคนก็พบศพของกะลาสีเรือรีเวนส์ และศพนางเงือกมากมายตายเกลื่อนหาด ในนาทีนั้นเอง เรือของราชนาวีอังกฤษก็โดนนางเงือกโจมตีตายยกลำ นักเดินทางทีมกัปตันบาโบสซ่าจึงเหลือรอดเพียงไม่กี่คน ทั้งหมดจึงเดินทางตามรอยของกัปตันแบล็คเบี้ยดเข้าไปยังเกาะ

       ด้านกัปตันแบล็คเบี้ยดนั้น ก็ยึดเข็มทิศปรารถนาของกัปตันแจ็คเอาไว้ และสั่งให้กัปตันแจ็คไปตามหาเรือซานดิเอโก เพื่อนำเอาถ้วยสองใบของพอนซ์ เดอ ลิ'ออง มาใช้ประกอบพิธี ซึ่งต้องอยู่ที่ใดซักแห่งบนเกาะนี้แน่นอน กัปตันแจ็คจึงแยกตัวออกไป


กัปตันแบล็คเบี้ยด และ กัปตันแจ็ค

       เมื่อกัปตันแจ็คพบเรือซานดิเอโก ซึ่งจอดอยู่บนหน้าผาสูงชันบนยอดเขา ข้างในเรือกลับมีผู้ที่มาก่อนหน้าอยู่แล้ว นั่นคือกัปตันบาโบสซ่านั่นเอง ทั้งสองหยิบสิ่งใดบนเรือซานดิเอโกออกไปไม่ได้เลย เนื่องจากจะทำให้เสียสมดุลย์และเรือตกหน้าผาทันที และถ้วยทั้งสองใบก็หายไป ทั้งสองจึงร่วมมือกันชั่วคราว เพราะรู้ว่าพวกสเปนมาเอาไปแล้วแน่ๆ ทั้งคู่จึงไปดูแผนที่ในมือซากศพของ พอนซ์ เดอ ลิ'ออง เมื่อหยิบแผนที่ไปทางใด ศพของ พอน เดอ ลิ'อองก็หันตาม ทั้งคู่จึงไม่หยิบออกมาจากศพนั้น และแผนที่ ก็บอกทางไปอีกที่นึงบนเกาะ ที่ซึ่งกองทัพสเปนตั้งแคมป์อยู่นั่นเอง


ดวงวิญญาณของ ฮวน พอนซ์ เดอ ลิ'ออง ยังคงหวงแหนแผนที่น้ำพุฯ และไม่ให้ผู้ใดหยิบออกไปเด็ดขาด

       กัปตันแจ็ค และ กัปตันบาโบสซ่า ก็ขโมยถ้วยสองใบนั้นออกมาจากพวกสเปนจนได้ และตอนนี้จุดประสงค์ของกัปตันบาโบสซ่าแปรเปลี่ยนไปแล้ว กัปตันบาโบสซ่าไม่ต้องการน้ำพุฯแล้ว หากแต่เป็นการสังหารกัปตันแบล็คเบี้ยดแทน กัปตันบาโบสซ่าและลูกเรือราชนาวีจึงมุ่งหน้าไปที่น้ำพุทันที

       ด้านนายเรือกิปส์และกัปตันแจ็คก็วางแผนบางอย่างกันไว้ และพอกัปตันแจ็คนำถ้วยสองใบไปมอบให้กัปตันแบล็คเบี้ยด กัปตันแจ็คก็ขอเข็มทิศของตนคืน และมอบให้นายเรือกิปส์ไปหาบางสิ่งทันที นายเรือกิปส์จึงจากไป

       คณะเดินทางของกัปตันแบล็คเบี้ยดก็นำน้ำตานางเงือกออกมาจนได้ และกัปตันแจ็คก็พบทางเข้าถ้ำน้ำพุแห่งความเยาว์วัย แต่ก่อนที่จะมีใครทำพิธี กัปตันบาโบสซ่าพร้อมด้วยลูกเรือราชนาวี ก็โผล่มาที่น้ำพุเช่นกัน บัดนี้ ชายขาเดียวในคำทำนายได้ปรากฏตัวแล้ว..

       ขณะที่ทั้งหมดกำลังตะลุมบอนกันนั้น กองทัพสเปนก็มาถึงอีกกลุ่ม และทำลายทุกอย่างในถ้ำน้ำพุแห่งนี้ รวมถึงถ้วยสองใบนั้นด้วย หัวหน้าทหารสเปนโยนทิ้งลงไปที่บ่อน้ำลึกเช่นกัน และกองทัพสเปนก็ลุล่วงภารกิจ ก่อนที่กองทัพสเปนจะถอยกลับสเปนไป


กองทัพสเปนเดินทางมาเพื่อทำลายน้ำพุนอกรีต

       กัปตันบาโบสซ่าใช้จังหวะที่กัปตันแบล็คเบี้ยดเผลอ สังหารกัปตันแบล็คเบี้ยดด้วยดาบอาบยาพิษ แองเจลิก้ารีบมาช่วยดึงดาบออก จึงถูกยาพิษเข้าไปด้วย สองพ่อลูกกำลังจะตายด้วยดาบอาบยาพิษของกัปตันบาโบสซ่า และกัปตันบาโบสซ่าก็ประกาศยึดเรือรีเว้นส์และดาบเวทมนต์ของกัปตันแบล็คเบี้ยด ก่อนที่จะเดินจากไป กะลาสีเรือรีเว้นส์จึงติดตามกัปตันคนใหม่ออกไปด้วย และทันใดนั้น นางเงือกก็งมเอาถ้วยสองใบมาให้กัปตันแจ็ค และนางเงือกก็กลับไปหาหลวงพ่อฟิลิปส์ ก่อนจะลากจมหายลงไปสู่ห้วงน้ำที่ลึกแสนลึก..

       กัปตันแจ็ค รีบเอาน้ำตานางเงือกใส่ในถ้วยนึง และนำพุใส่ทั้งสองถ้วย ซึ่งตามพิธีกรรม ผู้ที่กินน้ำพุเปล่าๆจะถูกดูดชีวิต ไปให้คนที่กินถ้วยที่มีน้ำตานางเงือกด้วย และผู้นั้นจะได้ชีวิตของอีกคนนั่นเอง

       กัปตันแจ็คหลอกให้ถ้วยที่มีน้ำตานางเงือกแก่กัปตันแบล็คเบี้ยด แต่บอกว่า ถ้วยของแองเจลิก้าต่างหากที่มีน้ำตานางเงือก กัปตันแบล็คเบี้ยดจึงเปลี่ยนถ้วยทันที และนั่นก็ทำให้ แองเจลิก้ามีชีวิต และกัปตันแบล็คเบี้ยดก็ตายลงไปจากการที่น้ำพุมาคร่าชีวิต


กัปตันแบล็คเบี้ยดในวาระสุดท้าย

       กัปตันบาโบสซ่าได้อำนาจเวทมนต์ควบคุมเรือรีเว้นส์ให้มีชีวิตได้ จากดาบเวทย์มนต์ของกัปตันแบล็คเบี้ยดนั่นเอง และเรือรีเว้นส์ก็มุ่งหน้าไปทอทูก้าเป็นที่แห่งแรก ด้านกัปตันแจ็ค ก็พาแองเจลิก้าพายเรือบดไปปล่อยเธอไว้ที่เกาะร้าง ที่ตนเองเคยโดนปล่อยมาแล้วถึงสองครั้ง และพายเรือบดจากมา สักพักนึง สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ตุ๊กตามนต์ดำของกัปตันแจ็คก็เกยตื้นมาติดเกาะร้างที่แองเจลิก้าอยู่


แองเจลิก้าพบตุ๊กตาวูดูของกัปตันแจ็ค

       นายเรือกิปส์ซึ่งได้เข็มทิศปรารถนาไปในตอนนั้น ก็เพื่อไปขโมยเอาเรือแบล็คเพิร์ลในขวดแก้วที่อยู่ในเรือรีเว้นส์กลับคืนมานั่นเอง แต่นายเรือกิปส์ก็นำเรืออื่นๆในขวดแก้วมาด้วย เพราะเสียดาย และกัปตันแจ็คก็รู้วิธีที่จะคืนสภาพเรือแบล็คเพิร์ลให้เป็นปกติ ทั้งคู่จึงออกเดินทางหาวัสดุที่ใช้ทำพิธี


เรือแบล็คเพิร์ลในขวดแก้ว


ส่วนในภาคต่อไป ใช้ชื่อว่า Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales (2017)

ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการถ่ายทำครับ รายชื่อนักแสดงมีดังนี้ (อ้างอิงจาก IMDB )


*********************************************


ชื่อไทย : คืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลก Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl (2003)
ปีที่เปิดตัว : 2546
เข้าฉายในไทย : 8 สิงหาคม 2546
เรต : PG-13 
จำหน่ายโดย : บัวนา วิสต้า ประเทศไทย



Pirates of the Caribbean 1,2,3 & 4 Trailers

*********************************************


ชื่อไทย : สงครามปีศาจโจรสลัดสยองโลก Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006)
ปีที่เปิดตัว : 2549
เข้าฉายในไทย : 6 กรกฎาคม 2549
ความยาว : 153 นาที
เรต : PG-13
จำหน่ายโดย : บัวนา วิสต้า ประเทศไทย


เกร็ดน่ารู้จาก Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest

  • เรื่องนี้มีการถ่ายทำแบบต่อเนื่องกับภาค 3 คือ Pirates of the Caribbean: At World's End
  • คีธ ริชาร์ด แห่งวง โรลลิ่ง สโตน ถูกวางตัวในบทรับเชิญ โดยการเล่นเป็นพ่อของ กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ แต่เนื่องมาจากภารกิจทัวร์คอนเสิร์ตหลายประเทศของวง โรลลิ่ง สโตน เขาจึงต้องถอนตัวจากเรื่อง ทั้งนี้ จอห์นนี่ เดปป์ เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่าการแสดงของเขานั้นยึดตามแบบอย่างจาก ริชาร์ด
  • เคียรา ไนต์ลี่ย์ ต้องต่อผมเมื่อมาเล่นในเรื่องนี้ เนื่องมาจากเธอได้ตัดผมสั้นก่อนหน้านี้ขณะเล่นเรื่อง Domino
  • ชุดแต่งงานของ เคียร่า ในเรื่อง เป็นการตัดเย็บขึ้นจากผ้าไหมสีงาช้าง และผ้าราฟเฟียที่ประดิษฐ์ประดอยด้วยลวดลายใบไม้ ดอกไม้และพัด ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวเป็นผ้าไหมชีฟองสีงาช้างประดับไข่มุก ซึ่งเย็บติดกับเทียรา ซึ่งประดับด้วยเนื้อผ้าราฟเฟียจากชุดด้วยเช่นกัน และซับในของชุดก็พิเศษ ด้วยการตัดเย็บขึ้นจากผ้าคลุมเตียงผ้าฝ้ายโบราณจากกรุงโรม
  • ดวงตาไม้ของ ราเก็ตติ ซึ่งรับบทโดย แม็ค เคนซีย์ จะต้องสวมคอนแท็กเลนส์สองข้างประกบกันเป็นแซนด์วิชเพื่อให้ได้ภาพตามต้องการ โดยในชีวิตจริง ครู้ก ไม่เคยใส่คอนแท็กเลนส์เลย
  • เป็นครั้งแรกที่ จอห์นนี่ เดปป์ กลับมารับบทบาทเดิมในภาพยนตร์มากกว่า 1 เรื่อง
  • พอร์ต รอยัล และ ทอร์ทูกา แหล่งพักพิงของโจรสลัด ได้รับการออกแบบใหม่โดย ริก ไฮน์ริกส ์และสร้างขึ้นในอ่าววัลลิลาบู ในเกาะเซนต์วินเซนต์ ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาคแรกด้วยเช่นกัน
  • เรือ เดอะ ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากเรือดัทช์สมัยเก่าชื่อ ฟลุต อันเป็นเรือสมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเรือใบขนาดใหญ่ หรือ เดอะ วาซา เรือรบสวีดิชขนาดใหญ่ ซึ่งจมลงในบริเวณท่าเรือสตอล์กโฮล์มในการเดินทางครั้งแรกในปี 1628 และได้รับการกู้ขึ้นมาในปี 1961 โดยปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์พิเศษในเมืองหลวงของประเทศสวีเดน
  • เดือนมิถุนายนปี 2006 เรือ ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในเรื่อง ได้ถูกลากไปยัง คาสต์อเวย์ เคย์ เกาะส่วนตัวของ วอลท์ ดิสนีย์ เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่กำลังจะเข้าฉาย
  • การสร้างเรือ แบล็คเพิร์ล ทีมงานต้องผลิตกว้าน พังงา ราวกั้น เสาท้ายสุดของเรือ เสากระโดงหลัก เสาหน้า โดยพวกเขามีแผนกเกี่ยวกับทะเล ซึ่งช่วยทำให้มันแล่นได้ด้วยมอเตอร์พลังดีเซล แผนกขึงใบเรือจะต้องดูแลความเรียบร้อยของใบเรือทุกใบ ปัจจุบันนี้การขึงใบเรือทำได้ด้วยสายเคเบิล แต่ในเรือ แบล็คเพิร์ล และ ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน เป็นการขึงใบเรือด้วยเชือกแบบสมัยก่อน ใบเรือจะต้องถูกผลิตตามแบบยุคศตวรรษที่ 18 ซึ่งไม่สามารถหาซื้อได้ ต้องผลิตขึ้นมาเอง
  • ฉากแม่น้ำแพนทาโนถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับสถานที่จริง โดยต้นบลัดวู้ดซึ่งขึ้นอยู่ริมแม่น้ำสายนี้ เป็นการจำลองขึ้นมาบนเวทีด้วยเหล็ก โฟมกันร้อน และติดใบไม้ผ้าไหมบนนั้น อีกทั้งยังสร้างแทงค์เหนือพื้นเวที ซึ่งจะทำการใส่น้ำครึ่งล้านแกลลอนลงไป เพื่อสร้างความชื้นที่เหมาะสมให้เกิดขึ้น
  • ฉากการต่อสู้ระหว่าง แจ็ค สแปร์โรว์ กับ วิลล์ เทอร์เนอร์ และ เจมส์ นอร์ริงตัน บนวงล้อใหญ่ยักษ์ที่กำลังหมุนอยู่ ถ่ายทำบนหาดแฮมป์สตีด เกาะโดมินิกัน ซึ่งบางครั้งลูกมะพร้าวมักหล่นลงมาจากต้นมะพร้าวที่มีความสูงถึง 100 ฟุต จนทีมงานต้องพากันสวมหมวกป้องกันศีรษะ และผู้กำกับ กอร์ เวอร์บินสกี้ ต้องใส่หมวกกันน็อกแบบโบราณ
  • วงล้อในฉากดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นจากเหล็ก โดยมีน้ำหนักมากกว่า 1,800 ปอนด์ และสูงถึง 18 ฟุต โดยวงล้อนี้จะมีสองแบบด้วยกัน อันหนึ่งจะเป็นแบบรถสองล้อ ที่มีวงล้อของจริงดึงให้เคลื่อนที่โดยสายเคเบิลระบบกว้าน โดยจะมีแท่นสำหรับตั้งกล้องติดอยู่ที่ตัวรถ ซึ่งล้อมวงล้ออยู่ ส่วนอีกแบบหนึ่ง ถูกเรียกอย่างน่ารักว่าลูกรอกสี วงล้อนี้จะถูกติดอยู่กับแท่นเหล็กลากจูง และจะใช้รถเป็นตัวลาก ซึ่งยังทำหน้าที่เป็นเหมือนแท่นวางกล้องที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วย

*********************************************


ชื่อไทย : ผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก Pirates of the Caribbean: At World's End (2007)
ปีที่เปิดตัว : 2550
เข้าฉายในไทย : 24 พฤษภาคม 2550
ความยาว : 168 นาที
เรต : PG-13
จำหน่ายโดย : บัวนา วิสต้า ประเทศไทย


เกร็ดน่ารู้จาก Pirates of the Caribbean: At World's End

  • คีธ ริชาร์ดส ตกลงใจที่จะแสดงบทรับเชิญเป็นพ่อของ แจ็ค สแปร์โรว์ โดยที่ คีธ ได้รับการทาบทามให้เป็นนักแสดงรับเชิญมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว
  • จอห์นนี่ เดปป์ เปิดเผยว่าได้ท่าทางและนิสัยบางอย่างของการรับทเป็นกัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ มาจาก คีธ ริชาร์ดส์ นักกีตาร์ระดับตำนานของวง โรลลิง สโตนส์ เพื่อนสนิทของเขาที่แสดงในเรื่องนี้ด้วย
  • หนังสือ ไพเรตา โคเด็กซ์ ที่ปรากฏในเรื่อง มีขนาด 20 คูณ 28 นิ้ว และมีขนาดหน้าปกหนากว่าหนึ่งนิ้ว โดยทีมงานได้ทำขึ้นมา 2 เล่ม เล่มแรกหนักประมาณ 80 ปอนด์ และมีเอกสารนับพันหน้าสำหรับผู้รับบทเป็นบรรณารักษ์ของโจรสลัดถือ ส่วนอีกเล่มที่ กัปตันที้ก รับบทโดย คีธ ริชาร์ดส์ ผู้คุ้มกฎถือก็มีน้ำหนักเพียงแค่ 10 ปอนด์เท่านั้น เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานของเขา
  • ผ้าผูกเอวของกัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ ทำโดยชาวเขาเผ่าหนึ่งในตุรกี
  • ชุดที่ใส่เข้าฉากของ โจวเหวินฟะ ผู้รับบท กัปตันเซาเฟ็ง รวมแล้วหนักถึง 35 ปอนด์
  • ฉากวังน้ำวนที่ต้องมีปูเป็นพันๆ หมื่นๆ ตัวจะร่วงหล่นลงบนดาดฟ้าเรือแบล็ค เพิร์ล และกวาดต้อนทุกคนที่ขวางทางมันเหมือนกับลาวา จริงๆ แล้วเป็นการทิ้งลูกบอลพลาสติกสีฟ้าน้ำหนักเบา 175,000 ลูกจากตาข่าย ลงบนดาดฟ้าเรือให้ทุกคนล้มกลิ้งโดยไม่เป็นอันตราย เพราะน้ำหนักที่เบา โดยจะมีการสร้างภาพปูขึ้นภายหลังจากคอมพิวเตอร์
  • บางฉากในภาคนี้ได้ถ่ายทำไว้ตั้งแต่ระหว่างการถ่ายทำภาค 2 คือ Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest ซึ่งออกฉายในปี 2006
  • การถ่ายทำเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นโดยที่บทภาพยนตร์ยังไม่เสร็จดี
  • การตัดต่อครั้งแรกภาพยนตร์มีความยาวถึง 3 ชั่วโมงกว่า
  • ชื่อเรื่องที่ทีมงานใช้เรียกกัน คือ Pirates 3
  • ชื่อเรื่องที่ใช้ในประเทศเยอรมันทั้ง 3 ภาคนั้น ไม่ได้ดูแล้วอยู่ในรูปแบบเดียวกันเท่าไรนัก โดยภาคแรกที่ใช้ชื่อ Fluch der Karibik ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Caribbean's Curse แต่ภาค 2 กลับใช้เป็น Pirates of the Carribean - Fluch der Karibik ทั้งที่โปสเตอร์ภาพยนตร์ที่ออกมาก่อนหน้าเขียนชื่อเรื่องว่า Fluch der Karibik - Die Truhe des Todes ส่วนในภาค 3 นี้ ก็เป็น Pirates of the Carribean - Am Ende der Welt

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กรกฎาคม 2015, 23:43:27 โดย นายเค »
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ นายเค

  • Thaicine Movie Team
  • Moderator
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • ***
  • กระทู้: 3814
  • พลังใจที่มี 616
  • เพศ: ชาย
Re: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 23:40:56 »

ชื่อไทย : ไพเรทส์ ออฟ เดอะ คาริบเบียน ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides (2011)
ปีที่เปิดตัว : 2554
เข้าฉายในไทย : 19 พฤษภาคม 2554
ความยาว : 137 นาที
เรต : PG-13
เรตไทย : น 15+
จำหน่ายโดย : บัวนา วิสต้า ประเทศไทย 

เกร็ดน่ารู้จาก Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides

  • บทภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides เขียนโดย เท็ด เอลเลียต และ เทอร์รี ร็อดซิโอ โดยได้เค้าโครงบางส่วนมาจากนิยายปี 1987 ชื่อ On Stranger Tides ที่แต่งโดย ทิม พาวเวอร์ส
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นกลับมาร่วมงานกันเป็นครั้งที่ 2 ของนักแสดงหลักอย่าง จอห์นนี เดปป์ และ เพเนโลปี ครูซ หลังจากเรื่อง Blow (2001)
  • เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของผู้กำกับ ร็อบ มาร์แชลล์ กับ นักแสดง เพเนโลปี ครูซ หลังจากภาพยนตร์ Nine (2009)
  • เรือโพรวิเดนซ์ของกัปตันบาร์บอสซา ที่แสดงโดย เจฟฟรีย์ รัช ที่เห็นในเรื่อง จริงๆ แล้วคือ เรือเอ็ชเอ็มเอส เซอร์ไพรส์ เรือจำลองที่ถูกออกแบบมาจากเรือต้นฉบับ เอ็ชเอ็มเอส โรส เรือรบของอังกฤษ ปี 1757
  • จุดเด่นของภาพยนตร์ภาคนี้คือนางเงือก นอกจากนักแสดงสาวลูกครึ่งสเปน-ฝรั่งเศส แอสทริด แบร์เจส์-ฟริสเบย์ ในบทนางเงือก ไซเรนา ยังมีนักแสดงและนางแบบสาวสวยอีก 7 คนที่รับบทนี้ พร้อมทั้งนักกีฬากระโดดน้ำโอลิมปิกอีก 22 คน ซึ่งบางคนเคยลงแข่งในกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ที่ปักกิ่งอีกด้วย
  • โอลด์ รอยัล เนวัล คอลเลจ ในกรีนิช ประเทศอังกฤษ ศูนย์รวมอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 17 ไปจนถึงกลางศตวรรษที่ 18 ได้กลายเป็นสถานที่ถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่องนี้นานกว่า 3 สัปดาห์
  • งานสร้างที่ท้าทายที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ น้ำพุแห่งความเยาว์วัย หัวหน้ากำกับศิลป์ จอห์น ไมห์ และลูกทีมจึงได้ใช้พื้นที่ภายใน อัลเบิร์ต อาร์. บร็อกโคลี 007 สเตจ ของ ไพน์วูด สตูดิโอส์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสตูดิโอที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเป็นสถานที่หลักในการสร้างฉากน้ำพุขึ้นมา ด้วยอาณาบริเวณ 59,000 ตารางฟุต จึงเป็นพื้นที่ใหญ่มากเพียงพอต่องานสร้างชิ้นนี้ โดยทีมงานใช้เวลาสร้างมันขึ้นมาถึง 3 เดือน
  • จอห์นนี เด็ปป์ ตอบตกลงแสดงภาพยนตร์ภาคต่อนี้ ทั้งที่ยังไม่มีบทร่างหรือรูปแบบอะไรออกมาอย่างชัดเจน
  • ในเดือนพฤษภาคม ปี 2010 ทาง วอลท์ ดิสนีย์ ได้ประกาศว่าจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้โดยใช้กล้องสำหรับทำภาพยนตร์แบบ 3 มิติ ส่วนเทคนิคพิเศษจะถูกพัฒนาแบบ 2 มิติก่อนแปลงเป็นภาพแบบ 3 มิติในภายหลังเพื่อประหยัดงบประมาณสร้าง
  • เป็นภาคแรกของภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean ที่กำกับโดย ร็อบ มาร์แชลล์ ไม่ใช่ กอร์ เวอร์บินสกี เช่นเดียวกับ 3 ภาคก่อนหน้านี้
  • เพเนโลปี ครูซ ผู้รับบท แอนเจลิกา กำลังตั้งครรภ์ขณะถ่ายทำเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นจนกระทั่งมันเด่นชัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนปี 2010 จึงทำให้ต้องมีการปรับเรื่องชุดที่สวมใส่และหาตัวแสดงแทนในระยะไกลในบางฉาก ซึ่งก็คือ โมนิกา ครูซ น้องสาวของเธอ
  • ประตูทางเข้าไปสู่น้ำพุแห่งความเยาว์วัยที่เห็นในเรื่อง คือ ไวกาพาลา'เอ เว็ต เคฟ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะกอย ในฮาวาย ซึ่งชาวฮาวายเชื่อกันว่าเคยมีสมบัติของโจรสลัดจริงๆ ซ่อนอยู่ในห้องที่เรียกว่า เดอะ บลู รูม แต่การจะเข้าไปในถ้ำได้นั้นขึ้นอยู่กับระดับน้ำหรือกระแสน้ำด้วย
  • เพเนโลปี ครูซ เป็นตัวเลือกเพียงคนเดียวที่ทีมผู้สร้างต้องการให้มารับบท แอนเจลิกา ซึ่งเธอก็ตกลงรับเล่นบทนี้ตั้งแต่ยังไม่มีบทภาพยนตร์
  • ในภาษาสเปน คำว่า ไซเรนา หมายถึง นางเงือก ที่มาของคำนี้มาจากบทกวีกรีกเรื่อง โอดิสซีย์ ที่แต่งโดย โฮเมอร์ โดยไซเรนาได้ร้องเพลงเพื่อหลอกล่อพวกนักเดินเรือที่ผ่านมาให้ขึ้นไปบนเกาะก่อนทำการปลิดชีพ
  • เดอะ ควีน แอนน์ส รีเวนจ์ เรือของโจรสลัดเคราดำ ที่รับบทโดย เอียน แมกเชน จริงๆ แล้วเป็นเรือชื่อ เดอะ ซันเซ็ท ที่นำมาใช้ในภาพยนตร์ภาคที่ 2 และ 3 เป็นเรือ เดอะ แบล็ก เพิร์ล ซึ่งภายหลังปี 2010 ได้มีการนำมาออกแบบใหม่ให้เป็น เดอะ ควีน แอนน์ส รีเวนจ์ โดยส่วนที่ปรับยากที่สุดคือส่วนที่อยู่ด้านบนดาดฟ้า เพราะต้องตัดส่วนท้ายของเรือออกไปเพื่อเพิ่มระดับของดาดฟ้าและสร้างขึ้นมาใหม่เป็นสองชั้น
  • ฉากที่ กัปตันแจ็ค รับบทโดย จอห์นนี เด็ปป์ เข้าไปในซานติอาโก กล้องได้ถ่ายไปยังโครงกระดูกของ พอนเซ เดอ เลออง ที่นอนอยู่บนเตียงถูกล้อมรอบด้วยกองสมบัติ นี่เป็นการอ้างอิงถึง Pirates of the Caribbean ที่อยู่ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ที่คนเข้ามาชมจะเห็นโครงกระดูกของกัปตันโจรสลัดนอนลงอยู่บนเตียงและถูกล้อมรอบไปด้วยกองสมบัติเช่นเดียวกัน
  • เรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1750

*********************************************


Pirates of the Carribean 5 : Dead Men Tell No Tales (2017)

*********************************************














 :GreenScarf (22):
ขอบคุณข้อมูลดีดี...

แฟนเพจ ภาพยนตร์ เก่า-ใหม่ ไทย-เทศ พรีวิว
https://www.facebook.com/PhaphyntrKeaHimThiyThesPhriWiw
หลวงจีนหอไตร
http://pantip.com/topic/33893609
Pirates of the Caribbean | Official Website | Disney
http://pirates.disney.com/
คืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลก - วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81
Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales (2017) - IMDb
http://www.imdb.com/title/tt1790809/
Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl
http://www.siamzone.com/movie/m/1488/pirates-of-the-caribbean-the-curse-of-the-black-pearl
Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006)
http://www.siamzone.com/movie/m/4040/pirates-of-the-caribbean-dead-man-s-chest
Pirates of the Caribbean: At World's End (2007)
http://www.siamzone.com/movie/m/4547/pirates-of-the-caribbean-at-world-s-end
Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides (2011)
http://www.siamzone.com/movie/m/6100/pirates-of-the-caribbean-on-stranger-tides





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กรกฎาคม 2015, 23:42:31 โดย นายเค »
สรพงษ์ ลิ้มทองคำ
5 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี 70120    E-Mail soraphol@hotmail.com
ธ.กรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า   หมายเลขบัญชี  210-036236-3
ธ.ไทยพาณิชย์  ออมทรัพย์ สาขา บางเขน   หมายเลขบัญชี  041-273435-0
ติดต่อ 0909040355

ชมรมรักหนังกางแปลง โพธาราม ราชบุรี เรามาคุยกันได

ออฟไลน์ MECHAICINEMA49

  • ถ้าทุกอย่างที่อยู่ในมือ มันหนักไป หาที่มันพอดี แล้วเดินต่อไปนะครับ
  • Thaicine Explorer
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • *
  • กระทู้: 4724
  • พลังใจที่มี 35
  • เพศ: ชาย
Re: Pirates of the Caribbean ตำนานโจรสลัด 7 คาบสมุทร
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2015, 10:30:44 »
 :GreenScarf (2):
รังสฤษฎ์ บุญเขียว
1624 / 5-6 หมู่ 5(สุดถนนสี่เลนส์) ถ.ดอนเจดีย์-สระกระโจม ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี  ติดต่อไลน์ mechaicinema49 หรือ ไลน์ mechaicinema50
ชื่อบัญชี อรอุษา บุญเขียว ธ.กสิกรไทย สาขาโรบินสัน สุพรรณบุรี หมายเลขบัญชี 783-2-03759-6
อีเมลล์:mcs_cinema@hotmail.com