ถึงวันนี้ ฟิล์มหนัง 16 มม.อายุ 60 ปีแบบนี้ ก็ยังฉายได้นะครับ แต่ถ้าเป็นฟิล์ม 35 มม.อายุเท่าๆ กัน ก็จะฉายไม่ได้แล้ว นี่จึงเป็นข้อดีของหนัง 16 มม.ที่ฟิล์มจะมีอายุยาวนานกว่าหนัง 35 มม. ภาพนี้มาจากหนังเรื่อง ไอ้แก่น (2502 รัตนาภรณ์-ลือชัย) ที่ฟิล์มผ่านการฉายมาอย่างหนัก ทำให้ฟิล์มมีรอยขาด รอยต่อและคราบสกปรก ซึ่งเมื่อฉายขึ้นจอ ก็จะเห็นคราบหรือร่องรอยตามภาพแบบนี้ แม้จะเห็นแค่แว่บเดียว แต่ก็ทำให้รำคาญลูกนัยน์ตา ถ้าเป็นการฉายด้วยฟิล์ม เราก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น ขืนไปตัดต่อฟิล์มส่วนนั้นๆ ซ้ำอีก ก็จะทำให้ภาพช่วงนั้นๆ ขาดหายมากขึ้นไปอีก แต่พอเราทำภาพเป็นไฟล์ไว้แล้ว เราก็จะค่อยๆ ฉายไล่ดูภาพช้าๆ แล้วก็ตัดภาพส่วนที่เสียๆ นี้ออกไปนะครับ ซึ่งแม้จะใช้เวลานานหลายวัน แต่เราก็ต้องทำเพื่อให้หนังดูสวยและสบายตาขึ้น..แหละนี่ก็คือ ภารกิจเร่งด่วนในช่วงนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือใส่เสียงพากย์ให้กับหนัง ไอ้แก่น ต่อไปนะครับ..
ร่องรอยและคราบสกปรกแบบนี้ เกิดขึ้นเพราะฟิล์มหนังขาด..จากนั้นเขาก็จะมีการต่อฟิล์มที่ขาดนั้นๆ ด้วยน้ำยาต่อฟิล์มซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของหนังกลางแปลง..แต่ต่อมาก็เริ่มมีคราบสกปรกของฝุ่นต่างๆ ที่เวลาเขาไปหนังฉายกลางแปลง กลางแจ้ง ฝุ่นเหล่านั้นก็จะติดมากับเนื้อฟิล์ม เมื่อกรอฟิล์มเพื่อเช็คทำความสะอาด คราบฝุ่นเหล่านั้นก็จะถูกเช็คไล่ให้ไปเกาะติดรวมๆ กันช่วงที่มีรอยต่อแบบนี้แหละและก็จะเกิดเป็นคราบดำๆ อย่างที่เห็นบนหน้านางเอกรัตนาภรณ์..แม้เราจะเช็คฝุ่นออกไปได้ แต่ก็จะยังเห็นคราบช่วงรอยต่อฟิล์มนั้นอยู่อีก..เราจึงจำเป็นจะต้องตัดภาพแบบนี้ออกไปให้หมด เพื่อให้หนังเก่าๆ ดูได้สวยงามมากขึ้น ไม่ต้องห่วงนะครับว่าเสียงพากย์จะขาดหายไปเพราะคนพากย์ใหม่ เขาก็จะไล่รวบปากพากย์ได้เองเพราะภาพที่หายไปแบบนี้มีไม่มาก แต่ละครั้งก็แทบจะไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำไปครับ
สมควร กระจ่างศาสตร์.. เสียๆ แบบนี่ ก็ตัดออกครับ ฉากนี้ นาทีที่ 1.11.27 ของหนัง.. รัตนาภรณ์ ซึ่งรับบทเป็น ไอ้แก่น กำลังพูดกับ สมควร กระจ่างศาสตร์ ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง แต่ตอนนั้น ไอ้แก่น ยังไม่รู้ว่า นี่แหละคือ พ่อของตน..
การตัดต่อและเล็มๆ ภาพส่วนที่เสียหายออกไปนั้น เราก็จะต้องกางบทพากย์หนังหนังดูประกอบไปพร้อมๆ กันด้วยนะครับ..พอตัดต่อฉากนั้นๆ เสร็จ เราก็จะต้องซ้อมพูดเสียงดูว่า ภาพหนังจะเหลือพอกับถ้อยคำในบทพากย์หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเหลือไม่ค่อยพอเพราะฟิล์มหนังผ่านการฉายมาอย่างหนัก ย่อมจะต้องขาดหรือเสียหายไปนะครับ วิธีแก้อย่างแรกก็คือ พยายามรวบคำ รวบปากดูก่อนว่า พอกับภาพที่เหลือๆ มาหรือไม่..ถ้าไม่พอจริงๆ ก็อาจปรับเปลี่ยนประโยคคำพูดให้สั้นกะทัดรัดอีกนิดหน่อย..แต่ถ้ายังไม่พอจริงๆ เราก็จะต้องหาฉากหรือภาพที่ใกล้เคียงกันนั้น มาซ้ำภาพอีก..หรือมาคั่นไว้ทำเสียงพากย์ออฟซีนแทน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้คนดูดูหนังเรื่องนะครับ ..