สวัสดีครับทุกท่าน ก็เป็นอันว่า วันเสาร์-อาทิตย์นี้ พวกเรายังไม่ได้ออกต่างจังหวัดไปหาฟิล์มหนังกันนะครับ..กิจกรรมที่จะทำที่ประเดิมเธียเตอร์ ก็คือ ลงเสียงหนัง 16 มม.ปี 2510 เรื่อง ล่าพยาบาท ซึ่งคิววันเสาร์นี้ ก็จะเป็นคิวของพี่เทพวลี Ponthep Kaewmarung แม่ครัวหัวป่าก์ของเรา..เห็นบอกจองคิวไว้ก่อนใคร แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่า จะลงเสียงตัวไหนดี หนังอะไรน่าลงมันซะทุกตัวเลย.. ส่วนคิววันอาทิตย์ พระเอกแม็กกี้ Sutipoj Maxkie Wongsrisai ก็เทคิวเสียง สมบัติ เมทะนี ให้หมดหน้าตัก..แล้วยังจะแถมเสียง สีเทา เสาธง ให้อีก..น้องน้ำ Jantana Suneerach ก็จะมาอวดฝีมือเสน่ห์ปลายจวัก ทำขนมจีนน้ำเงี่้ยว ให้พวกพี่ๆ ได้รับทานกัน แต่เห็นแอบกระซิบว่า ทุกอย่างหนูพร้อม ขาดแต่ทุนทรัพย์อย่างเดียว..อ้าว..แล้วจะได้กินมั๊ยนี่
ช่วงนี้ ผมก็เร่งๆ ตัดต่อลำดับภาพ หนัง 16 มม.ปี 2513 เรื่อง ลำพู ของ เชิด ทรงศรี อยู่นะครับ ก็คิดว่า จะลงเสียงหนังต่อจากเรื่อง ล่าพยาบาท นี่แหละ ลำพูนี้มีบทพากย์ติดมาด้วย เวลาตัดต่อลำดับภาพ ก็จะต้องดูบทพากย์ไปพร้อมๆ กัน ฉากไหนเป็นฉากเพลง ก็จะนำเพลงที่ได้มาแล้ว ลงเสียงไว้ก่อนเลย ฉากไหนที่ภาพในฟิล์มเหลือน้อยกว่าบทสนทนา ก็จะต้องหาภาพอื่นๆ มาตัดสลับหรือคั่นไว้เพื่อให้พูดจบประโยคหรือพอได้ใจความ บางครั้งก็ต้องใช้ภาพเดิมซ้ำไปอีกนะครับ..คือว่า ต้องพยายามช่วยหนังให้ดู ให้รู้เรื่องให้ได้นะครับ ตัดต่อหนังมาได้เกินกว่าครึ่งเรื่องแล้ว ถึงได้รู้ว่า ทำไม แม่จึงได้ตั้งชื่อ นางเอกเพชรา ว่า ลำพู.. และ ลำพู ไปเกี่ยวข้องอะไรกับวาตภัยที่แหลมตะลุกพุก ในปี 2505 หนังเรื่องนี้มีคำตอบครับ..
ตอนต้นๆ เรื่อง เพชรา+ปริม จะต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ จึงมีการจัดงานเลี้ยงส่ง เพชราก็แต่งชุดนั้นมารำอิเหนาฉายกริชให้เพื่อนบ้านดูกันครับ.. แต่พอรำเสร็จ ปริมซึ่งเป็นน้องสาวก็อิจฉาเพชรา ปริมจึงยุแม่ซึ่งไม่ชอบเพชราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บอกว่า เพชราไม่ต้องไปเรียนกรุงเทพฯ ปริมไปคนเดียว
ดาวร้าย พิภพ ภู่ภิญโญ ในเรื่อง ลำพู รับบทเป็น เมฆ มหากาฬ
หนังขายยาปัญญาพรภาพยนตร์ วารินชำราบ อุบล มอบฟิล์มหนัง ลำพู และเรื่องอื่นๆ ให้พวกเรา
ฟิล์มหนัง ลำพู อยู่ในกองฟิล์มนี่แหละครับ