กรุนี้ ต้องเรียกว่า พวกเรา 3 คนได้พบอย่างบังเอิญจริงๆ พบหลังจากที่พวกเราเสร็จจากการพูดคุยกับสองกรุแรกคือ บริการวฤทธิ์ภาพยนตร์และหนังแลกข้าว..ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ นั้น พี่ปราโมทย์ จันทรภาพ คนฉายหนังแลกข้าวก็พาเราไปหาเพื่อนที่เคยฉายหนังมาด้วยกันชื่อ บริการสุริยาภาพยนตร์ อยู่แถวๆ บ้านคำเจริญ วารินชำราบ คุณสุริยานั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว ก็ไปเผื่อว่า จะมีฟิล์มหนัง 16 หรือ 35 มม.เหลืออยู่บ้าง พอไปถึงก็พบลูกสาวของคุณสุริยาบอกว่า ฟิล์ม 35 มม.ไม่มีแล้ว ส่วนฟิล์ม 16 มม.นั้น แม่ได้ให้ญาติข้างบ้านเก็บไว้ เราก็ดีใจ แต่พอไปถามญาติข้างบ้านดู ก็ปรากฏว่า ฟิล์ม 16 มม. จำนวน 3-4 ม้วนของพ่อนั้น ได้เสียหายและเขาเอาทิ้งไปแล้ว..
ก่อนที่เราจะกลับ ก็ได้สอบถามว่า สมัยก่อนคุณพ่อไปหาฟิล์มหนังมาจากไหนมาฉายบ้าง ลูกสาวซึ่งตอนนั้นยังเป็นเด็กๆ ก็จำได้ว่า พ่อเคยไปเช่าฟิล์มหนังมาจากหนังขายยาชื่อ ปัญญาเภสัช อยู่แถวๆ ตลาดแม่กิมเตียง วารินชำราบ เราก็ดุ่มๆ ลองไปหาดูว่า แถวนั้นจะมีร้านขายยาปัญญาเภสัชอยู่อีกหรือไม่ เมื่อไปก็พบว่า มีร้านขายยาอยู่จริง แต่ร้านปิด บังเอิญว่า ที่หน้าร้านเขาได้เขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ คุณนุจึงลองโทรศัพท์ไปพูดคุย..โชคดีเป็นของเราครับ พี่ปัญญา สุหงษา ปัจจุบันอายุ 71 ปี บอกว่า เคยฉายหนังขายยามาตั้งแต่ปี 2518 ฉายในระบบ 16 มม.พากย์สดๆ จากนั้นก็มาฉายหนัง 35 มม.
เมื่อเลิกฉายหนังแล้วก็ยังเก็บฟิล์มบางส่วนไว้ที่บ้านสวน แถวๆ วัดหนองกินเพล วารินชำราบ..และเมื่อทราบความประสงค์ของพวกเรา ก็บอกว่า จะพาเราไปเปิดกรุ.. และจากนี้ไปจะเป็นวีดีโอเปิดกรุและสัมภาษณ์พี่ปัญญา สุหงษา เจ้าของปัญญาพรภาพยนตร์ ความยาว 13 นาทีเศษๆ
(ป.ล.งานนี้ คุณนุเจอฟิล์มถูกใจเยอะ ก็เลยรื้อๆ ก็ค้นๆ จนลืมตัวทำให้เอวเคล็ด เดี้ยงไป.. ก็เลยต้องเปลี่ยนมาถ่ายวีดีโอแทนผมนะครับ)
เปิดกรุ ปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบลฯ 6 มกราคม 2562