เปิดภาพความหลัง บริการบัญชาภาพยนตร์ พิจิตร

[มนัส กิ่งจันทร์]

       เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 พวกเราไปสัมภาษณ์คุณลุงบัญชา เต็งสุวรรณ อายุ 82 ปี เจ้าของบัญชาภาพยนตร์ พิจิตร ในระหว่างสัมภาษณ์นั้นคุณป้าสำราญ เต็งสุวรรณ อายุ 78 ปี ซึ่งร่วมชีวิตหนังกลางแปลงมาด้วยกันก็ค้นหาภาพความหลังเก่าๆ มาให้พวกเราได้ดู ดังนั้น ระหว่างที่รอตัดต่อเทปสัมภาษณ์ ก็เลยนำภาพเก่าๆ นี้มาให้ดูก่อน คลิกดูภาพเพิ่มเติมได้ในช่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างนี้นะครับ..

       คุณลุงบัญชาเล่าให้ฟังว่า เพราะตัวเองเป็นคนทีมีเพื่อนมาก ครั้นพอมีอะไร ไม่ได้ใช้แล้ว ก็เลยยกๆ ให้เขาไปหมด บางคนก็มาขอซื้อไปบ้าง บางอย่างปลวกก็กิน ส่วนฟิล์มหนังเก่าๆ นั้น ตอนแรกก็ยังมีเยอะแยะ แต่ก็ให้เขาบ้าง ขายไปบ้าง สุดท้าย ตอนนี้ที่ยังเหลือเป็นฟิล์มกับเครื่องฉายหนังนั้น ก็ไม่ให้ใครแล้วเพราะเจ้าหลานตัวเล็กๆ คนนี้แหละเขาขอไว้..

[มนัส กิ่งจันทร์]

• คุณลุงบัญชา เต็งสุวรรณ นั้น ก่อนจะฉายหนังกลางแปลงนั้น เป็นช่างถ่ายภาพมาก่อนครับ
• คุณป้าสำราญ เต็งสุวรรณ ภรรยาลุงบัญชา เต็งสุวรรณ.. ข้างๆ มีใบปิดหนัง ลานสาวกอด ด้วย เข้าใจว่า จะเป็นฟิล์มชุดเดียวกันกับที่คุณโต๊ะพันธมิตรนำมาออกแผ่นวีซีดี
• แรกๆ ที่คุณลุงบัญชา เป็นช่างภาพนั้น ก็ตั้งชื่อร้านว่า นิมิตรศิลป์ อยู่ที่ไผ่ท่าโพธิ์เหนือ จังหวัดพิจิตร.. พอมาฉายหนังกลางแปลงก็เลยตั้งชื่อว่า นิมิตรภาพยนตร์ ซึ่งเป็นชื่อลูกชายคนโต.. ภาพนี้ น้ำกำลังท่วมหน้าสำนักงานนิมิตรภาพยนตร์
• คุณลุงบัญชา เต็งสุวรรณ

[มนัส กิ่งจันทร์]

• พิจิตร น้ำท่วมบ่อยๆ ครับ ภาพนี้ก็หน้าสำนักงานนิมิตรภาพยนตร์ พอน้ำท่วม เด็กๆ ก็เล่นน้ำกันสนุก... แต่ที่เป็นทุกข์อยู่ตอนนี้ก็คือ น้ำท่วมนั้นทำให้ฟิล์มเสียหายไปมากมายครับ
• เมื่อการฉายหนัง 16 มม.เริ่มเสื่อมความนิยม คุณลุงบัญชาก็เปลี่ยนมาฉายหนัง 35 มม. โดยยังใช้ชื่อ นิมิตรภาพยนตร์ อยู่ที่ไผ่ท่าโพ เช่นเดิม ภาพนี้เป็นการทำบุญเปิดหน่วยฉายหนัง 35 มม.
• จอหนัง 35 มม. ยังเป็นจอ 2 เสา..ครับ
• นี่เข้าใจว่า จะเป็นลูกสาวคุณลุงบัญชา (ลูกคนที่ 3) สังเกตุข้างๆ มีกระเป๋าฟิล์มหนังอยู่ด้วยครับ

[มนัส กิ่งจันทร์]

• ส่วนตู้ลำโพง ก็มีแล้วครับ แต่ยังเป็นตู้เล็กแบบนี้
• ด้านหลังตู้ลำโพง ก็เขียนชื่อบริการหนังนิมิตรภาพยนตร์ ไผ่ท่าโพ
• พระทำพิธิเจิมจอหนังนิมิตรภาพยนตร์..
• คุณลุงบัญชา บอกว่า การฉายหนังในยุคแรก ต้องไปด้วยรถคันนี้ครับ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นรถสองแถวใหญ่

[มนัส กิ่งจันทร์]

• คุณลุงบัญชา เล่าให้ฟังว่า นอกจากตนเองกับภรรยาจะช่วยกันฉายหนังแล้ว ต่อมาก็มีลูกชาย 2 คนแรกเป็นคนช่วยฉายตลอด กระทั่งต่อมาลูกชายทั้งสองคนก็เสียไป ทำให้หมดกำลังใจ ไม่อยากอยู่ไผ่ท่าโพ จึงย้ายมาอยู่ที่ตัวตลาดสดพิจิตรธานี.. แล้วจึงกลับมาฉายหนังอีกครั้ง คราวนี้ใช้ตัวเองคือ บัญชา เป็นชื่อจอหนัง..
• สมัยนั้น มีหน่วยฉายของคนอื่นๆ ในพิจิตรครับ..
• รถหนังกลางแปลงของบัญชาภาพยนตร์
• สำนักงานบัญชาภาพยนตร์ที่ตลาดสดพิจิตรธานี

[มนัส กิ่งจันทร์]

• ภาพภายในสำนักงานบัญชาภาพยนตร์ พิจิตร จะมีกระเป๋าฟิล์มหนังให้เห็นมากมาย
• คุณลุงบัญชากับภรรยาจัดการ
• โต๊ะเถ้าแก่..
• ไม่รู้ว่า ลูกหรือหลาน.. ภายในสำนักงานบัญชาภาพยนตร์

[มนัส กิ่งจันทร์]

• คุณป้าสำราญ เต็งเจริญ กับรถฉายหนังบัญชาภาพยนตร์
• เห็นใบปิดหนังต่างๆ แปะไว้ที่ผนังบ้าน รอเจ้าภาพมาเลือกไปฉาย..
• สงสัยจะเป็นหลานนะครับ..
• ในสำนักงานจะมีการปิดโปสเตอร์หนังไว้ให้เจ้าภาพเลือกไปฉาย..

[มนัส กิ่งจันทร์]

• คุณลุงบัญชากำลังเปลี่ยนโปสเตอร์หนัง โดยมีหลานตัวเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ
• คุณลุงบัญชาเล่าให้ฟังว่า เพราะตัวเองเป็นคนทีมีเพื่อนมาก ครั้นพอมีอะไร ไม่ได้ใช้แล้ว ก็เลยยกๆ ให้เขาไปหมด บางคนก็มาขอซื้อไปบ้าง บางอย่างปลวกก็กิน ส่วนฟิล์มหนังเก่าๆ นั้น ตอนแรกก็ยังมีเยอะแยะ แต่ก็ให้เขาบ้าง ขายไปบ้าง สุดท้าย ตอนนี้ที่ยังเหลือเป็นฟิล์มกับเครื่องฉายหนังนั้น ก็ไม่ให้ใครแล้วเพราะเจ้าหลานตัวเล็กๆ คนนี้แหละเขาขอไว้..