ผู้เขียน หัวข้อ: ขอถามครับว่า คำว่า 3D มีกี่แบบและแบบไหนดีกว่า  (อ่าน 961 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ แก้ว.2

  • ปลาบู่ ภาพยนตร์ พิจิตร
  • พี่น้อง thaicine Gold member
  • *
  • กระทู้: 429
  • พลังใจที่มี 46
  • เพศ: ชาย
  • เลขบัญชี 8670139727 (ธนาคารกรุงเทพ)ชูชาติ พรหมเสนา
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ครับ. ขอบคุณล่วงหน้าครับ.


ชูชาติ พรหมเสนา (แก้ว)
นิรันทร์9 ถ.สุขุมวิท103 ซ.อุดมสุข 54-56 ตึกเอ 1000/11 บางนา กรุงเทพ 10261
โทร 0839406285

ออฟไลน์ gbnaja

  • มือใหม่ ปรับชั้นต้องโพสรวม 30 กระทู้
  • *
  • กระทู้: 24
  • พลังใจที่มี 2
Re: ขอถามครับว่า คำว่า 3D มีกี่แบบและแบบไหนดีกว่า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 02 กันยายน 2016, 17:47:03 »
เพียบเลย
แต่หลักๆใหญ่ๆก็มี Passive และแบบ Active
ทั้งสองแบบต้องใช้ content สำหรับ 3D โดยเฉพาะ (2dปกติมี 24frame เป็นภาพสำหรับสองตา แต่3d จะเพิ่ม frame เข้าไปเช่น 24 สำหรับตาขวา และอีก 24 สำหรับตาซ้าย รวมเป็น 48frame/s) content จะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ

Passive เอาง่ายๆคือเอา กระจกเคลือบ(เรียกว่า polarizer) มาคั่นแสงที่ถูกฉายออกมา ทำให้ wavelenght ของแสงมันเปลี่ยนไป (บนกระจกจะสามารถสลับ wavelenght ไปมาสำหรับตาซ้ายขวาได้) ซึ่งพอภาพผ่าน polarizer แล้วมากระทบที่จอจากนั้นสะท้อนมาที่แว่นของเราก่อน

ไอตัวเลนส์แว่น3dมันจะมี Polarizer ขั้นอีกทีนึง(ซึ่งก็คือเลนส์เคลือบๆดำๆนั่นละ) มันจะทำหน้าที่ตัดแสงที่อยู่ใน wavelenght ที่กำหนดออกไป เช่น
ถ้าภาพที่อยู่บนจอภาพเป็น wavelenght สำหรับตาขวา แสงนี้จะไม่สามารถผ่านเลนส์ฝั่งซ้ายได้ ทำให้เรามองเห็นภาพนี้ที่ตาขวาอย่างเดียว
ถ้าภาพที่อยู่บนจอภาพเป็น wavelenght สำหรับตาซ้าย แสงนี้จะไม่สามารถผ่านเลนส์ฝั่งขวาได้ ทำให้เรามองเห็นภาพนี้ที่ตาซ้ายอย่างเดียว



ระบบนี้เป็นที่นิยม เพราะแว่นมันถูก (ดูแว่น3d ตามโรงหนังสมัยนี้ ราคาถูกอย่างกะข้าวแกง)
แสงที่ได้จะต่ำกว่าปกติ สังเกตุเวลาดูหนัง 3d บางทีหลายๆคนจะเวียนหัว เพราะแสงมันน้อยเกินไป ทำไมแสงมันน้อยเกินไป
เพราะคิดดู แสงจากเครื่องฉายผ่านกระจกเคลือบฟิลม์ดำ (Polarizer) ผ่านช่องฉาย (Port Windows) มากระทบที่จอ ก่อนเข้าตาก็ผ่านแว่น 3d อีก
ถ้าลองจินตนาการก็ลองนึกตอนใส่แว่นดำกลางแดดอะ แสงมันน้อยลง ลองใส่แว่นดำซ้อนแว่นดำอีกอัน มันก็จะน้อยลงไปอีก
แสงที่ได้มันสามารถคำนวนได้อยู่นะ มันดรอปลงไปหลายอยู่
Polarizer ที่ติดกับเครื่องฉายมีหลายเจ้าที่ทำ
RealD, MasterImage (อันนี้3dฟิลม์ก็ทำ), DepthQ ค้นๆเอาละกัน แต่ MasterImage นี่ได้แสงดีสุดละ แสงหายน้อย ภาพที่ได้สะว่างตาดี

Active หลักการเหมือนข้างบน แต่ยุบ Polarizer ฝั่งเครื่องฉายมาไว้ที่ตาแทน
กระจกบนแว่น มันจะเป็นกระจกเงา เปรียบเหมือน lcd อะละ มันจะสามารถทำให้เลนส์สำหรับตาซ้ายขวา ปิด เปิด ได้

มันจะรู้ได้ไงว่าตอนไหนมันต้องปิดตาซ้ายหรือขวา? มันจะมีตัวส่งสัญญาณให้แว่นอยู่ ฉนั้นไอแว่นนี้ต้องมีแบตเตอร์รี่ มีระบบรับสัญญาณ ระบบอิเล็กฯ
ทำให้ราคาแว่นมันสูง ต้องเอามาชาร์จ มาเปลี่ยนแบต หายบ้างอะไรบ้าง พวกลักไก่ขโมยกลับบ้านก็มี พวกหักเล่นบ้างก็มี ใช้ไปนานๆมีรอยขีดข่วน รอยมัว ภาพเบลอ แสงลด ลูกค้าบ่นอีก ไม่ฉายแมร่งและ 3ดง 3ดี
และแสงมันก็ลดลงอยู่ดีนะ พระมันก็ต้องมาผ่านกระจกที่ตาอยู่ดี แสงผ่านกระจกเมื่อไหร่ มันลดลงไปเมื่อนั้น
ระบบนี้ที่ทำก็
XPand 3D เคยได้ยินแค่เจ้าเนี้ย แจ้าอื่นไม่รู้

แถม
3d alternate color หรือ Dolby3D
จริงๆระบบนี้มันจะเลิกใช้ไปแล้วนะ เพราะแสงที่ได้มันน้อย แถมแว่นก็แพงหูฉี่ ไม่อธิบายมากละกัน ขี้เกียจ 5555
แต่มันกำลังจะถูกนำมาใช้ใหม่ เพราะปกติระบบนี้ต้องใช้กระจกตัดแสง wavelengt หน้าเครื่องฉาย แล้วมาตัดอีกที่ที่แว่น แต่ไอแว่นมันแพงเพราะมันเคลือบอย่างดี
เอาง่ายๆ แสงก็น้อย แว่นก็แพง ไหนใครอยากใช้ยกมือขึ้น?
เหตุผลที่จะกลับมาดัง เพราะมันมี Laser Projector เข้ามาแล้ว ไอตัว Laser Projector สามารถฉายแสงที่ไม่จำเป็นต้องผ่านกระจกตัดแสงหน้าเครื่องฉายแล้ว ไปตัดทีเดียวที่แว่นเลย แสงจ้าดี หลายๆคนคงชอบ ถอดแว่นทีตาแทบแตก จ้าอิ้บอ๋าย
แต่ระบบนี้มันแพงที่เครื่องฉายอะดิ แว่นก็แพง แต่ได้แสงจ้าดี


อย่าเพิ่งเชื่อผมหมดนะ หาข้อมูลเองด้วยเด้อ

ออฟไลน์ Nrador007

  • Nrador007
  • มือใหม่ ปรับชั้นต้องโพสรวม 30 กระทู้
  • *
  • กระทู้: 2
  • พลังใจที่มี 0
Re: ขอถามครับว่า คำว่า 3D มีกี่แบบและแบบไหนดีกว่า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2016, 17:31:25 »
น่าซื้อมาลองใช้ดูได้มีอารมร่วม