ภาพยนตร์บ้านทรายทอง (2499)ผู้กำกับ : วิรัช พึ่งสุนทร
นักแสดง : ชนะ ศรีอุบล, เรวดี ศิริวิไล, สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย, ประภาพรรณ นาคทอง, กำจาย รัตนดิลก, ลือชัย นฤนาท, สมพงษ์ พงษ์มิตร
เรื่องย่อ เจ้าพระยาราชาพิพิธ เจ้าของคฤหาสน์บ้านทรายทองมีลูกชายสองคน คนโตคือพระยาราชาพิพิธรับราชการเจริญรอยตามบิดา ส่วนสุรพลลูกคนรองไม่ยอมรับราชการจึงถูกตัดออกจากกองมรดก เมื่อเจ้าพระยาราชาพิพิธถึงแก่กรรม ภรรยาของท่านเป็นห่วงสุรพลจึงทำพินัยกรรมยกบ้านทรายทองให้กับสุรพล แต่พระยาราชาพิพิธไม่ยอมปฎิบัติตามกลับยึดบ้านทรายทองเป็นของตน
สุรพลมีลูกชายคือพนา มีความรู้ความสามารถมากรับราชการได้เป็น พระยาดุลยธรรมพินิจ พนาแต่งงานกับหญิงชาวบ้านและมีลูกสามคนคือ พจมาน (เรวดี) พจนา และพจนีย์ ต่อมาพนาป่วยหนักก่อนสิ้นใจได้สั่งเสียให้พจมานไปอยู่กับ หม่อมพรรณราย (กำจาย) บุตรสาวของพระยาราชาพิพิธที่บ้านทรายทอง
หม่อมพรรณรายเป็นคนเห็นแก่ตัว มีบุตรกับหม่อมเจ้าสว่างวงศ์สี่คนคือ ม.ร.ว.ภารดี หรือหญิงใหญ่ (สมจิตต์) ม.ร.ว.ภราดา หรือชายกลาง (ชนะ) ม.ร.ว.ภาวินี หรือหญิงเล็ก (ประภาพรรณ) และ ม.ร.ว.ภาณุทัต หรือชายน้อย หม่อมพรรณรายไม่อยากอุปการะพจมาน จึงร่วมกับหญิงเล็กกลั่นแกล้งพจมาน มีเพียงหญิงใหญ่และชายกลางคอยช่วยเหลือ
ต่อมาชายกลางต้องเดินทางไปปฎิบัติราชการต่างประเทศ หม่อมพรรณรายกับหญิงเล็กยิ่งกลั่นแกล้งพจมานหนักยิ่งขึ้น ทำให้หม่อมเจ้าเอนก (ลือชัย) คู่หมั้นของหญิงเล็กเห็นธาตุเท้ที่ร้ายกาจของหญิงเล็กจึงขอถอนหมั้น และหันมาสนใจพจมานแทน
พระยาราชาพิพิธซึ่งกำลังอยู่ในบั้นปลายชีวิตสำนึกในความผิดที่ตนเองได้ทำไว้ จึงบอกให้หม่อมพรรณรายและลูกๆทราบความจริงว่า แท้จริงแล้วบ้านทรายทองเป็นของสุรพลผู้เป็นปู่ของพจมาน และให้คืนบ้านให้เจ้าของที่แท้จริง หม่อมพรรณรายจะไม่ยอมคืน แต่หญิงใหญ่และชายกลางซึ่งเดินทางกลับมาทันเวลาพอดีที่พระยาราชาพิพิธสั่งเสีย ยืนยันที่จะคืนบ้านให้พจมาน และบอกให้ทุกคนเตรียมตัวย้ายออกจากบ้านทรายทองหลังเสร็จงานศพพระยาราชาพิพิธแล้ว
หลังจากพิธีงานศพแล้วพจมานไม่ยอมรับบ้านทรายทองคืนและกลับไปหาแม่ที่อยุธยา และพบว่าลูกชายเศรษฐีอยุธยามาสู่ขอตนเอง พร้อมกับหม่อมเจ้าเอนกก็มาเจรจาสู่ขอพจมานเช่นกัน ชายกลางติดตามมาที่อยุธยาและขอร้องให้พจมานเลือกระหว่างหม่อมเจ้าเอนกกับลูกเศรษฐีอยุธยา แต่พจมานไม่เลือกทั้งสองเนื่องจากหัวใจของพจมานได้มอบให้กับชายกลางแล้ว
หมายเหตุ ข้อมูลจากหนังสือภาพยนตรานุกรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ หอภาพยนตร์แห่งชาติ