• ชื่อไทย : สุดท้ายและตลอดไป
• ปีที่เปิดตัว2565
• เข้าฉายในไทย2 มิถุนายน 2565
• นำแสดง โคมัตสึ นานะ, ซาคากุจิ เคนทาโร่
• กำกับโดย Michihito Fujii
• เขียนโดย Ruka Kosaka, Yoshikazu Okada, Mako Watanabe
• ประเภท Drama
• ความยาว 124 นาที
• สร้างโดย Japan
• จำหน่ายโดย : Mongkol Major มงคล เมเจอร์
เรื่องย่อ The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป ถ้ามีชีวิตเหลืออยู่อีกเพียง 10 ปี คุณจะใช้เพื่อทำสิ่งใด ? The Last 10 years / Yomei 10 Nen ภาพยนตร์ที่ทำรายได้แล้วมากกว่า 1.5 พันล้านเยนในญี่ปุ่น จากหนังสือขายดีที่ทำยอดขายมากกว่า 800,000 เล่ม
เรื่องจริงของหญิงสาว มัตสึริ ทากาบายาชิ (นานะ โคมัตสึ) ที่ป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหาย และมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 10 ปีเธอตัดสินใจที่จะไม่มีความรักอีก จนได้เจอกับ คาซึโอะ (เคนทาโร ซาคากุจิ) ชายหนุ่ม ที่ชอบหลีกหนีจากสังคม เมื่อทั้งสองพบกัน ความรักได้เติมเต็มเขาและเธอ
นี่คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีที่ "เศร้าเกินไป" แต่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ผู้เขียนเหลือไว้ เริ่มต้นจากในฤดูหนาว 3 ปีก่อน หลังจากผู้กำกับของเรื่องอย่าง มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Journalist เขาก็ได้รับการติดต่อจากโปรดิวเซอร์เพื่อทาบทามให้เขามากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในตอนนั้นว่ากันว่าผู้กำกับเองค่อนข้างต่อต้านหนังรักหรือหนังที่ว่าด้วยเรื่องเวลาที่เหลืออยู่พอตัว เขาค่อนข้างจะไม่ชอบวิธีการสร้างเรื่องราวที่มีการกำหนดเป้าหมายของเรื่องและมีจุดสะเทือนอารมณ์ไว้อยู่แล้ว
แต่หลังจากที่เขาได้อ่านนิยายต้นฉบับที่เขียนโดย รุกะ โคซากะ เขาก็เปลี่ยนความคิดของตัวเองไป “เนื้อเรื่องที่ถูกเขียนอย่างมีชีวิตชีวาและความน่ากลัวในระหว่างการต่อสู้กับความเจ็บป่วย ทำให้ผมรู้สึกเหมือนหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เธอต้องการจะเขียนจริงๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้จริงไม่ใช่การนำนิยายมาดัดแปลงเป็นฉบับคนแสดง แต่ผมอยากนำเสนอให้เหมือนเป็นการสมมุติเรื่องราวของคุณโคซากะตอนที่ยังมีชีวิตออกมาในรูปแบบสารคดีผสมกับฟิคชั่นดูครับ” เคสุเกะ อิมามุระ บุคคลที่เปรียบเสมือนมือขวาของผู้กำกับกล่าวว่า “พื้นเรื่องของนิยายมันมาจากชีวิตจริงคุณโคซากะก็จริง แต่เธอไม่ได้มีโอกาสมีความรักเหมือนในนิยาย เธอจึงเขียนนิยายรักเพื่อสานความฝันให้กับตัวเอง เราจึงเอาวีดีโอมาเป็นจุดสำคัญในเรื่อง”
โดยผู้กำกับ มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ มีข้อแม้ในการรับคำเชิญในการมากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “จะใช้เวลาถ่ายทำ 1 ปีเต็ม” ให้บรรยากาศในโรงภาพยนตร์อบอวนไปด้วยบรรยากาศ 4 ฤดูกาล ทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว เพื่อถ่ายทอดวันเวลาที่มัตสึริกับคาซึโตะใช้ร่วมกันตลอด 10 ปีอย่างสมบูรณ์แบบ “อยากจับภาพเหล่านักแสดง ถ่ายทอดทั้งความร้อน ความหนาว กลิ่น อุณหภูมิร่างกาย ที่เปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนผันของฤดูผ่านการแสดงออกมา”
ทั้งนักแสดงและเหล่าทีมงานต่างทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อถ่ายทอดระยะเวลา 10 ปีที่ครอบครัวเผชิญหน้ากับโรคร้าย การถ่ายทำภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้นในฤดูร้อนปี 2020 ผ่านพ้นฤดูหนาว จนการถ่ายทำเสร็จส้นเมื่อช่วงต้นฤดูร้อนปี 2021 ในนั้นมีฉากสำคัญที่ความรู้สึกของมัตสึริและคาซึโตะสื่อถึงกัน ที่พวกเขาต้องเลื่อนการถ่ายทำหลายต่อหลายครั้งเพื่อเก็บภาพดอกซากุระบานเต็มต้น ทั้งทีมถ่ายทำ ทีมช่างไฟต่างทุ่มเทอย่างเต็มนี้ในฉากที่ลมพัดซากุระพัดปลิวทั้งสองส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา “ฉากนี้จะไม่มีบทพูดอะไรเลย แต่เหล่าโปรดิวเซอร์กลับบอกผมว่า เชื่อสิว่าคนดูต้องรับรู้ ผมก็กังวลเหมือนกันนะว่าถ้ามันไปได้ไม่สวยจะทำยังไงดี แต่เราภาพที่ได้ออกมาดีมากครับ” ผู้กำกับฟูจิอิกล่าว
ก่อนหน้าฉากนั้นภาพวีดีโอที่มัตสึริถ่ายคาซึโอะก็ได้ นานะ โคมัตสิเป็นคนถ่ายด้วยตัวเอง หลังการถ่ายทำจบเมื่อโคมัตสินึกถึงช่วงเวลาตลอดหนึ่งปีที่เธอใช้ในการบันทึกเรื่องราวของมัตสึริด้วยตาทั้งคู่ของเธอแล้วก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่